Share

บทที่ 13

last update Huling Na-update: 2025-02-14 20:32:31

ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แม่แท้ๆ มโนราห์ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะทนได้ถึงเพียงนี้ไหม แต่เพราะนั่นคือแม่ผู้ให้กำเนิด

แว๊บหนึ่งมโนราห์คิดถึงหน้าพ่อขึ้นมา อยากไปหา อยากกอด แต่ก็ไม่อยากแบกปัญหาพวกนี้ไปให้ท่านต้องเป็นทุกข์ใจด้วยอีก

หญิงสาวร้องไห้จนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีสายมากแล้ว

"อย่าให้ฉันเห็นว่าแกไปดื่มแบบนี้มาอีก" ลงมาข้างล่างก็ยังคงเจอแม่ต่อว่า "แล้วนี่ผู้พันจะมารับตอนไหน"

มโนราห์ให้คำตอบแม่ไม่ได้ ถ้าจะบอกว่าเขาคงไม่มารับหรอก ก็คงจะถูกแม่ตีอีก

"ฉันถามหูแตกไม่ได้ยินหรือไง"

"เขาบอกให้โทรไปหาถ้าตื่นแล้วค่ะ" หึ! พูดเหมือนตัวเองเป็นคนสำคัญเลยนะ

"ก็โทรไปสิ แล้วโทรศัพท์แกอยู่ไหน"

"ลืมอยู่ในรถของผู้พันค่ะ"

"ใช้ของฉันโทรไป" แพรวพราวเอาโทรศัพท์ตัวเองโยนให้กับลูกสาว เธอจะโทรไปได้ยังไงไม่มีเบอร์ของเขา

"เบอร์เขาอยู่ในเครื่องโมนาค่ะ"

"ในเครื่องฉันก็มี"

"??" มโนราห์แปลกใจทำไมในเครื่องของแม่ถึงมีเบอร์โทรเขา แต่จะให้ถามคงไม่กล้า หญิงสาวก็เลยเลื่อนหาดู

>>{"คุณโทรมาทำไม"} ประโยคแรกที่ได้ยินคนปลายสายพูด มโนราห์เอาโทรศัพท์ที่แนบหูอยู่ออกมามองดูใหม่อีกที เพราะเธอใช้เครื่องของแม่ แต่ทำไมเขาพูดเหมือนรู้จักเบอร์นี้ดี

   {"คุณจะมารับฉันตอนไหนคะ"}

>>{"เธอเองเหรอ"}

   {"แล้วคุณคิดว่าฉันเป็นใครล่ะ"}

ถ้ามโนราห์สังเกตใบหน้าของแม่สักนิด ก็จะเห็นมุมปากที่ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยแบบพึงพอใจ

>>{"ยังไม่รู้ แค่นี้นะ"} เขาไม่รอให้เธอถามอีกก็วางสายไปก่อน

   {"แล้วฉันจะรอนะคะ รักคุณนะ"} ที่จริงประโยคหลังกองทัพไม่ได้ยินหรอก เพราะมโนราห์พูดตอนที่เขาวางสายไปแล้ว

"เขาว่ายังไงบ้าง"

"เดี๋ยวเขาจะมารับค่ะ ให้โมนาออกไปรอข้างนอก"

"ทำไมไม่ให้เขาเข้ามาในบ้าน"

"สงสัยเขาจะรีบมั้งคะ" หญิงสาวส่งโทรศัพท์คืนให้กับแม่ แล้วเธอก็กลับขึ้นไปหยิบของสำคัญ ที่บอกว่าเขาให้ออกไปรอข้างนอก เพราะกลัวแม่รู้ว่าเธอโกหก

เงินไม่มีติดตัว จะขอแม่ก็ไม่กล้า มโนราห์ก็เลยนำสร้อยที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดปีที่แล้วติดตัวออกมาด้วย แต่เธอไม่คิดขายแค่จะฝากไว้ก่อน

