นี่เขากำลังคิดจะทำอะไรกัน... รมิตาไม่เข้าใจ...
ตลอดเวลาเกือบสองปีที่เธอทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ในเอเธนส์ หญิงสาวไม่เคยพบกับเหตุการณ์อย่างนี้แม้แต่ครั้งเดียว แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าคนที่มีพร้อมทั้งรูปและทรัพย์อย่างชายหนุ่มตรงหน้าจะมีพฤติกรรมจาบจ้วง หยาบคายอย่างนี้
“ฉะ...ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
เธอตัดสินใจเบี่ยงตัวผ่านเขาไปอย่างลุกลี้ลุกลน ตอนนี้เธอต้องการจะออกจากห้องพักไปให้เร็วที่สุด โดยไม่สนใจว่าจะต้องทิ้งรถเข็นและอุปกรณ์ทำความสะอาดทั้งหมดเอาไว้ที่นี่ แต่มือแข็งแกร่งของมหาเศรษฐีหนุ่มก็ว่องไวกว่า ยังไม่ทันที่เธอจะเดินพ้นตัวเขาไปเสียด้วยซ้ำ เขาก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ได้
“จะรีบไปไหนกันล่ะ...” ชายหนุ่มตวาดในขณะที่กระชากแขนอีกฝ่ายเข้าไปหา “เธอยังไม่ได้ลองบอกตัวเลขกับฉันเลยนะ คิดว่าฉันไม่สู้ราคาหรือไง” ใบหน้านั้นดูกราดเกรี้ยวจนน่าประหลาดใจ
ไม่จำเป็นต้องคาดเดาอะไรอีกแล้ว เพียงเท่านี้ก็เป็นอันชัดเจนว่าคำพูดของเขาหมายความว่ายังไง รมิตาสะบัดหน้ากลับมาจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างขุ่นเคือง ศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้หญิงสั่งให้เธอตอบโต้เขากลับ แม้จะรู้ว่าอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
“กรุณาปล่อยมือด้วยค่ะ คุณเดมิทริอุส...” หญิงสาวกัดริมฝีปาก เชิดหน้าขึ้นท้าทายสายตาของเขา ขณะที่หัวใจกำลังเต้นตึกตัก “ดิฉันไม่ทราบหรอกค่ะว่าแม่บ้านที่โรงแรมอื่นจะยินดีบริการลูกค้าอย่างคุณถึงขนาดไหน แต่คงไม่ใช่แม่บ้านที่นี่ โดยเฉพาะดิฉัน... คุณปล่อยมือเถอะค่ะ ดิฉันจะกลับ...”
คนตรงหน้าขมวดคิ้วแล้วตวาดกลับอย่างไม่พอใจ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขาตรงๆ อย่างนี้มาก่อน
“นี่เธอคิดว่าคนอย่างฉันสนใจจะนอนกับแม่บ้านโรงแรมจริงๆ น่ะเหรอ”
“ถ้าคุณไม่สนใจ คุณก็ปล่อยดิฉันเสียทีสิคะ” เธอฝืนยื้อข้อมือตัวเองสุดแรง แต่ฝ่ามือแข็งแกร่งของเขาก็ยิ่งยิ่งบีบรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนแขนน้อยๆ ปวดร้าวไปถึงกระดูก
“ยอมรับมาเถอะ... ว่าเธอมันไม่เหมาะกับอาชีพแม่บ้านหรอก อาชีพเดียวที่เหมาะกับคนอย่างเธอก็คือผู้หญิงหากิน”
“คุณ...”
หูของรมิตาอื้ออึงไปหมด เธอไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน แล้วทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้พูดจาร้ายกาจและเหยียดหยามเธอมากขนาดนี้
“ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ”
มือที่เหลืออยู่พยายามทุบตีท่อนแขนข้างที่ยึดข้อมือเธอเอาไว้ แต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดของรมิตาหรือจะสามารถส่งความเจ็บปวดผ่านไปยังมัดกล้ามหนาๆ ของเขาได้
“คิดจะเล่นตัวทำเป็นจองหองไปถึงไหนกัน ทีกับไอ้อเมริกันสารเลวนั่นเธอยังปั่นหัวมันจนอยู่หมัดเลยนี่...” อเล็กซานเดอร์กัดฟันดังกรอด “หรือนี่ก็เป็นขั้นตอนการบริการด้วย หือ... ไม่เลวนี่ บทบาทแม่บ้านของเธอมันทำให้ฉันมีอารมณ์ขึ้นมาได้จริงๆ เสียด้วย... ไหนลองเล่นกับฉันแบบเดียวกับไอ้บัดซบนั่นดูสิ... ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงชั้นต่ำอย่างเธอจะทำให้ฉันประทับใจได้แค่ไหน” เสียงของเขาเปลี่ยนจากข่มขู่เป็นหื่นกระหายกะทันหัน
“ช่วยด้วย!... ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย... ปล่อยนะคุณเดมิทริอุส ช่วยด้วย!...”
