“ธารณ์ไม่ไปงั้นเหรอคะ สิตาจองเที่ยวบินจองโรงแรมทุกอย่างไว้หมดแล้วนะคะ ธารณ์รับปากคุณแม่แล้วนะว่ามาเยี่ยมน้องธีย์แล้ว เราก็จะไปฮันนีมูนต่อนี่คะ”
“ผมไม่ได้รับปาก คุณเองต่างหากสิตาที่รับปากคุณแม่ ความจริงเรื่องทุกอย่างมันจะไม่เป็นแบบนี้หรอกนะ ถ้าคุณไม่ทำเรื่องวุ่นวายนี้ขึ้นก่อน”
“นี่ธารณ์จะไม่เลิกงอนสิตาใช่มั้ยคะ”
“ผมไม่ได้งอน เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมอยากขอเวลาอยู่เงียบๆ สักพัก พูดตรงๆ ก็คือผมไม่มีอารมณ์ไปเที่ยวไหนหรอก”
เวลาที่เขาจะได้ทบทวนบางอย่างเกี่ยวกับตัวเขาและรสิตา เขารีบร้อนจนเกินไป คิดว่ารสิตาคงรักเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รักเธอมาก แต่เขาคิดว่าแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ไม่นานก็คงจะรักกันไปเอง ค่อยศึกษานิสัยใจคอกัน
“นี่แหละค่ะที่เรียกว่างอน สิตาขอโทษนะคะธารณ์ เรื่องนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วนะคะ สิตาให้สัญญานะคะ ว่าต่อไปนี้สิตาจะใช้ชีวิตอยู่กับธารณ์ จะไม่ไปเที่ยวไหน เราจะเป็นครอบครัวกันนะคะธารณ์ คุณแม่ธารณ์อยากได้เบบี๋นะคะ เราไปฮันนีมูนกัน และปั๊มหลานให้คุณแม่กันเถอะค่ะ...นะคะธารณ์ สิตารักธารณ์นะคะ”
“เรื่องฮันนีมูนเอาไว้ก่อนเถอะ ถึงไป ผมก็ไม่มีอารมณ์กับคุณตอนนี้หรอกนะสิตา”
“ธารณ์รู้ได้ยังไงคะ ตอนนั้นธารณ์โกรธสิตานี่คะ เรามาเริ่มกันใหม่นะคะธารณ์ นะคะ”
“ผมจะกลับบ้าน เลื่อนทุกอย่างไปก่อน ตอนนี้ผมต้องไปคุยกับคุณแม่เรื่องของตาธีย์ ผมปรึกษากับหมอเรียบร้อยแล้วว่าจะวางแผนรักษาตาธีย์ยังไง”
“โอ้ย...ธารณ์คะ ทำไมคุณ...เฮ้อ!...ก็ได้ๆ ค่ะกลับก็กลับค่ะ แต่ว่าคืนนี้สิตาขอนะคะ”
รสิตายังไม่ยอมแพ้ ผู้ชายลองได้ถูกกระตุ้นก็ไม่พ้นสักราย เธอจะทำให้ถึงใจ ให้ตายคาอกเธอไปเลยคอยดู
......................
“มิ้นท์เข้าใจที่แม่พูดมั้ยลูก คุณท่านให้เราอยู่ที่นี่ไปก่อน ส่วนเรื่องคุณหนูธารณ์ คุณท่านเขาจะจัดการเอง”
“จัดการยังไงคะแม่”
“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่เห็นคุณท่านบอกจะคุยกับคุณหนูธารณ์ อาจจะให้เธอรับผิดชอบลูกหรือเปล่า”
“ไม่นะคะ! มิ้นท์ไม่ต้องการค่ะแม่ มิ้นท์ไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้แล้ว เราออกไปอยู่ที่อื่นกันเถอะนะคะ คุณท่านให้เงินแม่มา เราเอาเงินก้อนนี้ไปซื้อบ้านอยู่กันสองคนเถอะค่ะ นะคะ”
ไม่มีใครที่จะอยากอยู่ดูความเจ็บช้ำของตัวเองหรอกนะ และเอมิกาจะต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดแบบนี้ตลอดไปน่ะเหรอ
“แม่ก็บอกคุณท่านไปแล้ว แต่คุณท่านขอให้เรารออีกสักพักนะมิ้นท์ แม่ว่าลูกอดทนรอดูคุณท่านก่อนนะ แม่ไม่อยากเสียคำพูด แม่เองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ไปจนตายหรอกนะ เราต้องไปแน่นอน แต่ต้องหลังจากที่เราไม่ติดค้างอะไรจากบ้านนี้เสียก่อน”
“งั้นเดี๋ยวมิ้นท์จะไปคุยกับคุณท่านเองค่ะ”
“ถ้ามิ้นท์จะไปคุย แม่ก็ไม่ว่าอะไรนะ เอาเป็นว่ารอสักพักเถอะ ให้เวลาคุณท่านสักหน่อยนะ ลูกต้องใจเย็นก่อน อดีตที่ลูกเจอ มันไม่อาจจะกลับไปแก้ไขได้แล้วนะลูก เพราะฉะนั้นแม่อยากให้ลูกใจเย็นๆ ค่อยๆ คิดนะ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นแม่อยู่เคียงข้างลูกเสมอนะ”
“ค่ะแม่...” ถูกอย่างที่แม่ของเธอพูด จริงสินะ อดีตอันแสนเจ็บปวดของเธอนั้น ไม่มีวันที่จะกลับไปแก้ไขได้อีกแล้ว นอกเสียจากที่เอมิกาจะทำใจและยอมรับมันให้ได้
.......................
