Home / โรแมนติก / เมียคุณลม / พนักงานจอมจุ้น(1)

Share

เมียคุณลม
เมียคุณลม
Author: พันธกา มัสญาภา มัสยาปลา

พนักงานจอมจุ้น(1)

“ฝัน! ไม่กินข้าวก่อนเหรอลูก”

“ไม่อ่าแม่ สายแล้ว เดี๋ยวฝันไปทำงานไม่ทัน”

เหมือนฝันตะโกนตอบคนเป็นแม่พร้อมกับก้าวขาขึ้นค่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจส่วนมือก็ประวิงกับการสวมหมวกกันน็อคสีชมพูหวานก่อนจะสตาร์ทเครื่องแล้วบิดออกไป

อนุชชะเง้อมองตามร่างลูกสาวคนเล็กของบ้านแล้วส่ายหัวไปมา

ปีนี้เหมือนฝันอายุ 28 ปีแล้ว ทว่าเจ้าตัวยังกระโดกกระเดกเป็นม้าดีดกะโหลกอยู่เลยแล้วแบบนี้จะได้แต่งงานออกเหย้าออกเรือนเหมือนพี่สาวเมื่อไร

“อ้าว! นังนี่ก็อีกคน ตื่นสายเหมือนกันเหรอ”

บ่นลูกสาวเสร็จอนุชก็หันไปเจอกับหลานสาวซึ่งกำลังเดินย่องลงบันไดบ้านเพื่อไปโรงเรียน

“แฮ ๆ รุ้งไปเรียนก่อนนะป้า” พูดจบทอรุ้งก็วิ่งปรูดออกจากบ้านไปทันที ขืนชักช้ากว่านี้คงถูกคนเป็นป้าบ่นจนหูชาแน่นอน

“พอกันทั้งลูกทั้งหลานก็พากันตื่นสาย”

ทอรุ้งเป็นลูกของน้องสาวเธอซึ่งตายไปตั้งแต่เด็กสาวยังเด็กส่วนพ่อของมันก็ไปมีเมียใหม่ไม่มาดูดำดูดีลูกในใส้เลยสักครั้ง ด้วยความสงสารอนุชจึงรับมาเลี้ยงเพราะถึงอย่างไรแล้วก็เป็นสายเลือดเดียวกัน

บ้านหลังนี้เมื่อก่อนอยู่กันสี่คนซึ่งล้วนเป็นผู้หญิงทั้งหมด ทว่าลูกสาวคนโตของเธอได้แต่งงานไปเมื่อสองปีที่แล้ว ยามนี้บ้านหลังเล็กจึงเหลือกันแค่สามคนเท่านั้น

เช้าวันจันทร์ในเมืองหลวงย่อมเป็นวันที่แสนวุ่นวาย รถราติดกันยาวหลายกิโลเมตรแทบไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แต่มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเหมือนฝันเพราะรถมอเตอร์ไซค์ของเธอสามารถลัดเลาะซอกซอยมาเรื่อยๆ จนมาถึงที่ทำงานเส้นยาแดงผ่าแปดแบบเฉียดฉิว

“โฮ...สภาพเหรอเนี่ย ไอ้ฝัน!”

พี่กุ๊กหัวหน้าทีมคอลเซ็นเตอร์ทีมสามเอ่ยทักลูกน้องในแผนกพลางส่ายหัวไปมา

ใบหน้ากลมโล้นไร้เครื่องสำอาง ผมยาวสะยายถึงกลางหลังชี้ฟูไม่เป็นทรง หากเดาไม่ผิดคงเพิ่งผ่านการสระมาแต่มันยังไม่แห้งดีเลยอาศัยลมธรรมชาติขณะแว้นมาทำงานเป่าให้แห้ง

“ยังไม่ชินอีกเหรอพี่กุ๊ก” พี่สมรเพื่อนร่วมงานในทีมเดินมาจากด้านหลังเอ่ยแซวก่อนจะเดินเลยไปนั่งประจำที่ของตัวเอง

“ใครมันจะไปชิน เมื่อไรแกจะมาทำงานด้วยใบหน้าสวย ๆ สักที”

คุยกับพี่สมรเสร็จก็หันมาบ่นร่างอวบที่กำลังรื้อลิ้นชักโต๊ะทำงานเพื่อควานเอาเครื่องสำอางออกมาแต่งแต้มใบหน้าให้มีสีสันต์

“ก็มันตื่นไม่ทันอ่าพี่กุ๊ก”

เหมือนฝันหันมายิ้มแป้นพลางยกดินสอขึ้นมาเขียนคิ้ว

“ก็เลิกดูซีรี่ส์เกาหลีจนดึกดื่นสักทีสิ แล้วนอนให้มันเร็ว ๆ จะได้ตื่นแต่เช้าได้”

สองมือเท้าสะเอวบ่นอุบลูกน้องสมกับเป็นวัยทองอายุย่างเข้า

ห้าสิบปี

“จ้า รู้แล้วค่ะ เลิกบ่นสักทีเถอะพี่กุ๊ก ดูสิตีนกาขึ้นแล้วเนี่ย”

“นี่ เธอว่าฉันแก่เหรอ”

“เปล่าสักหน่อย ฝันยังไม่ได้พูดนั้นเลยนะ”

“เถียงคำไม่ตกฟากเดี๋ยวแม่จะหักเงินเดือนให้หมด”

พี่กุ๊กประชดแกมหยอก ทว่าคนตัวกลมกลับเบิกตากว้าง

“อย่านะพี่กุ๊ก ขนาดไม่หักยังแทบไม่พอกิน ถ้าถูกหักมีหวังได้ขุดหญ้ามากินแทนข้าวแน่เลย”

น้ำเสียงออดอ้อนดวงตากลมคู่สวยกระพริบถี่ทำเอาหญิงเลยวัยกลางคนหัวเราะออกมาเสียงดังแล้วไล่ทุกคนกลับไปทำงาน

4 ปีแล้วสำหรับการทำงานที่นี่นับจากวันที่เรียนจบ มันผ่านไปไวเหมือนโกหก แต่เธอก็มีความสุขดี เพื่อนร่วมงานก็น่ารักมากต่างช่วยเหลือกันเมื่อมีเหตุจำเป็นเสมอ

บริษัท Wind Thai จำกัดเป็นบริษัทเอ้าซอร์สอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ มีพาร์ทเนอร์นับร้อยบริษัทมาจ้างให้ที่นี่ทำงานแทนเพราะเห็นว่าทำงานรวดเร็วและมีคุณภาพแถมการบริการยังเข้าถึงง่ายอีกด้วย

เหมือนฝันสมัครเข้ามาทำงานแผนกคอลเซ็นเตอร์เพราะเห็นว่าฐานเงินเดือนค่อนข้างเยอะ สวัสดิการก็เลิศ ดูแลค่ารักษาพยาบาลแบบครอบคลุมและที่สำคัญโบนัสแต่ละปีก็ได้หลายเท่าตัวของเงินเดือน

หลังจากจัดการกับผมเผ้าและหน้าตาเรียบร้อยแล้วเหมือนฝันหันกลับไปเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์และจัดการเตรียมสวมเฮดเซ็ทเพื่อเปิดระบบรับสายจากลูกค้า

แผนกคอลเซ็นเตอร์ของบริษัทมีหลายทีมแต่ละทีมก็ทำงานแตกต่างกันออกไป บางแผนกคอยรับสายร้องเรียนการให้บริการจากลูกค้า บางแผนกก็รับสายการโยกย้ายหรือสั่งสินค้า

สำหรับทีมที่เหมือนฝันประจำอยู่เป็นแผนกคอลเซ็นเตอร์ของประกันรถยนต์รายใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งจะคอยรับสายจากลูกค้าที่เกิดประสบอุบัติเหตุรถชนแล้วต้องการเรียกประกันเพื่อไปประเมินความเสียหาย

ห้องทำงานของแผนกนี้แยกออกมาเป็นส่วนตัวอยู่ด้านในสุดมีพนักงานประจำอยู่ทั้งหมดห้าสิบกว่าคน แบ่งทำงานเป็นสามกะด้วยกันเพื่อสลับสับเปลี่ยนกันทำงานตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

