Mag-log inชะตาชีวิตของน้องนุชสุดท้องแห่งบ้านปิเอโร่เริ่มพลิกผันตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อน ซึ่งเธอได้ขอถอนหมั้นจากคู่หมั้นหนุ่มหล่อ เพราะรู้ดีว่ามาร์โบโล คอฟอร์ด ไม่มีทางรักเธอได้ หัวใจเขามีเจ้าของแล้ว ซึ่งผู้หญิงที่โคตรโชคดีคนนั้นไม่ใช่เธอ ยื้อไปก็รังแต่จะทำให้เจ็บปวดและทุกข์ทรมานกันทั้งสองฝ่าย ฉะนั้นวาเนสซ่าจึงตัดสินใจเป็นคนก้าวออกมาจากความสัมพันธ์ที่ผูกมัดทั้งคู่เอาไว้ เพื่อปลดปล่อยเขาจากพันธนาการที่ผู้ใหญ่ได้สร้างขึ้นมา ยอมให้คนอื่นตราหน้าว่าไม่มีน้ำยาจนต้องเป็นหม้ายขันหมาก นั่นก็เพราะว่าเธอรักเขามากจนเสียสละให้ได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งต้องเฉือนหัวใจตัวเอง เพราะหญิงสาวคิดแต่เพียงว่า ถึงไม่ได้ครอบครองเป็นเจ้าของก็ไม่เป็นไร หากคนที่เธอรักมีความสุขเธอก็พลอยมีความสุขไปด้วย
หลังจากนั้นไม่นานมรสุมลูกใหญ่ก็โหมกระหน่ำเข้ามา ชีวิตอันสวยหรูของคุณหนูวาเนสซ่ามีอันต้องพันครืนไม่เป็นท่า เมื่อนางวาริณี ปิเอโร่ ได้จากไปอย่างกะทันหัน พร้อมกับความจริงอันแสนเจ็บปวดถูกเปิดเผยออกมาจากปากประมุขของปิเอโร่ ทำให้หญิงสาวได้รับรู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ ของคนที่เธอเรียกว่าพ่อและแม่ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ หากแต่ถือกำเนิดจากแม่ชาวไทยที่เป็นโสเภณีใจแตกกับฝรั่งขี้นกจนๆ คนหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่พ่อกับแม่ของเธอจบชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ วาเนสซ่าก็ถูกผู้เป็นป้าอย่างวาริณีนำมาเลี้ยงเพราะนึกเวทนา แต่ที่น่าเศร้าใจไปกว่านั้นคือ ที่นายนาธาน ปิเอโร่ ทำเป็นรักและเอ็นดูเสมอมา ก็เพราะว่าเห็นแก่ภรรยาเท่านั้น อันที่จริงแล้วเขาเกลียดลูกสาวนอกไส้อย่างวาเนสซ่ายิ่งกว่าอะไรดี ส่วนแวนดี้ ปิเอโร่ พี่สาวที่เธอรักและเทิดทูนยิ่ง ก็ทำท่ารังเกียจและเมินหน้าหนี เพียงเพราะได้รู้กำพืดที่แท้จริง
เหตุผลที่วาเนสซ่ายังอาศัยอยู่ในชายคาของตระกูลปิเอโร่มาจวบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ก็เพราะว่าเธอยังสามารถทำประโยชน์ให้แก่บริษัทปิเอโร่จิวเวอรีแอนด์ดีไซน์ด้วยมันสมองและสองมือ ทุกวันนี้หญิงสาวต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อหวังให้สภาวะทางการเงินกระเตื้องขึ้น และไม่ต้องตกอยู่ในสถานะล้มละลาย หากแต่บิดาบุญธรรมกลับเอารายได้จากน้ำพักน้ำแรงของเธอไปละลายในบ่อนการพนัน อีกทั้งพี่สาวก็เอาเงินเหล่านั้นไปช็อปปิ้งไม่เว้นแต่ละวัน มิหนำซ้ำทั้งคู่ยังขายหุ้นบริษัทในส่วนของตัวเองให้คนอื่นจนหมดสิ้น ทั้งที่ก่อนจากไปมารดาบุญธรรมของเธออุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนาว่าอย่าให้สิ่งที่ท่านสร้างมากับมือตกไปเป็นของคนอื่นอย่างเด็ดขาด
