พอพรีมกดรับสาย เสียงของคำถามจากอีกฝ่ายก็ดังออกมาจากโทรศัพท์ทันที
(ถึงบ้านแล้วเหรอ)
“ถึงแล้วค่ะ”
(พี่เพิ่งประชุมเสร็จ ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไปรับ)
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ธีร์คะ พรีมมีเรื่องจะขอ”
(อืม พูดมาสิ)
“พี่ธีร์จะว่าอะไรไหมคะถ้าคืนนี้พรีมจะขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน” ขณะที่เอ่ยก็มองหน้ายิ้มๆ กับเพื่อนรัก พลางลุ้นไปด้วยกันว่าจะได้รับคำตอบเช่นไรกลับมา
(เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย)
“ทั้งสองค่ะ”
(อืม)
“อืมนี่คือให้พรีมไปใช่ไหมคะ” พรีมถามต่ออย่างไม่ค่อยไม่มั่นใจ
(อืม แค่นี้ก่อนนะ ไว้เจอกันที่บ้าน)
“ค่ะ”
พรีมกดวางสาย เสียงกรี๊ดเบาๆ ของเพื่อนสาวก็ดังขึ้นอยู่ข้างๆ อย่างคนดีอกดีใจจนออกนอกหน้า
“จะดีใจอะไรขนาดนั้น”
“ก็ดีใจแทนแกไง ฉันก็นึกว่าพี่ธีร์จะไม่ให้ไปแล้วซะอีก นี่ยังดีนะที่ยังให้แกได้ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง”
“เขาก็เป็นแค่คู่หมั้นไหมแก คงไม่ถึงกับควบคุมความประพฤติฉันหรอก” พรีมเอ่ยขำๆ
ถ้าถึงขนาดไม่ให้ออกไปไหนเลยก็คงจะเกินไป เราทั้งสองก็แค่หมั้นกันตามที่ผู้ใหญ่ร้องขอก็เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับชีวิตของใครให้ทำตามใจตัวเองได้หรอก
นิวเยียร์นั่งคุยเป็นเพื่อนจนถึงบ่ายสามก็ขอตัวกลับบ้าน ส่วนพรีมก็ส่งข้อความไปบอกเพื่อนชายว่าคืนนี้เธอตกลงจะออกไปเที่ยวด้วยกัน
ห้าโมงเย็นธีร์ก็กลับมาถึงบ้าน เขาขึ้นไปบนห้องเพื่อเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บและถอดเสื้อสูตตัวนอกกับเนกไท ก่อนจะลงมาชั้นล่างของบ้านเพื่อมองหาหญิงสาวที่ไม่รู้ว่าตอนนี้หายไปไหน
วันนี้พรีมอาสาเป็นลูกมือเข้าไปช่วยแม่บ้านของที่นี่ทำอาหารอยู่ในครัว ถึงเธอจะทำอาหารไม่เก่งแต่ถ้าให้ช่วยหยิบจับ หรือเตรียมวัตถุดิบก็ยังพอทำได้อยู่บ้าง
“พรีม” เสียงทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“กลับมาแล้วเหรอคะ พรีมกำลังช่วยป้าสายบัวทำอาหารเย็นให้พี่ธีร์อยู่ค่ะ” พรีมเอ่ยพร้อมกับมือที่ช่วยซอยผักอย่างช้าๆ
“ทำให้พี่” ธีร์ถามกลับ แค่จะออกไปเที่ยวกับเพื่อนถึงกับต้องทำอาหารเอาใจกันเลยหรือ
“ค่ะ พี่ธีร์ไปนั่งรอนะคะ อีกสักพักก็เสร็จแล้ว”
ธีร์หันหลังเดินออกไปตามคำขอของเธอ เวลาผ่านไปเกือบสี่สิบนาทีพรีมก็ออกมาเรียกคนที่นั่งทำงานกับโน้ตบุ๊กคู่ใจในห้องนั่งเล่นไปกินมื้อเย็นด้วยกัน