หญิงสาวมาที่ร้านเพชร โชคดีที่เธอมีสำเนาบัตรมาด้วย เขาก็เลยรับฝาก

พอออกจากร้านเพชรมโนราห์ก็ให้แท็กซี่มาส่งที่บ้านท่านพลเอกเกษมราษฎร์ เพราะคิดว่าเขาต้องกลับมาที่บ้านแน่

เอาวะ ไหนๆ ก็ไม่เคยถูกมองว่าเป็นคนดีอยู่แล้ว หญิงสาวหิ้วกระเป๋ามาด้วยใบหนึ่ง เพราะเธอต้องเตรียมเสื้อผ้ามาไว้ใส่ด้วย

"ใครมานะ" ตั้งแต่แต่งงานกับท่านพลเอกเกษมราษฎร์ พุดตาลก็เป็นแม่บ้านให้ท่านตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา วันนี้กำลังเตรียมครัวเพื่อทำอาหารเย็นรอสามี แม่บ้านเข้ามารายงานว่ามีผู้หญิงบอกว่าเป็นภรรยาของผู้พันกองทัพมาขอพบ

คนบ้านหลังนี้นอกจากเจ้านายแล้ว ก็ไม่มีใครรู้จักมโนราห์

พุดตาลล้างไม้ล้างมือก่อนที่จะออกมาดู

"สวัสดีค่ะ" หญิงสาวหน้าตาสวยหวาน แต่นัยน์ตาของเธอเศร้าจนคนตรงหน้าสังเกตเห็นได้

"สวัสดีจ้า"

"โมนามารอคุณกองทัพค่ะ"

"ดีเลย แม่กำลังทำอาหารจะได้กินข้าวเย็นด้วยกัน" ขณะที่พูดนางมองดูกระเป๋า..ก็เลยให้แม่บ้านมานำกระเป๋าใบนั้นขึ้นไปเก็บไว้บนห้องของผู้พันกองทัพ

"ถ้างั้นเดี๋ยวแม่เข้าไปเตรียมอาหารต่อก่อนนะ"

"ให้โมนาช่วยไหมคะ"

"หนูทำเป็นเหรอ"

หญิงสาวส่ายหน้าเล็กน้อย

"อยากช่วยก็เข้ามาสิ"

จะผิดไหมถ้าเธอคิดว่านางจะแกล้งอะไรเธอหรือเปล่า เพราะแม่ทำกับนางไว้เยอะ แถมแต่ละคำที่แม่พูดถึงผู้หญิงคนนี้ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง ลับหลังด่าทุกคำพูดเลยก็ว่าได้

มโนราห์เดินตามท่านเข้าไปในครัว สิ่งที่เธอช่วยได้ก็คงจะเป็นล้างผัก

"แม่เตรียมมีดกับเขียงไว้แล้วนะ หั่นเสร็จเอาใส่ตะกร้าตรงนี้แล้วล้างอีกที"

"คะ?" เธอไม่กล้าบอกท่านหรอกแม้แต่หั่นผักก็ยังไม่เป็น มโนราห์คิดว่าหั่นแบบไหนก็คงจะกินได้เหมือนกันมั้ง

จนถึงเวลาเย็น.. ทั้งสองเตรียมอาหารเสร็จรอแค่ตั้งโต๊ะ มโนราห์ก็เลยขอขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า อยากรู้ด้วยแหละว่าตัวเองต้องอยู่ห้องไหน

"กลับมาแล้วครับ" ถึงแม้ภรรยาจะยืนอยู่ตรงหน้า เกษมราษฎร์ก็บอกแบบนี้ตลอด และหอมแก้มนางด้วยทุกครั้งที่กลับมา

"ส่งเสื้อมาดีกว่าค่ะ เดี๋ยวฉันช่วยถือ"

"ไม่เอา แค่เสื้อก็หนัก"

"จะหนักตรงไหนคะ" นางออกมารับแบบนี้ทุกวัน และทุกวันท่านก็ไม่ให้ถืออะไรช่วย

เพียงไม่นาน รถของลูกชายก็วิ่งเข้ามาจอด

พุดตาลเห็นลูกชายสามีมาแต่หัววัน คิดว่าคงรู้ว่าภรรยามารอที่บ้าน

"ทำไมหอมจังเลยครับ" กองทัพโปรยคำหวานมาตั้งแต่หน้าประตู เมื่อได้กลิ่นหอมของอาหารที่แม่เลี้ยงเตรียมไว้