สี่ปีที่ผ่านมามันช่างเป็นช่วงเวลาแสนสาหัสสำหรับวาเนสซ่ายิ่งนัก เพราะมันได้ทำให้สาวน้อยผู้เคยสดใสร่าเริง และมีรอยยิ้มประดับบนดวงหน้าพริ้มเพราอยู่เสมอ กลายเป็นคนคร่ำเคร่ง จริงจัง และบ้างาน ด้วยภาระอันหนักอึ้งที่ต้องแบกรับเพียงผู้เดียวตั้งแต่อายุยังน้อย บวกกับการถูกหมางเมินจากคนในครอบครัว ทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบใหญ่ ทั้งอ้างว้าง โดดเดี่ยว เดียวดายและโหยหาความรักความอบอุ่น แต่ก็ไม่มีใครสามารถหยิบยื่นในสิ่งที่ต้องการให้ได้ สุดท้ายวาเนสซ่าก็เปลี่ยนจากสาวใสมาเป็นแม่สาวกร้านโลก แต่งตัวจัดจ้านอย่างไม่แคร์สื่อ คลายเหงาด้วยการออกย่ำราตรีไม่เว้นแต่ละวัน แถมยังหักอกผู้ชายไม่ซ้ำหน้า จนนักเที่ยวกลางคืนต่างให้ฉายาว่า ‘แม่สาวน้อยร้อยเตียง’ เพราะคนเหล่านั้นพากันเข้าใจอย่างผิดๆ คิดว่าแม่สาวเปรี้ยวจี๊ดที่เฉดหัวผู้ชายทิ้งมานักต่อนัก จะต้องผ่านประสบการณ์บนเตียงมาอย่างโชกโชน ทั้งที่จริงแล้วเธอโคตรไร้เดียงสากับเรื่องพรรค์นั้น แต่ที่ต้องหักอกชายหนุ่มคนแล้วคนเล่า ก็เพราะว่าได้เห็นธาตุแท้ของผู้ชายเหล่านั้น ที่เข้ามาเพื่อหวังจะได้ฟันเธอเพียงอย่างเดียว
พฤติกรรมเละเทะของวาเนสซ่า ทำให้ผู้นำตระกูลอย่างนายนาธาน ปิเอโร่ เกิดความอับอาย และไม่พอใจในตัวบุตรสาวบุญธรรมเป็นอย่างมาก จึงพยายามหาลูกชายมหาเศรษฐีมาจับคู่ดูตัว และบังคับให้เธอไปออกเดตด้วยครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะหวังจะให้กาฝากอย่างวาเนสซ่าเป็นฝั่งเป็นฝาและไปให้พ้นหูพ้นตา อีกทั้งยังหวังเรียกเงินสินสอดมูลค่ามหาศาลจากฝ่ายชาย ฉะนั้นเธอจึงต้องจำใจคบหากับผู้ชายทุกคนที่เข้ามาด้วยน้ำมือของบิดาบุญธรรม เพราะไม่อาจขัดคำสั่งได้ ทว่าสุดท้ายก็ต้องยุติความสัมพันธ์อันฉาบฉวยและน่าเบื่อหน่าย ทั้งที่ยังศึกษาดูใจกันไม่ถึงหนึ่งเดือนเลยด้วยซ้ำ นั่นก็เพราะว่าพ่อหนุ่มเหล่านั้น ต่างไม่เป็นโล้เป็นพาย และใช้จ่ายเงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายตามสไตล์ลูกมหาเศรษฐี
จะยกเว้นก็แต่อภิมหาเศรษฐีหนุ่มผู้รวยล้นฟ้าและทรงอิทธิพลอย่างปีเตอร์ เจย์ลาสโคนี ที่สาวๆ ทั่วทั้งประเทศต่างเล่าลือกันให้แซดถึงกิตติศัพท์ความหล่อเหลาและลีลาขั้นเทพของเขา ซึ่งพ่อบุญธรรมไม่คิดจะจับคู่ให้กับเธอ เพราะนายนาธาน ปิเอโร่ ตั้งปณิธานไว้ว่าคนที่จะได้แต่งงานกับเจ้าพ่อค้าเพชรรายใหญ่ของโลกอย่างปีเตอร์ เจย์ลาสโคนี จะต้องเป็นแวนดี้ ปิเอโร่ ลูกสาวแท้ๆ ของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
