LOGINสามวันต่อมา...
ร่างสูงสง่าเดินกลับเข้ามาในคฤหาสน์ด้วยอาการเมามาย เปลื้องผ้าเปลื้องผ่อนจนหลุดลุ่ยตั้งแต่หัวจรดเท้า เพียงแค่ก้าวพ้นบานประตูห้องส่วนตัวเข้ามาเท่านั้น อดิศรคนขับรถประคองเจ้านายหนุ่มจนล้มตัวลงบนที่นอนอย่างเรียบร้อย เขาผละตัวเองออกห่างไปเพียงเล็กน้อย พ่อเลี้ยงอัคราก็ดีดตัวเองขึ้นมา แล้วกำลังจะถอดเสื้อผ้า "ทำไมมันร้อนอย่างนี้วะ!" อัคราคำราม "พ่อเลี้ยงอย่าเพิ่งถอดครับ!" อดิศรห้ามไม่ทัน กางเกงสแล็คสีดำถูกถอดออกจากกายร่วงหล่นลงไปกองกับพื้น ตามด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว ตอนนี้อัคราเหลือเพียงกางเกงชั้นในcalvinสีดำบางเบา ที่ปกปิดร่างกายเอาไว้เท่านั้น เขาปีนกลับไปนอนบนเตียงอีกครั้งในท่าคว่ำหน้า "ฮ้าย! พ่อเลี้ยงเมาแล้วเป็นแบบนี้ทุกทีสิน่า" อดิศรพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ตามเก็บเสื้อผ้าที่ถูกถอดเกลื่อนเอาไว้บนพื้นห้องใส่ลงในตะกร้าเตรียมซัก เปิดแอร์จนเย็นฉ่ำแล้วก้าวออกไปจากห้องนั้น ทิ้งเจ้านายที่เมามายให้นอนพักผ่อนอย่างสบายใจ อีกไม่นานพ่อเลี้ยงอัคราคงจะหายแล้วได้สติกลับมา ครึ่งชั่วโมงต่อมา... พ่อเลี้ยงอัคราลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดหัว ชายหนุ่มพลิกตัวไปมาพลางกดคลึงไปบนขมับทั้งซ้ายและขวา "ทำไมปวดหัวแบบนี้วะ!" เขาสบถออกมาดังๆ พร้อมยันกายลุกขึ้นนั่ง แล้วเดินไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาสวมไว้พอหลวมๆ ชายร่างสูงพาตัวเองลงไปด้านล่างหยิบยาพารามากรอกลงในปากตามด้วยน้ำสะอาดครึ่งแก้ว แล้วกลับขึ้นมานอนพักต่อ "เธอทำความสะอาดแค่ห้องนี้ก็พอ แล้วตามฉันไปช่วยหั่นผักต่อในครัวเข้าใจหรือเปล่า" "เข้าใจค่ะ" นับดาวก้มหน้าก้มตารับคำ รีบทำความสะอาดห้องดูโทรทัศน์ แล้วตามป้านอมเข้าไปช่วยหั่นผักในครัว "ป้าเธอนี่ก็ชั่วผิดมนุษย์มนานะ คนอื่นเขารักหลานห่วงหลาน ไม่อยากให้หลานตกระกำลำบาก แต่ป้าเธอกลับเอาหลานมาขาย คนจัญไร!" ป้านอมสบถออกมาลอยๆ ด้วยความหมั่นไส้และเกลียดชัง อีกทั้งยังสงสารเด็กสาวตาดำๆ ที่ถูกพาตัวมาขายเหมือนเธอเป็นสินค้า "ป้าไม่เคยรักหนูหรอกค่ะ เขาเลี้ยงหนูไว้เพราะความเวทนาก็เท่านั้น" ริมฝีปากจิ้มลิ้มผุดรอยยิ้มหยันให้กับชะตาชีวิตของตัวเองที่มันเส็งเคร็งสิ้นดี ชีวิตเธอถูกเหยียบจนป่นปี้ด้วยน้ำมือลุงกับป้า ที่เลี้ยงดูเธอราวกับเลี้ยงหมูหมา หญิงสาวกลืนก้อนน้ำตาเอาไว้ในอกแล้วจัดการกับงานตรงหน้าต่อ ร่างเล็กหั่นผักด้วยความคล่องแคล่วเพราะเป็นงานที่เธอถนัดอยู่แล้ว