“นัดเพื่อนไว้กี่โมง”
“สองทุ่มค่ะ”
“เพื่อนที่ชื่อนิวเยียร์น่ะเหรอ แล้วผู้ชายล่ะ ใคร” ธีร์เงยหน้าจากจานข้าวจ้องมองใบหน้าหวานและถามเน้นย้ำตรงคำว่าใคร และรอฟังคำตอบอย่างไม่ละสายตา
“ก็คนที่พี่เห็นเมื่อเช้านั่นแหละค่ะ”
“ไว้ใจได้เหรอ” ธีร์ถามต่อ
“เพื่อนพรีมไว้ใจได้ทุกคนค่ะ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ พรีมไปกับนิวเยียร์ ดื่มเสร็จนิวเยียร์ก็จะมาส่งที่บ้านเหมือนเดิม”
“พี่ไม่ได้ห่วง”
“โอเคค่ะ ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง หวังว่าคงไม่โทรตามกลับบ้านเหมือนพรีมเป็นเด็กๆ นะคะ” พรีมถอนหายใจ นึกว่าถามมาตั้งหลายประโยคจะนึกเป็นห่วงกัน ที่ไหนได้ ถามไปงั้นๆ
“...” ไร้เสียงตอบกลับ เพราะอีกคนก้มหน้ากินข้าวไม่สนใจสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิด
เมื่อกินกันอิ่มแล้ว พรีมก็ขึ้นไปอาบน้ำและแต่งตัวด้วยชุดมินิเดรสสายเดี่ยวสีดำ ความยาวกลางหน้าขาแต่แหวกขึ้นสูงเล็กน้อย ก่อนจะออกมานั่งแต่งหน้าที่โต๊ะกระจก
ธีร์ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเมื่อเห็นคู่หมั้นสาวออกมาในชุดแบบนั้นก็ดูจะขัดตาเอามากถึงกับลอบถอนหายใจ
“นี่เธอไปเที่ยวหรือไปอ่อยผู้ชาย”
“ไปเที่ยวผับนะคะไม่ได้ไปงานวัด มันก็ต้องมีโชว์บนโชว์ล่างบ้างสิคะพี่ธีร์” พรีมหันไปมองเจ้าของน้ำเสียง ยกยิ้มอย่างไม่ยี่หระ ใครๆ ก็แต่งตัวแบบนี้กันทั้งนั้น
“จำเป็นต้องโชว์ขนาดนั้นเลยเหรอ” ธีร์มองดูแล้วมันจะดูเผยส่วนบนส่วนล่างมากจนเกินไป ไม่เหมาะกับผู้หญิงที่ออกไปเที่ยวกลางคืนเลยสักนิด
“แล้วถ้าบอกว่าจำเป็นล่ะคะ” พรีมเอ่ยหยอกคนตรงหน้าเพราะอยากรู้ว่าเขาจะตอบกลับมาอย่างไร
“...” อีกคนแค่ทำหน้าเหนื่อยเพราะคร้านจะเถียงกันไปมา จึงถอนหายใจแล้วก้มหน้าทำงานต่อทำทีไม่สนใจ แต่ก็ปรายตามองไปที่เธอเป็นครั้งคราว
ยี่สิบนาทีต่อมาพรีมก็ได้รับข้อความจากเพื่อนรักว่ามาถึงแล้ว และจอดรถรออยู่หน้าบ้าน เธอจึงคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กที่ในนั้นมีแค่กระเป๋าเงิน โทรศัพท์ ก่อนจะออกจากห้องก็หันมาบอกกับเจ้าของบ้านอีกครั้ง
“พรีมไปก่อนนะคะพี่ธีร์”
“...” ธีร์แค่เงยหน้าขึ้นมองและให้ความเงียบกลับไป
พรีมคว้ารองเท้าส้นสูงสีดำที่อยู่ในห้องแต่งตัว แล้วรีบลงไปหานิวเยียร์ที่นั่งรออยู่ในรถ
“กว่าจะลงมาได้นะยัยพรีม” พอพรีมขึ้นไปนั่งบนรถนิวเยียร์ก็หันมาถามเพื่อนทันที พร้อมกับขับรถออกจากบ้านของธีร์ตรงไปสถานที่ที่ได้นัดกันไว้