"วันนี้ทำไมกลับมาบ้านได้ล่ะ" คนเป็นพ่อถามแบบแปลกใจ

"เมื่อคืนนี้ดื่มหนัก ก็เลยอยากกลับมาพักผ่อนครับ"

ขณะที่พ่อกับลูกพูดคุยกัน พุดตาลก็ได้ช่วยแม่บ้านยกอาหารออกมาวาง

"ผมมาถูกจังหวะใช่ไหมครับเนี่ย"

พออาหารจานนั้นวางลงตรงหน้า กองทัพถึงกับแปลกใจ ทำไมผักที่อยู่ในจานรูปทรงมันถึงคุ้นๆ

ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบตักขึ้นมาชิมดู หรือเราคิดมากไป พอชิมแล้วรสชาติอร่อย เขาก็เลยคิดว่าตัวเองคงหลอน

อึก! แต่พอกำลังจะกลืนก็เห็นผู้หญิงอีกคนเดินลงมาจากชั้นบน

"อ้าว..พ่อไม่รู้ว่าหนูอยู่ที่นี่" พลเอกเกษมราษฎร์ก็ไม่รู้ เพราะภรรยายังไม่ได้บอก

"สวัสดีค่ะคุณพ่อ" มโนราห์ลงมาถึงก็ยกมือไหว้ท่าน

"นั่งสิหนู"

"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวขยับเก้าอี้นั่งข้างๆ สามี เพราะมันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว แต่ดูอีกฝ่ายเหมือนจะตกใจเมื่อเห็นหน้าเธอ

กองทัพนั่งทานโดยที่ไม่พูดไม่จาเหมือนช่วงแรก จนทานข้าวเสร็จก็ขอขึ้นไปนอน

มโนราห์เก็บกวาดโต๊ะอาหารช่วยข้างล่างเสร็จก็ขอตัวขึ้นห้องเหมือนกัน

ดวงตางามมองดูคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง และอดคิดไม่ได้ว่าเมื่อคืนนี้เขาคงกลับไปหาเพื่อนอีกล่ะสิถึงได้ง่วงขนาดนี้

หญิงสาวมองไปที่โซฟา คิดว่าจะไปนอนตรงนั้น แต่พอคิดถึงคำพูดของแม่ขึ้นมาได้ มโนราห์ก็เลยเปลี่ยนใจ เดินเข้ามานั่งลงบนเตียงข้างคนที่นอนหลับอยู่

มือเรียวแกะกระดุมเสื้อออกเผยให้เห็นเนินหน้าอกเล็กน้อย ก่อนที่จะขยับกายเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันนั้น..

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เมียสวมรอย   บทที่ 135 ตอนจบ

    "ถึงแม้คุณจะไม่อยากฟัง แต่ผมก็จะพูด เพราะผมรักคุณ" เขาไม่ได้รั้งตัวเธอไว้ แต่ยังคงเดินตามไป จนตอนนี้ทั้งสองออกมาจากงานแล้ว"ฉันไม่อยากเป็นตัวปัญหา คุณกลับไปทำงานของคุณให้เสร็จเถอะค่ะ" ถึงแม้เธอจะหยุดแต่ขณะที่พูดก็ไม่ได้หันกลับไปมองคนที่อยู่ด้านหลัง"ผมจะร้องเพลงต่อไปทำไม ในเมื่อคนที่ผมอยากให้ฟังไม่อยู่ในงานนั้น""คุณแน่ใจเหรอคะ ว่าคุณจะร้องเพลงนี้ให้ฉัน แล้วทำไมฉันถึงไม่รู้ล่ะคะ..แต่คนที่รู้กลับเป็นผู้หญิงคนนั้น" เธอพยายามจะไม่ดึงผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในบทสนทนาแล้ว แต่ก็ยังคาใจเรื่องนี้อยู่"คุณหมายความว่ายังไง""คุณจะขึ้นร้องเพลงฉันยังไม่รู้เลย แต่เธอกลับรู้ว่าคุณจะร้องตอนเปิดงาน""คุณหมายถึงผู้หญิงที่ผมรับมาจากหน้ากรมน่ะเหรอ แม้แต่ชื่อเธอผมยังไม่รู้เลย และเรื่องที่ผมร้องเพลงก่อนผมสาบานได้ว่าเธอคงไม่ได้ยินจากปากผมแน่ๆ""ไหนบอกมันเป็นความลับไงคะ ขนาดฉันยังไม่รู้เลย ทำไมเธอถึงรู้" ในเมื่อเขาไม่ได้พูดแล้วเธอคนนั้นจะรู้มาจากไหน"ใช่มันเป็นความลับ แต่เธออาจจะรู้มาจากนักดนตรี หรือคนจัดเตรียมงานก็ได้นี่ครับ" เพราะทุกคนต้องวางแผนงานแสดงก่อนที่จะเริ่มงาน"ขอบคุณนะคะ สำหรับคำอธิบาย""แล้วคุณยังโก

