LOGIN"ทำไมข้าวหอมยังไม่มาอีกอ่ะ" ปลายฟ้าหันมองซ้ายขวาหาเพื่อนที่ยังไม่มาเสียทีทั้งที่อีกสิบนาทีเครื่องก็จะออกแล้ว ยี่หวากดโทรหาแต่อีกคนก็ไม่รับสายจนนึกกังวล หรือว่าจะไม่สบายนะ
สงสัยได้ไม่นานคนตัวเล็กก็วิ่งหอบกระเป๋าพะรุงพะรังเข้ามา ผมสลวยชี้ฟูเหมือนคนที่ตื่นสายแล้วรีบออกมาจากบ้านไม่มีผิด ไม่นานนักรามิลก็เดินมาแล้วขำเอ็นดู เพราะต้องแยกกันมาเพื่อไม่ให้ใครสงสัยเขาก็เลยปล่อยให้เธอวิ่งมาก่อน
"ฝีมือมึงใช่ไหมเนี่ย" เสียงกระซิบของคิมหันต์ดังข้างหูเขา รามิลยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพยักหน้า แค่เมื่อเช้ายังรู้สึกว่ามีเวลาอยู่ก็เลยรังแกคนตัวเล็กนานไปหน่อย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็แทบจะถึงเวลาเครื่องออกแล้ว
"มิลคะ มาแล้วหรอ?" เพื่อนสาวคู่ขาเดินเข้ามาพร้อมน้องสาวอย่างนะโมแล้วคล้องแขนเขา รามิลเห็นสายตาไม่พอใจของข้าวหอมส่งมาก็เลยดึงแขนออก รุ่นพี่คนสวยมองมาที่เธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ตัดสินใจดึงเพื่อนไปรวมกับเพื่อนปีเดียวกัน
ธีธัชเดินแจกตั๋วแล้วยื่นให้รุ่นน้องตามลำดับ ถึงตัวข้าวหอมก่อนจะยื่นตั๋วที่เขาล็อคที่เอาไว้แล้วยิ้มให้เธอ คนตัวเล็กรับมันมาแบบไม่ได้พูดคุยอะไรมากเพราะไม่อยากได้รับสายตาดุจากรามิลอีก
เดินขึ้นเครื่องไปอย่างงุนงงเพราะเธอไม่เคยได้ขึ้นมาก่อน เพื่อนดูลำดับที่นั่งให้ก่อนจะชี้ให้เธอดู กลายเป็นว่าสามสาวได้นั่งด้วยกันหมดมีแค่เธอที่ถูกแยกออกมา
"บังเอิญจังเลย" ธีธัชนั่งลงเบาะข้างเธอด้วยรอยยิ้ม ข้าวหอมพยักหน้าตอบรับก่อนจะนิ่งไปตอนเห็นรามิลเดินมายืนใกล้ๆ อย่าบอกนะว่าจะนั่งตรงนี้อ่ะ ไม่หรอกมั้ง
"ขอบังเอิญด้วยคนสิ" เสียงแข็งขนาดนี้แค่ได้ยินก็เกร็งไปหมดทั้งตัวแล้ว รามิลยื่นตัวให้พี่รหัสของคนตัวเล็กดูว่าอีกคนกำลังนั่งที่ของเขาอยู่
ธีธัชขยับออกมานั่งริมทางเดินทั้งยิ้มกลบเกลื่อนก่อนรามิลจะเข้าไปนั่งแล้วมองแบบไม่สบอารมณ์ ก็บอกแล้วว่ามันสนใจคนของเขา มันชอบจนเก็บอาการไม่อยู่แล้วเนี่ย
มือบางที่กำแน่นกับลมหายใจที่พรูออกทำให้เขาหันไปมอง เข็มขัดถูกดึงมาคาดที่เอวบางแล้วปรับให้พอดี มองไปรอบๆแล้วเอื้อมจับมือเธอเอาไว้แน่น มือที่ชื้นเหงื่อก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าคนตัวเล็กอาจจะแพนิคการขึ้นเครื่องเพราะไม่เคยขึ้นมาก่อน