“ฉันก็รีบมานี่แล้วไงยัยปีเก่า แล้วนี่แกอาบน้ำหอมมาหรือไง”
“หอมใช่ไหมล่ะ”
“หอมจนฉันแสบจมูกไปหมดแล้วเนี่ย” พรีมแกล้งทำคิ้วย่น ยกนิ้วขยี้จมูก มันหอมก็จริง แต่กลิ่นมันแรงไปหน่อย
“แบบนี้แหละเดินไปทางไหนผู้ชายก็ได้กลิ่น” นิวเยียร์ไหวไหล่ใส่เพื่อนอย่างไม่ยี่หระ จะออกบ้านทั้งที่ก็ต้องจัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผม รวมทั้งกลิ่นตัวหอมๆ ไว้ล่อผู้ชายในผับ
สองสาวเดินทางไปถึงผับเอ็กซ์เลยเวลาที่ได้นัดหมายกันไว้เล็กน้อย เมื่อเดินเข้าไปด้านในที่มีไฟหลากสีเปล่งแสงวิบวับ ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างพากันออกมาดื่มกันเนืองแน่นเต็มพื้นที่ด้านใน
พรีมและนิวเยียร์พากันมองหาโต๊ะของเพื่อนชายที่มาถึงก่อนหน้า และก็เห็นขุนเขานั่งอยู่ที่โซนด้านใน แต่โต๊ะนั้นมีผู้ชายอีกคนที่พวกเธอไม่รู้จักนั่งอยู่ด้วย
พอเดินไปถึงโต๊ะพรีมก็ย่อตัวลงนั่งที่เก้าอี้ว่างข้างขุนเขา ส่วนนิวเยียร์ก็ไปนั่งข้างหนุ่มหล่ออีกคน
“ไฮ หนุ่มๆ” นิวเยียร์ยกมือขึ้นส่งยิ้มทักทาย
“สวัสดีครับสาวๆ” ชายอีกคนทักทายกลับ พร้อมกับกระตุกยิ้มหล่อมองสองสาวสลับกันไปมา
“นี่ใครเหรอ” ด้วยเพลงที่เสียงดังพรีมโน้มใบหน้าสวยไปถามที่ข้างหูของขุนเขา เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่มานั่งดื่มด้วยคือใคร
“มันชื่อไบร์ท เป็นเพื่อนต่างมหา’ ลัย และก็เป็นน้องชายของเจ้าของผับน่ะ” ขุนเขาโน้มมาพูดที่ข้างหูของพรีม
“ดื่มกันเต็มที่เลยนะครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง” เพื่อนใหม่ที่เจอกันวันแรกก็แสดงความมีน้ำใจด้วยการเลี้ยงเหล้า
หล่อแล้วยังใจดีแบบนี้ แถมยังพูดจาด้วยน้ำเสียงหวานหูแบบนี้คงเดาได้ไม่ยากว่าเป็นเสือผู้หญิงอย่างแน่นอน
ธีร์วางหญิงสาวลงอย่างเบามือ พรีมก็ส่งสายตาคู่หวานมองหน้าคนที่กำลังถอดชุดคลุมอาบน้ำของตนเองออกแล้วขึ้นมานอนทาบทับบนตัวของเธออย่างเย้ายวนธีร์ส่งริมฝีปากบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างเร้าร้อน มือหนาดึงรั้งสายชุดคลุม พรีมก็ดึงแขนของเธอออกโดยยังนอนทับชุดนั้นอยู่ริมฝีปากหยักถอนจูบออกแล้วเลื่อนลงไปงับเม็ดสีหวานที่แข็งชูชันบนยอดอกทั้งสองข้าง ละเลงปลายลิ้นสะกิดระรัว และดูดเลียสลับข้างกันไปมา มือหนาก็บีบขย้ำอกอวบเต็มไม้เต็มมือเจ้ามังกรที่ผ่านศึกในห้องน้ำไปแล้วสองรอบเริ่มจะแข็งขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงส่งมือไปจับท่อนเอ็นแล้วถูไถขึ้นลงที่กลีบกุหลาบน้ำที่มีน้ำสีใสไหลเยิ้มออกมา