@สนามบินสุวรรณภูมิ
ร่างบางย่างกรายลากกระเป๋าสัมภาระออกมายืนด้านหน้าสนามบินเพื่อเรียกแท็กซี่ไปโรงแรมที่จองไว้ อาทิตย์หนึ่งเต็ม ๆ สำหรับการวางแผนในการเริ่มภาระกิจครั้งนี้ เธอจะพลาดไม่ได้เด็ดขาดเพราะนั้นหมายถึงชีวิตและอนาคตของเธอ
แอ๊ดดด~
เมื่อเช็กอินเสร็จเรียบร้อยเธอรีบเข้าห้องพักเตรียมตัวสำหรับคืนนี้ทันที. วางสัมภาระทุกอย่างก่อนจะหยิบชุดราตรีที่เตรียมไว้ล่อเหยื่อจัดเข้าตู้
ครืดด ครืดด
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขณะรวงข้าวกำลังจะอาบน้ำแต่งตัว ทำให้ร่างบางสวมชุดคลุมออกมารับสายก่อน
“ว่าไง พี่ไดรฟ์”
(ตกลงจะเริ่มวันไหน)
“คืนนี้”
(ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ สังเกตการณ์ก่อนสักพักไหม พี่รู้มาว่ามันอยู่ไทยอีกเป็นอาทิตย์)
“ไม่ล่ะ ไม่อยากยืดเยื้อ เสร็จเร็วยิ่งดี”
(แน่ใจนะ)
“ค่ะ คืนนี้พวกมันมีงานฉลองน่าจะง่ายต่อการเข้าถึง”
(รอให้พี่ไปถึงกรุงเทพก่อนไหม พี่จะได้ช่วยเราได้)
“พี่ไดรฟ์ไม่ต้องมา พ่อเลี้ยงจับได้จะเป็นเรื่องเปล่าๆ”
(รับปากพี่นะข้าว ว่าจะห่วงความปลอดภัยตัวเองก่อน)
“ค่ะ” รวงข้าวตอบไปอย่างนั้น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเธอจะทำทุกอย่างเพื่ออิสรภาพครั้งนี้
ผมยาวสีดำสนิทรวบมัดตึงกับศีรษะปล่อยปอยผมดัดม้วนทั้งสองข้างลงมาที่แก้ม ตาหวานตกแต่งให้ดูเฉี่ยวคมแต่ขณะเดียวกันก็ดูอ่อนหวานน่าหลงใหล ปากบางแต่งเติมลิปสติกสีชมพูอมส้มให้เข้ากับชุดราตรีสีทอง ปัดแก้มอ่อน ๆ พอดูสุขภาพดี ก่อนที่รวงข้าวจะสวมชุดราตรีเกาะอกแหวกข้างโชว์ขาเรียว
“จะต้องทำให้สำเร็จนะข้าว จะได้มีอิสระสักที” เธอมองกระจกบอกตัวเองเสียงหนักแน่น แววตาที่มองตัวเองมีแต่ความเชื่อมั่น จากนั้นจึงลุกออกไปเตรียมพร้อมเดินทางเพื่อไปอีกโรงแรมหนึ่งเมื่อได้เวลาที่เหมาะสม
@โรงแรมหรู
ร่างบางหลบมุมมองภาพตรงหน้าที่มีชายหนุ่มร่างสูงกำลังนัวเนียกับผู้หญิงในอ้อมกอดในโซนลับตาคน
บริเวณนี้มีแค่แขกที่มีบัตรเชิญเท่านั้นที่สามารถขึ้นมาได้ และไม่แปลกที่รวงข้าวจะมายืนบนชั้นวีไอพีแห่งนี้เพราะพ่อเลี้ยงธนินได้เตรียมการทุกอย่างไว้ก่อนแล้ว
“คนนี้สินะ...เคนตะ!!” รวงข้าวส่ายหน้าไปมาเมื่อเห็นเป้าหมายตัวเอง เสือผู้หญิงอย่างที่ข้อมูลบอกมาเป๊ะ
เริ่มหวั่นใจว่าตัวเองอาจจะพลาดท่าหมอนั่นก่อนที่จะได้ทุกอย่าง แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อมันคืองานและอิสรภาพของเธอ
“...”
