แชร์

บทที่ 11* ~ ทั้งคืน

ผู้เขียน: พริมริน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-26 22:00:14

บทที่ 11* ~ ทั้งคืน

ร่างเล็กบางเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เห็นพ่อเลี้ยงยืนสูบบุหรี่ตรงหน้าต่างห้อง เขาดีดบุหรี่ทิ้งทันทีเมื่อเธอเข้ามา

“เธอมีผ้าเช็ดตัวอีกผืนไหมศศินา ฉันอยากจะอาบน้ำเหมือนกัน”

ศศินากลับไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบผ้าเช็ดตัวสำรองออกมาส่งให้เขา พ่อเลี้ยงพันแสงรับไปและเดินออกไปจากห้องนอน

เธอนั่งลงที่โต๊ะกระจกหวีผมสีน้ำตาลทำสียาวเลยบ่าไปเล็กน้อย ร่างบางสั่นเล็กน้อยเมื่อคิดถึงสิ่งที่เธอกำลังจะทำ

ศศินานึกไปถึงวันนั้น วันที่เขาได้รับดุษฎีบัณฑิต งานเลี้ยงฉลองเลยเถิดจนดึกเกินไป

พันแสงขับรถเพื่อพาเธอไปส่งที่ไร่ ชายหนุ่มมีอาการเมาเล็กน้อยจากการดื่มฉลอง เธอได้กลิ่นและรับรู้รสชาติแอลกอฮอล์จากริมฝีปากหนาที่บดลงมาอย่างกระหายไม่ปิดบัง

เขาจอดรถตรงที่ริมห้วยระหว่างกลางของสองไร่ และเริ่มดึงเธอเข้าไปใกล้ สาวน้อยที่มีใจให้เขาพลันชุ่มชื้นตอบสนองอย่างสาวแรกรัก เธอปล่อยให้เขารุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวด้านล่างด้วยมือ

ไม่มีใครต้านทานแรงพิศวาสที่มีให้กันได้ รถกระบะคันเก่าเล็กแต่ยังพอมีพื้นที่ให้สองร่างกอดก่าย เขาวางร่างบางของเธอไว้บนเบาะ ชะโงกร่างสูงเกร็งข้างบนเธอ

สาวแรกรุ่นยังไม่ทันได้ถอดเสื้อเชิ้ตหรือกางเกงออกด้วยซ้ำ เมื่อเขาแทรกแก่นกายแข็งชันเข้าสู่ร่างเล็กของเธอ ความเจ็บปวดทำให้เธอสะดุ้งร้องออกมา

ร่างแกร่งข้างบนทำเพียงหัวเราะในลำคอก่อนจะจูบเธออีกครั้งเนิ่นนานแล้วค่อยขยับไหวช้า ๆ แล้วถี่ขึ้น เสียงครางทุ้มเอ่ยชมเธอว่าทำให้เขาปวดร้าวขนาดไหน ภายในรถอุ่นร้อนจากลมหายใจของคนทั้งคู่ที่หอบกระชั้น

มือเขาเปิดเสื้อเชิ้ตเธออ้าออกจนพ้นเนินเนื้อหน้าอกแล้วก้มลงดูดดึง มือหนาจับเอวคอดของเธอไว้แน่นขยับถี่ขึ้นอย่างร้อนรน

ศศินายังนอนงวยงันระคนสุขสมเมื่อรู้สึกถึงความเปียกชื้นบนหน้าท้อง เธออายุสิบเจ็ดปีแล้วและรู้ว่าผู้หญิงผู้ชายทำอะไรกันในที่ลับ เพื่อนของเธอหลายคนแต่งงานแล้วแม้จะอายุน้อยอย่างคนบ้านนอกทั่วไป

เสียงเปิดประตูห้องนอนทำให้ศศินาสะดุ้ง เธอกำลังคิดเตลิดถึงเรื่องหนเก่าจนลืมไปเสียสนิทว่าพ่อเลี้ยงพันแสงยังอยู่ในบ้าน