  • เมียสวมรอย   บทที่ 134

    เหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยกยังไงยังงั้นเลย ที่ได้ยินพวกผู้หญิงพูดถึงสามีตัวเอง"ได้ยินผู้พันบอกว่า วันนี้จะร้องเพลงช่วงเปิดงาน""อ้าว ไม่ร้องตอนปิดงานอีกแล้วเหรอ" เพราะกองทัพเลือกร้องเพลงตอนปิดงานมาหลายปีแล้ว ที่เขาร้องช่วงปิดงานจะได้มีคนอยู่ร่วมงานจนถึงช่วงสุดท้าย"เห็นบอกแบบนั้น""แหมนอกจากให้ติดรถมาแล้ว ยังบอกเรื่องจัดงานอีกนะ" ไม่มีใครไม่รู้ว่ากองทัพแต่งงานและภรรยาก็คลอดลูกเดือนที่แล้ว แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าคนที่ทำอาชีพนี้ส่วนมากจะเจ้าชู้ มีหลายคนเลยแหละที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ยิ่งระดับลูกชายของคนใหญ่คนโตแล้วด้วย ผู้หญิงพวกนั้นก็เลยอยากไต่เต้าสบายทางลัด ยิ่งถ้าคว้าใจผู้ชายมาได้ถึงกับยอมเลิกกับบ้านใหญ่ก็เคยมีความรู้สึกของมโนราห์ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้ว จนเกิดอาการคัดเต้า โชคดีที่ใส่ที่ซับน้ำนมมาด้วย แต่ถ้ามันไหลเยอะก็คงเอาไม่อยู่เพียงไม่นานเสียงดนตรีก็ดังขึ้น หลายคนที่ร่วมงานต่างก็หันไปที่เวที และหลายคนก็พูดกันว่า ทำไมผู้พันกองทัพถึงได้ร้องเพลงช่วงเปิดเวที เพราะทุกครั้งผู้พันจะร้องตอนปิด ..นั่นแสดงว่าคนในงานยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับเขามากจริงแหละ ถึงได้รู้ว่าเขาจ

