กินข้าวเสร็จ ธีร์ก็ขับรถไปส่งพรีมที่มหาวิทยาลัยตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ มีคู่หมั้นก็เหมือนมีเมีย จะขัดใจแม่ของเขาก็ไม่ได้อีก
“เลิกเรียนกี่โมง” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนที่คนที่นั่งข้างๆ จะเปิดประตูลงจากรถ
“ถามทำไมเหรอคะ จะมารับพรีมเหรอ”
“พี่เป็นคนมาส่ง เลิกเรียนก็ต้องมารับสิ หรือว่าเธอจะกลับกับใคร”
“เปล่าค่ะ นึกว่าพี่จะติดงาน พรีมว่าจะกลับพร้อมนิวเยียร์ แต่ถ้าพี่จะมารับก็ได้ค่ะ เลิกเรียนแล้วจะโทรไปบอกนะคะ”
พรีมเอ่ยพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าตีเนียนขอเบอร์คนตรงหน้า ธีร์ขมวดคิ้วเข้มเล็กน้อยแต่ก็ยินยอมบอกเบอร์ของตนไปแต่โดยดี
พรีมระบายยิ้มชอบใจรีบกดเบอร์โทรตามที่อีกฝ่ายบอกแล้วบันทึกลงในโทรศัพท์ และทันทีที่เบอร์ถูกบันทึกไลน์ของธีร์ก็เด้งขึ้นมา พรีมจึงรีบกดเพิ่มเพื่อนไปทันที
“แอดไลน์ไปแล้วนะคะ ในรูปกับตัวจริงนี่หล่อไม่ต่างกันเลย” เมื่อถือวิสาสะแอดไลน์เขาไป พรีมจึงเอ่ยปากชมคนข้างๆ ไปหนึ่งประโยคด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
ส่วนอีกคนเหมือนจะกระตุกยิ้มให้เห็นเล็กน้อยแล้วกลับไปทำหน้านิ่งไม่ได้ต่อว่าอะไร เธอก็จะถือว่าเขาเต็มใจให้ก็แล้วกัน
“ไปก่อนนะคะพี่ธีร์”
“อืม”
พรีมก้าวขาลงจากรถก็โบกมือลาคนที่มาส่ง ก่อนจะเดินเข้าไปหาเพื่อนรักที่มาถึงก่อนหน้า
“ไงจ๊ะแม่เพื่อนรัก คู่หมั้นสุดหล่อของแกมาส่งเหรอ”
“อื้ม”
“นอนด้วยกันแค่คืนเดียวกลายเป็นพ่อหนุ่มมีน้ำใจขนาดนี้เลย ว่าแต่แกไปทำอีท่าไหนถึงทำให้พี่ธีร์เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้ได้ล่ะ ไหนบอกฉันมาซิ”
นิวเยียร์เห็นว่าธีร์เปลี่ยนจากคนเย็นชาที่ไม่เห็นพรีมอยู่ในสายตา กลายเป็นคนเอาใจใส่มาส่งสาวคู่หมั้นถึงมหาวิทยาลัยได้แบบนี้ มันน่าสงสัย
“แล้วแกคิดว่าฉันทำยังไงล่ะ” พรีมถามกลับ
“อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนแกกับพี่ธีร์…”
“...” พรีมกระตุกยิ้มชวนให้นิวเยียร์คิดไปไกล
“กรี๊ด… แรงมาก นี่แกกับพี่ธีร์มีอะไรกันแล้วเหรอ”
“นี่ยัยปีเก่า ในหัวของแกนี่มันมีแต่เรื่องสิบแปดบวกหรือไงกัน คิดได้นะว่าพวกเราจะมีอะไรกัน แค่พูดยังนับคำได้เลย” พรีมรีบตัดบทเพื่อนรัก ไม่รู้ว่าคิดได้ยังไงว่าเธอมีอะไรกับหนุ่มคู่หมั้นที่เพิ่งจะรู้จักกันและนอนด้วยกันแค่คืนเดียว
“ฉันชื่อนิวเยียร์ที่แปลว่าปีใหม่ยะ”
“จะปีเก่าปีใหม่ก็เหมือนกันนั่นแหละ แล้วเรื่องคลิปที่แกส่งมาให้ฉันเมื่อวานอีกนะ แกรู้ไหมว่าพี่ธีร์ว่าให้ฉันยังไง”