สายตาเฉี่ยวคมเหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่อีกคนที่เดินเคียงข้างผู้หญิงตัวเล็ก หน้าตาน่ารัก น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ
ถ้าเดาไม่ผิดคนนี้คงจะเป็นคริสเตียนพี่ชายคนโต ส่วนข้าง ๆ มีร่างสูงนิ่งขรึมไร้คู่ควงเดินอย่างเด็ดเดี่ยวเพียงคนเดียว ตามข้อมูลคงจะเป็นคนน้องสุด...คูเปอร์
“ไอ้เคน!! ออกมา”
พี่คนโตส่งเสียงดุดันสั่งน้องชายที่กำลังคลอเคลียหญิงสาวไม่เลิก
“โอ้พี่คริส ขอไปต่อก่อนได้ไหม” เคนตะถอนหายใจอย่างรำคาญเมื่อโดนขัดจังหวะผละตัวออกจากร่างบางในอ้อมแขน แต่ไม่วายหันกลับไปไซ้ซอกคออีกครั้ง
“...” คนตัวเล็กมองด้วยหางตาเอือมระอากับการกระทำมักมาก
“ผมเข้าในงานก่อนนะ” คูเปอร์น้องชายคนเล็กบอกพี่ชายทั้งสองแล้วเดินออกไปทันที
“เค้กก็ขอตัวกลับก่อนดีกว่า” คนตัวเล็กแกะมือออกจากคริสเตียน ก่อนจะยื่นปลายจมูกฝังลงบนแก้มสาก
หมับ!
“อือ ถึงบ้านโทรบอกพี่ด้วย” ร่างสูงเอื้อมมือกุมศีรษะเล็กโยกไปมาแล้วเด็กสาวก็ปลีกตัวออกไป
“ยัยเด็กบ้า ไม่เหึนรึไงว่ายืนกันสองคน” เคนตะบ่นออกมาอย่างไม่ชอบใจนัก
“จรวดมึงอะ เก็บให้เข้าที่ก่อนอย่าเที่ยวมาร่อนบินแถวนี้!!” พูดจบก็แยกย้ายตามคูเปอร์น้องชายคนเล็กเข้างาน
“...” เคนตะก้มมองเป้ากางเกงตัวเอง ยักคิ้วไม่สนใจว่าเป้าจะตุงแค่ไหน ในเมื่อไม่อนุญาตให้เขาไปปลดปล่อยก็ต้องปล่อยให้ตุงอยู่แบบนี้แหละ
@อีกด้าน
เมื่อรู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่าง รวงข้าวจึงเดินลงทางบันไดหนีไฟทันที เพื่อไปเตรียมการรอเวลาเหมาะสมบริเวณลานจอดรถ
เวลาล่วงเลยเกือบเที่ยงคืนงานเลี้ยงฉลองได้จบสิ้นลง แขกในงานต่างก็แยกย้ายทะยอยกันกลับ ร่างบางยืนมองรถตู้เป้าหมาย ป้ายทะเบียน สีรถ ยี่ห้อรถ ทุกอย่างตรงกับข้อมูลที่พ่อเลี้ยงธนินส่งมาให้ จนกระทั่งไฟหน้ารถส่องสว่างบ่งบอกว่าภายในรถเตรียมตัวจะเคลื่อนที่แล้ว
เชียะ!!
“อ้ะ!!” เธอตัดสินใจหยิบมีดใต้กระโปรงออกมา ก่อนจะใช้ปลายมีดแหลม ๆ กรีดลงบนต้นแขนพร้อมทั้งกระชากสร้อยออกจากคอให้เป็นรอยบาดสีแดงสด
ตึก!
ตึก!
