"เออ..เชิญคุณนายนั่งก่อนดีกว่าไหมครับ" ศิลาคนที่เรียกสาวๆ มาให้กับกองทัพ รีบสะกิดแนนซี่สาวคนนั้นให้ออกมาก่อน
"ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณมีเงินให้ฉันยืมสักพันไหมคะ" เห็นว่าสามียังนั่งทำเฉยอยู่ มโนราห์ก็เลยขอยืมกับเพื่อนเขา
"มะ..มีครับ" แต่ก่อนที่ศิลาจะล้วงเอากระเป๋าออกมา สายตาได้มองไปดูกองทัพก่อน ว่าเพื่อนอารมณ์ประมาณไหน "เออ..ไม่มีเงินสดติดกระเป๋าเลยครับ"
"ผมว่าเชิญคุณนายนั่งก่อนดีกว่าไหมครับ" คนที่ชวนอีกคนก็คือผู้พันซันเดย์ ทั้งสามเป็นเพื่อนสนิทที่เรียนจบโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ามาด้วยกัน
ในเมื่อเธอกับเขาไม่ได้คิดอะไรต่อกันอยู่แล้วถ้าจะนั่งด้วยก็คงไม่มีปัญหาอะไร มโนราห์นั่งลงเก้าอี้ยาวตัวที่กองทัพนั่งอยู่กับสาวเอ็นเตอร์เทน ซึ่งตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นขยับออกเล็กน้อยตอนที่ศิลาบอกให้ขยับออกมา
"ดื่มหน่อยนะครับคุณนาย"
"ทำไมต้องเรียกฉันว่าคุณนายด้วยล่ะคะ" มโนราห์ถือว่ายังเด็กมาก และเติบโตที่ต่างประเทศ ก็เลยไม่รู้ธรรมเนียมการเรียกขาน เพราะดูแล้วเธออายุน้อยกว่าพวกเขาเกือบ 10 ปีเลยมั้ง
"เออ..แล้วจะให้พวกผมเรียกว่าอะไรล่ะครับ"
"ฉันชื่อมโนราห์ค่ะ หรือจะเรียกว่าโมนาก็ได้"
"มโนราห์? ทศกัณฐ์..อะไรอีกสองคนนะ" ศิลาถามซันเดย์ที่นั่งอยู่ข้างๆ เพราะทุกคนต่างก็รู้จักผู้พันทศกัณฐ์และท่านพลเอกเรวทัต พี่ชายและพ่อของเธอเป็นอย่างดี
"จะมาไล่เรียงอะไรตอนนี้"
"ก็เห็นว่าแปลกดี ยกมาทั้งรามเกียรติ์เลยไหมเนี่ย"
"ดื่มหน่อยสิคะ" สาวเอ็นเตอร์เทนที่ชื่อแนนซี่ ค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้กองทัพอีกครั้ง ในขณะที่มโนราห์กำลังพูดคุยกับเพื่อนเขาอยู่
"อันนี้แก้วของฉันใช่ไหมคะ" มโนราห์ก็เลยรับแก้วที่ซันเดย์ส่งมาให้แต่แรกขึ้นมาดื่ม
"งานจะเข้าเราไหมวะ" ศิลาและซันเดย์กระซิบถามกัน
"คงไม่หรอกมั้ง" ทั้งซันเดย์และศิลาไม่ใช่ว่าไม่มีสาวนั่งแนบข้าง แต่ตอนที่คุยกับมโนราห์ทั้งสองไม่ได้สนใจสาวๆ พวกนั้นเลย
"คุณดื่มเก่งจังเลยครับ" เพราะศิลาเห็นว่ามโนราห์ดื่มแก้วที่สามแล้ว
"ฉันไม่เคยดื่มแบบนี้หรอกค่ะ" อย่างมากเธอก็ดื่มแค่ไวน์
"อ้าว.. งานเข้าแล้วไหมล่ะ นั่นลูกสาวท่านพลเอกเลยนะเว้ย" เพราะขณะที่เธอพูดเหมือนว่าแอลกอฮอล์กำลังเริ่มทำงาน
