Mag-log inหนึ่งอาทิตย์ต่อมา...
พ่อเลี้ยงอัคราเดินทางมาตรวจงานที่ไร่สตรอว์เบอร์รี่ตั้งแต่เช้า เพราะเมื่อวานเลขารายงานว่า วันนี้มีออเดอร์ที่จะต้องนำส่งไปให้ลูกค้าหลายราย รวมกันแล้วเป็นสตรอว์เบอร์รี่หลายร้อยกิโล มีทั้งแบบผลสดและนำไปแปรรูปเป็นผลไม้อบแห้ง ฟรีซดราย รวมไปถึงทำแยม พ่อเลี้ยงจึงต้องมาดูการเก็บเกี่ยวผลผลิตด้วยตัวเอง เพราะเขาไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาดจนลูกค้าต้องคืนสินค้ากลับมา "พ่อเลี้ยงอัครา..หล่อมาก!! อย่างกะดาราเกาหลีแหน่ ดูสิแก..เขาขี่ม้า อย่างเท่เลยอะ" "ไหนวะ" "โน่นไง มาทางนี้แล้ว กรี๊ด!!!!" เสียงคนงานสาวหลายสิบชีวิตต่างพากันส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ เมื่อเห็นพ่อเลี้ยงอัคราขี่ม้าผ่านมาทางที่พวกเธอกำลังทำงาน ราวกับว่าได้เจอดาราระดับประเทศอย่างไรอย่างนั้น รำภาที่กำลังเก็บสตรอว์เบอร์รี่อยู่แถวนั้นทำท่าเบะปาก กลอกตาไปมา ก่อนจะพ่นคำพูดที่แสดงถึงความเหนือกว่า "พวกแกก็ได้แต่กรี๊ดเท่านั้นแหละย่ะ ไม่เหมือนฉัน ได้ขี่เขามาแล้ว" คนงานสาวสามชีวิตหันมองรำภาเป็นตาเดียวก่อนจะคำรามถาม "ขี้โม้หรือเปล่ายะ! พ่อเลี้ยงอัคราเนี่ยนะจะกินคนงานอย่างหล่อนนะ" "ฉันพูดความจริงย่ะ พวกเธอไม่เชื่อก็ตามใจ" รำภาลอยหน้าลอยตาใส่ "จะบอกอะไรให้เอาบุญนะ พ่อเลี้ยงแซ่บมากกินฉันทั้งคืนเลย จนฉันเกือบจะลุกจากเตียงไม่ไหว แต่พ่อเลี้ยงยังจัดอีกสามสี่ยกได้สบาย" หญิงสาวสามคนหันมองหน้ากันหูผึ่งอย่างสนอกสนใจ พวกเธอเคยได้ยินเสียงร่ำลือเรื่องแบบนี้มาแล้วหลายครั้งว่าพ่อเลี้ยงอัคราแซ่บมาก เรื่องบนเตียงเขาชอบจัดหนักๆ แต่ยังมีอีกอย่างที่ยังค้างคาใจสาวๆ "ถ้าเธอเคยนอนกับพ่อเลี้ยงจริงๆ ฉันถามอะไรหน่อยได้หรือเปล่า ที่เขาลือกันว่า..พ่อเลี้ยงทั้งใหญ่ทั้งยาวมันจริงหรือเปล่าล่ะ" รำภากระตุกยิ้มมุมปาก นัยน์ตาแพรวพราวระยิบระยับ หญิงสาวหวนรำลึกถึงภาพเหตุการณ์สุดเสียวในคืนนั้น คืนที่เธอได้กลืนกินเขาทั้งลำ คิดแล้วน้ำลายเหนียวๆ ก็หลั่งไหลออกมาในปาก จนต้องกลืนลงคอแทบไม่ทัน "พ่อเลี้ยงใหญ่มากสมคำร่ำลือเชียวละ ใหญ่ยาวไซซ์ฝรั่ง ถุงยางอนามัยต้องนำเข้ามาจากเมืองนอกเชียวนะ กระแทกทีฉันจุกไปเกือบสามวัน แต่ก็เสียวมากสะใจสุดๆ" คนงานสาวสามคนถึงกับตาลุกวาว