อาชีพคอลเซ็นเตอร์ใคร ๆ ก็ว่าสบาย มันก็จริงที่อาจจะเป็นงานไม่หนักอะไรอย่างมากก็จำข้อมูลของกรมธรรม์เพื่อแจ้งให้ลูกค้าทราบและคอยรับเรื่องประสานงานก็เท่านั้น

ทว่าเบื้องลึกกลับเป็นงานค่อนข้างเครียดจากการถูกลูกค้าบางคนด่าทอโดยใช้ถ้อยคำรุนแรงซึ่งพนักงานได้แต่นั่งเงียบฟังเท่านั้นไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย หลังจากวางสายค่อยลุกออกไปร้องไห้หรือสงบสติเพื่อปรับอารมณ์แล้วกลับเข้ามาประจำที่เพื่อรอรับสายใหม่

ซึ่งก็เหมือนกับลูกค้าสายนี้

“บริษัท K.P.I ประกันภัยสวัสดีค่ะ...ลูกค้าเกิดอุบัติเหตุที่ไหนคะ”

เสียงหวานของเหมือนฝันซึ่งตรงข้ามกันกับหน้าตาเอ่ยถามลูกค้าคนแรกของวันด้วยความเป็นห่วง ก่อนใบหน้าสวยจะหุบยิ้มลงทันควันเมื่อถูกตะคอกกลับเสียงดังจนต้องยกเฮดเซ็ทออกจากหู

เมื่อวางสายนั้นเสร็จเหมือนฝันถึงกับพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เข้าใจได้แหละว่าคงตกใจกับอุบัติเหตุแต่เช้าแล้วทำไมต้องมาลงหรือโวยวายกับพนักงานด้วยแทนที่จะพูดคุยกันดี ๆ

เธอไม่ใช่คู่กรณีเสียหน่อย...

เวลาเลื่อนเคลื่อนไปจนเกือบเที่ยงพนักงานอีกกะหนึ่งก็เริ่มทยอยเข้ามาประจำโต๊ะทำงานเพื่อสับเปลี่ยนให้อีกทีมไปกินข้าว ระหว่างนั้นพี่กุ๊กก็เคาะโต๊ะเรียกประชุมเพื่อแจ้งข่าวจากฝ่ายHR

“HR เพิ่งแจ้งข่าวเรื่องงานประจำปีของบริษัทพี่มาเมื่อกี้ ปีนี้เขาจะจัดตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมนะ ซึ่งตรงกับวันคริสต์มาส ทางบริษัทจัดรวมกันกับงานปีใหม่ทีเดียวเลย”

พี่กุ๊กยกโพสต์อิสในมือขึ้นอ่านรายละเอียดอีกครั้งก่อนจะนึกขึ้นได้

“อ้อ พี่ลืมบอกว่าประธานบริษัทคนใหม่จะมาร่วมงานนี้ด้วยนะ”

“โฮ มาได้สักทีนะเห็นว่าขึ้นรับตำแหน่งแทนพ่อตั้งนานแล้ว”

พี่ดาหรือนิดาเพื่อนสนิทของพี่สมรเอ่ยขึ้นพร้อมกับนิ่วหน้าส่ายไป

ส่ายมา

เหมือนฝันยืนงงเป็นไก่ตาแตกพลางย่นคิ้ว ประธานบริษัทคนใหม่อย่างนั้นเหรอบริษัทเราเปลี่ยนตอนไหนทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย หญิงสาวขยับตัวเองไปใกล้รุ่นพี่แผนกพลางสะกิดไหล่เบา ๆ

“พี่มร ๆ”

“อะไรยัยฝันสะกิดอยู่ได้”

สมรยักไหล่ขึ้นแล้วหันไปทำเสียงดุใส่เหมือนฝันซึ่งกำลังทำตาแป๋วเหมือนลูกแมว

“อย่าเพิ่งดุสิพี่มร ฝันแค่จะถามเอง”

“ถามอะไร”

“บริษัทเราเปลี่ยนประธานตอนไหนเหรอ ทำไมฝันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

ประโยคคำถามทำเอาสมรกับนิดาหันมองหน้าคิ้วเลิกขึ้นสูง

พร้อมกัน ไม่คิดเลยว่าในบริษัทจะมีคนไม่รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ

“อย่าบอกว่าแกไม่รู้เรื่องนี้”