ชายหนุ่มไม่สนใจเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ ลากแขนของเธอไปยังอีกฝั่งของห้อง แล้วเหวี่ยงร่างเล็กๆ ไปบนโต๊ะดินเนอร์อย่างง่ายดาย ก่อนจะโถมลงไปบนตัวหญิงสาว
รมิตาพรั่นพรึงถึงขีดสุด เธอพยายามที่จะดิ้นขัดขืนอย่างสุดแรง แต่ไหล่บางๆ ถูกกดล็อกไว้ด้วยฝ่ามือกร้านแกร่ง แขนน้อยๆ จึงถูกจำกัดให้ทำได้เพียงแค่กวัดแกว่งไปมาบนพื้นโต๊ะ กวาดเอาแจกันดอกไม้กระเด็นตกลงไปแตกกระจายบนพื้นห้อง หากเธอก็ไม่อาจควานหาสิ่งใดมาใช้ป้องกันตัวได้
ใบหน้างดงามยามหวาดผวาสร้างความปรารถนาอย่างรุนแรงให้กับอเล็กซานเดอร์ ยิ่งเธอดิ้นรนต่อสู้อยู่ใต้ร่างบึกบึนนั้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งปลุกเร้าอสรพิษร้ายที่กำลังจำศีลอยู่ในตัวเขาให้เลื้อยลุกขึ้นมาเร็วยิ่งขึ้น
เขาทิ้งน้ำหนักตัวทาบทับลงไปบนโต๊ะไม่ให้เธอขยับลุกขึ้นมาได้ ฝ่ามือทั้งสองข้างก็เลื่อนมาตระโบมเค้นบนเนินอกอ่อนนุ่มอย่างรุนแรง ใบหน้าหล่อเหลาทว่าเหี้ยมเกรียมก้มลงซุกไซ้ ตวัดปลายลิ้นเล็มเลียใบหูและพวงแก้มด้วยความกักขฬะ
หญิงสาวทั้งตื่นกลัวทั้งรู้สึกขยะแขยงการกระทำของชายหนุ่มสุดชีวิต ริมฝีปากสั่นระริกกรีดร้องออกมาไม่เป็นภาษา น้ำตาที่ไม่เคยหลั่งรินจากดวงตามาตั้งแต่มารดาเสียชีวิตต่างก็พากันไหลทะลักจากขอบตาจนเปียกปอนไปทั้งใบหน้า หากชายหนุ่มก็ไม่เกิดความเวทนาสงสารเลยแม้แต่น้อย
วินาทีที่ถอนใบหน้าออกจากลำคอระหง ดวงตาคมกริบสีเฮเซลพลันจ้องเขม็งไปที่รอยเบียดระหว่างเนินเนื้อในอุ้งมือ เขากระชากสาบเสื้อของชุดผ้าฝ้ายออกจากกันจนกระดุมสองเม็ดที่ติดเอาไว้ ขาดกระเด็น เผยให้เห็นหน้าอกนวลเนียนซึ่งซุกซ่อนอยู่ใต้เสื้อชั้นในสีเนื้อ
“อย่านะ... ได้โปรดเถอะ อย่าทำฉัน...” รมิตาร้องไห้คร่ำครวญ ดวงตากลมโตสุกใสในเวลานี้ชุ่มโชกจนพร่ามัว มือเล็กๆ พยายามขูดข่วนสารพัด แต่แรงนิ้วของเธอก็ไม่อาจส่งผ่านเสื้อเชิ้ตขาวสะอ้านไปถึงผิวหนังของเขาเสียด้วยซ้ำ
“จะดิ้นไปทำไม เธอคิดว่าฉันไม่มีเงินเหมือนไอ้บัดซบนั่นหรือไงหา... บอกมาสิว่าเธอต้องการเท่าไหร่ เธอจะเรียกเงินเท่าไหร่สำหรับเซ็กซ์ของผู้หญิงชั้นเลวอย่างเธอ” ลมหายใจชายหนุ่มดังฟืดฟาด ริมฝีปากได้รูปสีแดงสวยถามด้วยเสียงกระเส่าที่ข้างใบหู “หรือที่ทำดีดดิ้นอยู่อย่างนี้เพราะคิดว่าของคนอเมริกันมันดีกว่า... มันใหญ่กว่าของคนกรีก... เธอยังไม่ได้ลองของฉันเลยนี่ ลองสักทีก่อนสิ... ไม่แน่ว่าอาจจะถึงใจผู้หญิงสำส่อนอย่างเธอมากกว่าของมันก็ได้”