วาเนสซ่า ปิเอโร่ สาวลูกครึ่งไทย-สวีเดน วัยยี่สิบห้าปี เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าสดใส ใบหน้าสวยหวานปนเซ็กซี่ เรือนกายสะโอดสะอง ส่วนเว้าส่วนโค้งทรมานใจชาย ซึ่งอยู่ในชุดเดรสยาวรัดรูปแขนกุดสีแดงเพลิง สวมทับด้วยสูทสีดำพอดีตัว กำลังนั่งจมปลักอยู่กับความคิดหมกมุ่นของตัวเอง อันเกี่ยวเนื่องไปถึงเรื่องราวในอดีต จนไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูและเปิดเข้ามาภายในห้องทำงานอย่างถือวิสาสะของเลขานุการมาดตุ้งติ้ง แต่หน้าตาหล่อจัด แถมยังหุ่นล่ำบึ้กยั่วน้ำลาย จนสาวๆ ที่พบเห็นอยากจะร้องไห้ เพราะนึกเสียดายในความเป็นชายของพ่อหนุ่มใจหญิง
แดเนียล เกรเกอร์ ยืนเท้าสะเอวกลอกตาไปมา เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังตกอยู่ในภวังค์จนไม่คิดจะสนใจโลกภายนอก ทนไม่ไหวจึงแสร้งทำเป็นเอามือเคาะโต๊ะเบาๆ สามครั้งติดกัน เพื่อเรียกสติของท่านประธานสาวแห่งบริษัทปิเอโร่จิวเวอรีแอนด์ดีไซน์ ให้กลับมาประทับร่างงดงามราวเทพธิดาอีกครั้ง แต่ทุกอย่างกลับไร้ผล
“ท่านประธานขา…ว่าน…วาเนสซ่า!” เสียงเรียกของคนที่ยืนค้ำหัวอยู่คนละฟากโต๊ะทำงาน ซึ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หญิงสาวหลุดออกจากภวังค์
มโนภาพเรื่องราวในอดีตค่อยๆ เลือนหายไป พร้อมกับสติที่กลับมาเยือนอีกครั้ง ทว่าอารมณ์เศร้าหมองยังติดตรึงอยู่ที่ใบหน้าและนัยน์ตาสีฟ้าที่เคยสดใส ซึ่งมาบัดนี้กลับมัวหม่นจนน่าใจหาย ทุกอย่างกลายเป็นอดีตไปตามกาลเวลาที่ผันผ่าน แต่รอยน้ำตากลับไม่เหือดแห้งจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ เจ้าของเรือนร่างสวยสะพรั่งรีบยกปลายนิ้วเรียวป้ายน้ำใสๆ ที่รินไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะผงกหัวขึ้น แล้วช้อนดวงตากลมโตที่กรีดอายไลเนอร์เพิ่มเสน่ห์เย้ายวนชวนหลงใหลมองหน้าผู้มาใหม่ด้วยมาดนิ่งๆ
“นังชะนีปากแดง หล่อนเป็นอะไรมากปะเนี่ย” แดเนียลขยับสะโพกแกร่งพิงขอบโต๊ะทำงานด้วยท่วงท่าสง่างาม แล้วซักไซ้พลางหรี่ตามองหน้าเพื่อนรัก เห็นท่าทางเศร้าสร้อยของอีกฝ่ายเขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย แกก็รู้ว่าคนอย่างวาเนสซ่า ปิเอโร่ เข้มแข็งจะตาย” หญิงสาวยืดตัวตรงพลางสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะแสร้งปั้นหน้าให้ดูสดชื่นขณะขยับเรียวปากสีแดงสดแก้ตัว ทว่าไม่อาจปกปิดความเศร้าหมองที่แฝงอยู่ในแววตาสีฟ้าสดใสคู่นั้นได้ “โอเค ไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไร” แดเนียลยักไหล่กว้างเบาๆ ไม่คิดจะเซ้าซี้ให้มากความ เพราะรู้ดีว่าวาเนสซ่ามักจะปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองอยู่เสมอ หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง ไม่มีทางที่เพื่อนสาวจะระบายมันออกมา “เออ…ว่าแต่ แกเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมฉันถึงไม่ได้ยินเสียงเปิดประตู” ท่านประธานสาวตัดบทเข้าเรื่องด้วยเสียงกังวานหวานใสกลบเกลื่อนความตรอมตรมที่ฝังแน่นอยู่ในอก “ฉันเข้ามายืนหัวโด่หน้าโต๊ะทำงานหล่อนนานเป็นชาติ จนรากจะงอกอยู่แล้วย่ะ” แดเนียลจีบปากจีบคอประชดประชันด้วยวาจาเกินจริง “โทษทีเพื่อน พอดีฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อย” วาเนสซ่ายกมือขึ้นลูบใบหน้าสวยพริ้งที่ตกแต่งด้วยเครื่องสำอางอย่างประณีต ก่อนจะแย้มกลีบปากอวบอิ่มพึมพำเบาๆ “คิดถึงผู้ชายอยู่หรือไงยะ ถึงไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูจนมือจะหงิก” พ่อหนุ่มมาดตุ้งติ้งกระเซ้าด้วยท่าทาง
ชะตาชีวิตของน้องนุชสุดท้องแห่งบ้านปิเอโร่เริ่มพลิกผันตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อน ซึ่งเธอได้ขอถอนหมั้นจากคู่หมั้นหนุ่มหล่อ เพราะรู้ดีว่ามาร์โบโล คอฟอร์ด ไม่มีทางรักเธอได้ หัวใจเขามีเจ้าของแล้ว ซึ่งผู้หญิงที่โคตรโชคดีคนนั้นไม่ใช่เธอ ยื้อไปก็รังแต่จะทำให้เจ็บปวดและทุกข์ทรมานกันทั้งสองฝ่าย ฉะนั้นวาเนสซ่าจึงตัดสินใจเป็นคนก้าวออกมาจากความสัมพันธ์ที่ผูกมัดทั้งคู่เอาไว้ เพื่อปลดปล่อยเขาจากพันธนาการที่ผู้ใหญ่ได้สร้างขึ้นมา ยอมให้คนอื่นตราหน้าว่าไม่มีน้ำยาจนต้องเป็นหม้ายขันหมาก นั่นก็เพราะว่าเธอรักเขามากจนเสียสละให้ได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งต้องเฉือนหัวใจตัวเอง เพราะหญิงสาวคิดแต่เพียงว่า ถึงไม่ได้ครอบครองเป็นเจ้าของก็ไม่เป็นไร หากคนที่เธอรักมีความสุขเธอก็พลอยมีความสุขไปด้วย หลังจากนั้นไม่นานมรสุมลูกใหญ่ก็โหมกระหน่ำเข้ามา ชีวิตอันสวยหรูของคุณหนูวาเนสซ่ามีอันต้องพันครืนไม่เป็นท่า เมื่อนางวาริณี ปิเอโร่ ได้จากไปอย่างกะทันหัน พร้อมกับความจริงอันแสนเจ็บปวดถูกเปิดเผยออกมาจากปากประมุขของปิเอโร่ ทำให้หญิงสาวได้รับรู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ ของคนที่เธอเรียกว่าพ่อและแม่ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ หากแต่ถือ