  • เมียสวมรอย   บทที่ 133

    "ฉันขอชุดที่รัดกุมหน่อยนะคะ..แต่..เออ..""แต่อะไรคะ" ช่างที่กำลังเลือกแบบชุดให้ถามลูกค้า เมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนไม่กล้าพูด"ขอแบบที่สามารถปั๊มนมให้ลูกได้ด้วย" ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะไปหรอก แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอน เธอก็เลยขอชุดแบบนั้นไว้ เพราะถ้าน้ำนมมาต้องรีบปั๊มออก ไม่งั้นคัดเต้าทำให้ปวดมากบางครั้งเกิดการอักเสบเลย"ชุดแบบนั้นทางร้านเราไม่ได้ทำไว้ค่ะ แต่เราคิดว่า ผ้าคลุมไหล่สามารถปกปิดได้"ขณะที่คุยกันไม่มีคนในบ้านอยู่ใกล้เธอก็เลยกล้าพูดพอรู้แล้วว่าลูกค้าต้องการแบบไหนทางร้านก็รีบจัดการให้ ส่วนมโนราห์ก็เริ่มทำการเสริมสวยต่อขณะที่ทำผมอยู่ได้ยินเสียงลูกชายงอแง เธอก็ให้ช่างหยุดก่อน เพื่อไปดูว่าลูกเป็นอะไร แต่พอเห็นว่าลูกอยากเข้าเต้ามโนราห์ก็เลยจัดให้ก่อนจนแกนอนหลับเธอถึงได้กลับมาทำสวยต่อ ชีวิตแม่ลูกอ่อนถ้าใครไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้หรอกบ่ายคล้อยวันเดียวกัน.."พ่อโทรมาบอกว่าให้แม่เข้างานเร็วหน่อย""คุณแม่ก็ไปสิคะ""แม่ว่าจะรอรับเราไปด้วยกัน""ไม่ต้องรอหรอกค่ะ โมนายังไม่รู้เลยว่าจะไปไหม""ถ้างั้นแม่รอเราที่งานนะ" พอแต่งตัวเสร็จพุดตาลก็ให้คนรถพาไป เพราะไม่อยากให้ท่านนายพลต้องกลับมารับอีกเวลาเดียวก

  • เมียสวมรอย   บทที่ 132

    ลืมเลยอีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงวันงาน พอคิดถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นเขากับเธอยังไม่ได้รักกัน"หึ.." พอคิดถึงตอนที่กระโปรงเธอขาดก็นึกขำขึ้นมา และตอนที่เธอคิดว่าเขาร้องเพลงให้ผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ใช่เลย ตอนที่ร้องเพลงนั้น เขากลับคิดถึงหน้าเธอต่างหาก"ยิ้มอะไรครับผู้พัน""ยังจะเดินตามมาอีก ไม่ทำงานหรือไง""ทำสิครับ แต่ผู้พันลืมแล้วเหรอว่าที่ทำงานเราไปทางเดียวกัน" ตอนที่เป็นผู้กองอยู่เขาสังกัดหน่วยงานเดียวกับกองทัพ แต่พอเลื่อนขั้นเป็นผู้พัน ฉลามต้องเข้ารับงานใหม่ "แล้วตกลงที่ยิ้ม..ให้สาวที่นั่งรถมาด้วย..หรือคนที่อยู่บ้านครับ""ไอ้ฉลามมึงจะหางานให้กูไปถึงไหนวะ กูก็ต้องคิดถึงเมียกูสิ""ครับคิดถึงเมีย""ไอ้นี่พูดเหมือนไม่เชื่อ"สองวันต่อมา.. วันนี้เริ่มประชุมเรื่องที่จะจัดงานประจำปี ใครรับหน้าที่ส่วนไหนก็ต้องเริ่มจัดการส่วนที่ตัวเองได้รับในแต่ละหมู่เหล่าต้องร่วมแรงร่วมใจ เพราะงานประจำปีไม่ได้จัดขึ้นแค่เป็นงานเลี้ยง แต่เป็นงานที่ทำให้ในหน่วยงานรักและสามัคคีกันที่คฤหาสน์พลเอกเกษมราษฎร์"โมนาไม่รู้ว่าพ่อจะมา" เพราะพ่อเพิ่งมาตอนที่เธอคลอดลูกนี่เอง และวันนี้พ่อก็มาอีกครั้ง"สามีเราไม่บอกเหรอ ว่