ร่างสูงใหญ่กว่าสมัยนั้นมากพันผ้าเช็ดตัวผืนเดียว อกแกร่งของเขาขึ้นลูกเป็นกล้ามเนื้อแน่นสวย ลอนหน้าท้องนับแล้วหกลอนพอดิบพอดี

ผิวสีทองแดงไปทั้งร่างเดินมาหาเธอที่โต๊ะเครื่องแป้ง จับไหล่บางดึงเธอขึ้นมา

“ไปนอนกันเถอะศศินา”

พันแสงดึงร่างเล็กที่สวมเสื้อยืดตัวโคร่งกางเกงขาสั้นขึ้นจากเก้าอี้หัวโล้นหน้ากระจก

เขาดึงมือจูงไปยังเตียงนอนเล็ก เตียงที่เขาต้องกำจัดออกทันทีพรุ่งนี้เช้าและแทนที่ด้วยเตียงใหญ่อันใหม่ ซึ่งรวมไปถึงของอีกหลาย ๆ อย่างในบ้านที่เขาเห็นในค่ำนี้

ร่างแกร่งนั่งลงบนเตียงเล็กให้ศศินานั่งตัก มือลูบไปทั่วร่างบาง

“ไม่ต้องห่วงศศินา มันจะดีกว่าตอนนั้นมาก”

เขาจ้องดวงหน้างามที่มีสีระเรื่อขึ้นทันตา แม้เธอจะเม้มปากแต่เขารู้ว่าเธอกำลังตื่นตัวตั้งตารอ

มือใหญ่ลูบไปตามกรอบหน้ามนนุ่มนวล เธอเป็นอิสตรีบานสะพรั่งกว่าเมื่อก่อน เบ่งบานเต็มที่รอเพียงให้คนอย่างเขาได้เชยชม

เขารั้งใบหน้าเธอไว้รับจูบที่ไม่เหนี่ยวรั้งอีกต่อไป เขาเฝ้ารอให้ถึงเวลานี้ วันที่เขาจะได้ครอบครองเธออีกครั้ง อย่างที่ไม่มีใครมาขัดขวางเขาได้

เขาดึงเสื้อยืดตัวโคร่งออกจากร่างบอบบาง ทรวงอกงามเต่งตึงขึ้นใหญ่พอที่จะล้นมือเขาเมื่อพันแสงกอบขึ้นทั้งสองข้าง

“พ่อเลี้ยง ปิดไฟก่อนไหม”

มีเสียงตะกุกตะกักเล็ดลอดเบา ๆ เขามองยอดอกงามสีชมพูอ่อนเล็กในมือใช้นิ้วปาดป้ายหยอกล้อ

“ไม่ต้อง ฉันอยากจะเห็นเธอ”

ศศินาใบหน้าเห่อร้อน แม้จะเคยมือชายมาแล้วหนึ่งครั้ง แต่มันก็นานตั้งแต่อายุสิบเจ็ด ทั้งยังบนรถในป่าที่มืดสนิท

พันแสงก้มใบหน้าแกร่งลงกลางทรวงอก เขาคลุกเคล้าหอมกลิ่นกายสาวทั้งขบเม้ม ใช้ลิ้นดันหัวนมเล็กตั้งชันสีชมพูสวย ลิ้นเขี่ยเบา ๆ ก่อนจะดูดขึ้นให้แข็งเป็นไต นิ้วกดป้ายแล้วใช้ลิ้นเขี่ยเบา ๆ อีกครั้ง

“พ่อเลี้ยง อือ อา”

ศศินาอ่อนระทวย เธอโอบมือเล็กรอบต้นคอแกร่งสะท้านร่างรับแรงดูด มีเสียงจากปากยามเขาใช้ลิ้นดุนหัวไว้แล้วดึง

มือใหญ่ลูบลงไปยังสีข้างใต้ราวนมลงสู่เอวกิ่วเล็ก วกเข้าด้านหน้าล้วงเข้าไปในกางเกงนอน ไปยังหว่างขาที่เธอยังหนีบไว้แน่น

“เปิดออกสิ อ้าขาศศินา”