ยามเครื่องเริ่มเคลื่อนตัวมือบางก็ยิ่งกำแน่น หันไปมองธีธัชที่ดึงหมวกฮู้ดให้ปิดใบหน้าหลับไปแล้ว จับเชยคางมลของคนขี้กลัวขึ้นมาประกบจูบแล้วผละออกในตอนที่เครื่องขึ้นจนนิ่งแล้ว
"ทำอะไรของพี่เนี่ย" ข้าวหอมเลิ่กลั่กมองดูว่ามีใครสนใจเธอบ้างหรือเปล่า ถึงยังนั้นเธอก็ยังพลาดสายตาของคู่สองสาวพี่น้องที่มองจ้องตั้งแต่รามิลเดินมานั่งกับเธอแล้ว ทุกการกระทำของคนสองคนมันเห็นชัดในสายตา แล้วอย่าหวังว่าจะปล่อยให้มีความสุขกันเลย
"อ้าว ไอข้าวยังไม่ตื่นเลย" นิรินยืนมองเพื่อนที่ยังหลับสนิทซบไหล่รามิลอยู่
"ข้าวหอมคงเพลีย พวกเราไปกันก่อนเลย เดี๋ยวพี่ปลุกให้" กลุ่มเพื่อนเธอพากันพยักหน้าแล้วยิ้มก่อนเดินออกไป รามิลมองค้อนธีธัชที่เหมือนจะยืนรออยู่จนอีกคนสะดุ้งแล้วพยักหน้ารับรู้ว่าเขาคงไม่พอใจที่ให้มายืนอยู่ตรงนี้สักเท่าไหร่ เพราะรามิลเป็นรุ่นพี่ก็เลยต้องเกรงใจหน่อย
สะกิดคนตัวเล็กให้ลืมตาตื่น ส่งมือไปลูบแก้มเนียนของคนทำหน้ามุ่ย เหมือนว่าเธอจะยังนอนไม่อิ่มเพราะใช้เวลาบินไม่นาน ผิดที่เขารังแกเธอแต่เช้าสินะ ดูจากกำปั้นที่ทุบอกเขาตอนนี้ก็รู้ว่าเธอคงโทษว่าเหตุผลที่เธอง่วงขนาดนี้มันเป็นเพราะเขาเหมือนกัน
รามิลคว้ากระเป๋าจากมือบางมายกให้จังหวะเดียวกับที่ทิวเขาคว้ากระเป๋าของปลายฟ้ามาพอดี ทุกคนมองอย่างงุนงงจนทิวเขาต้องตัดสินใจคว้าของนิรินมาถือให้ด้วย
บรรยากาศระหว่างสามคนนี้มันแปลกมากแต่เธอไม่รู้ว่าคืออะไร มองรามิลที่ออกแรงกระตุกกระเป๋าเธออีกรอบแล้วปล่อยมือให้ นิรินคว้าแขนทิวเขาเดินคุยออกไปทิ้งให้ปลายฟ้ายืนเงียบอยู่ตรงนั้น คนตัวเล็กคว้ามือเพื่อนมาจับแล้วยิ้มให้ ดูยังไงก็แปลกมากจริงๆนั่นแหละ
"ข้าวไม่จับมือยี่บ้างอ่ะ" มองเพื่อนอีกคนแล้วขำออกมาก่อนจะแบมือให้ ยี่หวาจับทันทีแล้วพากันเดินแกว่งมือไป รอยยิ้มที่มีความสุขขนาดนั้นทำเอารามิลยืนมองนิ่ง เวลาอยู่ด้วยกันกับเพื่อน เธอดูน่ารักมาก หรือความเป็นจริงแล้วน่ารักตลอดเวลาก็ไม่รู้
"ยืนยิ้มเป็นคนบ้าแล้วเพื่อนมึงอ่ะ" ริวพูดกับคิมหันต์แล้วพยักหน้าให้กันอย่างเห็นด้วย
รถกระบะจอดเรียงรอรับกลุ่มนักศึกษาที่มาค่าย กระเป๋าถูกเอาไปวางไว้ด้านในรถเพื่อป้องกันไม่ให้เปียกหากบังเอิญฝนตกลงมาระหว่างเดินทาง รามิลกับริวขึ้นรถคันเดียวกันก้าวขึ้นไปก่อน