ยังไม่ทันที่มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อกระชากใจ จะได้ต่อปากต่อคำกับแม่สาวน้อยขี้วีนต่อ เสียงลิฟต์ก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะการสร้างความอภิรมย์เสียก่อน ปีเตอร์จึงต้องตัดใจ ยั้งคำพูดที่กำลังจะพรั่งพรูออกมา เงยหน้าขึ้นมองจึงรู้ว่า อีกสองชั้นก็จะถึงที่หมายของเขาแล้ว เนื่องจากชายหนุ่มขึ้นลิฟต์ไปผิดชั้นจึงต้องกลับลงมาใหม่ เพื่อจะได้ไปเยี่ยมคนป่วยหลังจากที่เอ้อระเหยลอยชายมานาน บอกเพื่อนจะมาถึงตั้งแต่แปดโมงเช้า จนป่านนี้ปาเข้าไปสิบโมงก็ยังไปไม่ถึงห้อนคนป่วย “ถ้าอยากได้จูบซับน้ำตา ก็เอาไว้คราวหน้าแล้วกันนะสาวน้อย วันนี้ผมรีบจริงๆ” คนมาเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลบอกอย่างอารมณ์ดี พลางยกนิ้วเรียวสวยขึ้นเคาะหน้าปัดนาฬิกายืนยันคำพูด ตบท้ายด้วยการขยิบตาให้อย่างกะล่อน“เอ๊ะ…คุณฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงกัน ฉันบอกว่าไม่ต้องการจูบสับปะรังเคของคุณแม้แต่น้อย ได้ยินไหม!” หญิงสาวขึ้นเสียงใส่อย่างขุ่นเคืองสุดๆ ดวงตากลมโตมองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ชายหนุ่มกลับไม่แยแส แถมยังลอยหน้ายียวนกวนโมโหไม่เลิก “จุ๊ๆๆ พูดไม่เพราะแบบนี้ มันน่าจับมาจูบสั่งสอนเสียให้เข็ด” เจ้าพ่อค้าเพชรทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจในลำคอหนา แล้วแกล้งขู่
สี่ปีที่แล้วแม้จะก้าวขาเรียวสวยเข้ามาโดยสารในลิฟต์ตัวใหญ่ น้ำตาก็ยังไม่เหือดแห้งไปจากร่องแก้มอิ่มของวาเนสซ่า ปิเอโร่ เจ้าของร่างเซ็กซี่ในชุดเดรสสีแดงเพลิงยี่ห้อหรู ที่สั่งตรงมาจากห้องเสื้อดังของปารีส เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนลืมสนใจสิ่งรอบข้าง แล้วจู่ๆ ก็มีใครบางคนยื่นผ้าเช็ดหน้ามาตรงหน้า ทำให้คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาร้องไห้อย่างไม่อายใคร เพราะคิดว่าตัวเองอยู่ในลิฟต์เพียงลำพัง ถึงกับผงะถอยหลังมาหนึ่งก้าว แล้วแหงนหน้าขึ้นมองเจ้าของผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่ปักตัวอักษรภาษาอังกฤษคำว่า ‘PJ’ ไว้ตรงมุมขวาอย่างประณีต ก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “ผ้าเช็ดหน้า ซับน้ำตาเสีย เดี๋ยวหน้าสวยๆ ก็เปื้อนคราบเครื่องสำอางหมดหรอก” เจ้าของใบหน้าสวยหากแต่เลอะไปด้วยคราบน้ำตา ยกแขนเรียวเสลาขึ้นกอดอกเชิดหน้าทำท่าเมินผ้าเช็ดหน้าที่มีผู้หวังดีหยิบยื่นให้ วาเนสซ่าก็เป็นอย่างนี้ หากไม่ใช่คนรู้จักและสนิทสนมเธอก็จะค่อนข้างถือตัว เห็นท่าทางอวดดี ชายหนุ่มก็แกล้งยื่นผ้าเช็ดหน้าเจ้าปัญหาไปให้หญิงสาวตรงหน้าแรงๆ ทำเอาร่างระหงผงะจนเกือบหงายหลัง ยังดีที่ขาเรียวบนรองเท้าส้นสูงคู่สวยทรงตัวไว้ได้ทัน“เก็บผ้าเช