“ช่วยด้วย” ฝีเท้าเล็กวิ่งมองซ้ายมองขวาหวาดระแวง ตะโกนส่งเสียงดังไปทั่วลานจอดรถโรงแรม
“ช่วยฉันด้วย”
เอี๊ยดดด!!
“เฮือก!!” ร่างบางสะดุ้งตกใจเมื่อวิ่งปาดหน้ารถ ทว่าโชคยังเข้าข้างเพราะคนขับบังคับพวงมาลัยหักหลบได้ทัน
หมับ! ร่างสูงลงจากรถเดินมายังหญิงสาวที่กำลังนอนหมอบกับลานพื้น ก่อนที่เธอจะเงยหน้ามองสิ่งตรงหน้าที่กำลังโอบร่างเธอประคองให้ลุกขึ้น
“อึก!” ร่างบางกลืนน้ำลายพยายามข่มอารมณ์ไม่แสดงออกมา
‘เฮ้ย~ ผิดคน’
“เอ่อ...ขอโทษค่ะ” รวงข้าวเอ่ยออกมา ส่งแววตาน่าสงสารให้ร่างสูงที่กำลังมองอยู่
‘เอาหว่า เป็นไงเป็นกัน’
“หนีอะไรมา” น้ำเสียงราวน้ำแข็งหลุดออกจากปากคริสเตียน
“ฉะ..ฉันโดนจี้น่ะค่ะ” รวงข้าวรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้สิ่งที่โกหกออกไปจะเชื่อถือได้แค่ไหน แล้วชุดที่สวมใส่จะยั่วยวนชายตรงหน้าได้รึเปล่าแถมเขาก็มีแฟนอยู่แล้วจะมาสนใจในตัวเธอเหรอ
“โดนจี้!?” คริสเตียนถามย้ำ
“โรงแรมหรูขนาดนี้ จะเป็นไปได้เหรอครับ”
อดัมยืนประกบข้างเสนอความเห็นให้เจ้านาย
“ถึงจะเป็นโรงแรมหรูแต่เวลาเที่ยงคืนก็อาจจะเป็นไปได้ แถมตรงนี้มันก็เปลี่ยวมากด้วย ผู้หญิงตัวคนเดียวก็ไม่ปลอดภัยเป็นธรรมดา”
“...โอ๊ย!!” รวงข้าวแสยะยิ้มมุมปาก ก่อนจะส่งเสียงร้องออกมา
“เป็นอะไรรึเปล่า!?”คริสเตียนมองสำรวจร่างบางในอ้อมแขนสายตาไปปะทะกับเลือดสีแดงสดบริเวณต้นแขนที่เริ่มจะไหลมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ฉันพยายามต่อสู้ก็เลยพลาดโดนมีดบาดอะค่ะ” รวงข้าวโกหกคำโต ทว่าความจริงแล้วเป็นเธอเองต่างหากที่ตั้งใจสร้างบาดแผลนี้ขึ้นมา
“ไอ้เดล!! ออกรถ พาเธอไปโรงพยาบาล”
“เอ่อ...อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวฝนทำแผลเองได้”
“งั้นติดรถผมออกนอกโรงแรม เผื่อพวกมันย้อนกลับมาอีก”
“ขอบคุณค่ะ” รวงข้าวเดินอย่างทุลักทุเลโน้มตัวพิงเป้าหมายเพื่อขึ้นรถ ก้มหน้ามองพื้นแววตาเป็นประกาย ก่อนจะเงยหน้าไปสบตากับคริสเตียนแล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นเจ็บปวดพยายามกุมบาดแผลต้นแขนเอาไว้
@หน้าร้านสะดวกซื้อ
พรึ่บ!!
“นี่ครับคุณฝน” คริสเตียนหย่อนตัวนั่งตรงข้ามกับหญิงสาว ก่อนจะยื่นอุปกรณ์ทำแผลให้เธอ
“คะ!?” เธอขมวดคิ้วเป็นคำถาม
“ผมได้ยินคุณแทนตัวเองว่าฝน”
“อ้อ ไม่คิดว่าคุณจะใส่ใจจำมันได้...” รวงข้าวเสแสร้งแกล้งดีใจ
“...น้ำฝน เรียกฝนสั้น ๆ ก็ได้ค่ะ”
“ครับ”
“แล้วคุณ!?”