ริวหันมาทำท่าส่งมือรับนิรินทั้งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต่เธอไม่ยอมจับมือเขาก็เลยให้รามิลทำหน้าที่แทน ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะจับมือเขาขึ้นรถต่อเพื่อนหญิงสาวรุ่นพี่ก็มาจับมือรามิลไว้แล้วขึ้นไปก่อนฃ
"พี่มิ้นท์อยู่อีกคันไม่ใช่หรอคะ" นิรินถามขึ้นมาเสียงแข็ง ดูก็รู้ว่าเอาแต่คอยตามติดรามิลไม่ห่าง อีกคนไม่ควรแม้แต่จะมาอยู่ที่แบบนี้ด้วยซ้ำ
"ก็พี่อยากนั่งคันนี้" พูดหน้าตาเฉยแล้วยืนติดรามิลแจ
ข้าวหอมก้มหน้าลงแล้วมองหาที่นั่งคันอื่นเพราะไม่อยากอึดอัด รามิลกระโดดลงมาจากรถหมุนตัวเธอให้หันมาหาแล้วยกเอวบางให้เธอนั่งลงบนท้ายกระบะเรียกเสียงฮือฮาจากทุกคน พยักเพยิดหน้าให้คนตัวเล็กลุกขึ้นไปยืนด้านในก่อนที่เขาจะปิดกระบะแล้วขึ้นตามไป
ดันให้คนตัวเล็กจับหลังคารถไว้แล้วหันหน้ารับลม แขนแกร่งพาดจากด้านหลังกั้นไว้กันไม่ให้เธอเซไปมา ข้าวหอมก้มมองแขนที่เหมือนกับโอบเอวแล้วออกแรงรั้งไว้นามที่รถโยกรุนแรงขึ้นมา
การกระทำที่มีผลกับหัวใจไม่ว่าใครที่อยู่จุดที่เธออยู่ตอนนี้คงตกหลุมรักเขากันหมด ไม่แปลกเลยที่จะมีแต่คนชอบ
นิรินใช้ข้อศอกสะกิดเพื่อนแล้วยิ้มใส่ ดูก็รู้ว่าคงกำลังแซวเรื่องมือรามิลที่กอดรอบเอวเธออยู่ ดูไปดูมารามิลก็ไม่ได้เก็บให้มันเป็นความลับมากนักแต่ก็ไม่มีความชัดเจนอยู่ดี
เกิดอยากเล่าให้เพื่อนฟังเธอเองก็ไม่รู้ว่าควรบอกเพื่อนว่าอยู่ในสถานะไหนกับเขา จะบอกไปว่าเธอขายตัวให้เขาเพื่อเอาเงินรักษาแม่แบบนั้นอ่ะหรอ
บรรยากาศเขียวขจีบนดอยสูงทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมา ที่ัพักถูกแยกให้ชายหญิงอยู่คนละหลัง สี่สาวนั่งเอาของออกจากกระเป๋าแล้วมองดูสาวสวยสองพี่น้องที่โวยวายไม่หยุด
"ก็ถ้าคิดว่านอนไม่ได้ พี่ก็ไม่น่ามานะคะ" ข้าวหอมพูดขึ้นมาเพราะความรำคาญ ทั้งที่ไม่มีใครบังคับให้มาแท้ๆ ทำเสียบรรยากาศไปหมด
"ไม่ให้พี่มา เพราะเธอจะได้หาทางจับรามิลได้สะดวกงั้นสิ"
"ไอข้าวมันไม่ต้องออกแรงจับหรอกค่ะพี่มิ้นท์ แค่มันอยู่เฉยๆพี่รามิลก็ตามแจแล้วไม่เห็นหรอ" นิรินตอกกลับไปแทนเพื่อน ก็บอกแล้วว่าเพื่อนเธอมีแค่เธอเท่านั้นที่หาเรื่องได้ คนอื่นอย่าหวังมายุ่ง
"นิสัยเหมือนกัน ไม่แปลกที่จะเป็นเพื่อนกันได้"
"พี่ก็ศีลเสมอกับพี่สาวดีนะคะพี่นะโม ไม่แปลกที่เป็นพี่น้องกัน"ข้าวหอมก้มจัดของในกระเป๋าต่อไม่ได้สนใจเสียงโวยวาย ยักคิ้วกับนิรินอย่างชอบใจ
