Chapter64หนึ่งสัปดาห์ต่อมา นับตั้งแต่เถ้าแก่สันต์กับสิงหนาททะเลาะกัน บรรยากาศภายในบ้านก็อึมครึม สองพ่อลูกไม่คุยกัน แต่ยังนั่งกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันได้ ทำราวกับว่าต่างคนต่างอยู่ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างสิงหนาทกับกัญญาภรณ์ดูจะแตกต่างไป เป็นเพราะคืนนั้นกัญญาภรณ์ได้พูดเปิดอกกับเขา “ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ” เมื่อกัญญาภรณ์เข้ามาในห้องแล้วไม่พบเขา เธอเดินหาจนทั่วจนกระทั่งมาเจอสิงหนาทนั่งมองอยู่ตรงระเบียง เธอพูดขณะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อีกตัว “ฉันเป็นคนตรงๆ มีอะไรก็พูดกันให้รู้เรื่อง เพราะถ้าไม่พูดเราก็จะไม่เข้าใจกัน ซึ่งฉันไม่ชอบ ฉันอึดอัด” “เธอจะพูดเรื่องอะไร” “เรื่องของคุณกับเรื่องของเรา” กัญญาภรณ์ตอบ “ฉันรู้เรื่องคุณกับผู้หญิงที่ชื่อปริมแล้วนะ และเห็นคุณที่ถูกพ่อทำแบบนั้น” สิงหนาทมองหน้าคนพูด ก่อนหันหน้าไปสนใจเบื้องหน้าที่ไม่มีอะไรให้มองนอกจากต้นไม้กับแสงไฟนีออนที่เปิดทิ้งไว้ในสนามหญ้า “ก็พูดมาสิ” “ฉันรู้ว่าคุณยังรักปริมอยู่แล้วต้องการเธอเป็นเมีย” กัญญาภรณ์เจ็บจี๊ดกลางใจกับประโยคที่ตนเองพูด สิงหนาทหันมามองคนพูดอีกครั้
Chapter63 “สำหรับฉัน แพรดีกว่าปริมทุกอย่าง แกรักปริมจนลืมตาไม่ขึ้นเลยไม่เห็นในสิ่งที่ฉันเห็น แล้วฉันก็ไม่สนใจด้วยว่าแกจะเสียใจมากแค่ไหน ฉันสั่งแกต้องทำ แกต้องเลิกยุ่งกับปริม ไม่งั้นฉันจะทำในเรื่องที่แกไม่คาดคิด ถ้าแกกล้าลองดีกับฉันก็เอาเลย” เถ้าแก่สันต์ขู่ลูกชาย “ผมไม่กลัว คราวนี้ผมจะไม่ยอมให้พ่อทำร้ายจิตใจผมอีกแล้ว ถ้าพ่อไม่ยอมรับปริม ผมก็จะออกไปอยู่กับปริมตามลำพัง แล้วผมจะไม่เอาสมบัติของพ่อไปสักบาท”พูดจบสิงหนาทหมุนตัวเดินไปยังประตูห้อง เขากระชากมันเปิดด้วยอารมณ์โกรธเต็มที่ ไม่สนใจเสียงเรียกของบิดา “ไอ้สิงห์กลับมานี่เดี๋ยวนี้นะ ฉันยังพูดกับแกไม่จบ” ทว่าสิงหนาทหาได้สนใจเสียงนั้น เขาก้าวเดินออกจากห้อง แต่แล้วก็ต้องระงับเท้าที่กำลังก้าวเดิน ใบหน้าอาบไปด้วยความตกใจเมื่อเห็นกัญญาภรณ์ยืนอยู่หน้าห้อง ในแววตาเธอที่เขาเห็น มีความเสียใจอยู่ในนั้น สิงหนาทคิดว่าเธอคงได้ยินทุกคำพูดในห้อง เนื่องจากประตูห้องปิดไม่สนิท และเสียงโต้เถียงก็ดังใช่ย่อย สิงหนาทบอกความรู้สึกตอนนี้ไม่ถูก มีคำพูดหลายคำที่อยากเอ่ยให้กัญญาภรณ์ ทว่าปากเขาหนักแล้วเท้าก็ก้าวเดินไปอย่างไม่สนใจเธอสักน