“แล้วฉันจะรู้ไหมล่ะจ๊ะ” นิวเยียร์ไม่ได้ไปนอนอยู่ในห้องเดียวกันกับสองคนนั้นเสียหน่อย จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ชายของเพื่อนจะพูดกับพรีมว่าอย่างไร
“พี่ธีร์หาว่าฉันเป็นเด็กแก่แดดก็เพราะคลิปบ้าๆ ของแกนั่นแหละ”
“นี่แกไม่ได้ลดเสียงโทรศัพท์เหรอ หรือว่าเปิดดูด้วยกัน” นิวเยียร์มีสีหน้าตกใจ แต่ก็หลุดขำออกมาเบาๆ เธอก็อุตส่าห์เตือนแล้วว่าห้ามเปิดเสียงดังแต่พรีมก็ไม่ทำตามที่บอกเอง
“ฉันเปิดดูคนเดียว แต่เสียงมันดังไปถึงโซฟาที่พี่ธีร์นั่งนู้น”
“แล้วทำไมแกไม่เปิดคลิปให้พี่ธีร์ของแกดูไปเลยล่ะ ว่ามันไม่ได้สิบแปดบวกอย่างที่เขาคิด แต่ถ้าจะเข้าใจผิดก็ช่วยไม่ได้นะ” นิวเยียร์ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ แต่เสียงมันก็… อืม… น่าคิดอยู่นะสำหรับคนที่ไม่เห็นภาพ
“ช่างเถอะ โตจนป่านนี้แล้วใช่ว่าจะไม่เคยดู” พรีมก็ไม่แคร์เหมือนกัน อายุเลขสามแล้วมันก็ต้องเคยผ่านตามาบ้างล่ะกับคลิปอย่างว่า
หลังจากเลิกเรียนพรีมก็กดโทรออกไปหาหนุ่มคู่หมั้นสุดหล่อ แต่เขาก็ตัดสายทิ้งทั้งสองครั้งที่เธอโทรเข้าไป พรีมจึงพิมพ์ข้อความส่งไปแทน
……….
Noo’ Preme : พรีมเลิกเรียนแล้วนะคะพี่ธีร์
……….
ข้อความที่ถูกส่งออกไปมีการเปิดอ่านทันทีแต่ไม่มีการตอบกลับมา พรีมนึกในใจว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ทำไมมีเวลาอ่าน แต่ไม่มีเวลาพิมพ์ตอบหรือรับสายของเธอเลย
……….
Noo’ Preme : พรีมรออยู่หน้ามหา’ ลัยนะคะ
……….
พรีมนั่งรออยู่ที่ป้ายรถเมล์เป็นเวลานานราวกับคนน้อยใจ นี่เขางานยุ่งจนไม่มีเวลา หรือว่าลืมไปแล้วกันแน่ว่ารับปากว่าจะมารับเธอที่มหาวิทยาลัย
เวลาผ่านไปสามสิบนาที รถหรูสีดำก็ขับมาจอดด้านหน้าที่พรีมนั่งอยู่ และชายหนุ่มที่สวมชุดสูตสีดำ เสื้อเชิ้ตข้างในสีขาวเปิดประตูลงจากรถแล้วก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
“คุณพรีมใช่ไหมครับ”
“ค่ะ คุณคือ…” พรีมเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูง เธอจำหน้าได้ว่าเขาคือคนที่เคยเจอในห้างสรรพสินค้า
“ผมพิรัชย์ เป็นเลขาของคุณธีร์ครับ” ชายคนดังกล่าวแนะนำตัวก่อนจะพูดต่อ “คุณธีร์ให้ผมมารับครับ”
“แล้วพี่ธีร์ไปไหนเหรอคะ”
“คุณธีร์ติดประชุมกับลูกค้าอยู่ครับ”
“แล้วทำไมคุณถึงไม่ได้เข้าประชุมด้วยล่ะคะ”
พอฉุกคิดขึ้นได้พรีมก็รีบยกมือขึ้นปิดปาก ไม่คิดว่าเธอจะกล้าถามอะไรที่มันละลาบละล้วงมากจนเกินไป คงเป็นเพราะนั่งรอนาน บวกกับความคิดที่ว่าธีร์คงจะลืมมารับ จึงทำให้เธอเผลอแสดงกิริยาที่ไม่ดีออกไป
“ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ที่จริงก่อนหน้านี้ผมก็เข้าร่วมประชุมพร้อมกับคุณธีร์ แต่พอคุณส่งข้อความเข้าไปคุณธีร์ก็บอกให้ผมออกจากการประชุมแล้วให้รีบมารับคุณพรีมเพราะกลัวว่าจะรอนาน”
พอได้ฟังคำตอบจากปากของพิรัชย์ พรีมก็คลี่ยิ้มจนหุบไม่ลง ไม่คิดว่าอีตาคู่หมั้นสุดหล่อจะนึกเป็นห่วงเธอด้วย
“เราไปกันเถอะค่ะ”
“ครับ” พิรัชย์ตอบรับพร้อมกับเปิดประตูเพื่อให้นายหญิงเข้าไปนั่งในรถ
“พรีมขอนั่งหน้านะคะ” พรีมรู้สึกว่าเป็นการเอาเปรียบพิรัชย์มากเกินไป แค่เขามารับเธอก็เกรงใจมากแล้ว ถ้าไปนั่งเบาะหลังราวกับเป็นเจ้านายขนาดนั้น มันก็ยังไงๆ อยู่
“ก็ได้ครับ” พิรัชย์ตอบรับก็ปิดประตูด้านหลัง ส่วนพรีมก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถเอง
“พรีมขอเรียกว่าพี่พิรัชย์ได้ไหมคะ” พรีมหันไปถามคนที่เพิ่งเข้ามานั่งประจำที่ฝั่งคนขับ
“จะดีเหรอครับ” พิรัชย์เกรงว่าถ้าเจ้านายของเขาได้ยินคู่หมั้นสาวเรียกเขาราวกับสนิทกันแบบนี้จะรู้สึกเคืองเอา
“ดีสิคะ ยังไงก็คนกันเองทั้งนั้น เรียกพี่จะได้ไม่รู้สึกอึดอัด”
“เอ่อ…”
พิรัชย์ยังคงอ้ำอึ้ง ก่อนจะเอ่ยตอบ “เอางั้นก็ได้ครับ”
“แล้วนี่พี่ธีร์ให้ไปส่งพรีมที่บ้านเลยไหมคะ” พรีมถามคนที่กำลังขับรถอยู่
“เปล่าครับ คุณธีร์ให้พาไปที่บริษัท” พิรัชย์ตอบตามคำสั่งที่ได้รับมา
รถหรูเคลื่อนเข้าไปจอดที่โรงจอดรถของ CEO ทั้งพรีมและพิรัชย์ก็เปิดประตูลงจากรถไปพร้อมกัน พรีมเดินตามเลขาหนุ่มเข้าไปในตึกเพื่อขึ้นไปหาคู่หมั้นหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ด้านบน ไม่รู้ว่าตอนนี้จะประชุมเสร็จหรือยัง
“พี่ธีร์ทำงานห้องนี้เหรอคะ” พรีมหันไปถามเลขาหนุ่มขณะที่ทั้งสองเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องทำงานที่ใหญ่ที่สุด และอยู่ชั้นบนสุดของตึกแห่งนี้
“ครับ คุณพรีมเข้าไปนั่งรอข้างในก่อนนะครับ ผมขอตัวไปหาคุณธีร์ที่ห้องประชุมก่อน”
“ค่ะ ขอบคุณที่ไปรับนะคะพี่พิรัชย์”
พิรัชย์ยกยิ้มพยักหน้าให้ก็เดินออกไป ส่วนเธอก็เข้าไปนั่งรอตรงโซฟาที่อยู่ภายในห้องทำงานของคู่หมั้นหนุ่ม
ธีร์วางหญิงสาวลงอย่างเบามือ พรีมก็ส่งสายตาคู่หวานมองหน้าคนที่กำลังถอดชุดคลุมอาบน้ำของตนเองออกแล้วขึ้นมานอนทาบทับบนตัวของเธออย่างเย้ายวนธีร์ส่งริมฝีปากบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างเร้าร้อน มือหนาดึงรั้งสายชุดคลุม พรีมก็ดึงแขนของเธอออกโดยยังนอนทับชุดนั้นอยู่ริมฝีปากหยักถอนจูบออกแล้วเลื่อนลงไปงับเม็ดสีหวานที่แข็งชูชันบนยอดอกทั้งสองข้าง