"คิดว่ามิลจะสนใจเธอหรอ หลงตัวเองไปรึเปล่า" เสียงซุบซิบนินทาเห็นด้วยกับสิ่งที่อีกคนพูดดังมาจนน่ารำคาญ ลุกขึ้นแล้วเดินหาหารุ่นพี่ที่เอาแต่เดินหนีเธอจนชิดกำแพง
"ข้าวจะหลงตัวเองมันก็ไม่แปลกนี่คะ ขนาดพี่รามิลยังหลงเลย" กระซิบข้างหูให้อีกคนหงุดหงิดเล่น ยิ้มเยาะให้จนคนตรงหน้าเธอออกไปเต็มแรงแล้วล้มลง
"จะมากไปแล้วนะ ถึงจะเป็นรุ่นพี่ก็ไม่ยอมหรอกนะโว้ย" ยี่หวาพุ่งตรงไปก่อนนิรินจะก้าวตาม ปลายฟ้านั่งลงดูเพื่อนที่ยังล้มอยู่ที่พื้น ตรงมุมห้องยังฉุดกระชากกันเสียงดังจนรุ่นพี่ผู้ชายพากันวอ่งเข้ามาดู
"เฮ่ย แยกๆ อย่าตีกัน" ริววิ่งไปกันให้แยกออกจากกัน คิมหันต์รวบเอวยี่หวาไว้ให้หยุด
"ข้าวหอมเป็นอะไร ใครทำ!?" รามิลเดินมาหาคนตัวเล็กแล้วดึงให้ลุกขึ้น มองดูว่าเธอไม่ได้บาดเจ็บแล้วหันไปหาคนที่เขาคิดว่าน่าจะก่อเรื่อง สภาพหญิงสาวผมฟูฟ่องวิ่งเข้ามากอดเขาจนคนตัวเล็กต้องหลบให้
"ก็พี่มิ้นท์อ่ะหาเรื่องไอข้าว แถมยังผลักมันล้มอีก" รามิลดึงแขนคนที่กอดเขาอยู่ออกแล้วมองหน้าอย่างคาดคั้น อีกคนยังยื้อทำออดอ้อนแล้วกอดเขาอีกรอบ
"พี่ รา มิล...." แค่เสียงข้าวหอมเรียกเขาก็รีบดันคนที่กอดเขาอยู่ออกไปให้ห่าง ก็ไม่รู้ทำไมรู้เสียวสันหลังแปลกๆ ไม่ใช่ว่ากำลังกลัวคนตัวเล็กหรอกอยู่ใช่ไหม คนอย่างรามิลจะไปกลัวใครได้ยังไง
ข้าวหอมเหลือบมองคนตัวสูงที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียง ร่วมอาทิตย์แล้วตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น เธอตัดสินตอบรับคบกับรามิลและยอมกลับมาอยู่กับเขาที่คอนโดอย่างที่เขาต้องการ ก่อนหน้านี้เพราะเอาแต่กังวลเรื่องแม่อีกคนก็เลยคิดหนัก แต่ในเมื่อจะเล่นกันแรงแบบนี้ ก็เผชิญหน้ากันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย รามิลสัญญาว่าจะปกป้องเธอ คำพูดเขามันทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวนิดหน่อย เพราะแบบนั้นเธอถึงกล้าตัดสินใจที่จะลองเริ่มต้นกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ดู ก็อยากจะรู้ว่าถ้าแม่ของรามิลที่หวงลูกชายมากจะรู้สึกยังไงยามได้รู้ว่าเธอกับรามิลกำลังคบหากัน นั่งลงข้างเตียงแล้วส่งมือไปลูบตามกรอบหน้าของรามิล ใบหน้าราวกับฟ้าประทานแบบนี้มันก็ไม่แปลกที่ใครจะหลงรัก เธอเองก็เป็นอีกคนที่เผลอใจไปให้เขาเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่แค่เพราะเขาหน้าตาดีเพียงเท่านั้น ถ้าตัดเรื่องที่เขาถ่ายรูปพวกนั้นเอาไว้จนทำให้เธอเจอเรื่องแย่ในชีวิต