“อิ่มมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่พามาเลี้ยง” พรีมเอยขึ้นขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินออกจากภัตตาคาร
“กินขนาดนี้ไม่เรียกว่าอิ่มก็ไม่รู้จะว่ายังไงละ”
“พี่หาว่าพรีมกินจุเหรอคะ”
พรีมยื่นมือไปจับแขนของธีร์แล้วดึงให้เขาหยุดเดิน ส่วนคนถูกดึงแค่หันมาส่งสายตาดุ แต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร
“มองหน้าพรีมแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ”
“ปล่อย พี่เดินไม่ได้” ธีร์มองไปยังมือคู่เล็กที่กอบกำข้อมือของเขาเอาไว้แน่น แล้วเลื่อนสายตาขึ้นมองใบหน้าหวาน
“อ่อ ก็อยากจับค่ะ แล้วตอนนี้ก็อยากจะกอดแขนคู่หมั้นของพรีมด้วย” พรีมยกยิ้มเอียงหน้าตอบ ก่อนจะดึงแขนของเขาไปกอดแบบอ้อนๆ
“นี่เธอ”
“อะไรกันคะ คู่หมั้นกอดกันไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวไปได้ เนื้อพี่ไม่ได้หลุดติดมือพรีมสักหน่อยค่ะ”
ธีร์ได้แต่ถอนหายใจแล้วก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า โดยที่มียัยตัวแสบเกาะแขนเขาไม่ยอมปล่อยจนเดินไปถึงตัวรถ พรีมจึงละมือออกจากแขนของเขาแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านในอย่างคนอารมณ์ดี
เมื่อรถหรูเคลื่อนตัวเข้าสู่คฤหาสน์หลังเล็กที่เป็นบ้านของธีร์ ทั้งคู่ก็พากันลงจากรถแล้วขึ้นไปบนห้องนอน
“พี่จะอาบก่อนหรือให้พรีมอาบก่อนคะ”
“ตามใจ” ธีร์ตอบกลับเสียงเรียบ ขณะที่มือก็จัดการถอดเสื้อสูตตัวนอกและดึงเนกไทที่คอออก
“หรือว่าอยากอาบน้ำพร้อมกัน” พรีมแกล้งหยอกคนไร้ความรู้สึก ดูสิว่าเขาจะทำหน้าอย่างไร
“ทะลึ่ง นี่จะไม่เลิกทำตัวแก่แดดกับพี่ใช่ไหม”
“มาว่าพรีมแก่แดดอีกละ ก็บอกแล้วไงคะว่าบรรลุนิติภาวะแล้วค่ะ” พรีมเอียงคอมอคนแก่หน้าแกล้งแล้วทำหน้ายิ้มๆ
“แล้วไง” ธีร์ถามกลับ
“ก็ไม่แล้วไงค่ะ พรีมก็แค่ถามไปงั้นแหละ ทำเป็นจริงจังราวกับหนุ่มน้อยไร้เดียงสาไปได้” พรีมพูดแบบไม่มองหน้า เลือกหยิบโทรศัพท์เข้าโซเชียลแทน คนอะไรหยอกนิดหยอกหน่อยก็ไม่ได้ ตั้งท่าจะจิกกัดเธอลูกเดียว
ธีร์เดินหนีเข้าไปอาบน้ำ เด็กอะไรอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่วันกล้าลามปามเขาถึงขนาดนี้
คืนที่สองของการนอนด้วยกัน พรีมยังคงใส่ชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวที่โชว์หน้าอกหน้าใจล้นทะลักออกมานอกชั้นใน เธอขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมจนถึงเอว นั่งพิงหัวเตียงเล่นโทรศัพท์และคุยแชทกับเพื่อนรักอย่างเช่นเคย ส่วนธีร์ก็อยู่ที่โต๊ะทำงานของเขาที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโซฟา จ้องมองดูโน้ตบุ๊กด้วยท่าทางจริงจัง
“ทำงานอยู่เหรอคะ”
“อื้ม” ชายคู่หมั้นส่งเสียงในลำคอแต่ก็ยังไม่ละสายตาออกจากหน้าจอ
“งานมีปัญหาเหรอคะ ดูหน้าเครียดจัง”
“เปล่า พี่กำลังดีลงานกับลูกค้าใหม่เลยไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด”