เหมือนฝันเม้มปากเข้าหากันแล้วพยักหน้างึก ๆ

“ตายแล้วยัยฝัน แกไปอยู่ที่ไหนมาเขารู้เรื่องนี้กันสองปีแล้วแม่คุณ”นิดายกมือทาบอก

“สองปีแล้วเหรอ? แล้ว...ทำไมฝันไม่เคยเห็นเขามาทำงานเลยล่ะหรือว่ามาแล้วแต่ฝันไม่รู้ เขาหล่อไหม? หรือว่าเป็นผู้หญิง”

เหมือนฝันแทบไม่สนใจในสิ่งที่พี่กุ๊กประชุมอยู่เสียด้วยซ้ำแต่กลับสนใจเรื่องประธานบริษัทคนใหม่เสียมากกว่า

“เป็นผู้ชายจ้ะ เห็นว่าหล่อมากและไม่แปลกใจหรอกถ้าแกไม่เห็นเพราะพนักงานบริษัทเราก็ยังไม่มีใครเห็น”

“อ้าว ทำไมล่ะคะ”

“เห็นว่าท่านไปเรียนต่ออเมริกาแต่ก็มีคนลืออีกนั่นแหละว่าไปเพราะอกหักจากผู้หญิงที่ชอบหนีไปแต่งงาน” เหมือนฝันพยักหน้าเข้าใจแล้วเอ่ยถามต่อ

“แล้วแบบนี้ใครเป็นคนบริหารงานล่ะคะ”

“ก็คุณชินมัยยังไง ซึ่งมีสถานะเป็นทั้งเพื่อนและมือขวา”

พี่นิดาเล่าละเอียดยิบสมกับเป็นประชาสัมพันธ์ภายในบริษัท อยากรู้เรื่องไหนขอแค่ไปสะกิดถามพร้อมกับกาแฟสักแก้วก็จะได้คำตอบทันที

“เอ้า ๆ ตรงนั้นคุยอะไรกันได้ยินเรื่องที่ฉันประชุมหรือเปล่า”

พี่กุ๊กตะโกนขึ้นทำเอาสะดุ้งกันทั้งแทบ

“ฟังจ้า ฟังอยู่” พี่สมรตอบเสียงเบา

“ถ้าฟังเมื่อกี้ฉันพูดเรื่องอะไร”

ทั้งสามคนหันมองหน้ากันแล้วยิ้มแหยๆ ออกมา สุดท้ายแล้วพี่กุ๊กก็ตาขวางใส่เหมือนเคย

“ฉันพูดถึงตรีมงานแล้วย่ะ ปีนี้เป็นชุดสูทกับชุดราตรีเน้นไปทาง

สีแดงให้เข้ากับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่”

“ทำไมต้องเป็นชุดราตรีด้วยล่ะ” คราวนี้เป็นพี่นิดาถาม

“เพื่อให้เกียรติท่านประธานคนใหม่น่ะแล้วก็เห็นว่าผู้บริหารระดับสูงก็เข้าร่วมเยอะด้วย”

“เหอะ ชุดราตรีเหรอ แล้วฝันจะไปหาจากที่ไหนล่ะเนี่ย” เหมือนฝันก้มลงมองพุงพลุ้ยของตัวเองแล้วออกแรงบีบ

“สมัยนี้แล้วหาไม่ยากจ้ะ เรียนเชิญตึกกรุงทองประตูน้ำนะ รับรอง

มีไซน์เธอแน่นอน”

พี่กุ๊กชี้แนะแหล่งเสื้อผ้าสำหรับสาวพลัสไซน์ก่อนจะบอกให้ทุกคนแยกย้ายกันไปทานมื้อเทียงแล้วรีบกลับมาทำงานให้ทันช่วงบ่าย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียคุณลม   เต็มใจรัก...(จบ)