Chapter62 กัญญาภรณ์ประมวลคำพูดของสักรินทร์แล้วคิดได้ตามนี้ สิงหนาทกับพรรณนาราตอนนี้ถ่านไฟเก่ากำลังคุ เธอย้อนนึกถึงความเปลี่ยนแปลงของสิงหนาทในหลายวันมานี้ เขาดูหมางเมิน ทำตัวห่างเหิน และไม่อยากพาตนไปไหนมาไหนด้วย และที่ไม่พาเธอไปร่วมสังสรรค์กับเพื่อนเขาด้วย เพราะสิงหนาทต้องการพาหญิงสาวอีกคนหนึ่งไปแทน น้ำตาไหล... กัญญาภรณ์น้ำตาไหลไม่รู้ตัว เธอควรจะไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่ได้รับรู้ เธอกับสิงหนาทไม่มีการผูกมัดทางจิตใจ มีเพียงการทำหน้าที่ผลิตลูกเท่านั้น แต่ทำไมเธอจึงเศร้า เสียใจ แล้วเกิดความรู้สึกหวงสิงหนาทขึ้นมาจับใจก็ไม่รู้ เธอเป็นคนที่ไม่ตัดสินใครจากคำพูด ยิ่งเป็นเรื่องนี้ด้วยแล้ว หากไม่เห็นกับตาหรือมีหลักฐานมายืนยัน คำพูดที่ออกจากปากสักรินทร์ก็เหมือนกับลมปาก ที่อาจพูดให้เกิดความแตกแยก เข้าใจผิด หรืออยากปั่นหัวตน เธอจะต้องพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ว่า เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่จะเริ่มพิสูจน์อย่างไรนี่สิ...เธอคิดหนักทีเดียว 19.10 น. สิงหนาทกลับมาถึงบ้านด้วยท่าทีเหนื่อยล้า เขารู้สึกเพลียอยากอาบน้ำทำให้ร่างกายสดชื่น แต่ก้าวเ
Chapter61หากคุขึ้นเป็นเพลิงไฟ คราวนี้เขากลัวว่าจะดับมันไม่ได้เหมือนครั้งก่อน เถ้าแก่สันต์ถึงกับมึน แต่มึนไม่ได้นาน เขาต้องหาวิธีจัดการกับพรรณนาราอีกครั้ง ครั้งนี้จะต้องเด็ดขาด ทำให้สิงหนาทกับพรรณนาราไม่มีวันหวนคืนกลับมารักกันสะใภ้ของเขาชื่อกัญญาภรณ์คนเดียวเท่านั้น กัญญาภรณ์ออกจากบ้านเถ้าแก่สันต์ในเวลาบ่ายโมงครึ่ง เธอขับรถมุ่งตรงไปยังบ้านบิดาเพื่อไปเอาปลาร้าทรงเครื่องใส่ปลาดุกที่ชาติชายทำให้ตนกิน เดิมทีทั้งคู่นัดเจอกันที่บ้านเถ้าแก่สันต์ ทว่าเมื่อเช้านี้ชาติชายโทรศัพท์มาหาตนแล้วบอกว่า เขาต้องเดินทางไปกรุงเทพด่วน จองตั๋วเครื่องบินไว้ตอนเที่ยงครึ่ง ชาติชายจึงทำอาหารที่บ้านแล้วนำมาฝากไว้ที่บ้านพจน์ ก่อนเดินทางไปสนามบิน ระหว่างขับรถกัญญาภรณ์มีความคิดหนึ่งขึ้นมา สิงหนาททำอาหารให้ตนกิน เธอก็ควรซื้อของตอบแทนน้ำใจเขาบ้าง เธอจึงแวะซื้อของให้เขาในห้างสรรพสินค้ากลางเมืองตรัง กัญญาภรณ์เดินดูของภายในห้างที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะซื้ออะไรให้สิงหนาท เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ซื้อของให้ผู้ชายที่ไม่ใช่บิดา “ซื้ออะไรดีนะ” กัญญาภรณ์พูดเหมือนถามตัวเองขณะเดินเข้ามาในโซนเสื้