“อ่อ” พรีมตอบเสียงเบา ยู่ปากออกเล็กน้อยราวกับคนน้อยใจแล้วก้มหน้าดูโทรศัพท์ในมือต่อ
ธีร์ละสายตาออกจากหน้าจอของโน้ตบุ๊ก เมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาวก็พลางคิดว่าเธออาจจะรู้สึกเหงา รู้สึกไม่คุ้นเคยกับที่นี่ และการอยู่กับเขา เพราะเขาเองก็แทบจะไม่ได้คุยอะไรกับเธอเลย“ง่วงรึยัง” ธีร์มองดูนาฬิกาที่บอกเวลาเกือบห้าทุ่มจึงได้เอ่ยถาม
“นิดหน่อยค่ะ”
ธีร์ปิดหน้าจอโน้ตบุ๊กแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก้าวไปปิดไฟในห้องเหลือไว้แต่โคมไฟข้างหัวเตียง แล้วเดินตรงไปที่เตียง“งานเสร็จแล้วเหรอคะ”
“ค่อยทำต่อพรุ่งนี้ นอนกันเถอะ”
พรีมกดปิดหน้าจอมือถือแล้วเอาวางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนจะล้มตัวลงนอน เป็นอีกคืนที่เธอต้องนอนกับเขา และคืนนี้ก็เหมือนจะยังไม่คุ้นชินกับที่นอนใหม่ เธอนอนพลิกตัวไปมาอยู่หลายครั้งจนผล็อยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
เช้าวันต่อมา ธีร์ตื่นขึ้นมาเป็นคนแรกและก็พบว่าหญิงสาวได้ดึงหมอนข้างอีกใบไปวางไว้ด้านหลัง แล้วพลิกตัวมากอดหมอนข้างใบที่เหลือที่เอาคั่นกลางเอาไว้
“เธอเป็นคนทำลายกฎของตัวเองเองนะ” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ กับคนที่หลับอยู่ พลางกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว
พรีมที่กำลังนอนฝันหวานก็สะดุ้งตื่นและพบว่าหมอนข้างที่คั่นกลางหายไปแล้วหนึ่งใบ เธอจึงพลิกตัวไปอีกด้านก็พบว่ามันอยู่ทางด้านหลัง สงสัยนอนละเมอจึงดึงหมอนอีกใบไปไว้ด้านหลังอย่างแน่นอน แล้วพอจังหวะพลิกตัวก็เลยมากอดอีกใบแทน และเมื่อคืนยังฝันว่าได้นอนกอดกับคนที่นอนข้างๆ อีกด้วย ไม่รู้ว่าฝันบ้าฝันบออะไร ความรู้สึกดีๆ ยังไม่เคยมีให้กันเลย
ธีร์อาบน้ำเสร็จและใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย เหลือก็แต่เสื้อสูตกับเนคไทที่ยังไม่ได้สวมใส่ เขาเดินออกมาดูผู้หญิงขี้เซาเผื่อว่ายังไม่ตื่นจะได้ปลุก แต่พรีมก็ตื่นแล้วเขาจึงเอ่ยอย่างอื่นแทน
“ไปอาบน้ำสิ วันนี้มีเรียนกี่โมง”
“เก้าโมงเหมือนเดิมค่ะ แต่วันนี้พรีมเลิกไวนะคะ” พรีมรีบบอกเพราะกลัวว่าเขาจะไม่มีเวลามารับ
“เลิกไวนี่กี่โมง”
“ถามทำไมเหรอคะ ถ้าพี่ไม่มีเวลามารับ พรีมกลับกับเพื่อนได้ค่ะ”
“ถ้าไปรับไม่ได้จะให้พิรัชย์ไปรับแทน” ธีร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็ง แม่ของเขาบอกให้ดูแลลูกสะใภ้คนนี้ให้ดี จะปล่อยให้กลับกับเพื่อนได้อย่างไร
“ให้พี่พิรัชย์ไปรับ แล้วให้ไปนั่งรอแบบเมื่อวานเหรอคะ”“พี่พิรัชย์” ธีร์ไม่ตอบคำถาม แต่กลับเรียกชื่อเลขาส่วนตัวอย่างสงสัย ว่าไปสนิทกันตอนไหนถึงขั้นต้องเรียกพี่
“ค่ะ พี่พิรัชย์ คงไม่หวงใช่ไหมคะถ้าพรีมจะเรียกคนอื่นว่าพี่เหมือนกัน” พรีมเอ่ยถามคนตรงหน้า ที่จริงก็คงไม่มีใครมาหวงหรอก คนที่อายุน้อยกว่าเรียกคนที่มีอายุมากกว่าว่าพี่มันก็เหมาะสมแล้ว