จากนั้นก็กดจ่อที่ปากทางร่องรักกดเอวสอบส่งตัวตนเข้าไปจนมิดลำธีร์กระแทกน้องชายขนาดใหญ่เข้าใส่ร่องรักของเมียสาวถี่รัว พรีมอยากเปลี่ยนบรรยากาศทั้งที เขาก็จะไม่ทำให้ผิดหวัง อยากจะได้กี่น้ำ หรืออยากจะจัดจนฟ้าสางก็จะตามใจ เพราะไหน ๆ พรุ่งนี้ก็เป็นวันอาทิตย์ซึ่งธีร์ไม่ได้เข้าไปทำงานที่บริษัทอยู่แล้วเสียงครวญครางประสานกันดังลั่นห้องที่ถูกก่อสร้างและเก็บเสียงได้เป็นอย่างดี สองร่างผลัดเปลี่ยนกันจัดบทรักให้กับอีกฝ่ายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อ
หลังจากงานรับปริญญาพรีมและเพื่อนๆ ในคณะก็นัดกันไปกินเลี้ยงส่งท้ายชีวิตนักศึกษา ต่อไปทุกคนต้องเดินหน้าหางานทำและบางคนก็กลับไปช่วยธุรกิจครอบครัว ไม่ต่างจากพรีมที่เธอเลือกไปช่วยงานที่โรงพิมพ์ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวของเธอนับจากวันที่ธีร์คุกเข่าขอแต่งงาน อมรภัคและพิมลพรรณผู้เป็นแม่ของทั้งสองฝ่ายก็ได้พากันไปดูฤกษ์แต่งงานเอาไว้ และฤกษ์ที่เหมาะสมทั้งเวลาและพรีมก็เรียนจบพอดีก็คืออีกสองเดือนข้างหน้า“ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆ เรียนก็จบแล้วและกำลังจะได้แต่งงานมีสามี แต่แกดูฉันสิยังเหี่ยวเฉาอยู่เลย” ระหว่างที่นั่งดื่มและเมาท์มอยกันในกลุ่มเพื่อน นิวเยียร์ก็หันมาคุยกับเพื่อนรักที่หลังจากนี้อาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนตอนเรียน“ก็แกมัวแต่เล่นตัวไม่ยอมคบใครสักที กะจะรอให้ขึ้นคานก่อนหรือไง”“ไม่ได้เล่นตัว แต่มันยังไม่เจอคนที่ถูกใจนี่นา” นิวเยียร์เอ่ยพลางถอนลมหายใจ ยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำเมาจรดริมฝีปากแล้วกระดกลงคอไปหลายอึกพรีมได้แต่ส่ายหัวและหลุดขำเบาๆ ให้เพื่อน ใช่ว่านิวเยียร์จะไม่มีคนคุย แต่คุยเยอะจนเหมือนเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาเสียมากกว่า คุยทุกคืน มือไม่ได้จับ แก้มไม่ได้หอม และก็ไม่ยอมคบใครจริงจัง หรือว่ามีคนท