Chapter60พรรณนารามีความอิจฉากัญญาภรณ์ไม่น้อยที่ได้รับความรักและความเอ็นดูจากเถ้าแก่สันต์ ต่างกับตนที่ได้รับความเกลียดชังและไม่ยอมรับในฐานะลูกสะใภ้ แล้วยังถูกกีดกันจนต้องระเห็จไปอยู่เมืองนอก ไม่ใช่ว่าเธออยากไป แต่เพราะความจำเป็นมันบังคับ ทว่าเธอกลับมาแล้ว เธอกลับมาพร้อมกับความแข็งแรงทั้งหัวใจและฐานะ ที่จะไม่ยอมอยู่ในอาณัติของเถ้าแก่สันต์เช่นอดีต ตำแหน่งลูกสะใภ้ของเถ้าแก่สันต์คือเธอคนเดียวเท่านั้น “จะคิดยังไง ก็คงอยากให้สิงห์ลืมปริมน่ะสิ ตั้งแต่ปริมไปเมืองนอก ไอ้สิงห์ก็ไม่มีใครเลย เท่าที่รู้มันก็ซื้อกินเหมือนผู้ชายทั่วไป ไม่คิดมีใครอีก พ่อมันก็คงรู้ว่า ไอ้สิงห์คงไม่มีเมียก็เลยชิงหาเมียให้ไง แต่ทำไมถึงเลือกแพรก็ไม่รู้ แพรเป็นลูกชาวสวนธรรมดาไม่ได้ร่ำรวยอะไร หน้าตาสวยจริงแต่ก็ไม่ได้สวยจัดจนต้องเหลียวมอง สวยสู้ปริมของพี่ก็ไม่ได้ จะว่าไปเถ้าแก่สันต์ก็ตาถั่ว ตาไม่ถึง ปริมเหมาะสมกับไอ้สิงห์ทุกอย่างดันไม่ชอบ ไปชอบผู้หญิงห้าวๆ ไม่มีความเป็นผู้หญิง เสียดายพี่ลบรูปแพรไปแล้ว ไม่งั้นจะเอาให้ปริมดู”สักรินทร์พูดยืดยาวราวกับระบายความรู้สึกในใจ เขาจำคราบน้ำตาและเสียงร้องไห้ของพรรณนาราได้ดี ต
Chapter59สาวใช้ในบ้านเถ้าแก่สันต์พากันแปลกใจกับภาพที่เห็นสิงหนาทที่ออกจากบ้านไปตั้งแต่กินมื้อเช้าเสร็จ พวกเธอเข้าใจว่าไปทำงานดังเช่นทุกวัน แต่ไม่ใช่อย่างนั้น สิงหนาทกลับมาบ้านในเวลาเก้าโมงสี่สิบนาที พร้อมอาหารสดและแห้งหลายอย่าง รวมทั้งผัดสดอีกห้าหกถุง สิงหนาทวางทั้งหมดลงบนโต๊ะเตรียมอาหาร ส้มฉุนกับส้มโอสองพี่น้องมองของที่เจ้านายซื้อมาแล้วสะดุดกับถุงปลาร้าที่วางอยู่ใกล้กับผักสด “นายหัวจะทำอะไรคะ” ส้มฉุนถาม “ฉันจะทำกับข้าวให้คุณแพรกิน”สองพี่น้องมองหน้ากันด้วยสายตาประหลาดใจ ทั้งสองรู้ว่า สิงหนาทเป็นผู้ชายที่ทำกับข้าวเป็นและทำเก่ง แต่ไม่เคยเห็นช่วงเวลาแบบนี้บ่อยนัก ตั้งแต่มาทำงานที่นี่สี่ห้าปี เห็นเพียงสองสามครั้งเท่านั้น ซึ่งล่าสุดก็เมื่อหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา ก่อนหันไปมองสิงหนาทอย่างพร้อมเพรียง “ทำอะไรคะ เมนูปลาร้าหรือคะ” ส้มโอเป็นคนถาม “ใช่ คุณแพรบ่นอยากกินปลาร้า ฉันเลยกะว่าจะทำปล้าร้าสับผัดให้คุณแพรกิน” เขาตอบขณะนำผักสดใส่ตะกร้าเพื่อนำไปล้าง “ให้หนูสองคนช่วยไหมคะ” ส้มฉุนขันอาสา “ไม่ต้องหรอก เธอสองคนมีงานบ้านต้องทำก็ไปทำเถอะ ฉ