“ใครหวง อยากจะเรียกใครก็เชิญ พี่ลงไปข้างล่างก่อนนะ อาบน้ำเสร็จก็แล้วตามลงไปล่ะ” เอ่ยจบก็หันหลังเดินไปคว้ากระเป๋า และเข้าไปหยิบเสื้อสูตกับเนคไทแล้วรีบเปิดประตูเดินออกจากห้องไป
“นี่ขนาดบอกว่าไม่หวงนะ คริคริ” พรีมหลุดขำออกมาเบาๆ คนอะไรหยอกนิดหยอกหน่อยทำเป็นอารมณ์เสียไปได้
พรีมรีบลุกออกจากเตียงเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา แล้วรีบตามลงไปที่ชั้นล่าง ไม่รู้ว่าเธออาบน้ำนานขนาดนี้ธีร์จะกินข้าวเสร็จหรือยัง หวังว่าคงจะไม่ได้นั่งทำหน้างอรอบ่นเธอหรอกนะ
ธีร์วางหญิงสาวลงอย่างเบามือ พรีมก็ส่งสายตาคู่หวานมองหน้าคนที่กำลังถอดชุดคลุมอาบน้ำของตนเองออกแล้วขึ้นมานอนทาบทับบนตัวของเธออย่างเย้ายวนธีร์ส่งริมฝีปากบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างเร้าร้อน มือหนาดึงรั้งสายชุดคลุม พรีมก็ดึงแขนของเธอออกโดยยังนอนทับชุดนั้นอยู่ริมฝีปากหยักถอนจูบออกแล้วเลื่อนลงไปงับเม็ดสีหวานที่แข็งชูชันบนยอดอกทั้งสองข้าง ละเลงปลายลิ้นสะกิดระรัว และดูดเลียสลับข้างกันไปมา มือหนาก็บีบขย้ำอกอวบเต็มไม้เต็มมือเจ้ามังกรที่ผ่านศึกในห้องน้ำไปแล้วสองรอบเริ่มจะแข็งขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงส่งมือไปจับท่อนเอ็นแล้วถูไถขึ้นลงที่กลีบกุหลาบน้ำที่มีน้ำสีใสไหลเยิ้มออกมา จากนั้นก็กดจ่อที่ปากทางร่องรักกดเอวสอบส่งตัวตนเข้าไปจนมิดลำธีร์กระแทกน้องชายขนาดใหญ่เข้าใส่ร่องรักของเมียสาวถี่รัว พรีมอยากเปลี่ยนบรรยากาศทั้งที เขาก็จะไม่ทำให้ผิดหวัง อยากจะได้กี่น้ำ หรืออยากจะจัดจนฟ้าสางก็จะตามใจ เพราะไหน ๆ พรุ่งนี้ก็เป็นวันอาทิตย์ซึ่งธีร์ไม่ได้เข้าไปทำงานที่บริษัทอยู่แล้วเสียงครวญครางประสานกันดังลั่นห้องที่ถูกก่อสร้างและเก็บเสียงได้เป็นอย่างดี สองร่างผลัดเปลี่ยนกันจัดบทรักให้กับอีกฝ่ายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อ
หลังจากงานรับปริญญาพรีมและเพื่อนๆ ในคณะก็นัดกันไปกินเลี้ยงส่งท้ายชีวิตนักศึกษา ต่อไปทุกคนต้องเดินหน้าหางานทำและบางคนก็กลับไปช่วยธุรกิจครอบครัว ไม่ต่างจากพรีมที่เธอเลือกไปช่วยงานที่โรงพิมพ์ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวของเธอนับจากวันที่ธีร์คุกเข่าขอแต่งงาน อมรภัคและพิมลพรรณผู้เป็นแม่ของทั้งสองฝ่ายก็ได้พากันไปดูฤกษ์แต่งงานเอาไว้ และฤกษ์ที่เหมาะสมทั้งเวลาและพรีมก็เรียนจบพอดีก็คืออีกสองเดือนข้างหน้า“ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆ เรียนก็จบแล้วและกำลังจะได้แต่งงานมีสามี แต่แกดูฉันสิยังเหี่ยวเฉาอยู่เลย” ระหว่างที่นั่งดื่มและเมาท์มอยกันในกลุ่มเพื่อน นิวเยียร์ก็หันมาคุยกับเพื่อนรักที่หลังจากนี้อาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนตอนเรียน“ก็แกมัวแต่เล่นตัวไม่ยอมคบใครสักที