หลังจากคุณภัทรเดินออกไปจาก ส.ภ ส่วนผึ่งตนไม่รอให้ถึงวันพรุ่งนี่แต่จะต้องเป็นตอนนี่ที่จะออกเดินทางแต่คุณชายนั้นไม่ได้ไปเพียงลำพังข้างกายเขามีชายฉกรรจ์สามคน ลูกน้องผู้ภักดีมาตั้งแต่สมัยยังอยู่บ้านใหญ่ที่กรุงเทพฯ แต่ละคนล้วนมีฝีมือจัดจ้านไม่แพ้ทหารฝึกดี ๆหมื่น มือดาบที่ขึ้นชื่อว่าฟันต้นไผ่ล้มได้ในทีเดียวคำรบ หนุ่มร่างล่ำ เชี่ยวชาญการยิงปืนยาว แม่นยำเสียจนไม่เคยพลาดเป้าสิน หน้าตาเจ้าเล่ห์ที่สุดในกลุ่ม คล่องแคล่ว ปราดเปรียว รู้จักป่าแทบทุกซอกมุมคุณชายภัทรหันไปมองทั้งสามก่อนเอ่ยเสียงชัด"คราวนี้เราจะเข้าไปกลางดงเสือ…ไม่ใช่เพื่อทองคำ ไม่ใช่เพื่อเกียรติ แต่เพื่อพาจอมขวัญกลับมา พวกมึงพร้อมหรือไม่?""พร้อมครับคุณชาย!" ทั้งสามตอบเป็นเสียงเดียว กำลังใจเต็มเปี่ยมเมื่อม้าถูกจูงออกมา คุณชายภัทรก็ขึ้นขี่ด้วยท่วงท่าสง่า เขาเหลียวมองเส้นทางที่ทอดยาวเข้าสู่ป่าใหญ่ สีหน้าฉายแววกังวล แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว"จอมขวัญ…พี่จะไม่ปล่อยให้เธอต้องอยู่ท่ามกลางพวกโจรนั่นเพียงลำพัง" คิดในใจแต่! ทันใดนั้น"หยุดนะ!"โจรสี่ห้าคนโผล่ออกมาจากสองข้างทาง หน้าตาเต็มไปด้วยรอยแผล แต่ละคนถือดาบและมีด พวกม
(ตัดภาพมาที่ฝั่งจ่าแฉล้ม)เช้าวันถัดมา แสงแดดอุ่น ๆ ส่องลงบนหลังคาสังกะสีของ สภ.อ.สวนผึ้ง บรรยากาศในโรงพักกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากเงียบเหงาไปหลายวันจ่าแฉล้มเดินก้าวเข้ามาด้วยท่าทางมั่นคง แม้เพิ่งหายดีจากแผลถูกยิง แต่แววตายังคมกริบเหมือนเดิม เขาสวมเครื่องแบบเรียบร้อย หมวกตำรวจบังแสงแดดที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง"โอ๊ะ…จ่า! หายดีแล้วรึนั่น?"เสียงหมวดหนุ่มที่นั่งจัดแฟ้มเงยหน้าขึ้นทักด้วยรอยยิ้มโล่งใจจ่าแฉล้มยกยิ้มมุมปาก ตบที่สีข้างตัวเองเบาๆ "แผลมันก็ยังเจ็บ ๆอยู่แต่ยิงฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอก"เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นในโรงพัก บรรยากาศผ่อนคลายลงถนัดตา แต่แววตาของทุกคนยังซ่อนความกังวล เพราะข่าวการอาละวาดของเสือใบและลูกน้องเริ่มหนาหูขึ้นทุกวันจ่าแฉล้มกวาดตามองรอบห้อง ก่อนจะถอนหายใจยาว เขาหยิบแฟ้มคดีบนโต๊ะขึ้นมาเปิด แล้วพูดเสียงหนักแน่น“พวกเสือหาญมันก็ยังเป็นปริศนา… แต่ไอ้เสือใบต่างหากที่เราต้องเร่งจัดการ ไม่งั้นชาวบ้านจะลำบากไปมากกว่านี้”ทันใดนั้นลูกน้องคนสนิทรีบเดินเข้ามา ทำความเคารพก่อนรายงานเสียงหนักแน่น"จ่า…ผมได้ข่าวสำคัญครับ"จ่าแฉล้มเลิกคิ้ว "ว่ามา…อย่าอ้อมค้อม"นายตำรวจหนุ