รู้สึกเสียววูบวาบไปกับภาพในจินตนาการตามที่รำภาเล่า "ขนาดนั้นเลยเหรอรำภา" "อ่าห๊ะ" รำภายักคิ้วหลิ่วตา เชิดคอขึ้นราวกับนางพญา "พวกเธอสามคนต้องทำดีกับฉันให้มากๆ รู้ไหม เพราะบางทีฉันอาจจะได้เป็นนายหญิงของที่นี่ก็ได้ใครจะรู้" อภิชาติที่ยืนแอบฟังอยู่ถึงกับกัดกรามกรอด ผู้หญิงคนนี้ทะเยอทะยานคิดการใหญ่ ไม่อยู่ในที่ที่สมควรอยู่ แถมยังปากสว่างโอ้อวดให้คนอื่นรู้ว่าได้นอนกับพ่อเลี้ยงอัครา ไม่ได้การละ..เขาจะต้องจัดการอะไรสักอย่างเพื่อกำราบผู้หญิงคนนี้ "นี่รำภา..ถ้าได้ดีได้เป็นคุณนายของพ่อเลี้ยงอัครา เธออย่าลืมพวกฉันสามคนนะ" "ก็ถ้าพวกเธอสามคนอยู่ข้างฉัน คอยสนับสนุนฉัน รับรองว่าพวกเธอได้เลื่อนขั้นกันหมดทุกคน" "พวกเธอสามคนมัวทำอะไรกัน ทำงานสิครับ ปากพูดมือก็ต้องขยับ..รำภา..เดี๋ยวเลิกงานไปพบฉันที่ห้องทำงานด้วยนะ" "ค่ะ." "ห้าโมงเย็นเจอกันนะครับ" "ได้ค่ะผู้จัดการ" อภิชาติอมยิ้มมุมปากเดินไปจากตรงนั้น เพียงคล้อยหลังเขาไปไม่นาน คนงานสาวสามคนก็ยืนจับกลุ่มกันอีกครั้ง "ผู้จัดการมาตั้งแต่ตอนไหนวะ จะได้ยินเรื่องที่พวกเราพูดกันหรือเปล่า" "พวกเราพูดกันเบาๆ เขาไม่ได้ยินหรอกน่า" "เบาบ้านป้าแกสิอีนังจวง แกพูดแต่ละทีน้องๆ โทรโข่งเลยนะ" "อีบ้า! นี่แกว่าฉันพูดเสียงดังอยู่คนเดียวเหรอวะ แล้วพวกแกพูดไม่ดังหรือไง พูดออกมาแต่ละทีได้ยินไปถึงหน้าปากซอย" "โอ๊ย! พวกเธอหยุดทะเลาะกันสักทีได้ไหม ฉันรำคาญ! คนกำลังกลุ้มใจอยู่เนี่ย ไม่รู้ว่าผู้จัดการจะเรียกให้ฉันเข้าไปพบทำไม" "แล้วเธอจะกลุ้มใจทำไมล่ะรำภา เธอเป็นเมียของพ่อเลี้ยงอัคราเชียวนะ.เส้นใหญ่อยู่แล้วจะไปกลัวทำไม กะอีแค่ผู้จัดการไร่" "จริงด้วยรำภา ถ้าผู้จัดการเรื่องมาก เธอก็บอกให้พ่อเลี้ยงไล่เขาออกไปซะ เท่านี้ก็สิ้นเรื่อง" "อืม..ทำงานต่อเถอะ" รำภาตัดบท เธอรู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าเธอไม่ได้มีอำนาจหรือมีอภิสิทธิ์เหนือใครใดๆ ทั้งนั้น เพราะพ่อเลี้ยงอัคราไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับเธอเลย หลังจากที่ได้ดูแลปรนเปรอให้เขาสุขสมในคืนนั้น เธอก็หมดความสำคัญ พ่อเลี้ยงอัคราไม่เรียกหาเธออีก ถ้าถูกไล่ออกเธอจะทำอย่างไรดีเนี่ย..รำภาคิดเช้าวันต่อมา....