เวลา 22.30 น. ณ ห้องนอนใหญ่ภายในคฤหาสน์...
“ตาไม่ไหวแล้วนะคะมี้ ธารณ์ไม่ยอมใจอ่อนเลยค่ะ ตาง้อธารณ์เป็นร้อยๆ ครั้งแล้ว มี้จะให้ตาอดทนได้ยังไงคะ”
รสิตาพ่นความโกรธที่อัดแน่นมาทั้งวันไปในสายสนทนากับแม่ของเธอ ตอนนี้ ณ เวลานี้ธารณ์ก็ไม่ยอมกลับเข้าห้องนอน รสิตาอุตส่าห์เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว
“แกต้องทนสิ ผัวแกมันงอนได้ไม่นานหรอก แกอย่าลืมนะว่ากว่าที่เราจะมาถึงจุดนี้ได้ ฉันหมดไปเท่าไหร่ บ้านอัครเมธีร่ำรวยแค่ไหนแกก็รู้นี่ เป็นเมียมหาเศรษฐีแบบนี้ สบายทั้งชาติ แกไม่ชอบหรือไง”
“ก็ธารณ์สิคะมี้ ไม่ยอมหายโกรธตาเลยค่ะ มี้จะให้ตาทำยังไงคะ นี่ตาก็รออยู่ในห้องนอนนี่หลายชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ก็ดึกแล้วด้วย ตาโทรไปก็ไม่รับ แชทก็ไม่ตอบ มี้จะให้ตานั่งรอธารณ์แบบนี้น่ะเหรอคะ...โอย...เบื่อจะแย่อยู่แล้วค่ะ”
“เบื่อยังไงแกก็ต้องทน วันนี้ง้อไม่ได้ พรุ่งนี้ก็ต้องได้ อย่าลืมนะว่าแกเป็นเมียตาธารณ์แล้ว แกตบแต่งเป็นเมียตาธารณ์สมบูรณ์ทุกอย่าง แกไม่ต้องห่วงหรอก ทะเบียนสมรสนั่นกอดมันไว้เถอะ มันสามารถแปลงเป็นเงินให้แกสุขสบายทั้งชาติ หรือแกอยากจะกลับไปไม่มีเงินเหมือนเดิม เลือกเอา”
“โอเคๆ ค่ะมี้ ตาจะทนก็ได้ค่ะ เพื่อความสุขในอนาคต และเพื่อความสุขของมี้ด้วยค่ะ”
“ดีมาก แกจะต้องรอ...เออ...ถ้าแกว่างมากก็เดินตามหายัยเด็กรับใช้นั่น จัดการมันให้พ้นหูพ้นตาแกได้ยิ่งดี วันนี้ฉันก็คุยกับคุณหญิงเยาวเรศแม่ผัวแกแล้ว คุณหญิงรับปากว่าจะช่วยจัดการนังเด็กนั่นอีกแรง แต่ฉันก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี แกเอาเวลาว่างไปจัดการศัตรูของแก ขืนปล่อยไว้มันอาจจะกัดแกทีหลังก็ได้นะยัยตา”
“ค่ะมี้ นังเด็กนั่นตาจัดการได้ สบายมากค่ะ พรุ่งนี้ตาจะทำตามที่มี้บอกค่ะ”
“โอเค งั้น ถ้าตาธารณ์ไม่มาหาแกคืนนี้ แกก็นอนไปก่อนเลย ไม่ต้องรอหรอก ยังไงเสียตาธารณ์ก็เป็นของแกแล้ว ไม่ต้องเห็นจะต้องเครียดอะไรเลย อย่าลืมสิ เงินของครอบครัวอัครเมธีสำคัญกับเราสองคนขนาดไหน”
“ค่ะมี้...ตาจะทำตามที่มี้บอกค่ะ”
“ดีมาก แบบนี้แหละให้สมกับเป็นลูกมี้หน่อย”
.....................