    “ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าคุณภูริจะเป็นคนอยู่เบื้องหลังแล้วก็ทุจริตบริษัทเราไปมากมายขนาดนั้น”พี่นิดารำพึงออกมา แม้ทุกคนจะไม่ได้พูดแต่ก็คิดเหมือนกันเพราะภาพลักษณ์เวลาภูริอยู่ในบริษัทคือผู้ชายอบอุ่นใจดี เข้าใจหัวอกพนักงานแต่เบื้องหลังก็คือคนร้ายนี่เอง“แล้วนี่น้องฝันจะกลับมาทำงานวันไหนอ่า คิดถึงเสียงหัวเราะลั่นห้องจะแย่” พี่สมรทำหน้าเหงาหง่อย“ไม่รู้สิ ก็คุณวายุถูกยิงขนาดนั้นก็คงนานอยู่หรอก” พี่กุ๊กพูดเสริมแล้วทุกคนในแผนกก็ต่างต้องหันไปทางประตูเหมือนว่ามีใครอีกคนกำลังเปิดประตูเข้ามา“มีใครบ่นคิดถึงเหรอคะ”“น้องฝัน!” ทุกคนกรูกันเข้าไปหาแล้วจับหมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อสำรวจว่าน้องเล็กของทีมได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า“ฝันไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องห่วงวันนี้เลยแวะมาทำงานช่วงเช้าแล้วก็ช่วงบ่ายจะไปโรงพยาบาลต่อคุณหมดนัดตรวจเจ้าตัวเล็กค่ะ”พูดพร้อมกับลูบหน้าท้องน้อยทุกคนต่างหันมองหน้ากันไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรต่อได้แต่ยกมือเร้า ๆสะกิดกัน ก่อนพี่กุ๊กจะพูดขึ้นเสียงดัง“ฉันกำลังจะได้เป็นป้าของลูกท่านประธานแล้ว” ประโยคนี้เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดีเหตุการณ์วันนั้นสร้างความอยากรู้ให้กับเพื่อนร่วมงานเหมือนฝันจึ

  • เมียคุณลม   คนที่แพ้(2)

    “กี่เดือนแล้ว” เขาเงยหน้าขึ้นถาม“สองเดือนค่ะ”“รู้ตอนไหนว่าท้องทำไมไม่บอกพี่เลย” น้ำเสียงนั้นมีความน้อยใจแฝงอยู่“รู้ตอนวันเกิดคุณลุงค่ะ”“ตอนที่ฝันบอกพี่ว่าไปหาหมอนะเหรอ” เหมือนฝันพยักหน้ารับงึก ๆ ทว่าคนฟังกลับมองด้วยสายตาตัดพ้อเขาไม่ได้อยู่ในวันที่รับรู้ข่าวดีว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกของเราแถมยังปล่อยให้ไปหาหมอเพียงลำพังอีกต่างหาก“อย่าทำสีหน้าอย่างนั้นสิคะ”“ถ้าไม่ให้ทำสีหน้าแบบนี้จะให้ทำสีหน้าแบบไหนล่ะครับ เมียไปหาหมอคนเดียวและรู้ว่าท้องก็ยังไม่บอกอีก”น้ำเสียงเริ่มขึ้นจมูกพลันน้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลออกมาง่ายๆ ยิ่งเธอปลอบเท่าไรเขาก็ร้องไห้หนักขึ้นเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อนหลังจากอยู่ดูแลคนถูกยิงจนหายดีแล้วเพราะแผลไม่ได้ถูกจุดสำคัญหมอก็ให้วายุกลับไปพักฟื้นที่บ้านและแน่นอนว่าเจ้าตัวก็คอยออดอ้อนคนเป็นเมียอยู่ร่ำไปหากใครมาเห็นคงไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือคุณวายุ“ป้ามาลีทำอะไรมาให้ผมกินครับเนี่ย ทำไมเหม็นแบบนี้” มือหนาเลื่อนถ้วยข้าวต้มออกแล้วยกมือขึ้นอังจมูก“ก็ข้าวต้มของโปรดคุณลมยังไงคะ ป้าเพิ่งยกลงจากเตาเมื่อกี้สด ๆ ร้อน ๆเลย” แม่บ้านประจำตระกูลหน้าตื่นวินไทยกับวารินทร์ก้ม

  • เมียคุณลม   คนที่แพ้(1)