อัคราเดินลงมาพร้อมหน้าตาที่สดใสเพราะเมื่อคืนเขาได้ปลดปล่อยไปหลายน้ำ เจ้าตัวเล็กใส่ชุดนักเรียนเรียบร้อยวิ่งมากระซิบถาม"คุณพ่อทำน้องให้เปาแล้วใช่ไหมครับ""ทำแล้วครับ น้องเปาเก่งมากเลยนะที่ไม่งอแงอะ""เปาเก่งอยู่แล้วครับ ลูกพ่อซะอย่าง"อัคราโยกศีรษะทุยได้รูปอย่างแสนรัก"อ้าวนั่น คุณแม่ลงมาแล้วครับ"นับดาวเปิดรอยยิ้มกว้างเมื่อเดินลงมาด้านล่างแล้วเจอสองพ่อลูกกำลังคุยกัน"คุยอะไรกันอยู่เหรอคะพ่อลูก"อั่งเปายิ้มประจบ "คุณแม่มานั่งตรงนี้สิครับ เปามีเรื่องจะบอกครับ""เรื่องอะไรเหรอครับ"นับดาวถาม อัคราก็ตั้งใจฟัง"วันจันทร์จะมีกิจกรรมแข่งกีฬาสีที่โรงเรียน คุณครูบอกว่าให้ผู้ปกครองไปร่วมกิจกรรมด้วยครับ""แล้วเปาอยู่สีอะไรครับ" นับดาวถามสีหน้าเบิกบาน"เปาอยู่สีเขียวครับ คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมไปนะ เปาแข่งวิ่งผลัดกับเตะฟุตบอลด้วย"นับดาวลูบศีรษะทุยอย่างแสนรัก รู้สึกภูมิใจในความน่ารักน่าชัง กล้าแสดงออก และมีความเป็นผู้นำของเจ้าหนูน้อย"พ่อกั
สามปีต่อมา...."โอ๊ย!! เหม็นตดจังเลยครับ คุณพ่อทำไมชอบตดในผ้าห่มจัง เปาเหม็นจะเป็นลมแล้วครับ"อัคราทำหน้าเลิ่กลักก่อนจะยอมรับออกมา "พ่อขอโทษครับ มันอั้นเอาไว้ไม่ไหวจริงๆ""รีบลุกไปเข้าห้องน้ำเลย..เหม็นอะ"อั่งเปาใช้นิ้วบีบจมูกตัวเองไปพลาง ฝ่ามือเล็กอีกข้างดันอกพ่อให้รีบๆ ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ เจ้าตัวเล็กหันมาถามมารดาที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ "แม่ไม่เหม็นบ้างเหรอครับ ตดพ่อกลิ่นแรงจะตาย"นับดาวหันมองหน้าสามีเล็กน้อย "แม่ชินแล้วล่ะจ้ะ" หล่อนโยกศีรษะทุยได้รูปของเด็กช่างพูดไปพลางหัวเราะขบขันไปพลาง"คุณพ่อไปเข้าห้องน้ำสิครับ เดี๋ยวก็ตดออกมาอีกหรอก คุณแม่เรารีบเผ่นหนีออกจากห้องก่อนดีกว่า เปาไม่อยากได้กลิ่นตดพ่ออะ"อัคราหัวเราะก๊าก ขบขันในความช่างพูดของเจ้าตัวเล็กนั่น เขารีบลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำกิจวัตร นับดาวถูกเด็กสามขวบฉุดกระชากให้ลงจากเตียง"เราเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันกันก่อนนะครับอั่งเปาแล้วค่อยลงไปทานข้าวเช้า""ได้ครับ เอาอุลตร้าแมนไปล้างหน้าแปรงฟันด้วยได้หรือเปล่าครับ""ได้สิจ๊ะ"