"กูว่ามึงพาเมียกลับบ้านก่อนดีไหม" ศิลาหันมาพูดกับกองทัพที่นั่งอยู่ไม่ไกลกัน
ถึงแม้เขาจะไม่มีใจให้กับเธอ แต่เธออยู่ในฐานะภรรยา เขาน่าจะไว้หน้าบ้าง ไม่ใช่นั่งกอดผู้หญิง ทั้งๆ ที่เธอก็นั่งอยู่ด้วยกันตรงนั้น จะว่าเธออายเพื่อนเขาก็ได้ที่สามีไม่สนใจ
"ดื่มแบบนี้ก็สนุกดีนะคะ คุณชื่ออะไร" มโนราห์แก้อายโดยการถามชื่อเพื่อนของเขา
"ผมหรือครับชื่อซันเดย์ครับ ส่วนคนนี้ชื่อศิลาครับ"
"ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ พวกคุณหล่อจังเลย"
"ขอบคุณครับ"
"กูว่าเมียมึงคงไม่ไหวแล้วล่ะ พากลับบ้านเถอะ" ซันเดย์พูดกับกองทัพบ้าง
"เก่งนักไม่ใช่เหรอ" สายตาเขามองเธอไม่ต่างจากผู้หญิงที่กำลังกอดอยู่ตอนนี้เลย หรืออาจจะสำคัญน้อยกว่าเสียอีก เพราะดูกองทัพจะไม่สนใจเลย
จนสาวเอ็นเตอร์เทนที่กำลังดูแลเขาอยู่ได้ใจ ทั้งหอมแก้มและลูบคลำเพื่ออ่อยอยากให้เขาหิ้วออกไป
"เดี๋ยวก่อนสิครับคุณโมนา" ศิลาและซันเดย์เห็นว่าอยู่ดีๆ มโนราห์ก็ลุกขึ้น เธอแทบจะยืนไม่ได้อยู่แล้ว
"คุณไม่มีเงินให้ฉันยืมจริงเหรอคะ" ถึงแม้จะเริ่มเมามากแล้ว แต่ก็รู้ว่าเธอไม่ควรที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เพราะดูเหมือนถูกหยามหน้าเกินไป
"พาเมียแกกลับบ้านเถอะว่ะ"
"ไม่รู้จะตามมาทำไม" กองทัพลุกขึ้นแบบหงุดหงิด ถ้าไม่พากลับเดี๋ยวเพื่อนก็ว่าให้อีก
"คุณจะกลับแล้วเหรอคะ" แนนซี่เอื้อมมือคว้าแขนเขาไว้ก่อน
"วันหลังคุยกันใหม่ครับ" กองทัพล้วงเอาแบงค์พันในกระเป๋าออกมาวางใส่มือให้กับแนนซี่
"แล้วเจอกันใหม่นะคะ" แนนซี่ยังนึกเสียดาย ถ้าไม่มีเมียมาคุม ป่านนี้ชวนไปขึ้นสวรรค์แล้ว
มันยิ่งทำให้มโนราห์เสียหน้ามากขึ้น เขาก็ได้ยินอยู่ว่าเธอขอยืมเงินกับเพื่อน ตัวเองมีแทนที่จะเอาให้หน่อย ..แต่เขาไม่รู้อะไรเสียแล้ว ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวเธอ..คือเก็บกด เก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองนี้แหละ เพราะถึงยังไงก็ไม่มีที่ให้ระบายอยู่แล้ว
มโนราห์เดินตามออกมา เขารีบเดินทำเหมือนว่าไม่ได้มาด้วยกัน แต่เธอก็ยังคงตามมาจนถึงรถ
หญิงสาวเปิดประตูขึ้นไปนั่งด้านข้าง โดยไม่ได้ถามว่าเขาจะพาไปไหนต่อ เพียงไม่นานรถก็มาจอดลงที่หน้าบ้านของเธอ
มโนราห์หันไปมองเล็กน้อย เพราะเขานั่งนิ่งไม่พูดไม่จาและไม่มีทีท่าว่าจะลงรถ
"ฉันมาส่งแค่นี้"
มันอาจจะเป็นคำที่ไล่ลงจากรถแบบสุภาพหน่อย