กะจะรอให้ขึ้นคานก่อนหรือไง”“ไม่ได้เล่นตัว แต่มันยังไม่เจอคนที่ถูกใจนี่นา” นิวเยียร์เอ่ยพลางถอนลมหายใจ ยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำเมาจรดริมฝีปากแล้วกระดกลงคอไปหลายอึกพรีมได้แต่ส่ายหัวและหลุดขำเบาๆ ให้เพื่อน ใช่ว่านิวเยียร์จะไม่มีคนคุย แต่คุยเยอะจนเหมือนเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาเสียมากกว่า คุยทุกคืน มือไม่ได้จับ แก้มไม่ได้หอม และก็ไม่ยอมคบใครจริงจัง หรือว่ามีคนท
วันนี้พรีมไม่มีเรียนเพราะเป็นวันเสาร์ ธีร์ใช้เวลาครึ่งวันเช้าในการเคลียร์งานที่บ้าน และพาเธอออกไปเดตในตอนเย็นรถหรูเคลื่อนตัวออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปยังร้านสเต๊กเฮาส์สุดหรูในโรงแรมชื่อดังที่ได้โทรจองเอาไว้พรีมควงแขนของธีร์เดินเข้าไปในร้านอาหาร เข้าไปนั่งที่โต๊ะริมกระจกมองเห็นวิวตึกสูงและแสงไฟในเมืองกรุง พอเข้าไปนั่งก็มีพนักงานของร้านเข้ามารับเมนูอาหาร ธีร์เลือกสั่งเป็นเซตโรแมนติกดินเนอร์ ทั้งสองคนนั่งกินสเต๊กเนื้อนุ่ม ท่ามกลางแสงเทียนที่ตั้งวางอยู่บนโต๊ะ และมองบรรยากาศรอบนอกในยามค่ำคืน“เข้าใจเลือกร้านนะคะ” พรีมระบายรอยยิ้มหวานพร้อมกับเอ่ยปากชม เพราะร้านนี้มันเหมาะกับการพาคู่รักมานั่งเดต และเธอก็ชอบบรรยากาศของที่นี่มาก“จะเอาใจเมียทั้งทีก็ต้องเลือกให้ดีที่สุดสิครับ” ระหว่างที่เคลียร์งานที่บ้าน ธีร์ได้ใช้เวลาในช่วงเช้าเกือบหนึ่งชั่วโมงเพื่อมองหาร้านอาหารที่เหมาะกับคู่รัก และเขาก็ถูกใจกับร้านแห่งนี้เป็นอย่างมากจึงได้โทรจองโต๊ะเอาไว้“สเต๊กถูกใจไหมครับ” ธีร์เอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งตรงข้าม สำหรับเขามื้อนี้ถือเป็นมื้อที่แสนพิเศษ เพราะตั้งแต่เคลียร์เรื่องอลิซได้ ทั้งคู่ก็เพิ่งจะมีโอกาสได้มาดิ
เช้าวันทำงาน วันนี้พรีมมีเรียนตอนสิบโมง เช้านี้เลยไปนั่งเล่นที่ห้องทำงานของธีร์ เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นตอนเย็นของวันศุกร์ ดีที่วันหยุดทั้งสองวันไม่ได้เจอหน้าตัวต้นเรื่อง ไม่อย่างนั้นพรีมคงจะได้ต่อปากต่อคำกับอลิซอีกเป็นแน่ก๊อก ก๊อกธีร์และพรีมเพิ่งมาถึงได้ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น“เข้ามา”“มีคนมาขอพบครับ ตอนนี้นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้” พิรัชย์เข้ามายืนอยู่หน้าโต๊ะและรายงานเจ้านาย“ใครครับ”“เห็นว่าชื่อไมเคิลครับ เป็นสามีของคุณอลิซ” หลังจากรายงานเจ้านายเสร็จพิรัชย์ก็เดินออกจากห้องไป“ไปกับพี่นะ” ธีร์ลุกออกจากโต๊ะเดินไปหาพรีมที่โซฟา แล้วพากันลงไปที่ล็อบบี้ที่อยู่ด้านหน้าของแผนกประชาสัมพันธ์“สวัสดีครับคุณไมเคิล ผมธีร์ ซีอีโอของที เอส กรุ๊ป” พอเข้าไปถึงธีร์ก็ยื่นมือออกไปทักทาย และพูดกับอีกฝ่ายเป็นภาษาอังกฤษ“สวัสดีครับ ผมไมเคิล”พอทักทายกันเสร็จ ธีร์และพรีมก็นั่งลงที่โซฟา หญิงสาวเลือกที่จะนั่งฟังอยู่เงียบๆ ปล่อยให้คนทั้งสองพูดคุยธุระกัน“คุณไมเคิลมาขอพบผมด้วยเรื่องอะไรหรือครับ” ธีร์เอ่ยถามกับอีกฝ่าย เบื้องต้นพิรัชย์บอกเขาแล้วว่าไมเคิลคือสามีของอลิซ คงจะเป็นคนที่หนีไปแต่งงานด้วย แต่ที่เ