หนึ่งอาทิตย์ถัดมา....นับดาวถูกพาตัวมาโรงพยาบาลราวตีสองกว่า เพราะมีอาการปวดท้องเป็นระยะ นับดาววิ่งเข้าห้องน้ำหลายรอบติดกัน เพราะรู้สึกปวดอุจจาระ แต่พอเข้าไปในห้องน้ำกลับถ่ายไม่ออกเสียอย่างนั้น อีกยี่สิบนาทีหลังจากนั้น มันก็ยิ่งรู้สึกคล้ายปวดอุจจาระถี่ขึ้น ความเจ็บไต่ระดับมากขึ้น พร้อมกับมีมูกเลือดไหลออกมาด้วย อัคราเลยพาภรรยาคนสวยมาโรงพยาบาล "ตอนนี้มดลูกเปิดสี่เซ็นแล้วนะคะ คุณแม่พยายามหายใจเข้าลึกๆ แล้วผ่อนออกทางปาก มันจะเพิ่มอากาศให้ลูกในท้องได้ค่ะ ลองทำดูนะคะ"พยาบาลวิชาชีพแนะนำวิธีหายใจที่ถูกต้องให้นับดาวรู้ไว้ เพราะสามารถลดความเจ็บปวดเวลามดลูกบีบรัดตัวได้ แถมยังเพิ่มออกซิเจนให้กับลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์มารดาสิบห้านาทีต่อมา คุณหมอกลับมาที่เตียงของเธออีกครั้ง"หมอขอตรวจดูหน่อยนะครับ ว่ามดลูกเปิดเยอะหรือยัง""ค่ะ"นับดาวพยักหน้ารับ หล่อนหายใจทางจมูกแล้วปล่อยออกทางปาก รู้สึกเจ็บปวดจนทรมาน"มดลูกเปิดแปดเซ็นแล้วครับ เตรียมตัวเข้าห้องคลอดเลยนะ ทำใจให้สบาย เบ่งให้สุดแรงเกิดเลย""ค่ะคุณหมอ"
ณ โรงพยาบาลชื่อดังประจำจังหวัดนับดาวถูกพาตัวมาโรงพยาบาลในเวลาตีสอง เธอมีอาการปวดท้อง มวลท้องเป็นระยะ นายแพทย์อชิระเป็นผู้ตรวจรักษา"คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะครับ อาการนี้เรียกว่าอาการเจ็บเตือนไม่มีอันตรายอะไร แต่ถ้าหากกลับบ้านไปแล้วมีอาการเดิมคือปวดท้อง แล้วมีมูกเลือดหรือว่าน้ำเดินด้วยให้รีบมาโรงพยาบาลเลยนะครับ""ค่ะ" นับดาวตอบรับ สีหน้าคลายกังวลลงมากเมื่อได้ยินอย่างนั้น"ตอนนี้มีอาการตึงแน่นบริเวณท้องน้อยด้วยหรือเปล่าครับ""นิดๆ ค่ะ" นับดาวตอบกลับเสียงแผ่ว"หมออัลตร้าซาวด์ดูแล้วอีกสองอาทิตย์ถึงจะคลอดนะครับ คลาดเคลื่อนไม่เกินเจ็ดวัน คุณแม่ดูที่หน้าจอมอนิเตอร์สิครับเจ้าตัวเล็กซนใหญ่เชียว กระดุกกระดิกตัวเก่งแบบนี้คุณแม่ก็เลยปวดท้องน้อย ดูสิครับนั่นทั้งเตะทั้งต่อย คงอยากจะออกมาข้างนอกเต็มแก่ เด็กแข็งแรงมากเลยครับ"นับดาวยิ้มรับ หันมองหน้าจอด้วยหัวใจเบิกบานเมื่อเห็นลูกน้อยที่อยู่ในท้องเคลื่อนไหวอย่างอิสระ อั่งเปาดิ้นเก่งมาก แข็งแรงมาก เดี๋ยวก็ยกแขน เดี๋ยวก็ยกขา หน้าท้องของเธอตึงนูนขึ้นเป็นระยะ เคลื่อนไหวราวเกลียวคลื่นในทะเลสาป