ลงจากรถได้แทบจะยืนไม่อยู่ ว่าจะเกาะรถตั้งหลักก่อน แต่เจ้าของรถคงจะรีบมาก เพราะไม่รอให้เธอเข้าบ้านเลยด้วยซ้ำ
แค่นี้ก็มองเห็นอนาคตการแต่งงานของเธอแล้วว่าจะเป็นยังไง คงไม่แคล้วเหมือนแม่เข้าสักวัน แต่โชคดีหน่อยก็ตรงที่เธอคงไม่มีเด็กติดท้อง เพราะเขาไม่ได้สนใจในตัวเธอเลย
"แกกลับมาคนเดียวเหรอ"
ทีแรกคิดว่าแม่บ้านมาเปิดประตูให้ แต่พอได้ยินเป็นเสียงแม่เท่านั้นแหละ.. "เออ..ค่ะ"
"แกไปดื่มมางั้นเหรอ" แค่ได้กลิ่นออกจากลมหายใจลูกสาวก็รู้แล้ว "แล้วเมื่อกี้ใครมาส่ง อย่าบอกนะว่าแกยังไปเหลวไหลกับผู้ชายคนอื่นอยู่!"
"เปล่าสักหน่อย"
"เปล่าแล้วเมื่อกี้ใครมาส่ง"
"ก็ผู้พันนั่นแหละค่ะ"
"ฉันไม่เชื่อทำไมเขาไม่เข้าบ้านล่ะ"
"เขาติดราชการด่วน"
"อย่ามาโกหกฉันเด็ดขาด!" ไม่ตั้งใจฟังก็ได้ยินเสียงกัดฟันของคนเป็นแม่ พร้อมกับมือที่เอื้อมมาหยิก
"โอ๊ย โมนาไม่ได้โกหกนะแม่"
"มันยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้แกทำยังไงก็ได้ ให้ผัวรักผัวหลง ให้มันขาดแกไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว ไม่สิแม้แต่วินาที"
"เขาไม่ได้ชอบโมนาสักหน่อย"
"ฉันก็บอกอยู่นี่ไง ว่าแกจะทำยังไงก็ได้ให้เขาหลงใหลในตัวแก"
"คนไม่ชอบ จะทำยังไงล่ะคะ"
เพี๊ยะ!!
มโนราห์ถูกแม่ตบจนหน้าหัน แต่ไม่ได้ยินเสียงร้องเจ็บออกมาแม้แต่คำเดียว แม่อาจจะเคยหยิกเคยตีที่แขน แต่ไม่เคยตบหน้าแบบนี้สักที
แพรวพราวยกมือตัวเองขึ้นมามอง..แว็บหนึ่งก็คิดว่าทำโทษลูกแรงเกินไปหรือเปล่า แต่นี่คือลูกของนางจะทำยังไงก็ได้ "จำใส่หัวแกไว้ ทำยังไงก็ได้ให้มันหลงใหลในตัวแกให้มากที่สุด"
"ถึงแม้คุณจะไม่อยากฟัง แต่ผมก็จะพูด เพราะผมรักคุณ" เขาไม่ได้รั้งตัวเธอไว้ แต่ยังคงเดินตามไป จนตอนนี้ทั้งสองออกมาจากงานแล้ว"ฉันไม่อยากเป็นตัวปัญหา คุณกลับไปทำงานของคุณให้เสร็จเถอะค่ะ" ถึงแม้เธอจะหยุดแต่ขณะที่พูดก็ไม่ได้หันกลับไปมองคนที่อยู่ด้านหลัง"ผมจะร้องเพลงต่อไปทำไม ในเมื่อคนที่ผมอยากให้ฟังไม่อยู่ในงานนั้น""คุณแน่ใจเหรอคะ ว่าคุณจะร้องเพลงนี้ให้ฉัน แล้วทำไมฉันถึงไม่รู้ล่ะคะ..