    ไม่รู้ว่าสายอะไรต่อสายอะไรห้อยระโยระยางเต็มไปหมด คนถูกยิงได้แต่นอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียง ต่อให้เหมือนฝันอยากเข้าไปหาแค่ไหนก็ทำได้แค่มองผ่านกระจกใสอันเล็กของประตูกั้นก็เท่านั้นวายุปลอดภัยแล้วแต่ก็ยังต้องอยู่ในความดูแลของหมออย่างใกล้ชิดจึงยังต้องงดเยี่ยมไปก่อนจนกว่าจะฟื้นขึ้นมาบางคนทยอยกลับกันไปบ้างแล้วเหลือเพียงเหมือนฝันเท่านั้นที่ยังคงนั่งรออยู่ที่เดิมเพราะกลัวว่าเขาตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เห็นว่าเธออยู่ตรงนั้น“พี่ว่าแกกลับบ้านไปพักก่อนไหม ถ้าไม่เห็นแก่ตัวเองก็เห็นแก่ลูกในท้องหน่อยก็ดีนะ”เหมือนฟ้าเดินเข้ามาตบไหล่น้องสาวแล้วทรุดตัวนั่งลงด้านข้าง“ฝันอยากอยู่ดูว่าเขาฟื้นแล้ว”“พี่รู้ว่าแกเป็นห่วงลม แต่แกก็ต้องห่วงตัวเองกับลูกด้วย”หญิงสาวช่างใจอยู่ครู่หนึ่งแววความกังวลผุดขึ้นในดวงตา ส่วนอีกมือก็ลูบหน้าท้องน้อยต้องเรียกว่าความโชคดีหรือเปล่านะที่เธอแทบจะไม่มีอาการแพ้ท้องเหมือนคนอื่นเลยแถมยังผ่านเรื่องเครียดมาตั้งมากมายเจ้าก้อนในท้องกลับไม่ทำให้เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด“ก็ได้ค่ะ แต่ขอฝันอยู่ดูพี่ลมอีกสักนิดก่อนได้ไหมคะ”“ตามใจ เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อนจะได้ไปส่งแกด้วย แล้ววันนี้กลับไปนอนบ้านค

  • เมียคุณลม   สะสาง(2)

    เหมือนฝันกุมหน้าตัวเองแน่นขึ้นพร้อมกับคิดหาทางออกแต่คิดอย่างไรก็ไม่เป็นผลในเมื่อปลายกระบอกปืนจ่ออยู่ที่ขมับด้านซ้าย หากเธอตุกติกแม้แต่นิดเดียวมีหวังลูกตะกั่วได้วิ่งเข้าไปทักทายมันสมองเธอแน่นอนวายุรู้สึกหวาดหวั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดขณะที่หัวใจเต้นรัว ดวงตาที่สบกับเหมือนฝันนั้นมันมีอะไรบางอย่างบอกเอาไว้และเขาอ่านมันออกหญิงสาวพยักหน้าให้กับเขาเพื่อเตรียมตัวทำอะไรบางอย่างแต่เขากลับส่ายหัวให้เธออยู่เฉยๆ อย่าทำอะไรทว่ามันกลับไม่ทันเสียแล้วเหมือนฝันใช้วิชาเอาตัวรอดจากการถูกจับเป็นตัวประกันที่ได้เรียนมาเมื่อตอนเข้าชมรมสมัยมหาวิทยาลัยแล้วกระทุ้งหน้าท้องคนร้ายก่อนจะบิดแขนข้างที่มีปืนให้ยกขึ้นฟ้าความชุลมุนเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวเหมือนฝันรีบวิ่งไปหาวายุ ภูริโกรธขึ้นขีดสุดเลยเล็งปืนไปยังเหมือนฝันแล้วเหนียวไกยิงทว่าคนที่รับกระสุนแทนกลับเป็นวายุ เขาใช้ตัวเองบังร่างอวบนั้นไว้แล้วทรุดตัวล้มลง“พี่ลม”หญิงสาวกรี๊ดออกมาสุดเสียงแล้วประคองร่างเลือดท่วมนั้นเอาไว้ จากนั้นเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัดจากการวิสามัญคนร้าย“พี่ลม ไม่นะ อย่าเป็นอะไรนะ ฟื้นสิ” เธอพยายามตบหน้าเขาเบา

  • เมียคุณลม   สะสาง(1)