หลายเดือนต่อมา....ร่างอุ้ยอ้ายหย่อนกายลงนั่งบนโซฟาตัวหนาสีดำ ในมือถือตะกร้าที่มีไหมพรมหลายม้วนนอนกองอยู่ในนั้น หล่อนกำลังถักถุงเท้าเอาไว้ให้ลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่วันถุงเท้าสีขาวเสร็จไปแล้วหนึ่งข้าง เหลืออีกหนึ่งข้างที่เธอต้องถัก นับดาวตั้งใจถักไปทีละชั้น ไม่นานนักถุงเท้าสองข้างก็เสร็จเรียบร้อย หล่อนยิ้มด้วยความภูมิใจ เพราะมันออกมาสวยน่ารัก ปราณีตไม่ผิดจากแบบในนิตยสาร"แม่เลี้ยงกำลังทำอะไรอยู่คะ" ประนอมเดินถือถาดของว่าง เป็นผลไม้หลากหลายสีสันมาให้แม่เลี้ยงคนงาม ที่ยิ่งท้องแก่ก็ยิ่งเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้นมาก"หนูถักถุงเท้าให้อั่งเปาอยู่ค่ะ""เหรอคะน่ารักเชียว" ประนอมยิ้มหยิบถุงเท้าคู่เล็กขึ้นมาพิจารณา "ช่างปราณีตเหลือเกินค่ะ มองปราดเดียวก็รู้ว่าตั้งใจทำ สวยมากเลยค่ะ" ประนอมเอ่ยชมไม่หยุดปาก"ขอบคุณค่ะ" นับดาวยิ้มรับ หยิบไหมพรมสีฟ้าครามขึ้นมาถักเป็นลูกโซ่"แล้วนั่นแม่เลี้ยงจะถักเป็นอะไร ใช่ถุงเท้าไหมคะ" ประนอมถาม พร้อมระบายยิ้มบางๆ"หนูจะถักหมวกค่ะ""เหรอคะ แบบไหนป้าอยากเห็นจังเ
เช้าของวันใหม่....แสงแดดอ่อนทอประกายลงมาจากฟากฟ้า ชุบเลี้ยงชีวิตหมู่มวลบุปผาและต้นไม้ใบหญ้าให้เจริญงอกงาม ผลิดอกออกผลขยายกิ่งก้านเติบโตตามครรลองของธรรมชาติ ภายนอกห้องนอนนั้น มีกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์โดยเฉพาะกุหลาบตลบอบอวลรอบๆ คฤหาสน์ สกุณาเจื้อยแจ้วร้องเพลงขับขานเป็นท่วงทำนองน่าฟัง บ้างก็คล้ายกับคนกำลังสนทนากันดังจิ๊บๆ ท่ามกลางความเงียบสงัดแพขนตาหนาค่อยๆ ขยับขึ้นลงช้าๆ เมื่อผู้เป็นเจ้าของกำลังจะลืมตา อัคราตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ที่แสนสดใส เขาเหลือบมองเจ้าร่างน้อยที่ผ่านเรื่องราวเลวร้ายมาเมื่อวาน เธอคงเสียขวัญมากสินะ ถึงได้ร้องไห้จนหลับ"อรุณสวัสดิ์ครับ"ปลายจมูกโด่งกดลงบนพวงแก้มนิ่มของเธอหนึ่งครั้งเพื่อเป็นการบอกรักและปลุกเจ้าร่างน้อยในเวลาเดียวกัน นับดาวขยับตัวยุกยิกไปมาในอ้อมแขนกำยำจนความนุ่มนิ่มบดเบียดกับความแข็งแกร่งตรงกลางร่างของคนที่นอนอมยิ้มอยู่ข้างๆ ทำให้อะไรบางอย่างตื่นตัวโดยอัตโนมัติ"อื้ม..เช้าแล้วเหรอคะ" ดวงตากลมโตขยับเปิดออกจนกว้างรับอรุณของเช้าวันใหม่ที่สดใสกว่าเมื่อวาน"ครับ" อัคราพยักหน้ารับ ไล้ข้อ