เล็บเธอจิกเข้าในกล้ามเนื้อหลังท้ายทอยใหญ่ของพันแสง ยามเขากุมเนินเนื้อสาวไว้เต็มมือ นิ้วเขาหยาบอย่างคนทำงานให้ความรู้สึกสากระคายและร้อนแรง เขาแหวกกลีบบางออกถูเบา ๆ บนติ่งเล็กอ่อนไหว

“อือ พ่ะ พ่อเลี้ยง อา”

ฉับพลันร่างเล็กถูกยกขึ้นให้นอนราบไปบนเตียงเล็ก พันแสงดึงกางเกงนอนตัวเล็กออกแล้วจับเธอแยกขาออกจากกัน ศศินาตกใจจนต้องยกมือปิดไว้

“เอามือออกศศินา ฉันต้องการจะเห็น”

ดวงหน้างามแดงซ่านลามไปถึงลำคอ เธอจ้องพันแสงที่บังคับเธอทางสายตาให้เธอยกมือออกจากเนินสาว

ศศินากลั้นใจหลับตาแน่นยกมือออกจากกลุ่มขนบางเบาที่ปิดเนินสาวไว้ เธอได้ยินเสียงสูดลมหายใจ

“ลืมตาสิ ดูฉัน”

ดวงตากลมโตค่อยปรือขึ้นจ้องไปที่พันแสง เห็นเขายังจดจ้องตรงนั้น เนินสาวสวยด้วยดวงตาแวววาวหื่นกระหาย

เธอมองแก่นกายสีเข้มดั่งผิวกายเขาที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ใหญ่โตและผงาดตั้งโด่ ร่างเล็กเริ่มกระถดถอยกายสาวออก มือแกร่งจับข้อเท้าของเธอไว้ทันที ดึงเธอให้หงายขึ้นและเปิดหว่างขาออกมากกว่าครั้งไหน

“คืนนี้ฉันจะเลียเธอ จะสอดใส่และกระแทกให้แรง จะเอากับเธอทั้งคืน ศศินา”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทพิเศษ 2

    บทพิเศษ 2ใจดวงเล็กทั้งตื่นตระหนก ทั้งตื่นเต้นปะปนคละเคล้ากันไป กายสาวสั่นระริกไปทั่วร่าง สัมผัสแปลกใหม่ทำสาวแรกรุ่นใจเต้นไม่เป็นส่ำ ทั้งอยากรู้อยากลอง ต้องการเป็นของเขาทั้งตัวทั้งใจ ยินยอมขยับต้นขาเปิดออกให้ปลายนิ้วแทรกลงกลางไรขนอ่อนนุ่มราวผ้าไหม“เดือน อ่า นุ่มมือมาก”หน้าเข้มขยับเลื่อนขึ้นซอกคอสูดกลิ่นกายสาวดูดขบเม้มเนื้ออ่อนใกล้จุดชีพจรแสนอ่อนไหวตรงฐานลำคอนิ้วสัมผัสกายสาวฉ่ำชื้นแทรกลงตรงกลางกลีบแหวกออก ส่งนิ้วชี้ลูบไล้จนกระทั่งพบเม็ดเล็กกลางร่องงาม ร่างเล็กสะดุ้งขึ้นยามเขากดลงแรงคลึงเม็ด“เดือนจ๋า คนดี พี่ขอได้ไหม”สาวน้อยไร้ประสบการณ์ไม่เข้าใจสิ่งที่พันแสงถาม เธอเอียงหน้าไปอีกทางยามเขาซุกไซ้ลำคอ มือแกร่งด้านล่างยังล้วงลึก อีกมือกอบกุมทรวงงามบีบเคล้นลงแรงเต็มมือ ร่างเล็กนอนระทวยทำได้เพียงแอ่นร่างรับไฟพิศวาสส่งเสียงครางในลำคอ กระทั่งนิ้วของคนด้านบนเริ่มสอดใส่เข้าไปทางร่องรักจึงได้รู้สึกตัว“พี่แสง อ่า ไม่ได้นะ อื้อ อ่า อย่า อย่าสอดนิ้วเข้าไป”เสียงห้ามปรามแผ่วเบาปนกระเส่า น้ำหวานเอ่อล้นสวนทางกลับเสียงร้องทักท้วง นิ้วยาวเรียวส่งเข้าทาง แม้ว่าไม่ถนัดถนี่นักแต่ยังพอเข้าไปได้“โอ้! เด