แต่คนที่รู้กลับเป็นผู้หญิงคนนั้น" เธอพยายามจะไม่ดึงผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในบทสนทนาแล้ว แต่ก็ยังคาใจเรื่องนี้อยู่"คุณหมายความว่ายังไง""คุณจะขึ้นร้องเพลงฉันยังไม่รู้เลย แต่เธอกลับรู้ว่าคุณจะร้องตอนเปิดงาน""คุณหมายถึงผู้หญิงที่ผมรับมาจากหน้ากรมน่ะเหรอ แม้แต่ชื่อเธอผมยังไม่รู้เลย และเรื่องที่ผมร้องเพลงก่อนผมสาบานได้ว่าเธอคงไม่ได้ยินจากปากผมแน่ๆ""ไหนบอกมันเป็นความลับไงคะ ขนาดฉันยังไม่รู้เลย ทำไมเธอถึงรู้" ในเมื่อเขาไม่ได้พูดแล้วเธอคนนั้นจะรู้มาจากไหน"ใช่มันเป็นความลับ แต่เธออาจจะรู้มาจากนักดนตรี หรือคนจัดเตรียมงานก็ได้นี่ครับ" เพราะทุกคนต้องวางแผนงานแสดงก่อนที่จะเริ่มงาน"ขอบคุณนะคะ สำหรับคำอธิบาย""แล้วคุณยังโก
เหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยกยังไงยังงั้นเลย ที่ได้ยินพวกผู้หญิงพูดถึงสามีตัวเอง"ได้ยินผู้พันบอกว่า วันนี้จะร้องเพลงช่วงเปิดงาน""อ้าว ไม่ร้องตอนปิดงานอีกแล้วเหรอ" เพราะกองทัพเลือกร้องเพลงตอนปิดงานมาหลายปีแล้ว ที่เขาร้องช่วงปิดงานจะได้มีคนอยู่ร่วมงานจนถึงช่วงสุดท้าย"เห็นบอกแบบนั้น""แหมนอกจากให้ติดรถมาแล้ว ยังบอกเรื่องจัดงานอีกนะ" ไม่มีใครไม่รู้ว่ากองทัพแต่งงานและภรรยาก็คลอดลูกเดือนที่แล้ว แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าคนที่ทำอาชีพนี้ส่วนมากจะเจ้าชู้ มีหลายคนเลยแหละที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ยิ่งระดับลูกชายของคนใหญ่คนโตแล้วด้วย ผู้หญิงพวกนั้นก็เลยอยากไต่เต้าสบายทางลัด ยิ่งถ้าคว้าใจผู้ชายมาได้ถึงกับยอมเลิกกับบ้านใหญ่ก็เคยมีความรู้สึกของมโนราห์ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้ว จนเกิดอาการคัดเต้า โชคดีที่ใส่ที่ซับน้ำนมมาด้วย แต่ถ้ามันไหลเยอะก็คงเอาไม่อยู่เพียงไม่นานเสียงดนตรีก็ดังขึ้น หลายคนที่ร่วมงานต่างก็หันไปที่เวที และหลายคนก็พูดกันว่า ทำไมผู้พันกองทัพถึงได้ร้องเพลงช่วงเปิดเวที เพราะทุกครั้งผู้พันจะร้องตอนปิด ..นั่นแสดงว่าคนในงานยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับเขามากจริงแหละ ถึงได้รู้ว่าเขาจ
"ฉันขอชุดที่รัดกุมหน่อยนะคะ..แต่..เออ..""แต่อะไรคะ" ช่างที่กำลังเลือกแบบชุดให้ถามลูกค้า เมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนไม่กล้าพูด"ขอแบบที่สามารถปั๊มนมให้ลูกได้ด้วย" ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะไปหรอก แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอน เธอก็เลยขอชุดแบบนั้นไว้ เพราะถ้าน้ำนมมาต้องรีบปั๊มออก ไม่งั้นคัดเต้าทำให้ปวดมากบางครั้งเกิดการอักเสบเลย"ชุดแบบนั้นทางร้านเราไม่ได้ทำไว้ค่ะ แต่เราคิดว่า ผ้าคลุมไหล่สามารถปกปิดได้"ขณะที่คุยกันไม่มีคนในบ้านอยู่ใกล้เธอก็เลยกล้าพูดพอรู้แล้วว่าลูกค้าต้องการแบบไหนทางร้านก็รีบจัดการให้ ส่วนมโนราห์ก็เริ่มทำการเสริมสวยต่อขณะที่ทำผมอยู่ได้ยินเสียงลูกชายงอแง เธอก็ให้ช่างหยุดก่อน เพื่อไปดูว่าลูกเป็นอะไร แต่พอเห็นว่าลูกอยากเข้าเต้ามโนราห์ก็เลยจัดให้ก่อนจนแกนอนหลับเธอถึงได้กลับมาทำสวยต่อ ชีวิตแม่ลูกอ่อนถ้าใครไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้หรอกบ่ายคล้อยวันเดียวกัน.."พ่อโทรมาบอกว่าให้แม่เข้างานเร็วหน่อย""คุณแม่ก็ไปสิคะ""แม่ว่าจะรอรับเราไปด้วยกัน""ไม่ต้องรอหรอกค่ะ โมนายังไม่รู้เลยว่าจะไปไหม""ถ้างั้นแม่รอเราที่งานนะ" พอแต่งตัวเสร็จพุดตาลก็ให้คนรถพาไป เพราะไม่อยากให้ท่านนายพลต้องกลับมารับอีกเวลาเดียวก
ลืมเลยอีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงวันงาน พอคิดถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นเขากับเธอยังไม่ได้รักกัน"หึ.." พอคิดถึงตอนที่กระโปรงเธอขาดก็นึกขำขึ้นมา และตอนที่เธอคิดว่าเขาร้องเพลงให้ผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ใช่เลย ตอนที่ร้องเพลงนั้น เขากลับคิดถึงหน้าเธอต่างหาก"ยิ้มอะไรครับผู้พัน""ยังจะเดินตามมาอีก ไม่ทำงานหรือไง""ทำสิครับ แต่ผู้พันลืมแล้วเหรอว่าที่ทำงานเราไปทางเดียวกัน" ตอนที่เป็นผู้กองอยู่เขาสังกัดหน่วยงานเดียวกับกองทัพ แต่พอเลื่อนขั้นเป็นผู้พัน ฉลามต้องเข้ารับงานใหม่ "แล้วตกลงที่ยิ้ม..ให้สาวที่นั่งรถมาด้วย..หรือคนที่อยู่บ้านครับ""ไอ้ฉลามมึงจะหางานให้กูไปถึงไหนวะ กูก็ต้องคิดถึงเมียกูสิ""ครับคิดถึงเมีย""ไอ้นี่พูดเหมือนไม่เชื่อ"สองวันต่อมา.. วันนี้เริ่มประชุมเรื่องที่จะจัดงานประจำปี ใครรับหน้าที่ส่วนไหนก็ต้องเริ่มจัดการส่วนที่ตัวเองได้รับในแต่ละหมู่เหล่าต้องร่วมแรงร่วมใจ เพราะงานประจำปีไม่ได้จัดขึ้นแค่เป็นงานเลี้ยง แต่เป็นงานที่ทำให้ในหน่วยงานรักและสามัคคีกันที่คฤหาสน์พลเอกเกษมราษฎร์"โมนาไม่รู้ว่าพ่อจะมา" เพราะพ่อเพิ่งมาตอนที่เธอคลอดลูกนี่เอง และวันนี้พ่อก็มาอีกครั้ง"สามีเราไม่บอกเหรอ ว่