“คริส คริสเตียน” ร่างสูงยังคงตอบนิ่ง ๆ เหมือนเดิม
“...” รวงข้าวพยักหน้าเข้าใจ ละสายตาจากคริสเตียนแล้วเอื้อมมือหยิบอุปกรณ์ทำแผล
ฟึบ!
“ผมทำให้ดีกว่า” เมื่อเห็นว่าเธอไม่สามารถจะเช็ดแผลเองได้ จึงลุกขึ้นเดินไปนั่งข้าง ๆ ก่อนจะแย่งสำลีมาถือเองแล้วลงมือเช็ดรอบ ๆ แผล
“อ้ะ!! แสบค่ะ” เธอร้องออกมาพยายามดันมือร่างสูงออก
“นั่งนิ่งๆ”
“ก็มันเจ็บนิคะ”
“...” คริสเตียนไม่เอ่ยสิ่งใด เงยหน้ามองแววตาเข้มแล้วทำหน้าที่ต่อก่อนจะใส่ยาและปิดแผลด้วยผ้าปิดยึดกับเทป
“เรียบร้อยครับ”
“ขอบคุณค่ะ” รวงข้าวเอ่ยยิ้ม ๆ
“จะให้ลูกน้องผมไปส่งที่ไหน”
“ไม่เป็นไรค่ะ แยกกันตรงนี้ก็ได้”
“ดึกแล้ว คุณเป็นผู้หญิง ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก”
“อ้อ ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ คอนโดฝนอยู่แถวนี้” เธอตีหน้าตายโกหกต่อ
“อืม งั้นผมขอตัวก่อน”
“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
ฟึบ!
คริสเตียนลุกขึ้นเดินตรงไปยังรถตัวเอง ลูกน้องที่ยืนรอบริการรีบสาวเท้าไปเปิดประตูรอทันที
ตึก!
ตึก!
“คุณคริสเตียน!!...”
“...ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป ฉันอยากจะเลี้ยงข้าวขอบคุณคุณคริสเตียนได้ไหมคะ” รวงข้าววิ่งตามออกไปแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ เบี่ยงหน้าหนีอย่างเขินอายหลังพูดจบประโยค
“...ตกลงครับ” ร่างสูงเหลียวหน้ากลับมานิ่งไปสักครู่ แต่แล้วก็ตอบรับคำ
อาฟเตอร์ปาร์ตี้ หลังจากรวงข้าวตอบรับการแต่งงาน คริสเตียนก็เร่งงานภายในหนึ่งอาทิตย์เพื่อให้รวงข้าวสวมใส่ชุดเจ้าสาวได้สวยที่สุด ก่อนที่เจ้าตัวน้อยในท้องจะแสดงฤทธิ์เดชเผยให้ทุกคนได้เห็น“ไม่รู้จะมีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ทำไม” คริสเตียนบ่นออกมาเพราะเขาอยากเข้าหอเต็มทีแล้ว“คุณเคนตะรีเฟสมาครับ ผมไม่กล้าขัดเลยจัดตารางงานตามนี้” อดัมรายงานทันที“แล้วไหนคนที่อยากอยู่งานปาร์ตี้ที่สุด หายหัวไปไหนแล้ว” สายตาคมกวาดสายตามองหาน้องชายสุดแสบ ที่ปล่อยให้แขกในงานสนุกกันเอง ทั้ง ๆ ที่เป็นแขกของเคนตะทั้งนั้น“ผมเห็นขึ้นลิฟต์ไปสักพักใหญ่แล้วครับ” อะเดลเอ่ยตามที่เห็น“คัพเค้กไปตามพี่เคน บอกให้ลงมาในงานได้แล้ว” คางูยะนั่งฟังบทสนทนาของหลายชายคนโตก่อนจะบอกหลานสาวเพียงคนเดียวที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย“ทำไมต้องเป็นเค้กด้วยล่ะคะ” ทำเอาคัพเค้กถึงกับหน้าบึ้งตึง