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทพิเศษ 1

    บทพิเศษ 1หกปีที่แล้ว“มา ๆ หนูเดือน มากินกัน”ศศินารีบวิ่งนำพันแสงมาจากทางเนินเขาหลังบ้านเมื่อได้ยินเสียงคุณน้าระพีร้องเรียกแต่ไกล“พี่แสง เร็ว ๆ สิ เดือนหิวแล้วนะ”เสียงหัวเราะหวานใสบนใบหน้าของเด็กสาววัยสิบเจ็ด พวงแก้มยุ้ยออกเล็กน้อยด้วยโฮร์โมนวัยรุ่น ผมเลยติ่งหูแต่ไม่ประบ่าพันแสงมองตามร่างเล็กในชุดกางเกงยีนส์สีซีดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งลายสก็อตสีแดงตัวเก่งที่ศศินาชอบสวม เธอวิ่งไปหัวเราะไปจนเสียงฝีเท้ากระทบพื้นดินหยอกล้อไปกับเสียงหวานใสผสมผสานเสียงของลมหนาวที่กำลังพัดผ่าน นำกลิ่นใบยาสูบที่บ่มอยู่ในโรงบ่มกำจายโดยรอบบ้านไม้สองชั้นกลางไร่ยาสูบชัยสงคราม“ค่อยเดินสิ ประเดี๋ยวก็ล้ม”“ไม่หรอกค่ะ ฮ่า ฮ่า เร็วสิ พี่แสงเดินอย่างกับคนแก่”“พี่ไม่ใช่คนแก่สักหน่อย”ศศินาหยุดแล้วหันหลังกลับมายืนเท้าสะเอวมองตรงไปทางร่างสูงใหญ่ผิวสีเข้มผิดไปจากคนเหนือทั่วไป เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มใส่ในกางเกงยีนส์คาดเข็มขัดหนังสีน้ำตาลธรรมดา สวมรองเท้าบูธสำหรับใส่ในไร่สีดำ ผมยุ่งเหยิงจากแรงลมที่พัดไปมารอบตัว ดวงตาสีนิลจ้องตอบเธอเปล่งประกายเจิดจ้ามีความสุขวันนี้พันแสงเรียนจบปริญญาโทดั่งที่ตั้งใจไว้ เขากลับมาอยู่บ้านเพื่

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทที่ 30  ~ จบบริบูรณ์

    บทที่ 30 ~ จบบริบูรณ์พันแสงหยุดรถกลางทางมองศศินาที่หันจ้องหน้าเขาแววตาสงสัย หน้าคมเข้มยิ้มกว้างยกมือเล็กขึ้นจูบ“วันนี้คนที่บ้านเยอะหน่อยนะ”“อะไรนะคะ คนอะไรกันคะ คนงาน?”พันแสงหัวเราะเบา ๆ ชะโงกหน้าจูบปากหวานจิ้มลิ้มแล้วถอยห่างออกมา“เราจะไปไร่ชัยสงครามกัน”“อ้าว ทำไมคะ เดือนจะกลับบ้านนะ”พ่อเลี้ยงปล่อยมือสาวร่างเล็ก หันไปขับรถต่อแต่เลี้ยวเข้าทางไร่ชัยสงครามปล่อยให้ศศินามึนงงสงสัย กระทั่งเข้ามาถึงปากทางเข้าบ้านจึงเห็นลานบ้านมีแต่โต๊ะงานเลี้ยงและเวทีเล็ก ๆ กลางลาน“มีงานเหรอคะ งานอะไรกัน”ศศินาชะเง้อมองคนงานที่กำลังทำอาหารกันวุ่นวาย มีแขกมาบ้างแล้วนั่งอยู่ที่โต๊ะ“งานแต่งงาน”“หื้อ งานแต่งงานใครคะ”ศศินาเอี้ยวใบหน้าหวานคมกลับมาที่พันแสง เห็นสีหน้ายิ้มกรุ่มกริ่มไม่พูดอะไรแล้วลงจากรถไปเธอรอให้เขาอุ้มร่างเล็กลงรถแล้วประคองเธอเดินตัดผ่านลานบ้านไปยังตีนบันไดขึ้นบ้าน“มากันแล้ว เจ้าบ่าวเจ้าสาว”ศศินาทวนคำในใจ เจ้าบ่าวเจ้าสาว เธอมองบนบ้านห้อยทั้งสายสิญจน์และดอกไม้ประดับประดาเต็มเรือน“ไปห้องพี่ก่อน”ศศินาถูกจูงมือแม้เธอจะยังเหลียวหลังมองข้าวของบนเรือน ทั้งบายศรี และยังพานพุ่มดอกไม้เธอก้า