"คุณอยากได้อะไรครับ ทำไมไม่เรียกผมเดี๋ยวผมหยิบให้" ฉลามรีบเดินกลับมาที่บ้าน"ฉันเรียกแล้วค่ะ แต่คุณมัวมองสาวๆ พวกนั้นอยู่""อุ๊ย.. เปล่ามองสักหน่อย""ตาฉันไม่ได้บอด""แก้วใจครับ อย่างอนนะ มันไม่ดีต่อ..""คุณไม่อยากให้ฉันงอนก็อย่าทำสิคะ""ผมแค่..""แค่อะไรคะ""แค่มองนิดเดียวเอง""แต่ที่ฉันเห็นไม่นิดแล้วนะ"กูจะถึงกับตายไหมวะ ..ฉลามรีบเดินตามแก้วใจเขาไปในบ้าน ในใจก็แอบหวั่นๆ"อย่าเดินเร็วสิครับเดี๋ยวสะดุดล้ม""ไม่ต้องตามมานะ""ผมสัญญาว่าจะไม่มองผู้หญิงคนอื่นแบบนี้อีกแล้ว"แก้วใจหยุดแล้วก็หันกลับมา แต่ฉลามที่ตามมาด้านหลังเกือบหยุดไม่ทัน"จะหยุดทำไมไม่บอกผมล่ะ""ไม่ต้องมาใกล้ฉันเลยนะ" หญิงสาวผลักสามีให้ออกห่าง "ใช่สิท้องฉันโตขนาดนี้ ก็เลยไม่น่ามองเหมือนผู้หญิงพวกนั้นใช่ไหม""ใครบอกคุณไม่น่ามอง แก้วใจของผมน่ารักที่สุดในโลก""คนปากไม่ตรงกับใจ ฉันจะกลับไปหายาย""ไม่ให้กลับ""ฉันจะกลับไปคลอดลูกกับยาย""ที่นั่นอยู่ห่างไกล เวลาคลอดก็ลำบาก เอาแบบนี้แล้วกันใกล้คลอดผมจะไปรับคุณยายมาอยู่ด้วย""จริงเหรอคะ" จากที่งอนอยู่เมื่อสักครู่ก็มีรอยยิ้มขึ้นมา ฉลามถึงกับหายใจโล่ง ดีนะที่ยังมียาย ไม่งั้นคืนนี้ต้
ญาณินกัดฟันไว้ไม่กล้าส่งเสียงคราง เพราะลูกชายเพิ่งจะนอนลงมือเรียวยื่นลงไปจับศีรษะของคนที่เมามันอยู่กับการใช้ลิ้น แทนที่จะยกศีรษะของเขาขึ้นแต่ดันกดมันลงแบบลืมตัวชายหนุ่มยิ่งได้ใจเพิ่มจังหวะความเร็วของลิ้นอีกระดับหนึ่ง จนสะโพกงามเกร็งกระตุกเขาถึงได้หยุด แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นมา เพราะจะปล่อยให้เธอเสร็จก่อนไม่ได้สิ่งแรกที่ศิลาทำเมื่อโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มนั้นคือมองไปดูลูกชาย ว่าเขาหลับหรือยัง แต่พอเห็นลูกยังดิ้นอยู่ เขาก็ค่อยๆ เอนตัวลงอีกฝั่งหนึ่งของเธอแต่ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อย เขายังคงลูบคลำเนินอวบนูนของเธอเพื่อไม่ให้อารมณ์อีกฝ่ายหยุดลง"อือ..คุณ.."ศิลาไม่สนใจที่เธอห้าม แถมยังส่ายหน้าบอกเล็กน้อย เพื่อให้เธอรู้ว่าถึงยังไงเขาก็ไม่หยุด รอให้ลูกหลับสนิทก่อนเถอะ จะจัดการเธอให้สมกับความคิดถึง"อื้อ" พอนิ้วนั้นจมหายเข้าไปในร่อง หญิงสาวกลั้นเสียงไว้ไม่ได้อีก แต่เธอก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมาแรง "อ่ะ อ่ะ" อารมณ์ของเธอเริ่มควบคุมไม่ได้เมื่อนิ้วนั้นขยับเร็วขึ้น"หือ" ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเมื่อถูกมือเรียวลูบคลำที่เป้ากางเกง ยิ่งเธอเป็นคนรูดซิปเองด้วยแล้วเขายิ่งพอใจมากแต่เธอทำแค่นั้นแล้วก็หยุด เพราะเริ่มรู้ส