เหมือนที่ป้าเธอว่านั่นแหละ สิ่งที่เธอถนัดคืองานคนใช้ เพราะเธอทำมันมาตั้งแต่เริ่มจำความได้ ชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยสุขสบาย มีแต่ลำบากตรากตรำ หิวก็กินน้ำก๊อกแทนข้าว เพราะบางมื้อลุงกับป้าก็กินอาหารกันจนหมดเกลี้ยงไม่เหลือเอาไว้ให้เธอสักนิด สุนัขที่ป้าเลี้ยงยังกินอิ่มกว่าเธอที่เป็นคนซะอีก คิดแล้วก้อนสะอื้นก็ตีตื้นขึ้นมากลางยอดอกอีกครั้ง มันจุกจนเจ็บไปหมด "อย่าหาว่าป้าละลาบละล้วงเลยนะ ป้าอยากถามตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันแล้วละแต่เกรงใจ" "เรื่องอะไรเหรอคะป้า" นับดาวใช้นิ้วเช็ดคราบน้ำตาให้แห้งเหือดหาย หันมองร่างท้วมด้วยความสนอกสนใจ "คือวันนั้นป้าสังเกตเห็นว่าตามร่างกายหนูเต็มไปด้วยบาดแผล แล้วตรงแก้มก็เป็นรอยฝ่ามือ ทะเลาะอะไรกันเหรอ" นับดาวกลืนก้อนสะอื้นลงคอไปอีกครั้ง ก่อนจะเล่าความจริงให้หญิงชราฟังอย่างไม่คิดปิดบัง "ก่อนหน้าที่จะมาที่นี่หนึ่งวัน หนูโดนป้าบัวผันทุบตีมาค่ะ" "ว่าแล้วเชียว แล้วเรื่องมันเป็นมายังไงล่ะ" นับดาวสูดลมหายใจเข้าลึก หวนรำลึกถึงภาพเหตุการณ์ในคืนนั้น คืนที่ตาแก่หื่นกามพยายามลวนลามเธออีกครั้งเมื่อป้าบัวผันไม่อยู่บ้าน ดีที่เธอเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันนั้นมาได้ "หนูเกือบโดนข่มขืนค่ะป้า" "อะไรนะ!" หญิงชราอุทานออกมาดังๆ แล้วก็รีบหุบปาก "อย่าบอกนะว่า..." "ใช่ค่ะ สามีของป้าบัวผันพยายามข่มขืนหนูสองครั้ง แต่ทำไม่สำเร็จ หนูฟ้องป้าแต่ป้าไม่เชื่อหนู ป้าก็เลยทุบตีหนู หาว่าหนูใส่ร้ายลุงชา" "คนอะไร๊ ชั่วช้าทั้งผัวทั้งเมีย ดีแล้วละที่หนูได้มาอยู่ที่นี่ พ่อเลี้ยงท่านเป็นคนใจดี ติดที่ว่าอารมณ์ร้อนไปสักหน่อย ถ้าไม่ทำอะไรให้ขัดใจก็อยู่สบาย" "ค่ะป้า" "ทำงานของเราต่อดีกว่าใกล้เวลาอาหารเช้าแล้ว เดี๋ยวจะสุกไม่ทัน" "ค่ะ" สาวใช้สองคนตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารเตรียมไว้ให้เจ้านายรับประทาน ไม่นานอาหารทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย นับดาวทยอยนำอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะกินข้าว "นับดาวไปล้างจานในครัวเถอะ เดี๋ยวป้าจะดูแลพ่อเลี้ยงเอง" "ค่ะป้า" นับดาวเดินห่างออกมาเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น ก็ได้ยินเสียงแจ๋นๆ ดังขึ้นที่ห้องรับประทานอาหาร "หน้าที่ดูแลพ่อเลี้ยงไว้เป็นหน้าที่ฉัน ป้าเข้าครัวไปเถอะ" "สะเออะ!" "นี่ป้า! มาว่าฉันทำไมเนี่ย" "ก็กูจะว่า..