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทที่ 29 ~ ได้โปรด

    บทที่ 29 ~ ได้โปรดพันแสงขับรถด้วยความเร็วลงเนินเขา ใจเต้นโครมครามเมื่อนึกถึงใบหน้างาม เขามีเรื่องจะบอกเธอ คำพูดที่เขาติดค้างเธอไว้เมื่อหกปีก่อนชายหนุ่มลดความลงเร็วเมื่อถึงโค้งหักศอกใกล้ตีนเขา สังเกตเห็นรถมูลนิธิข้างทางและรถของฝูงชนที่มุงดูเหตุการณ์อีกฝั่งเป็นรถหกล้อบรรทุกรวงข้าวคงกำลังเร่งเพื่อไปให้ทันโรงสีปิดจนเกิดเหตุเขาชะลอรถเพื่อดูรถของผู้เสียหาย แสงอาทิตย์ยามเย็นพาดผ่านเหลี่ยมเขาแมกไม้เป็นเงาทอดยาวสีทองส่องไปยังรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่“ไม่ ไม่ ไม่!!”“เอี๊ยด!!”เขาตบพวงมาลัยเข้าข้างทางกะทันหัน ลงจากรถวิ่งข้ามถนนไปยังรถเกิดเหตุอย่า! ขอเถอะ! อย่าเป็นอย่างที่เขาคิด อย่า! ได้โปรด!ช่วงเวลาช่างยาวนานในระหว่างที่เขากระโดดก้าวข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม หัวใจเต้นถี่รัวและบีบรัดแน่น ช่องท้องมวนขึ้นตีจนจุกถึงลิ้นปี่“ป้อเลี้ยง! มาทำอะไรครับ เดี๋ยวครับ”พันแสงไม่ฟังเสียงห้าม เขาแหวกคนมูลนิธิเข้าไปใกล้รถที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่เห็นร่างเล็กในรถ“เธออยู่นี่ครับ”พันแสงมองหน้าคนมูลนิธิ สติยังไม่กลับคืนมา เขามึนจนแยกไม่ออกว่าเสียงที่พูดหมายถึงอะไร“ป้อเลี้ยง ป้อเลี้ยง รู้จักคนในรถเหรอครับ”หน้าคม