ละเลงปลายลิ้นสะกิดระรัว และดูดเลียสลับข้างกันไปมา มือหนาก็บีบขย้ำอกอวบเต็มไม้เต็มมือเจ้ามังกรที่ผ่านศึกในห้องน้ำไปแล้วสองรอบเริ่มจะแข็งขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงส่งมือไปจับท่อนเอ็นแล้วถูไถขึ้นลงที่กลีบกุหลาบน้ำที่มีน้ำสีใสไหลเยิ้มออกมา จากนั้นก็กดจ่อที่ปากทางร่องรักกดเอวสอบส่งตัวตนเข้าไปจนมิดลำธีร์กระแทกน้องชายขนาดใหญ่เข้าใส่ร่องรักของเมียสาวถี่รัว พรีมอยากเปลี่ยนบรรยากาศทั้งที เขาก็จะไม่ทำให้ผิดหวัง อยากจะได้กี่น้ำ หรืออยากจะจัดจนฟ้าสางก็จะตามใจ เพราะไหน ๆ พรุ่งนี้ก็เป็นวันอาทิตย์ซึ่งธีร์ไม่ได้เข้าไปทำงานที่บริษัทอยู่แล้วเสียงครวญครางประสานกันดังลั่นห้องที่ถูกก่อสร้างและเก็บเสียงได้เป็นอย่างดี สองร่างผลัดเปลี่ยนกันจัดบทรักให้กับอีกฝ่ายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อ
หลังจากงานรับปริญญาพรีมและเพื่อนๆ ในคณะก็นัดกันไปกินเลี้ยงส่งท้ายชีวิตนักศึกษา ต่อไปทุกคนต้องเดินหน้าหางานทำและบางคนก็กลับไปช่วยธุรกิจครอบครัว ไม่ต่างจากพรีมที่เธอเลือกไปช่วยงานที่โรงพิมพ์ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวของเธอนับจากวันที่ธีร์คุกเข่าขอแต่งงาน อมรภัคและพิมลพรรณผู้เป็นแม่ของทั้งสองฝ่ายก็ได้พากันไปดูฤกษ์แต่งงานเอาไว้ และฤกษ์ที่เหมาะสมทั้งเวลาและพรีมก็เรียนจบพอดีก็คืออีกสองเดือนข้างหน้า“ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆ เรียนก็จบแล้วและกำลังจะได้แต่งงานมีสามี แต่แกดูฉันสิยังเหี่ยวเฉาอยู่เลย” ระหว่างที่นั่งดื่มและเมาท์มอยกันในกลุ่มเพื่อน นิวเยียร์ก็หันมาคุยกับเพื่อนรักที่หลังจากนี้อาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนตอนเรียน“ก็แกมัวแต่เล่นตัวไม่ยอมคบใครสักที กะจะรอให้ขึ้นคานก่อนหรือไง”“ไม่ได้เล่นตัว แต่มันยังไม่เจอคนที่ถูกใจนี่นา” นิวเยียร์เอ่ยพลางถอนลมหายใจ ยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำเมาจรดริมฝีปากแล้วกระดกลงคอไปหลายอึกพรีมได้แต่ส่ายหัวและหลุดขำเบาๆ ให้เพื่อน ใช่ว่านิวเยียร์จะไม่มีคนคุย แต่คุยเยอะจนเหมือนเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาเสียมากกว่า คุยทุกคืน มือไม่ได้จับ แก้มไม่ได้หอม และก็ไม่ยอมคบใครจริงจัง หรือว่ามีคนท