  • เมียสวมรอย   บทที่ 131

    "คุณอยากได้อะไรครับ ทำไมไม่เรียกผมเดี๋ยวผมหยิบให้" ฉลามรีบเดินกลับมาที่บ้าน"ฉันเรียกแล้วค่ะ แต่คุณมัวมองสาวๆ พวกนั้นอยู่""อุ๊ย.. เปล่ามองสักหน่อย""ตาฉันไม่ได้บอด""แก้วใจครับ อย่างอนนะ มันไม่ดีต่อ..""คุณไม่อยากให้ฉันงอนก็อย่าทำสิคะ""ผมแค่..""แค่อะไรคะ""แค่มองนิดเดียวเอง""แต่ที่ฉันเห็นไม่นิดแล้วนะ"กูจะถึงกับตายไหมวะ ..ฉลามรีบเดินตามแก้วใจเขาไปในบ้าน ในใจก็แอบหวั่นๆ"อย่าเดินเร็วสิครับเดี๋ยวสะดุดล้ม""ไม่ต้องตามมานะ""ผมสัญญาว่าจะไม่มองผู้หญิงคนอื่นแบบนี้อีกแล้ว"แก้วใจหยุดแล้วก็หันกลับมา แต่ฉลามที่ตามมาด้านหลังเกือบหยุดไม่ทัน"จะหยุดทำไมไม่บอกผมล่ะ""ไม่ต้องมาใกล้ฉันเลยนะ" หญิงสาวผลักสามีให้ออกห่าง "ใช่สิท้องฉันโตขนาดนี้ ก็เลยไม่น่ามองเหมือนผู้หญิงพวกนั้นใช่ไหม""ใครบอกคุณไม่น่ามอง แก้วใจของผมน่ารักที่สุดในโลก""คนปากไม่ตรงกับใจ ฉันจะกลับไปหายาย""ไม่ให้กลับ""ฉันจะกลับไปคลอดลูกกับยาย""ที่นั่นอยู่ห่างไกล เวลาคลอดก็ลำบาก เอาแบบนี้แล้วกันใกล้คลอดผมจะไปรับคุณยายมาอยู่ด้วย""จริงเหรอคะ" จากที่งอนอยู่เมื่อสักครู่ก็มีรอยยิ้มขึ้นมา ฉลามถึงกับหายใจโล่ง ดีนะที่ยังมียาย ไม่งั้นคืนนี้ต้

  • เมียสวมรอย   บทที่ 130

    ญาณินกัดฟันไว้ไม่กล้าส่งเสียงคราง เพราะลูกชายเพิ่งจะนอนลงมือเรียวยื่นลงไปจับศีรษะของคนที่เมามันอยู่กับการใช้ลิ้น แทนที่จะยกศีรษะของเขาขึ้นแต่ดันกดมันลงแบบลืมตัวชายหนุ่มยิ่งได้ใจเพิ่มจังหวะความเร็วของลิ้นอีกระดับหนึ่ง จนสะโพกงามเกร็งกระตุกเขาถึงได้หยุด แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นมา เพราะจะปล่อยให้เธอเสร็จก่อนไม่ได้สิ่งแรกที่ศิลาทำเมื่อโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มนั้นคือมองไปดูลูกชาย ว่าเขาหลับหรือยัง แต่พอเห็นลูกยังดิ้นอยู่ เขาก็ค่อยๆ เอนตัวลงอีกฝั่งหนึ่งของเธอแต่ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อย เขายังคงลูบคลำเนินอวบนูนของเธอเพื่อไม่ให้อารมณ์อีกฝ่ายหยุดลง"อือ..คุณ.."ศิลาไม่สนใจที่เธอห้าม แถมยังส่ายหน้าบอกเล็กน้อย เพื่อให้เธอรู้ว่าถึงยังไงเขาก็ไม่หยุด รอให้ลูกหลับสนิทก่อนเถอะ จะจัดการเธอให้สมกับความคิดถึง"อื้อ" พอนิ้วนั้นจมหายเข้าไปในร่อง หญิงสาวกลั้นเสียงไว้ไม่ได้อีก แต่เธอก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมาแรง "อ่ะ อ่ะ" อารมณ์ของเธอเริ่มควบคุมไม่ได้เมื่อนิ้วนั้นขยับเร็วขึ้น"หือ" ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเมื่อถูกมือเรียวลูบคลำที่เป้ากางเกง ยิ่งเธอเป็นคนรูดซิปเองด้วยแล้วเขายิ่งพอใจมากแต่เธอทำแค่นั้นแล้วก็หยุด เพราะเริ่มรู้ส

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status