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทที่ 28 ~ พราวพิลาส

    บทที่ 28 ~ พราวพิลาสมือใหญ่ยังตัดขนมสาคูไส้หมูออกเป็นสองชิ้นก่อนจะใช้ส้อมเล็กจิ้มเข้าปากตามด้วยพริกเม็ดใหญ่และผักสด มองหน้าแม่รอคำถามต่อไป“เรื่องหนูเดือน”“ครับหนูเดือน”“เขาลือว่าเห็นลูกจูบกันกับหนูเดือนที่หน้าร้านเบเกอรี่ที่หนูเดือนเป็นเจ้าของ จริงหรือเปล่า”“ครับ จริง”เขาจิ้มสาคูชิ้นที่เหลือเข้าปากตามด้วยพริกสดและผัก“ฝีมือแม่อร่อยเหมือนเคย แล้วยังไงครับ”“กะ ก็ มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ทำไมแม่ไม่รู้”เขาวางส้อมลงแล้วหยิบน้ำขึ้นดื่ม เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ก่อนจะวางแก้วน้ำลง“ก็ประมาณสามเดือนครับแม่ ตั้งแต่เดือนกลับมางานศพพ่อเลี้ยงตา”ระพีสะดุ้งตกใจ สามเดือนนั้นมันถือว่านานพอสมควร แล้วลูกชายของเธอก็ปิดบังเรื่องนี้มาตลอด“ตอนนี้ผมกับเดือน เรา เอาเป็นว่าอยู่ด้วยกันแล้วครับแม่”“ได้ยังไง ก็ ก็ลูกอยู่บ้านตลอด”“ผมจะไปเฉพาะช่วงกลางคืนแล้วค่อยกลับมานอนบ้านครับ”“แสง!!”ระพีร้องอุทาน เธอนึกถึงเด็กสาวอายุสิบเจ็ดร่างเล็กที่เธอเห็นครั้งสุดท้ายในวันเพลิงไหม้ มือเล็กของศศินาประคองร่างเธอไว้ไม่ให้ล้มโดยที่พันแสงยืนชี้หน้าเด็กสาวคนนั้น“แสง แสงบอกแม่สิว่า แสงไม่ได้ทำลงไปเพราะอยากจะแก้แค้น”พันแ

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทที่ 27 ~ อดีตยากจะฝังกลบ

    บทที่ 27 ~ อดีตยากจะฝังกลบ“แม่อุ๊”แม่อุ๊ร่างท้วมวางไม้กวาดทางมะพร้าวพิงไว้กับเสาบ้าน เดินไปหาพ่อเลี้ยงพันแสงที่ยืนเสียงอยู่ตรงตีนบันได“เจ้า ป้อเลี้ยง”“ฉันมีเรื่องจะถาม”พันแสงเดินลงมุดเข้าใต้ถุนบ้านที่เตี้ยเกินไปสำหรับเขานั่งลงบนแคร่ไม้ข้างใต้บทที่“ป้อเลี้ยงจะถามหยั่งข้าเจ้า”“เรื่องรอยบนหลังของเดือน”แม่อุ๊สะดุ้งจ้องหน้าเข้มดุเอาเรื่อง นึกสงสัยพ่อเลี้ยงเห็นรอยแผลของคุณหนูได้ยังไง“คุณหนูบ่หื้อผู้ใด๋อู้”“แต่แม่อุ๊ต้องพูด”ร่างท้วมเหลียวมองไปบนบ้านยังได้ยินเสียงน้ำไหลจากในห้องน้ำแล้วจึงหันกลับมาหาพ่อเลี้ยง“ก็เมื่อปี๋นั้นคืนที่ฉลองงานรับปริญญา ป้อเลี้ยงจำได้ก๋า”พันแสงพยักหน้า เขาจะจำไม่ได้ได้อย่างไรในเมื่อเขาพาสาวน้อยแวะเข้าข้างทางแล้วทำให้เธอต้องเสียสาวเป็นครั้งแรก“ป้อเลี้ยงมาส่งเปิ้นสะค่อนดึ๋ก ป้อเลี้ยงตาเกี้ยดนั่ก[1] เจ๊า[2]มาหื้อคนงานมัดคุณหนูกับเสาพู้น”พันแสงมองตามมือแม่อุ๊ไปที่เสากลมหน้าสุดของใต้ถุนบ้าน หน้าคมเข้มเริ่มเปลี่ยนสี“มัด?”“เจ้า เปิ้นสั่งคนงานมาหันเปิ้นลงแส้ แฮงนั่ก ตะโกนลั่น หื้อจำไว้บ่าต้องแอ่วบ้านป้อเลี้ยงอีก ไม่งั้นเปิ้นจะเผาไฟไร่ชัยสงคราม โอ้ย!ป้อเลี้ย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status