“ไม่!! อย่า!!” รมิตาปิดหน้าร้องไห้โฮ
ร่างน้อยถูกฝังทับไว้ด้วยลำตัวแน่นหนักราวปราการศิลา ลำพังแค่หอบหายใจเธอยังทำด้วยความลำบาก เรี่ยวแรงที่มีก็ถูกใช้ไปในการกระเสือกกระสนตัวเองจนอ่อนล้าแทบสิ้นสติ ปล่อยให้กล้ามเนื้อสะโพกอันแข็งแกร่งของอเล็กซานเดอร์บังคับร่างกายท่อนล่างให้ถูไถอยู่บนชุดกระโปรง แต่กระนั้นต้นขาของเธอที่พยายามดิ้นรนไปมาภายใต้เนื้อผ้าก็ยังสัมผัสได้ถึงความเขม็งเกร็งที่น่าขยะแขยง
ชายหนุ่มฉวยโอกาสที่หญิงสาวอ่อนแรง เอนตัวออกห่าง มือทั้งสองข้างรีบปลดกระดุมและรูดซิปกางเกงสแล็กส์เพื่อเตรียมปลดปล่อยอสรพิษตัวเขื่องซึ่งนอนขดอยู่ใต้กางเกงบอกเซอร์สีดำสนิท จากนั้นสองมือก็ม้วนตลบกระโปรงเนื้อหยาบสีฟ้าขึ้นไป เผยให้เห็นเรียวขาขาวนวลของเหยื่อสาวผู้งดงาม
วินาทีนั้นเอง... อเล็กซานเดอร์ก็ต้องรู้สึกเสียใจเป็นครั้งแรกที่มองเธอเป็นแค่ลูกแกะน้อยไร้ทางสู้
รมิตาฉวยโอกาสที่น้ำหนักกดทับบนร่างหายไป รวบรวมเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้าย แล้วยกเท้าถีบไปที่ใจกลางกางเกงบอกเซอร์อย่างสุดแรง และแม่นเหมือนจับวาง
“โอ๊ย...” ชายหนุ่มร้องอุทานด้วยความเจ็บปวดร่างทั้งร่างของเขาหดเข้าหาศูนย์กลางความเจ็บจุก สองมือกุมแน่น ท่อนขาซึ่งยังคาอยู่ในกางเกงสแล็กส์หนีบเข้าหากันโดยอัตโนมัติ
“อูย... ซี้ดดด” ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยว สูดปากด้วยความรู้สึกทรมานอันยากจะบรรยาย ขณะที่เรี่ยวแรงในกายพากันสูญหายไปอย่างปัจจุบันทันด่วน
หญิงสาวรีบปาดน้ำตาบนแก้มออกอย่างลวกๆ กระโดดลงจากโต๊ะทั้งที่ยังหวาดผวา แล้ววิ่งลนลานหนีออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามองแม้แต่หางตา ทิ้งให้หมาป่าหนุ่มเคราะห์ร้ายทรุดตัวลงบนพื้นพรม หมดอารมณ์จะตามไปขย้ำเหยื่อผู้อ่อนแอ
ที่ด้านในสุดของโบสถ์กรีกออร์โธดอกซ์ประจำตระกูล แดเมียน ดูนิซี ยืนรอเจ้าสาวในชุดสูทสีดำ ด้านหลังมีอเล็กซานเดอร์และชายหนุ่มในตระกูลเดมิทริอุสอีกสามสี่คน ยืนเข้าแถวอยู่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวทันทีที่ประตูด้านหน้าโบสถ์เปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าสาว เสียงพูดคุยภายในโถงที่นั่งก็เงียบสนิท บรรดาญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่ายที่นั่งแยกกันอยู่ทั้งฝั่งซ้ายและขวาของห้องต่างพร้อมใจหันไปมองร่างของเจ้าสาวผู้งดงามเป็นสายตาเดียวเสียงดนตรีจากออร์แกนบรรเลงขึ้น คลลรีสจึงค่อยๆ จูงหลานสาวก้าวเดินตามเส้นทางที่ลาดด้วยพรมแดงจากประตูเข้าไปสู่สถานที่ประกอบพิธีด้านในสุด โดยมีรมิตาเดินถือช่อดอกไม้ นำเหล่าเพื่อนเจ้าสาวนับสิบคนในชุดกระโปรงสุ่มสีฟ้าตามหลังมาช้าๆ เป็นขบวนสวยงามน่าชมดวงตาสีเทาของแดเมียนเพ่งมองมาที่ร่างสูงสง่า ภายใต้ผ้าคลุมศีรษะโปร่งบาง คาซานดราก็จับจ้องสายตาของเขานิ่ง สายตาคู่นั้นเป็นคู่เดียวกันกับที่คอยถ่ายทอดความรักและความห่วงหาอาทรณ์มาตลอดเวลานับสิบปีโดยที่เธอไม่เคยรับรู้เมื่อคิดถึงเรื่องราวที่ผกผันจนท้ายที่สุดกลับลงเอยด้วยดีแล้ว หญิงสาวก็ต้องนึกขอบคุณอีวานเจลีนผู้มีส่วนทำให้เธออยู่ในสภาพนั้น จนได้
ในห้องนอนของคาซานดรา มาเรีย เดมิทริอุส ชั้นบนสุดของคฤหาสน์เดมิทริอุสแห่งมาซิโดเนีย เช้าวันนี้เนืองแน่นไปด้วยหญิงสาวต่างวัยกัน จำนวนหลายสิบคน ที่ต่างก็มารวมอยู่เพื่อช่วยเหลือ และดูแลการแต่งตัวให้เธอในวันแห่งความสุขครั้งนี้คาซานดรายืนอยู่หน้ากระจกเงากรอบไม้แกะสลักลวดลายสีทองบานใหญ่ เฝ้ามองเงาร่างของตัวเองในชุดผ้าลูกไม้สีขาวอันหรูหรา ตัวกระโปรงตัดเย็บเป็นสุ่มหนาซ้อนกันนับสิบชั้น ภายนอกประดับด้วยลูกปัดมุก ที่ร้อยระโยงระยางไม่ต่างจากชุดของเจ้าหญิงในนิยายมันเป็นชุดแต่งงานชุดเดียวกันกับที่มารดาของเธอเคยสวมใส่ในวันที่ก้าวเข้ามาสู่ตระกูลเดมิทริอุส และเธอก็ภูมิใจที่ได้สวมใส่มันอีกครั้งในวันที่ก้าวออกจากคฤหาสน์หลังนี้ไปสู่ตระกูลของผู้ที่เป็นสามีผ้าคลุมผมถูกสวมลงบนเรือนผมสีมะกอกที่ถูกเกล้าเป็นทรงสูง ก่อนจะตลบส่วนที่คลุมใบหน้าขึ้น เปิดให้เห็นใบหน้าที่งดงามหมดจด ข้างกายมีร่างอวบท้วมของหญิงวัยสูงวัยและร่างอุ้ยอ้ายของหญิงสาวชาวไทยยืนยิ้มแย้มอยู่เจ้าสาวผู้สวยสมบูรณ์แบบ ก้มลงจูบแก้มคลอรีสและรมิตาด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างที่ใครก็ไม่เคยเห็นมาก่อน“เอาล่ะ ทีนี้หลานของป้าก็พร้อมที่จะเป็นเจ้
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ อีวานเจลีน!!” ชายหนุ่มตะโกนห้าม เสียงของเขาทำให้หญิงสาวทั้งคู่ชะงัก หันมองตามทิศที่มาของเสียง“อเล็กซ์... ไม่นะ!!” คนหนึ่งกรีดเสียงร้องโหยหวน ภาพที่เขาเห็นตำตาอย่างนี้ อีวานเจลีนไม่มีทางจะหาคำอธิบายหรือคำใดๆ มาแก้ตัวอย่างแน่นอน“คุณอเล็กซ์... ช่วยฉันด้วยค่ะ ช่วยลูกของฉันด้วย!!” สองมือโอบอุ้มหน้าท้องเอาไว้ ในเวลานี้เธอไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลย ความห่วงใยทั้งหมดมีเพื่อสิ่งล้ำค้าในร่างกายเธอเท่านั้น“ไม่ต้องกลัวนะ รมิตา!! ลูกของผม... ผมจะต้องช่วยคุณและลูกให้ได้” เขาตะโกนตอบอย่างร้อนรน พลางวิ่งตรงไปยังราวบันไดเหล็กของชั้นล่างที่ตั้งตรงเป็นทางขึ้นไปสู่ระเบียงชั้นสอง“คุณอย่าขึ้นมานะ”เพียงมืออเล็กซานเดอร์จับถูกราวเหล็กเท่านั้น เท้ายังไม่ทันยกขึ้นไปเหยียบขั้นบันไดเลยแท้ๆ เสียงตวาดห้ามของอีวานเจลีนก็ทำให้เขาต้องหยุดชะงักอยู่แค่นั้น“คิดจะช่วยมันเหรอ!! อย่าหวังเลยอเล็กซ์ ในเมื่อฉันไม่ได้ อีหน้าไหนก็ไม่มีทางได้คุณทั้งนั้น!!” อีวานเจลีนคล้ายสุนัขจนตรอก แผดเสียงใส่เขาทั้งน้ำตา“อย่านะ อีวานเจลีน!!” ชายหนุ่มตะโกนลั่น ใบหน้าที่ดูดุดันในยามนี้กลับกลายเป็นเหี้ยมเกรียมไม่แพ้ใบหน้าของหญิง
อเล็กซานเดอร์และแดเมียนรีบรุดเดินทางไปยังไนต์คลับที่วาเนสซาทำงานอยู่ ทว่าสภาพการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนทำให้กว่าที่ทั้งคู่จะไปถึง ก็สี่โมงเกือบครึ่งแล้ว สอบถามจนได้ความว่าก่อนหน้านี้สักครึ่งชั่วโมง มีผู้หญิงลักษณะเดียวกันกับอีวานเจลีนมาถามหาที่อยู่ของวาเลอรีน หรือวาเนสซาเช่นกันฟังแล้วชายหนุ่มก็แทบจะล้มทั้งยืน เนื้อตัวเย็นเฉียบ ในขณะที่ฝ่ามือและใบหน้ากลับมีเหงื่อซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว ยังหวังให้มีปาฏิหาริย์สักอย่างบันดาลให้หญิงคนรักของเขารอดพ้นจากเงื้อมมือของคุณหนูแห่งตระกูลเฮเลนิคัสเขารีบซักไซ้ ถามหาที่ตั้งของอพาร์ตเมนต์ จนรู้ว่าอยู่ห่างออกไปเพียงสิบช่วงตึก หากจะฝ่าถนนหนทางที่คับคั่งไปด้วยรถราในเวลานี้ คงไม่ทันการณ์ ชายหนุ่มจึงออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ตรงไปยังเส้นทางที่ได้รับการชี้นำ โดยไม่สนใจเลขาฯ หนุ่มที่อยู่ด้านหลังว่าจะตามเขามาด้วยหรือเปล่า ขอเพียงให้เขาไปถึงอพาร์ตเมนต์แห่งนั้นเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็พอมหาเศรษฐีหนุ่มวิ่งไปได้ครึ่งทางก็สะดุดสายตาเข้ากับผู้หญิงเอเชียในชุดรัดรูปสีสันฉูดฉาดซึ่งเขากำลังวิ่งผ่านไป ผมสีแดงเพลิงของเธอดึงดูดสายตาให้หยุดชะงัก และหันไปจ้องมองอย่างไม่ตั้งใจ