มึงจะทำไมอีนังรำภา เพิ่งมาได้ไม่กี่วันทำมาเป็นจุ้นจ้าน" "ก็ฉันเป็นเมียคุณอัคร หน้าที่ดูแลท่านก็ต้องตกเป็นของฉันสิ" "อี๊!! อีนังคางคกขึ้นวอ นอนกับพ่อเลี้ยงแค่คืนเดียวเขาไม่เรียกว่าเมียหรอกโว้ย เขาเรียกนางบำเรอ" "อีป้า! แก่แล้วไม่เจียมสังขาล เดี๋ยวแม่ตบให้ฟันร่วงหมดปากเลย" "ก็มาสิโว้ย กูไม่กลัวมึงหรอก ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ก่อนที่กูจะเอาส้นตีนยัดปากมึงอะ" "ใครกลัวกันคะ แก่ๆ แบบนี้กูตบเรียงตัวมาหลายคนแล้ว!" "เอะอะอะไรกัน!" เสียงทรงอำนาจดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้สองคนที่กำลังเถียงกันอย่างสนุกปากต้องรีบรูดซิปปาก "ไม่มีอะไรค่ะพ่อเลี้ยง" ประนอมแม่บ้านเก่าแก่เอ่ยบอกเสียงเรียบ พลางก้มหน้าเพื่อหลบสายตา "แล้วไอ้ที่เอะอะมะเทิ่งกันเมื่อกี้มันคืออะไรครับป้า" "อะ..เอ่อ พอดีว่าเรามีเรื่องถกกันนิดหน่อยค่ะ ไม่มีอะไรสำคัญหรอกค่ะ" "ป้าแน่ใจนะ" "ค่ะ" "เด็กใหม่เป็นยังไงบ้างครับ" "หนูนับดาวทำงานดีค่ะ ขยัน ไม่เหมือนคนบางคนแถวนี้หรอกค่ะ ขี้เกียจสันหลังยาว" "อ้าวป้า พูดถึงหนูดีๆ หน่อยสิคะ นี่เท่ากับกล่าวหากันนะ" "ใครกล่าวหามึงไม่ทราบ" "เอาละเอาละ หยุดเถียงกันสักทีเถอะครับ ผมปวดหัว" "แต่ว่า..พ่อเลี้ยงขา.." รำภาทำหน้าออดอ้อนพยายามเดินเข้าไปใกล้แต่โดนสายตาคมดุตวัดใส่ "เธอมีปัญหาอะไรรำภา ถ้าทำตัวมีปัญหามากก็เชิญออกไปซะ ฉันรำคาญ!" "พ่อเลี้ยงอย่าไล่หนูออกเลยนะคะ หนูจะไม่ทำตัวมีปัญหา จะตามใจพ่อเลี้ยงทุกอย่าง" รำภาออดอ้อนเสียงหวาน "ถ้าอยากทำงานที่บ้านของฉัน ต้องไม่ทำตัวจุ้นจ้าน แล้วอย่าคิดว่าแค่ได้นอนกับฉัน มันจะทำให้เธอมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น เธอมันก็แค่คนใช้รู้ตัวเอาไว้!" "พ่อเลี้ยง..แต่ว่าพ่อเลี้ยงได้หนูเป็นเมียแล้วนะคะ" อัคราแสยะยิ้มมุมปาก "นอนกันแค่ครั้งเดียวเขาไม่เรียกเมียหรอกนะ วันไนท์เธอรู้จักมะ! น้ำแตกก็จบ ต่างคนต่างอยู่แยกย้าย" "แต่ว่า.." "ถ้าไม่เข้าใจก็ออกจากบ้านฉันไปเลย ฉันไม่ชอบคนพูดไม่รู้เรื่อง!" "ไม่นะคะพ่อเลี้ยง อย่าไล่หนูออกเลยนะคะ หนูจะไม่ทำตัวมีปัญหาอีกแล้วค่ะ" อัครากดยิ้มมุมปาก จ้องมองใบหน้าสวยหวานที่พยายามบีบน้ำตาเรียกคะแนนสงสาร "เอาละ..ฉันจะไม่ไล่เธอออกก็ได้ แต่ฉันจะให้เธอย้ายแผนก จากตำแหน่งแม่บ้าน ไปเป็นคนงานในสวนสตรอว์เบอร์รี่แทน" "นี่พ่อเลี้ยงจะให้รำภาไปทำงานกลางแดดเหรอคะ ไม่เอาอะ ผิวสวยๆ ของรำภาก็ดำหมดน่ะสิคะ" "แล้วจะทำหรือเปล่าล่ะงานนะ" "ทะ..