ย่นจมูกส่ายหน้าไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ง่าย ๆ“ไปเถอะเค้ก ในงานก็มีแต่เพื่อนไอ้เคน บอกให้มันมารับแขกหน่อย” เจ้าบ่าวป้ายแดงรีบเอ่ยอีกเสียง เหลือบมองเจ้าสาวเป็นระยะ ยิ่งชุดที่รวงข้าวสวมใส่เผยให้เห็นร่องอกขาวเนียน จนเขาแทบจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว“ลูกน้องพี่คริสก็มี ทำไมไม่ใช้บ
รวงข้าวทอดสายตามองตามนิ่ง ๆ เมื่อคริสเตียนเดินออกไปจากจุดนั้น“ตามผัวไปสิวะ ยืนเซ่ออยู่ทำไม” วิมลดันแผนหลังลูกสาวเพื่อกระตุ้นเตือน“...” ทว่ารวงข้างยังคงยืนเฉยเมย ลังเลว่าทุกอย่างคือความจริงใช่ไหม ไม่มีฉากบังหน้าอะไรตบตาเธออีก“อ้าวอีนี่ เอาใจผัวอะเป็นไหม คงไม่อยากให้ลูกในท้องไม่มีพ่อหรอกนะ” หญิงวัยกลางคนถึงกับเกาศีรษะ เบื่อหน่ายนิสัยเย็นชาเต็มที“...”“ไปสิวะ!!” ก่อนที่วิมลจะดันให้รวงข้าวยอมก้าวเท้าตามออกไปตึก!ตึก!“ปู่” คริสเตียนเอ่ยเรียกคางูยะไว้ ก่อนที่มาเฟียเฒ่าจะขึ้นเครื่องบินเจ็ทกลับไปซะก่อน “จะตามฉันออกมาทำไม ไม่ไปดูแลลูกเมียแกล่ะ” คางูยะไม่คิดจะหันกลับไปมอง ไม่ได้โกรธเคืองอะไรทั้งสิ้น แค่ไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองสะสางไม่เสร็จ“ผมเข้าใจทุกอย่างที่ปู่ทำแล้ว ต่อไปผมจะเป็นคนสืบเรื่องนี้ จะไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าอีก”กึก!“ต่อไปแกอย่าลืมนะ ว่าจุดอ่อนของแกคือลูกและเมีย” คางูยะหันมาบอกด้วยสีหน้าสลด“ครับ ผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด ก่อนรวงข้าวจะคลอด” เขาให้สัญญาและทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่พูด“...” มาเฟียเฒ่าพยักหน้า แล้วหมุนตัวกลับไปขึ้นเครื่องบินตามเดิมคริสเตียนยื
แม่!!” รวงข้าวมองหญิงวัยกลางคนที่เดินเข้ามาหยุดตรงหน้า พร้อมทั้งชายชราที่ยืนถือไม้เท้าแววตาดุดันพึ่บ! คริสเตียนปล่อยโอบกอดจากร่างบางแล้วหมุนตัวหันไปมองแขกใหม่ทันที“ปู่!!” ก่อนที่เขาจะเอ่ยอย่างตกใจ ไม่คิดว่าคางูยะจะตามมาได้เร็วขนาดนี้ และที่สำคัญกลับพาแม่รวงข้าวมาด้วย งานนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้“กลับบ้านกับฉัน...