วันนี้พรีมไม่มีเรียนเพราะเป็นวันเสาร์ ธีร์ใช้เวลาครึ่งวันเช้าในการเคลียร์งานที่บ้าน และพาเธอออกไปเดตในตอนเย็นรถหรูเคลื่อนตัวออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปยังร้านสเต๊กเฮาส์สุดหรูในโรงแรมชื่อดังที่ได้โทรจองเอาไว้พรีมควงแขนของธีร์เดินเข้าไปในร้านอาหาร เข้าไปนั่งที่โต๊ะริมกระจกมองเห็นวิวตึกสูงและแสงไฟในเมืองกรุง พอเข้าไปนั่งก็มีพนักงานของร้านเข้ามารับเมนูอาหาร ธีร์เลือกสั่งเป็นเซตโรแมนติกดินเนอร์ ทั้งสองคนนั่งกินสเต๊กเนื้อนุ่ม ท่ามกลางแสงเทียนที่ตั้งวางอยู่บนโต๊ะ และมองบรรยากาศรอบนอกในยามค่ำคืน“เข้าใจเลือกร้านนะคะ” พรีมระบายรอยยิ้มหวานพร้อมกับเอ่ยปากชม เพราะร้านนี้มันเหมาะกับการพาคู่รักมานั่งเดต และเธอก็ชอบบรรยากาศของที่นี่มาก“จะเอาใจเมียทั้งทีก็ต้องเลือกให้ดีที่สุดสิครับ” ระหว่างที่เคลียร์งานที่บ้าน ธีร์ได้ใช้เวลาในช่วงเช้าเกือบหนึ่งชั่วโมงเพื่อมองหาร้านอาหารที่เหมาะกับคู่รัก และเขาก็ถูกใจกับร้านแห่งนี้เป็นอย่างมากจึงได้โทรจองโต๊ะเอาไว้“สเต๊กถูกใจไหมครับ” ธีร์เอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งตรงข้าม สำหรับเขามื้อนี้ถือเป็นมื้อที่แสนพิเศษ เพราะตั้งแต่เคลียร์เรื่องอลิซได้ ทั้งคู่ก็เพิ่งจะมีโอกาสได้มาดิ
เช้าวันทำงาน วันนี้พรีมมีเรียนตอนสิบโมง เช้านี้เลยไปนั่งเล่นที่ห้องทำงานของธีร์ เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นตอนเย็นของวันศุกร์ ดีที่วันหยุดทั้งสองวันไม่ได้เจอหน้าตัวต้นเรื่อง ไม่อย่างนั้นพรีมคงจะได้ต่อปากต่อคำกับอลิซอีกเป็นแน่ก๊อก ก๊อกธีร์และพรีมเพิ่งมาถึงได้ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น“เข้ามา”“มีคนมาขอพบครับ ตอนนี้นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้” พิรัชย์เข้ามายืนอยู่หน้าโต๊ะและรายงานเจ้านาย“ใครครับ”“เห็นว่าชื่อไมเคิลครับ เป็นสามีของคุณอลิซ” หลังจากรายงานเจ้านายเสร็จพิรัชย์ก็เดินออกจากห้องไป“ไปกับพี่นะ” ธีร์ลุกออกจากโต๊ะเดินไปหาพรีมที่โซฟา แล้วพากันลงไปที่ล็อบบี้ที่อยู่ด้านหน้าของแผนกประชาสัมพันธ์“สวัสดีครับคุณไมเคิล ผมธีร์ ซีอีโอของที เอส กรุ๊ป” พอเข้าไปถึงธีร์ก็ยื่นมือออกไปทักทาย และพูดกับอีกฝ่ายเป็นภาษาอังกฤษ“สวัสดีครับ ผมไมเคิล”พอทักทายกันเสร็จ ธีร์และพรีมก็นั่งลงที่โซฟา หญิงสาวเลือกที่จะนั่งฟังอยู่เงียบๆ ปล่อยให้คนทั้งสองพูดคุยธุระกัน“คุณไมเคิลมาขอพบผมด้วยเรื่องอะไรหรือครับ” ธีร์เอ่ยถามกับอีกฝ่าย เบื้องต้นพิรัชย์บอกเขาแล้วว่าไมเคิลคือสามีของอลิซ คงจะเป็นคนที่หนีไปแต่งงานด้วย แต่ที่เ