ตั้งแต่ออกจากลิฟต์จนกระทั่งกลับถึงบ้าน พรีมก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา ถามคำก็ตอบคำ พอถึงเวลากินข้าวเธอยังคงมานั่งกินด้วยกันเหมือนเดิม แต่แทบจะไม่มองหน้ากันเลยทั้งสองคนผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปอาบน้ำ พรีมอาบเป็นคนแรกก็ขึ้นมานอนเล่นโทรศัพท์บนเตียง พอธีร์อาบน้ำเสร็จก็เห็นคนตัวเล็กนอนหันหลังให้ทางฝั่งที่เขานอน ซึ่งต่างจากทุกครั้งที่เธอมักจะรอเขาขึ้นมาบนเตียงก่อน แล้วแทรกตัวเข้ามานอนหนุนแขนซบใบหน้าเข้ากับแผงอกคืนนี้ธีร์ไม่ได้นั่งทำงานที่โต๊ะเหมือนทุกคืน พออาบน้ำเสร็จก็ขึ้นมานอนที่ของเขาเพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจ จะปล่อยให้เมียโกรธนานแบบนี้ไม่ได้“โกรธกันขนาดนั้นเลยเหรอ”“ลองเห็นพรีมไปจูบกับผู้ชายคนอื่นดูไหมคะ” พรีมตอบกลับเสียงแข็ง เป็นใครจะไม่โกรธบ้างถ้าเจอแบบเธอ“พรีม” ธีร์เอ็ดเสียงเบา ถ้าเขาเห็นแบบนั้นคงทนดูไม่ได้แน่ๆ“เรียกทำไมคะ ทีตัวเองทำได้ พรีมแค่เปรียบเทียบแค่นี้รับไม่ได้แล้วเหรอคะ”ธีร์ขมวดคิ้วมองแผ่นหลังของหญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะพลิกตัวของเธอให้หันหน้ามาหากัน แล้วขยับขึ้นไปนอนคร่อมอยู่ด้านบน“ปล่อยพรีมนะคะ” พรีมส่งสายตาแง่งอนและดิ้นตัวอยู่ใต้ร่าง“ไม่ปล่อย” เอ่ยจบก็ก้มลงมาจูบที่ริมฝีปาก
ช่วงที่อลิซยังต้องเข้าบริษัท ธีร์มักก็จะขอให้พรีมไปนั่งเล่นที่ห้องทำงานของเขาในเวลาที่เธอไม่มีเรียน ส่วนอลิซก็ยังหอบงานมานั่งทำร่วมโต๊ะกับธีร์ทุกวันโดยไม่สนใจว่าคู่หมั้นของเขาจะนั่งอยู่ด้วยหรือไม่ระหว่างที่นั่งทำงานจนใกล้จะสามโมง ธีร์ก็ได้รับข้อความที่ถูกส่งมาจากพรีม……….Noo’ Preme : เย็นนี้พรีมขอกลับกับนิวเยียร์นะคะThee : จะพากันไปไหนNoo’ Preme : ไปดูหนังค่ะThee : จะให้พี่รอที่นี่หรือว่าจะไปที่กลับบ้านเลยNoo’ Preme : ไปเจอกันที่บ้านเลยก็ได้ค่ะThee : ครับNoo’ Preme : สติ๊กเกอร์ส่งจูบ……….“บอกพี่ธีร์แล้วเหรอ” นิวเยียร์ที่เห็นเพื่อนปิดหน้าจอมือถือก็ได้ถามขึ้นวันนี้พวกเธอมีนัดไปดูหนังที่ห้างสรรพสินค้า เป็นเรื่องที่เพิ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ นิวเยียร์จึงชวนพรีมไปดูเป็นเพื่อน“อื้ม”“งั้นไปกันเถอะ”สองสาวพากันไปขึ้นรถของนิวเยียร์ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถของมหาวิทยาลัยแล้วมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้า พากันไปซื้อตั๋วเรื่องที่อยากดูแล้วเข้าไปนั่งประจำที่ตลอดหนึ่งชั่วโมงกว่าที่อยู่ในห้องฉายภาพยนตร์ที่มีแอร์เย็นเฉียบ พรีมและนิวเยียร์ก็พากันหัวเราะชอบใจให้กับความสนุกของภาพยนตร์แนวโรแมนติก