คริสเตียน!!” คางูยะกระแทกไม้เท้ากับพื้น น้ำเสียงเอ่ยสั่งเรียบ ๆ แต่ถึงเเม้จะนิ่งเรียบแต่แฝงด้วยอำนาจบางอย่าง“ไม่ครับ ผมจะกลับก็ต่อเมื่อปู่อนุญาตให้เราสองคนได้สร้างครอบครัวด้วยกัน” ร่างสูงไม่เพียงแต่เอ่ยแต่ยื่นมือลงไปจับมือบางไว้แน่น เขาพร้อมที่จะเผชิญทุกอย่างจริง ๆ และไม่คิดจะยอมเเพ้ง่าย ๆ“หึ ดีนี่ทำให้หลานที่เชื่อฟังฉันมาตลอดสามารถออกนอกลู่นอกทางได้ สมใจเธอแล้วสินะ” มาเฟียเฒ่าแสยะยิ้มมองใบหน้าหญิงสาวข้างๆหลานชาย“...” ทุกคนต่างเงียบเกรงกลัวอำนาจในกำมือคางูยะที่สามารถสั่งทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า“เธอเคยรับปากกับฉันว่ายังไงฮะ!!” ก่อนที่คางูยะจะยื่นไม้เท้าเชยคางรวงข้าวให้เชิดขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคน“หยุดขู่เมียผมสักที เมื่อไหร่ปู่จะปล่อยให้พวกผมมีชีวิตที่เลือกเองบ้าง” คริ
แววตาคมเหลือบมองเด็กชายตัวเล็กผิวขาวที่กำลังนั่งเล่นรอเวลาทานอาหารเช้า คริสเตียนสาวเท้าเข้าไปหย่อนตัวนั่งข้าง ๆ จนทำให้ดวงตาใสบริสุทธิ์จับจ้องคริสเตียนตาแป๋ว“เมื่อไหร่คุณลุงจะกลับ” คิมหันต์วางของเล่นในมือ ขยับตัวออกเล็กน้อย เพราะรวงข้าวเตือนไม่ให้ยุ่งเกี่ยว“เลิกเรียกลุงได้แล้ว” คริสเตียนไม่พอใจนัก แต่ก็เก็บกลั้นเอาไว้“ก็คุณลุงแก่แล้วนี่ครับ”“เฮ้ย! เคยโดนหนังยางดีดปากไหมวะ” แต่แล้วคำพูดที่เอ่ยออกมา ทำเอาคริสเตียนตะคอกกลับไปเสียงเข้ม“น่ากลัว..ว่าแล้วทำไมแม่ข้าวถึงไม่รัก” คิมหันต์ฉีกยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังหน้าบึ้ง“รู้ได้ไงว่าแม่นายไม่รักฉัน อ้อ อีกอย่างต่อไปฉันต้องเป็นพ่อนาย ควรเปลี่ยนคำเรียกซะใหม่” เพราะหลังจากง้อรวงข้าวสำเร็จคงต้องรับคิมหันต์ไปเป็นลูกอย่างถูกกฎหมาย“ผมไม่อยากมีพ่อ แค่แม่ข้าวคนเดียวก็พอแล้ว” คิมหันต์ส่ายไปส่ายมาพร้อมทั้งกอดอกตัวเอง“ไม่ได้!! ถ้างั้นฉันจะไม่ให้นายเป็นลูกเมียฉันอีก” ถึงแม้จะมีน้องชายที่กวนประสาทถึงสองคน แต่ความอดทนเขาเริ่มจะหมดเต็มทีเมื่อต้องมานั่งต่อล้อต่อเถียงกับคิมหันต์“ขู่ผมเหรอ ผมไม่กลัวหรอก” คิมหันต์ยักคิ้วไม่ได้หวาดกลัวสักนิด“...” ทำเอาร่