เขาก็เป็นอีกคนที่ดูแลเธอดีมากที่สุด มือบางถูกรามิลจับไว้แล้วดึงไปหอมลงที่หลังมือ คนนอนอยู่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วขยับตัวเข้าใกล้เพื่อหอมแก้มเธอ เขายิ้มสดใสออกมาจนข้าวหอมเองก็ยังได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมถึงได้ดูมีคยามสุขมากขนา
รามิลน่ังกอดอกทิ้งตัวฟังแม่เขาบ่นด้วยความเบื่อหน่าย เขาถูกตามตัวกลับมาที่่บ้านทันทีที่แม่กลับมาหลังจากไปดูงานที่ต่างประเทศมาร่วมสองอาทิตย์ เขาเองรู้ดีแต่แรกว่าแม่ต้องการคุยเรื่องอะไรถึงอีกคนจะไม่บอกเขาในตอนที่เรียกตัวให้กลับมา แม่คงจะรู้เรื่องที่เขาไปป่าวประกาศว่าคนตัวเล็กเป็นอะไรกับเขาแล้ว ถึงได้บ่นเป็นฟืนเป็นไฟไม่รู้จบอยู่แบบนี้เรื่องราวที่แม่พูดมันถูกแต่งเติมซะจนเขาเองได้แต่กรอกตามองบน แค่ฟังก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปบอกแม่เขา ทั้งที่ปกติแม่เขาเป็นคนฉลาดมากจนเขาเองก็ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าอะไรทำให้แม่เขาเชื่อในมารยาของเพื่อนสาวคู่ขาเก่าเขาขนาดนั้น หรือแค่ทำเป็นเชื่อเพราะไม่ชอบคนตัวเล็กของเขากันแน่คนตัวสูงลุกขึ้นด้วยอารมณ์รุกกรุ่นที่ได้ยินผู้เป็นแม่พูดถึงข้าวหอมในทางไม่ดีมาพักใหญ่ บอกปัดผู้เป็นแม่ไปว่าเหนื่อยแล้วรับเดินออกมาจากห้องก่อนที่จะอดไม่ไหว ประตูห้องนอนที่เขาแทบไม่ได้กลับมาเหยียบถูกปิดลงดังลั่น เดินไปนั่งลงบนเตียงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่เขาคิดไม่ตกมาตลอดว่าควรทำยังไงแม่เขาถึงจะเลิกทิฐิแล้วชอบเธอขึ้นมาบ้าง ดูเหมือนว่ามันการันตีได้ดีว่าเขารู้สึกกับเธอแบบไหน ก่อนหน้านี้เ
คนตัวเล็กพรูลมหายใจออกมาคลายความกังวลในใจ เธอตัดสินใจมาเรียนตามปกติหลังจากรู้จากเพื่อนว่ารามิลไปเคลียจนไม่มีการยึดทุนคืน เมื่อวานเธอเข้าไปเยี่ยมแม่แล้วได้รับกำลังใจมาเยอะแยะ แม่ของเธอเอาแต่ย้ำใซ้ำไปซ้ำมาว่ารามิลดีกับเธอมาก และเชื่อว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นกับเธอแน่ ได้แต่ยิ้มรับตอบแม่ไปทั้งที่ในใจยังไม่ได้สบายใจมากนัก เดินผ่านผู้คนที่พากันพูดถึงเรื่องราวของเธอแบบไม่ได้เรียกว่าเป็นกันนินทาแต่เหมือนตั้งใจให้ได้ยินมากกว่า กว่าจะเดินมาถึงใต้คณะก็รู้สึกอัดอัดแทบแย่ พยักหน้ากับตัวเองว่าเก่งมากแล้วที่เดินมาถึงตรงได้ ก้าวเดินต่อได้เพียงไม่กี่ก้าวก็มีใครบางคนมายืนขวางเธอเอาไว้คนตัวเล็กเงยมามองแล้วทำหน้าเซ็งเพราะคนที่มาดักเธอว่าคือรุ่นพี่สาวสวยคู่ขาเก่าของรามิล อีกคนยิ้มเยาะเธออย่างสะใจที่เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ บางทีก็อยากพุ่งเขาไปหยุมหัวให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย น่ารำคาญเป็นบ้า"ยังกล้ามาเรียนอีกหรอ" คนตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ขึ้นแล้วตั้งคำถามที่ชวนหงุดหงิดขึ้นมา "แล้วทำไมต้องไม่กล้าด้วยละ" คนตัวเล็กพูดสวนกลับไปแล้วกอดอกมองอย่างไม่สบอารมณ์ แค่ใช้ชีวิตในแต่ละวันก็เหนื่อยมากพอแล้ว ยังต้องมาเจอคนแบบนี้
รามิลตักข้าวในชามที่พยาบาลพึ่งเอาเข้ามาให้ป้อนคนบนเตียงผู้ป่วย คนตัวเล็กเบี่ยงหน้าหนีแล้วไม่ยอมอ้าปากรับที่เขาพยายามป้อน ลองทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาสักพักก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์เลยสักนิด อีกคนยังเอาแต่หลบกัน ไม่กิน ไม่พูดคุย เขาเองรู้ดีว่าสิ่งที่ข้าวหอมเจอมันไม่ใช่เรื่องเล็ก และต้นสายปลายเหตุมันก็มาจากที่เขาถ่ายรูปภาพพวกนั้นเอาไว้ "กินหน่อยสิครับ จะได้กินยา เดี๋ยวหายแล้วจะได้ไปเรียนไง" คนตัวเล็กหันมาแล้วกรอกตาใส่เขา เธอโดนมาขนาดนี้ ยังคิดว่าเธอยังจะสามารถพบเจอใครได้แบบปกติอีกหรอ เพราะเขาไม่ใช่คนถูกกระทำสินะถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกมาได้"คิดว่าข้าวจะยังมีหน้าไปเรียนได้อีกหรอ" น้ำเสียงติดกระแทกกระทั้นให้เขารู้อารมณ์ภายในใจที่กำลังครุกกรุ่นทำให้รามิลคว้าเอามือบางเข้ามากอบกุมไว้ ลูบไปมาอย่างขอความเห็นใจและสื่อให้เธอรู้ว่าเขาไม่เคยมีเจตนาจะให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ"พี่ขอโทษ ข้าวจะมองว่ามันเป็นความปิดพี่ก็ได้ แต่ว่า...." เอ่ยพูดคำขอโทษที่เขาไม่รู้ว่าพูดมันไปแล้วกี่สิบรอบตั้งแต่คนตัวเล็กฟื้นขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วที่เขาจะสามารทำได้ในตอนนี้"มันก็เป็นความผิด
"พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" รามิลยังคงเดินตามคนตัวเล็กแล้วเอ่ยปากขอพูดคุยแบบที่เขาพยายามทำมาทุกวัน ปฏิกิริยาเรียบนิ่งไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ยอมให้เขาคุยด้วยเป็นเครื่องการันตีว่าอีกคนโกรธเขามากแค่ไหนร่วมอาทิตย์ที่พยายามเข้าหาเพื่อขอโทษหรืออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ยอมให้เขาได้เข้าใกล้เลย ทุกครั้งที่ดักรอหน้าคณะอีกคนก็จะหนีไป ยามที่ไปดักรอหน้าหอของยี่่หวาเพื่อนของคนตัวเล็กก็เอาแต่ขวางเขาเอาไว้"คุยกันหน่อยได้ไหมครับ" คนตัวสูงเอ่ยปากถามอีกรอบแล้วจับมือคนตรงหน้ามากอบกุมไว้ ข้าวหอมดึงมือออกอย่างไม่อยากให้เขามาแตะต้องตัวเธอ "ข้าวไม่อยากคุย" พูดปฏิเสธแล้วเตรียมเดินหนีแต่รามิลก็ยังวิ่งมาดักข้างหน้าเอาไว้ คนตัวเล็กหลับตาลงแล้วก้มหน้าหนี ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยที่ต้องคอยเอาแต่เดินหนีเขาอยู่แบบนี้"ให้พี่อธิบายหน่อย พี่ไม่ได้ส่งต่อภาพพวกนั้นไปให้ใครนะ""แต่มันก็คือรูปที่พี่ถ่ายใช่ไหมละ!" เขาอธิบายออกมาง่ายดายขนาดนี้ได้ยังไง เรื่องนี้มันใหญ่มากสำหรับเธอแต่ดูเหมือนกับรามิลจะไม่ใช่แบบนั้น "พี่ก็แค่ถ่ายไว้...." "แบล็คเมล์" พูดขัดทันทีแบบไม่รอให้เขาได้พูดต่อ คนตรงหน้าดูไม่ได้สะทกสะท้านอะไรทั้งที่ในใ
รามิลนอนเล่นโทรศัพท์ทั้งมีคนตัวเล็กนอนอยู่ในอ้อมกอดด้วย อีกคนยังคงหลับสนิทหลังจากผ่านค่ำคืนแสนเร่าร้อนมาด้วยกันทั้งคืน ภาพของเธอกับเขาในยามร่วมรักทุกครั้งถูกเลื่อนดู ใครรู้คงคิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่เก็บรูปพวกนี้เอาไว้ แต่เขาเพียงแค่อยากเอาไว้เพื่อเป็นข้อต่อรองในวันที่ข้าวหอมเริ่มดื้อกับเขาแล้วก็แค่นั้นเอง กดเข้าหน้าบัญชีธนาคารแล้วจิ้มรายการโปรดที่เขาบันทึกเอาไวั จัดการโอนเงินเข้าบัญชีของเธอในจำนวนตามที่ตกลงกัน ก่อนจะโอนแยกอีกสลีปเป็นเงินส่วนตัวที่ตั้งใจอยากให้เธอเอาไว้ใช้จ่าย เกิดเป็นคนรวยนี่มันก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น ก็ไม่รู้จะเอาอีกคนเข้ามาครองได้ยังไงส่งนิ้วเรียวเกลี่ยปลายจมูกของคนนอนหลับ เขาเคยพาผู้หญิงมากินที่นี่แทบนับไม่ถ้วน เพื่อนสาวคนสนิทก็เคยมาตั้งหลายครั้ง แต่ทว่ายังไม่เคยชวนใครมาอยู่ด้วยแบบนี้เลยสักที ใบหน้าที่มองยามไหนก็รู้สึกว่าสวยขึ้นในทุกๆวัน กับความรู้สึกที่อยากกอดเธอทุกทีที่ได้อยู่ด้วยกันนี่มันคืออะไร บางครั้งก็แปลกใจในความรู้สึกตัวเองซะจนคิดไม่ตก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าอาการแบบนี้มันเป็นเพราะอะไรเขาซื้อกินมากมายแต่ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่ผู้หญิง