ทำค่ะ" "ถ้าทำก็ไม่ต้องพูดมาก ออกไปได้ละ ฉันจะกินข้าว เห็นหน้าเธอแล้วฉันกินข้าวไม่ลง" "ค่ะ" รำภาเดินคอตกออกจากห้องรับประทานอาหาร เจอประนอมยืนยิ้มอย่างเยาะหยัน "กูอยากหัวเราะให้ฟันร่วงหมดปาก คนอะไร๊..ตกกระป๋องเร็วกว่าจรวจ สมน้ำหน้า!!" "อ๊าย!! อีป้า! ทำไมพูดจาหมาๆ อย่างนี้วะ! พูดแบบนี้มาตบกันเลยมั้ย!" "ก็มาสิยะ! อีนังคางคกขึ้นวอ กูไม่กลัวมึงหรอก มึงอยากเสียโฉมก็เข้ามา!" "อ๊าย! ฝากไว้ก่อนเถอะอีแก่!"เช้าวันต่อมา....อัคราเดินลงมาพร้อมหน้าตาที่สดใสเพราะเมื่อคืนเขาได้ปลดปล่อยไปหลายน้ำ เจ้าตัวเล็กใส่ชุดนักเรียนเรียบร้อยวิ่งมากระซิบถาม"คุณพ่อทำน้องให้เปาแล้วใช่ไหมครับ""ทำแล้วครับ น้องเปาเก่งมากเลยนะที่ไม่งอแงอะ""เปาเก่งอยู่แล้วครับ ลูกพ่อซะอย่าง"อัคราโยกศีรษะทุยได้รูปอย่างแสนรัก"อ้าวนั่น คุณแม่ลงมาแล้วครับ"นับดาวเปิดรอยยิ้มกว้างเมื่อเดินลงมาด้านล่างแล้วเจอสองพ่อลูกกำลังคุยกัน"คุยอะไรกันอยู่เหรอคะพ่อลูก"อั่งเปายิ้มประจบ "คุณแม่มานั่งตรงนี้สิครับ เปามีเรื่องจะบอกครับ""เรื่องอะไรเหรอครับ"นับดาวถาม อัคราก็ตั้งใจฟัง"วันจันทร์จะมีกิจกรรมแข่งกีฬาสีที่โรงเรียน คุณครูบอกว่าให้ผู้ปกครองไปร่วมกิจกรรมด้วยครับ""แล้วเปาอยู่สีอะไรครับ" นับดาวถามสีหน้าเบิกบาน"เปาอยู่สีเขียวครับ คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมไปนะ เปาแข่งวิ่งผลัดกับเตะฟุตบอลด้วย"นับดาวลูบศีรษะทุยอย่างแสนรัก รู้สึกภูมิใจในความน่ารักน่าชัง กล้าแสดงออก และมีความเป็นผู้นำของเจ้าหนูน้อย"พ่อกั
สามปีต่อมา...."โอ๊ย!! เหม็นตดจังเลยครับ คุณพ่อทำไมชอบตดในผ้าห่มจัง เปาเหม็นจะเป็นลมแล้วครับ"อัคราทำหน้าเลิ่กลักก่อนจะยอมรับออกมา "พ่อขอโทษครับ มันอั้นเอาไว้ไม่ไหวจริงๆ""รีบลุกไปเข้าห้องน้ำเลย..เหม็นอะ"อั่งเปาใช้นิ้วบีบจมูกตัวเองไปพลาง ฝ่ามือเล็กอีกข้างดันอกพ่อให้รีบๆ ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ เจ้าตัวเล็กหันมาถามมารดาที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ "แม่ไม่เหม็นบ้างเหรอครับ ตดพ่อกลิ่นแรงจะตาย"นับดาวหันมองหน้าสามีเล็กน้อย "แม่ชินแล้วล่ะจ้ะ" หล่อนโยกศีรษะทุยได้รูปของเด็กช่างพูดไปพลางหัวเราะขบขันไปพลาง"คุณพ่อไปเข้าห้องน้ำสิครับ เดี๋ยวก็ตดออกมาอีกหรอก คุณแม่เรารีบเผ่นหนีออกจากห้องก่อนดีกว่า เปาไม่อยากได้กลิ่นตดพ่ออะ"อัคราหัวเราะก๊าก ขบขันในความช่างพูดของเจ้าตัวเล็กนั่น เขารีบลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำกิจวัตร นับดาวถูกเด็กสามขวบฉุดกระชากให้ลงจากเตียง"เราเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันกันก่อนนะครับอั่งเปาแล้วค่อยลงไปทานข้าวเช้า""ได้ครับ เอาอุลตร้าแมนไปล้างหน้าแปรงฟันด้วยได้หรือเปล่าครับ""ได้สิจ๊ะ"