    “เฮ้ย! พวกนั้นหายไปไหน” ชายใบหน้าดุดันมีรอยบากระหว่างหัวคิ้วร้องตะโกนขึ้นสุดเสียงชายที่เหลือวิ่งหน้าตั้งเข้ามาแล้วกวาดตามองรอบบริเวณไม่เห็นแม่แต่เงาของพวกผู้หญิงที่พวกเขาจับมาเป็นตัวประกันเพื่อเรียกค่าไถ่ ทิ้งไว้เพียงหนวดกุ้งรัดแขนเอาไว้ให้ดูต่างหน้าก็เท่านั้น“ไปตามหาตัวพวกมันสิวะ แล้วเอาตัวกลับมาให้ได้ยืนเซ่ออยู่ทำไม”ภูริตวาดลูกน้องลั่นแล้วไล่ด้วยความเดือดดาลก่อนจะวิ่งไปอีกทางเพื่อตามหาเพราะเหลือเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นก็ได้เวลานัดกับวายุแล้วบริเวณริมป่าละเมาะเหมือนฝันกึ่งเดินกึ่งวิ่งนำหน้าเพื่อมองหาลู่ทางและเข้าใกล้เขตหมู่บ้านคนเพื่อขอความช่วยเหลือทว่ามองไปทางไหนก็เห็นแต่ความมืดมิดเสียงวิ่งจากเบื้องหลังด้วยความเร็วพร้อมกับแสงไฟฉายสาดส่องไปมาทำให้รู้ว่าพวกมันใกล้เข้ามาถึงเต็มทีแล้ว“คุณณิ คุณน้ำ เร็วกว่านี้หน่อยค่ะ พวกมันตามมาแล้ว”เหมือนฝันเร่งสองสาวที่เดินรั้งท้ายส่วนตัวเองนั้นก็เริ่มเหนื่อยหอบเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง“เฮ้ย พวกมันอยู่นั้น หยุดนะเว้ย”ความกลัวทำให้วารินทร์สั่นไปทั้งตัววิ่งมองหลังจนไม่ทันระวังสะดุดหินล้มลงบนทางลูกรังจนข้อเท้าพลิกทำให้ลุกขึ้นเดินต่อไม่ได้ พอมอ

  • เมียคุณลม   ตัวประกัน(2)

    ทุกคนมานั่งประจำที่ตัวเองกันหมดแล้วยกเว้นเพียงเหมือนฝันเท่านั้นที่ยังไม่กลับมา“ยัยฝันไปไหน ตั้งแต่แม่ยกถาดอาหารออกมายังไม่เห็นเลย”“น่าจะเอาเสื้อไปเก็บมั่งครับ แต่ก็ไปนานแล้วนะครับ” ตรีวิทย์บอกแล้วยืดคอขึ้นมองไปยังโรงจอดรถ“ถ้างั้นเดี๋ยวป้าไปตามให้นะคะ” ป้ามาลีอาสแล้วก็เดินออกไปไม่นานก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับมาด้วยสีหน้าตื่นในมือมีรองเท้าอยู่ข้างหนึ่งซึ่งวายุจำได้เป็นอย่างดีว่าเป็นของเหมือนฝัน หัวใจเขากระตุกวูบขึ้นมาแล้วรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาเปิดกล้องวงจรปิดดูทันทีเขาขบกรามแน่นเมื่อเห็นผู้ชายตัวใหญ่สองคนกำลังหิ้วปีกร่างไร้สติออกไปจากบ้านอย่างเงียบ ๆ โดยหลบเลี่ยงสายตาจากคนทั้งบ้านโดยไม่มีใครสังเกตเห็น“ต้องเป็นฝีมือไอ้ภูริแน่นอน” วายุสบถออกมา“คนเดียวกันกับที่เคยจับฟ้าไปน่ะเหรอ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับอนุชได้ยินแบบนั้นก็เข่าอ่อนทำท่าจะเป็นลมจนเหมือนฟ้าต้องรีบพยุงและพาไปนั่งเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด ป้ามาลีรีบไปหายาดมมาให้ทันที“ผมพลาดเองที่ละหลวมความปลอดภัยเพราะคิดว่าคนอยู่เยอะกันขณะนี้มันคงไม่กล้าลงมือ”สองมือกำแน่นเข้าหากันเพราะรู้สึกเป็นห่วงเหมือนฝันจับใจ ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นตอนแรก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status