ตั้งแต่ออกจากลิฟต์จนกระทั่งกลับถึงบ้าน พรีมก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา ถามคำก็ตอบคำ พอถึงเวลากินข้าวเธอยังคงมานั่งกินด้วยกันเหมือนเดิม แต่แทบจะไม่มองหน้ากันเลยทั้งสองคนผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปอาบน้ำ พรีมอาบเป็นคนแรกก็ขึ้นมานอนเล่นโทรศัพท์บนเตียง พอธีร์อาบน้ำเสร็จก็เห็นคนตัวเล็กนอนหันหลังให้ทางฝั่งที่เขานอน ซึ่งต่างจากทุกครั้งที่เธอมักจะรอเขาขึ้นมาบนเตียงก่อน แล้วแทรกตัวเข้ามานอนหนุนแขนซบใบหน้าเข้ากับแผงอกคืนนี้ธีร์ไม่ได้นั่งทำงานที่โต๊ะเหมือนทุกคืน พออาบน้ำเสร็จก็ขึ้นมานอนที่ของเขาเพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจ จะปล่อยให้เมียโกรธนานแบบนี้ไม่ได้“โกรธกันขนาดนั้นเลยเหรอ”“ลองเห็นพรีมไปจูบกับผู้ชายคนอื่นดูไหมคะ” พรีมตอบกลับเสียงแข็ง เป็นใครจะไม่โกรธบ้างถ้าเจอแบบเธอ“พรีม” ธีร์เอ็ดเสียงเบา ถ้าเขาเห็นแบบนั้นคงทนดูไม่ได้แน่ๆ“เรียกทำไมคะ ทีตัวเองทำได้ พรีมแค่เปรียบเทียบแค่นี้รับไม่ได้แล้วเหรอคะ”ธีร์ขมวดคิ้วมองแผ่นหลังของหญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะพลิกตัวของเธอให้หันหน้ามาหากัน แล้วขยับขึ้นไปนอนคร่อมอยู่ด้านบน“ปล่อยพรีมนะคะ” พรีมส่งสายตาแง่งอนและดิ้นตัวอยู่ใต้ร่าง“ไม่ปล่อย” เอ่ยจบก็ก้มลงมาจูบที่ริมฝีปาก
ช่วงที่อลิซยังต้องเข้าบริษัท ธีร์มักก็จะขอให้พรีมไปนั่งเล่นที่ห้องทำงานของเขาในเวลาที่เธอไม่มีเรียน ส่วนอลิซก็ยังหอบงานมานั่งทำร่วมโต๊ะกับธีร์ทุกวันโดยไม่สนใจว่าคู่หมั้นของเขาจะนั่งอยู่ด้วยหรือไม่ระหว่างที่นั่งทำงานจนใกล้จะสามโมง ธีร์ก็ได้รับข้อความที่ถูกส่งมาจากพรีม……….Noo’ Preme : เย็นนี้พรีมขอกลับกับนิวเยียร์นะคะThee : จะพากันไปไหนNoo’ Preme : ไปดูหนังค่ะThee : จะให้พี่รอที่นี่หรือว่าจะไปที่กลับบ้านเลยNoo’ Preme : ไปเจอกันที่บ้านเลยก็ได้ค่ะThee : ครับNoo’ Preme : สติ๊กเกอร์ส่งจูบ……….“บอกพี่ธีร์แล้วเหรอ” นิวเยียร์ที่เห็นเพื่อนปิดหน้าจอมือถือก็ได้ถามขึ้นวันนี้พวกเธอมีนัดไปดูหนังที่ห้างสรรพสินค้า เป็นเรื่องที่เพิ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ นิวเยียร์จึงชวนพรีมไปดูเป็นเพื่อน“อื้ม”“งั้นไปกันเถอะ”สองสาวพากันไปขึ้นรถของนิวเยียร์ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถของมหาวิทยาลัยแล้วมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้า พากันไปซื้อตั๋วเรื่องที่อยากดูแล้วเข้าไปนั่งประจำที่ตลอดหนึ่งชั่วโมงกว่าที่อยู่ในห้องฉายภาพยนตร์ที่มีแอร์เย็นเฉียบ พรีมและนิวเยียร์ก็พากันหัวเราะชอบใจให้กับความสนุกของภาพยนตร์แนวโรแมนติก