หนึ่งอาทิตย์ถัดมา....นับดาวถูกพาตัวมาโรงพยาบาลราวตีสองกว่า เพราะมีอาการปวดท้องเป็นระยะ นับดาววิ่งเข้าห้องน้ำหลายรอบติดกัน เพราะรู้สึกปวดอุจจาระ แต่พอเข้าไปในห้องน้ำกลับถ่ายไม่ออกเสียอย่างนั้น อีกยี่สิบนาทีหลังจากนั้น มันก็ยิ่งรู้สึกคล้ายปวดอุจจาระถี่ขึ้น ความเจ็บไต่ระดับมากขึ้น พร้อมกับมีมูกเลือดไหลออกมาด้วย อัคราเลยพาภรรยาคนสวยมาโรงพยาบาล "ตอนนี้มดลูกเปิดสี่เซ็นแล้วนะคะ คุณแม่พยายามหายใจเข้าลึกๆ แล้วผ่อนออกทางปาก มันจะเพิ่มอากาศให้ลูกในท้องได้ค่ะ ลองทำดูนะคะ"พยาบาลวิชาชีพแนะนำวิธีหายใจที่ถูกต้องให้นับดาวรู้ไว้ เพราะสามารถลดความเจ็บปวดเวลามดลูกบีบรัดตัวได้ แถมยังเพิ่มออกซิเจนให้กับลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์มารดาสิบห้านาทีต่อมา คุณหมอกลับมาที่เตียงของเธออีกครั้ง"หมอขอตรวจดูหน่อยนะครับ ว่ามดลูกเปิดเยอะหรือยัง""ค่ะ"นับดาวพยักหน้ารับ หล่อนหายใจทางจมูกแล้วปล่อยออกทางปาก รู้สึกเจ็บปวดจนทรมาน"มดลูกเปิดแปดเซ็นแล้วครับ เตรียมตัวเข้าห้องคลอดเลยนะ ทำใจให้สบาย เบ่งให้สุดแรงเกิดเลย""ค่ะคุณหมอ"
ณ โรงพยาบาลชื่อดังประจำจังหวัดนับดาวถูกพาตัวมาโรงพยาบาลในเวลาตีสอง เธอมีอาการปวดท้อง มวลท้องเป็นระยะ นายแพทย์อชิระเป็นผู้ตรวจรักษา"คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะครับ อาการนี้เรียกว่าอาการเจ็บเตือนไม่มีอันตรายอะไร แต่ถ้าหากกลับบ้านไปแล้วมีอาการเดิมคือปวดท้อง แล้วมีมูกเลือดหรือว่าน้ำเดินด้วยให้รีบมาโรงพยาบาลเลยนะครับ""ค่ะ" นับดาวตอบรับ สีหน้าคลายกังวลลงมากเมื่อได้ยินอย่างนั้น"ตอนนี้มีอาการตึงแน่นบริเวณท้องน้อยด้วยหรือเปล่าครับ""นิดๆ ค่ะ" นับดาวตอบกลับเสียงแผ่ว"หมออัลตร้าซาวด์ดูแล้วอีกสองอาทิตย์ถึงจะคลอดนะครับ คลาดเคลื่อนไม่เกินเจ็ดวัน คุณแม่ดูที่หน้าจอมอนิเตอร์สิครับเจ้าตัวเล็กซนใหญ่เชียว กระดุกกระดิกตัวเก่งแบบนี้คุณแม่ก็เลยปวดท้องน้อย ดูสิครับนั่นทั้งเตะทั้งต่อย คงอยากจะออกมาข้างนอกเต็มแก่ เด็กแข็งแรงมากเลยครับ"นับดาวยิ้มรับ หันมองหน้าจอด้วยหัวใจเบิกบานเมื่อเห็นลูกน้อยที่อยู่ในท้องเคลื่อนไหวอย่างอิสระ อั่งเปาดิ้นเก่งมาก แข็งแรงมาก เดี๋ยวก็ยกแขน เดี๋ยวก็ยกขา หน้าท้องของเธอตึงนูนขึ้นเป็นระยะ เคลื่อนไหวราวเกลียวคลื่นในทะเลสาป