วันนี้พรีมไม่มีเรียนเพราะเป็นวันเสาร์ ธีร์ใช้เวลาครึ่งวันเช้าในการเคลียร์งานที่บ้าน และพาเธอออกไปเดตในตอนเย็นรถหรูเคลื่อนตัวออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปยังร้านสเต๊กเฮาส์สุดหรูในโรงแรมชื่อดังที่ได้โทรจองเอาไว้พรีมควงแขนของธีร์เดินเข้าไปในร้านอาหาร เข้าไปนั่งที่โต๊ะริมกระจกมองเห็นวิวตึกสูงและแสงไฟในเมืองกรุง พอเข้าไปนั่งก็มีพนักงานของร้านเข้ามารับเมนูอาหาร ธีร์เลือกสั่งเป็นเซตโรแมนติกดินเนอร์ ทั้งสองคนนั่งกินสเต๊กเนื้อนุ่ม ท่ามกลางแสงเทียนที่ตั้งวางอยู่บนโต๊ะ และมองบรรยากาศรอบนอกในยามค่ำคืน“เข้าใจเลือกร้านนะคะ” พรีมระบายรอยยิ้มหวานพร้อมกับเอ่ยปากชม เพราะร้านนี้มันเหมาะกับการพาคู่รักมานั่งเดต และเธอก็ชอบบรรยากาศของที่นี่มาก“จะเอาใจเมียทั้งทีก็ต้องเลือกให้ดีที่สุดสิครับ” ระหว่างที่เคลียร์งานที่บ้าน ธีร์ได้ใช้เวลาในช่วงเช้าเกือบหนึ่งชั่วโมงเพื่อมองหาร้านอาหารที่เหมาะกับคู่รัก และเขาก็ถูกใจกับร้านแห่งนี้เป็นอย่างมากจึงได้โทรจองโต๊ะเอาไว้“สเต๊กถูกใจไหมครับ” ธีร์เอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งตรงข้าม สำหรับเขามื้อนี้ถือเป็นมื้อที่แสนพิเศษ เพราะตั้งแต่เคลียร์เรื่องอลิซได้ ทั้งคู่ก็เพิ่งจะมีโอกาสได้มาดิ
เช้าวันทำงาน วันนี้พรีมมีเรียนตอนสิบโมง เช้านี้เลยไปนั่งเล่นที่ห้องทำงานของธีร์ เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นตอนเย็นของวันศุกร์ ดีที่วันหยุดทั้งสองวันไม่ได้เจอหน้าตัวต้นเรื่อง ไม่อย่างนั้นพรีมคงจะได้ต่อปากต่อคำกับอลิซอีกเป็นแน่ก๊อก ก๊อกธีร์และพรีมเพิ่งมาถึงได้ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น“เข้ามา”“มีคนมาขอพบครับ ตอนนี้นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้” พิรัชย์เข้ามายืนอยู่หน้าโต๊ะและรายงานเจ้านาย“ใครครับ”“เห็นว่าชื่อไมเคิลครับ เป็นสามีของคุณอลิซ” หลังจากรายงานเจ้านายเสร็จพิรัชย์ก็เดินออกจากห้องไป“ไปกับพี่นะ” ธีร์ลุกออกจากโต๊ะเดินไปหาพรีมที่โซฟา แล้วพากันลงไปที่ล็อบบี้ที่อยู่ด้านหน้าของแผนกประชาสัมพันธ์“สวัสดีครับคุณไมเคิล ผมธีร์ ซีอีโอของที เอส กรุ๊ป” พอเข้าไปถึงธีร์ก็ยื่นมือออกไปทักทาย และพูดกับอีกฝ่ายเป็นภาษาอังกฤษ“สวัสดีครับ ผมไมเคิล”พอทักทายกันเสร็จ ธีร์และพรีมก็นั่งลงที่โซฟา หญิงสาวเลือกที่จะนั่งฟังอยู่เงียบๆ ปล่อยให้คนทั้งสองพูดคุยธุระกัน“คุณไมเคิลมาขอพบผมด้วยเรื่องอะไรหรือครับ” ธีร์เอ่ยถามกับอีกฝ่าย เบื้องต้นพิรัชย์บอกเขาแล้วว่าไมเคิลคือสามีของอลิซ คงจะเป็นคนที่หนีไปแต่งงานด้วย แต่ที่เ
ตั้งแต่ออกจากลิฟต์จนกระทั่งกลับถึงบ้าน พรีมก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา ถามคำก็ตอบคำ พอถึงเวลากินข้าวเธอยังคงมานั่งกินด้วยกันเหมือนเดิม แต่แทบจะไม่มองหน้ากันเลยทั้งสองคนผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปอาบน้ำ พรีมอาบเป็นคนแรกก็ขึ้นมานอนเล่นโทรศัพท์บนเตียง พอธีร์อาบน้ำเสร็จก็เห็นคนตัวเล็กนอนหันหลังให้ทางฝั่งที่เขานอน ซึ่งต่างจากทุกครั้งที่เธอมักจะรอเขาขึ้นมาบนเตียงก่อน แล้วแทรกตัวเข้ามานอนหนุนแขนซบใบหน้าเข้ากับแผงอกคืนนี้ธีร์ไม่ได้นั่งทำงานที่โต๊ะเหมือนทุกคืน พออาบน้ำเสร็จก็ขึ้นมานอนที่ของเขาเพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจ จะปล่อยให้เมียโกรธนานแบบนี้ไม่ได้“โกรธกันขนาดนั้นเลยเหรอ”“ลองเห็นพรีมไปจูบกับผู้ชายคนอื่นดูไหมคะ” พรีมตอบกลับเสียงแข็ง เป็นใครจะไม่โกรธบ้างถ้าเจอแบบเธอ“พรีม” ธีร์เอ็ดเสียงเบา ถ้าเขาเห็นแบบนั้นคงทนดูไม่ได้แน่ๆ“เรียกทำไมคะ ทีตัวเองทำได้ พรีมแค่เปรียบเทียบแค่นี้รับไม่ได้แล้วเหรอคะ”ธีร์ขมวดคิ้วมองแผ่นหลังของหญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะพลิกตัวของเธอให้หันหน้ามาหากัน แล้วขยับขึ้นไปนอนคร่อมอยู่ด้านบน“ปล่อยพรีมนะคะ” พรีมส่งสายตาแง่งอนและดิ้นตัวอยู่ใต้ร่าง“ไม่ปล่อย” เอ่ยจบก็ก้มลงมาจูบที่ริมฝีปาก
ช่วงที่อลิซยังต้องเข้าบริษัท ธีร์มักก็จะขอให้พรีมไปนั่งเล่นที่ห้องทำงานของเขาในเวลาที่เธอไม่มีเรียน ส่วนอลิซก็ยังหอบงานมานั่งทำร่วมโต๊ะกับธีร์ทุกวันโดยไม่สนใจว่าคู่หมั้นของเขาจะนั่งอยู่ด้วยหรือไม่ระหว่างที่นั่งทำงานจนใกล้จะสามโมง ธีร์ก็ได้รับข้อความที่ถูกส่งมาจากพรีม……….Noo’ Preme : เย็นนี้พรีมขอกลับกับนิวเยียร์นะคะThee : จะพากันไปไหนNoo’ Preme : ไปดูหนังค่ะThee : จะให้พี่รอที่นี่หรือว่าจะไปที่กลับบ้านเลยNoo’ Preme : ไปเจอกันที่บ้านเลยก็ได้ค่ะThee : ครับNoo’ Preme : สติ๊กเกอร์ส่งจูบ……….“บอกพี่ธีร์แล้วเหรอ” นิวเยียร์ที่เห็นเพื่อนปิดหน้าจอมือถือก็ได้ถามขึ้นวันนี้พวกเธอมีนัดไปดูหนังที่ห้างสรรพสินค้า เป็นเรื่องที่เพิ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ นิวเยียร์จึงชวนพรีมไปดูเป็นเพื่อน“อื้ม”“งั้นไปกันเถอะ”สองสาวพากันไปขึ้นรถของนิวเยียร์ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถของมหาวิทยาลัยแล้วมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้า พากันไปซื้อตั๋วเรื่องที่อยากดูแล้วเข้าไปนั่งประจำที่ตลอดหนึ่งชั่วโมงกว่าที่อยู่ในห้องฉายภาพยนตร์ที่มีแอร์เย็นเฉียบ พรีมและนิวเยียร์ก็พากันหัวเราะชอบใจให้กับความสนุกของภาพยนตร์แนวโรแมนติก