“นี่ลูกหายดีแล้วเหรอมิ้นท์”
“ค่อยยังชั่วแล้วค่ะแม่ พรุ่งนี้มิ้นท์จะไปเรียนแล้วค่ะ หยุดมาสองวันแล้วค่ะแม่ การบ้านคงเยอะแน่ๆ เลยค่ะ”
“แม่ว่ารอให้หายดีกว่านี้ก่อนไม่ดีกว่าหรือลูก ดูหน้าของลูกยังซีดอยู่เลยนะ”
“มิ้นท์หายแล้วค่ะแม่”
ร่างกายเธอยังมีวันหาย แต่ทว่าจิตใจของเธอนี่สิจะหายเมื่อไหร่กัน
ก๊อก! ก๊อก! เสียงประตูถูกเคาะระหว่างการสนทนา...
“นั่นใครเคาะประตูเสียงดังขนาดนี้คะแม่”
“นั่นสิ! ตกใจหมดเลย ไม่มีมารยาทเลย หรือจะเป็นยัยอร”
มาลินีกำลังพูดถึงแม่บ้านคู่ปรับของเธอ ที่มักจะไม่ลงรอยกันสักเท่าไหร่ อรอนงค์มักจะมาหาเรื่องเธออยู่เป็นประจำ เหตุผลน่ะเหรอ ก็น่าจะเป็นเรื่องคุณหญิงท่านนี่แหละ ที่ท่านให้ความเอ็นดูเธอมากกว่าทั้งที่เธอมาทีหลังอรอนงค์อยู่หลายปี
แกร๊ก! เสียงประตูถูกเปิด
“ใช่จริงด้วย...นี่ยัย...”
ร่างของคู่อริปรากฏอยู่ตรงหน้า มาลินีกำลังจะ*ฉะคู่ปรับของเธอ แต่ทว่าก็มีร่างของใครอีกคนยืนรออยู่ด้านหลัง ทำให้มาลินีชะงักไปในทันที
“คุณหนูสิตามีเรื่องจะคุยกับลูกสาวแก”
“เอ่อ...เรื่องอะไรเหรอคะคุณหนู”
“จะเรื่องอะไร...แกก็ไม่ต้องเสือกได้มั้ย คุณหนูไม่ได้จะคุยกับแก จะคุยกับลูกสาวแกนู่น เปิดประตูเชิญคุณหนูไปหาลูกแกเดี๋ยวนี้เลยยัยมาลินี!”
“แต่ฉันเป็นแม่ ฉันมีสิทธิ์ถาม” มาลินีโต้กลับ
“ฉันต้องการคุยกับลูกสาวเธอสักครู่ ฉันจำเป็นจะต้องอธิบายกับเธอมั้ย...มาลินี!”
“ได้ค่ะคุณหนู...แต่ว่า...”
“แกอย่าเรื่องมากได้มั้ยมาลินี! ถอยไป! เชิญค่ะคุณหนู”
สาวรับใช้คู่อริผลักร่างของมาลินี และถือวิสาสะก้าวเข้าไปภายในบ้าน และเดินนำไปยังห้องรับแขกของตัวบ้าน
“มีอะไรเหรอคะแม่?”
“คุณหนูสิตา จะมาคุยกับแก” สาวใช้คนเดิมโต้ตอบ
“ฉันขอคุยกับเธอสองคน ที่เหลือออกไปก่อน”
รสิตาพยายามใจเย็นกับสิ่งที่เกิดขึ้น คำพูดที่แม่ของเธอสอนนั้นมันคอยเตือนสติของเธอตลอด การจะขจัดเสี้ยนหนามที่มันจะคอยทิ่มแทงเธอในอนาคตนั้น เธอจะต้องทำให้แนบเนียนที่สุด เรื่องนี้บ้านอัครเมธีจะรู้ไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะแม่สามีของเธอ
“แต่หนูไม่มีอะไรจะคุยกับคุณแล้วค่ะ”
“แต่ฉันมี! และก็มีมากด้วย!”
………………….
กดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ
ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น
และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