“อะไรของคุณเนี่ย” รวงข้าวเงยหน้าถามด้วยความสงสัย จู่ ๆ คริสเตียนก็ลากเธอมาหลังต้นไม้“ไล่มันกลับไปเดี๋ยวนี้” ก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยเสียงเข้ม แววตาบ่งบอกชัดเจนว่าหมายถึงใคร“คุณก็เห็นว่าพี่ไดรฟ์ไม่กลับ”“งั้นพี่จัดการเอง” ว่าแล้วก็ปล่อยมือรวงข้าวเพื่อเดินกลับไปที่น้ำตกที่มีอดัมอะเดลค่อยเป็นเกราะคุ้มกันไม่ให้ไดรฟ์เข้าใกล้รวงข้าวได้“หยุดเลย คุณเองก็ควรจะกลับนะ ก่อนที่ปู่คุณจะตามมา” รวงข้าวรีบหยิบยกเรื่องนี้มาขู่ เพราะเชื่อว่าไม่นานคางูยะต้องทำอะไรสักอย่างแน่“รวงข้าว พี่ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ อายุก็เลขสามแล้วสร้างครอบครัวได้สบาย ๆ” ทำให้ร่างสูงหันมาเผชิญหน้ากับรวงข้าวอีกครั้ง แล้วเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง“แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมาะกับคุณ” เธอก้มหน้าไม่สบตา ยังจำคำพูดคริสเตียนได้ทุกคำ“เอาอะไรมาวัดว่าไม่เหมาะ อย่าคิดแทนพี่”“อย่ามาพูดดีหน่อยเลย ฉันไม่มีวันหลงกลคุณอีกหรอก” ก่อนที่รวงข้าวจะเบี่ยงหน้าไม่อยากคุยกับคนเจ้าเล่ห์ต่อ“ข้าว...ฟังพี่อธิบายก่อน” คริสเตียนจึงตั้งใจจะอธิบายทุกอย่าง ถึงแม้สถานที่จะไม่อำนวยก็ตาม แต่ดีว่าเข้าใจผิดอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ“ข้าวไปกับพี่” ไดรฟ์เข้ามาเอื้อมมือดึงรวงข้าวอ
เช้าวันต่อมาตึกตึก...รวงข้าวเดินวนไปวนมารอบเตียงตั้งแต่หัวรุ่ง ครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอดจากร่างสูงนอกห้อง“เราจะให้เขารู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด” เธอลูบหน้าท้องตัวเองที่มีอีกหนึ่งชีวิต“แต่เราจะหนีเขายังไง แล้วไหนจะเรื่องแม่อีกล่ะ” ถ้าหากคางูยะรู้เรื่องที่คริสเตียนมาตามเธอที่นี่ แม่ของเธอจะเป็นอันตรายไหมคิดได้อย่างนั้นรวงข้าวจึงชะโงกหน้าผ่านทางหน้าต่างเพื่อหาทางแก้ปัญหา ก่อนจะเห็นบอดีการ์ดยืนอยู่รอบบ้าน“ขนมาเยอะขนาดนี้ ไม่รอดอีกแน่” เธอส่ายหน้าเหนื่อยล้ากับสิ่งที่เผชิญ ทำไมความสุขที่เกิดขึ้นในชีวิตเธอมันสั้นนิดเดียว เมื่อไหร่เธอจะมีความสุขกับเขาบ้าง“แม่ข้าว...ทำอะไร” คิมหันต์ลุกขึ้น ใช้นิ้วมือขยี้ดวงตามองรวงข้าวที่กำลังยืนดูบางอย่างนอกหน้าต่าง“เอ่อ..ตื่นแล้วเหรอคิม” ทำให้รวงข้าวหันกลับมาตามเสียง“ครับ”“...” เธอยิ้มจาง ๆ เมื่อใกล้เวลาต้องออกไปเจอร่างสูงในเวลาที่ไม่อยากเห็นหน้าแบบนี้“ว่าไงครับ แม่ข้าวไปทำอะไรที่หน้าต่าง” แต่แล้วคิมหันต์กลับถามสิ่งที่ยังไม่ได้คำตอบต่อ“เปล่า นอนต่ออีกไหม” รวงข้าวจึงเดินไปใกล้ ๆ พร้อมเอื้อมมือลูบศีรษะเด็กชายที่กำลังจ้องเธอตาแป๋ว“ไม่ล่ะครับ คิมออกไปด้า