หลายเดือนต่อมา....ร่างอุ้ยอ้ายหย่อนกายลงนั่งบนโซฟาตัวหนาสีดำ ในมือถือตะกร้าที่มีไหมพรมหลายม้วนนอนกองอยู่ในนั้น หล่อนกำลังถักถุงเท้าเอาไว้ให้ลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่วันถุงเท้าสีขาวเสร็จไปแล้วหนึ่งข้าง เหลืออีกหนึ่งข้างที่เธอต้องถัก นับดาวตั้งใจถักไปทีละชั้น ไม่นานนักถุงเท้าสองข้างก็เสร็จเรียบร้อย หล่อนยิ้มด้วยความภูมิใจ เพราะมันออกมาสวยน่ารัก ปราณีตไม่ผิดจากแบบในนิตยสาร"แม่เลี้ยงกำลังทำอะไรอยู่คะ" ประนอมเดินถือถาดของว่าง เป็นผลไม้หลากหลายสีสันมาให้แม่เลี้ยงคนงาม ที่ยิ่งท้องแก่ก็ยิ่งเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้นมาก"หนูถักถุงเท้าให้อั่งเปาอยู่ค่ะ""เหรอคะน่ารักเชียว" ประนอมยิ้มหยิบถุงเท้าคู่เล็กขึ้นมาพิจารณา "ช่างปราณีตเหลือเกินค่ะ มองปราดเดียวก็รู้ว่าตั้งใจทำ สวยมากเลยค่ะ" ประนอมเอ่ยชมไม่หยุดปาก"ขอบคุณค่ะ" นับดาวยิ้มรับ หยิบไหมพรมสีฟ้าครามขึ้นมาถักเป็นลูกโซ่"แล้วนั่นแม่เลี้ยงจะถักเป็นอะไร ใช่ถุงเท้าไหมคะ" ประนอมถาม พร้อมระบายยิ้มบางๆ"หนูจะถักหมวกค่ะ""เหรอคะ แบบไหนป้าอยากเห็นจังเ
เช้าของวันใหม่....แสงแดดอ่อนทอประกายลงมาจากฟากฟ้า ชุบเลี้ยงชีวิตหมู่มวลบุปผาและต้นไม้ใบหญ้าให้เจริญงอกงาม ผลิดอกออกผลขยายกิ่งก้านเติบโตตามครรลองของธรรมชาติ ภายนอกห้องนอนนั้น มีกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์โดยเฉพาะกุหลาบตลบอบอวลรอบๆ คฤหาสน์ สกุณาเจื้อยแจ้วร้องเพลงขับขานเป็นท่วงทำนองน่าฟัง บ้างก็คล้ายกับคนกำลังสนทนากันดังจิ๊บๆ ท่ามกลางความเงียบสงัดแพขนตาหนาค่อยๆ ขยับขึ้นลงช้าๆ เมื่อผู้เป็นเจ้าของกำลังจะลืมตา อัคราตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ที่แสนสดใส เขาเหลือบมองเจ้าร่างน้อยที่ผ่านเรื่องราวเลวร้ายมาเมื่อวาน เธอคงเสียขวัญมากสินะ ถึงได้ร้องไห้จนหลับ"อรุณสวัสดิ์ครับ"ปลายจมูกโด่งกดลงบนพวงแก้มนิ่มของเธอหนึ่งครั้งเพื่อเป็นการบอกรักและปลุกเจ้าร่างน้อยในเวลาเดียวกัน นับดาวขยับตัวยุกยิกไปมาในอ้อมแขนกำยำจนความนุ่มนิ่มบดเบียดกับความแข็งแกร่งตรงกลางร่างของคนที่นอนอมยิ้มอยู่ข้างๆ ทำให้อะไรบางอย่างตื่นตัวโดยอัตโนมัติ"อื้ม..เช้าแล้วเหรอคะ" ดวงตากลมโตขยับเปิดออกจนกว้างรับอรุณของเช้าวันใหม่ที่สดใสกว่าเมื่อวาน"ครับ" อัคราพยักหน้ารับ ไล้ข้อ