ร่างที่โถมเข้ามาหาทำให้ขั้วไฟฟ้าเฉียดใบหูอดีตสาวใช้ไปแค่เสี้ยวมิลลิเมตร เสียงลั่นเปรี๊ยะ ทำเอารมิตาขนลุกซู่ มือไม้อ่อนจนเกือบปล่อยแขนของฝ่ายตรงกันข้าม“แกอย่าหลบสิ อีคนชั้นต่ำ อี... แกนะแก... ทั้งที่ฉันวางแผนกำจัดไอ้โจนาธานไปได้แล้วแท้ๆ เหลืออีกไม่เท่าไหร่ก็จะได้แต่งงานกับอเล็กซ์อยู่แล้ว แต่แกเป็นใครมาจากไหน กล้าดียังไงมาแย่งผู้ชายของฉัน”“คุณ... ที่คุณโจนาธานไม่ได้แต่งงานกับคุณคาซานดรา... เป็นเพราะคุณจริงๆ”ใบหน้าของหญิงสาวในเวลานี้หวาดกลัวคนตรงหน้าเสียยิ่งกว่าคราวที่พบกับอเล็กซานเดอร์ ร่างบอบบางถูกเรี่ยวแรงที่มากกว่า ผลักให้ก้าวถอยหลังไปอย่างช้าๆ“หึ! ใช่... ฉันนี่แหละที่หลอกให้มันหนีงานแต่งงาน แล้วก็ฉันนี่แหละที่ผลักนังคาซานดราตกบันไดจนเป็นง่อย”“คุณ... คุณทำอย่างนั้นเพื่ออะไรกัน...” หญิงสาวตกตะลึงมากขึ้นไปอีก ไม่คิดว่าแม้แต่อุบัติเหตุของคาซานดราก็เป็นฝีมือของเธอ ในใจเกิดความกรุ่นโกรธขึ้นมากะทันหัน“ก็เพื่อให้อเล็กซ์โกรธแค้นมันมากที่สุดยังไงล่ะ อีโง่!! มันจะได้ไม่ต้องอยู่เป็นมารผจญฉัน... เหมือนอย่างที่แกกำลังเป็นอยู่ ปล่อยมือฉันนะ!!”อีวานเจลีนดิ้นรน แต่ก็ได้แค่ผลักร่างของรมิตาให้ก
บนชั้นสามของอาคารกลางเก่ากลางใหม่ถูกแบ่งเป็นอพาร์ตเมนต์ย่อยๆ จำนวนสี่ห้อง หนึ่งในนั้นเป็นที่อยู่ของวาเนสซา หรือวาเลอรีน อดีตแม่บ้านชาวจีนผู้หันมายึดอาชีพโฮสเตสของไนต์คลับเล็กๆ แห่งหนึ่งใจกลางกรุงเอเธนส์ประตูอพาร์ตเมนต์ถูกเปิดออกพร้อมเรียวขาในรองเท้าส้นสูงสีสันบาดตา ที่ก้าวออกมายืนบิดสะโพกไปมาอย่างเย้ายวน มือเรียวงามยกขึ้นดึงรอยยับยู่บนชุดที่กระชับกับส่วนสัดให้เข้าที่ แล้วจึงขยับกระเป๋าถือรูปทรงทันสมัยให้คล้องอยู่ในตำแหน่งถนัด หันกลับไปหาผู้ที่มายืนส่งอยู่ใกล้ๆ“เธอแน่ใจนะว่าจะไม่ออกไปเดินเล่นกับฉันก่อน...” หญิงสาวชาวจีนถาม “กว่าฉันจะไปทำงานก็อีกตั้งสองชั่วโมง ไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะน่า...” พูดพลางยกแขนข้างที่สวมนาฬิการาคาแพงที่ได้เป็นของกำนัลจากแขกประจำขึ้นตรวจเช็กเวลา บอกว่าตอนนี้เหลืออีกสิบนาทีจะห้าโมงเย็น“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ... ในครัวเธอก็มีของกินเหลืออยู่นี่ ฉันอุ่นเสียหน่อยก็ไม่มีปัญหาแล้ว ทิ้งไว้เสียดายเปล่าๆ” รมิตาตอบยิ้มๆ“ฉันรู้ว่าเธอกินง่ายอยู่ง่ายจ้ะ แต่รู้จักใช้ชีวิตบ้างก็ดีนะ ฉันอุตส่าห์จะพาไปรู้จักผู้คน เปิดหูเปิดตาบ้างก็ไม่ยอมไป” วาเนสซาบ่นกระปอดกระแปด คิดจะหาทางหว่านล้อม