ไฟคบเพลิงในหมู่บ้านสนธยาถูกจุดไว้สว่างไสว ท่ามกลางความเงียบของค่ำคืน แต่เมื่อเงาร่างของเสือหาญกับไอ้สันขวานก้าวเข้ามา ทุกคนก็รีบลุกขึ้นยืนเรียงรายทันทีเสือบุญยืนอยู่แถวหน้า แขนกอดอก ดวงตาคมกริบจ้องทั้งสองคนที่เปื้อนเลือดและเหงื่อเต็มตัว ใบหน้าของเขานิ่ง แต่แววตาแฝงความคาดหมาย"กลับมาแล้วสินะ…" เสือบุญเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มหนัก ก่อนจะกวาดตามองทั้งคู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า"แล้วผลเป็นยังไง?"ทุกสายตาในหมู่บ้านจับจ้องไปยังเสือหาญ บ้างก็เต็มไปด้วยความสงสัย บ้างก็เปี่ยมด้วยความชื่นชมเสือหาญเช็ดเลือดที่เปื้อนข้างแก้ม พลางถอนหายใจเบา ๆ"ศพเกลื่อนป่า…แต่ตัวการยังไม่โผล่" น้ำเสียงเรียบเย็นเหมือนเหล็กแข็งกระแทกหินไอ้สันขวานหัวเราะหึ ๆ แล้วโบกขวานที่ยังเปื้อนเลือดโชว์ "ฮ่า ๆ ฉันว่าโจรมันคงเข็ดจนหัวหดไปพักใหญ่แน่ ๆ ลุงเสือบุญ…แต่เสือใบมันไม่จบง่าย ๆ หรอก"เสียงฮือฮาเบา ๆ ดังขึ้นจากกลุ่มคนในหมู่บ้าน ชายหนุ่มหลายคนมองหน้ากันด้วยความตื่นเต้นปนหวาดกลัว ชาวบ้านที่ยืนมองอยู่ก็ปิดปากตัวเองด้วยความตกใจเสือบุญขยับก้าวเข้ามาใกล้ ดวงตายังคงตรึงแน่นที่เสือหาญ "ฝีมือเจ้ายังไม่ตกจริง ๆ…เสือหาญ" เขาพูดช้า ๆ"แต
กลางค่ำคืน ณ เรือนใหญ่ที่ตั้งอยู่ลึกในป่า เสียงฝีเท้าม้าวิ่งตะบึงมาจนฝุ่นตลบ ชายคนหนึ่งร่างกร้านรีบกระโจนลงจากหลังม้า ก่อนจะคุกเข่าลงต่อหน้าเสือใบ หัวหน้าโจรผู้มีชื่อเสียงอันเลื่องลือ"นายท่าน…ข้า…ข้ามารายงาน…แผนลักลอบขนสินค้าครั้งนี้…ล้มเหลวสิ้นครับ!"เสือใบที่นั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ แววตาเย็นเฉียบ หรี่ตามองคนรายงานด้วยความกราดเกรี้ยว “ล้มเหลว…หมายความว่ายังไง?”"พวกมือสังหารที่ถูกส่งไป…ถูกฆ่าตายหมดสิ้นครับนายท่าน! ที่เหลือก็แตกหนีเอาชีวิตรอดมาเล่า…พวกเขาบอกว่าเป็นฝีมือ…ของเสือหาญ!"สิ้นคำรายงาน ความเงียบงันกดทับไปทั่วเรือนใหญ่ จนเสียงหายใจยังฟังชัดเจน เสือใบค่อย ๆ ลุกขึ้น ดวงตาวาวโรจน์"เสือหาญ…" เสียงต่ำทุ้มเต็มไปด้วยโทสะ "ไอ้ลูกเสือหลงคนนั้น…กลับกล้ามาเหยียบย่ำเส้นทางของกูอีกครั้ง!"เขากำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าฝ่ามือ เลือดซึมออกมาทีละหยด ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ แต่เต็มไปด้วยความอาฆาต"ดี…ในเมื่อมันอยากเล่นกับกู…กูก็จะทำให้มันรู้ ว่าระหว่าง ‘เสือหาญ’ กับ ‘เสือใบ’…ใครคือเสือแท้ ใครคือหมาไร้เงา!"เสียงหัวเราะก้องสะท้อนลึกในค่ำคืน ทำเอาคนรายงานหน้าซีดเผือด กลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้น"ฟังใ
ภายในพริบตาเดียวพวกลูกน้องพ่อค้าเศรษฐีวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง ตอนนี่เหลือแต่มือสังหารที่คุมขบวนที่ยืนประจันหน้ากับพวกเสือบุญในขณะนั้นเสือหาญเดินขึ้นมาจากด้านหลังหลังจากไล่ฆ่าทีเหลือทิ้งไว้ในป่า เขาจับไหล่บอกให้จอมนั้นถอยออกไปอย่ามายืนอยู่ตรงนี่"เอ็งหลบไปไอ้จอม" น้ำเสียงทุ้มต่ำพร้อมสีหน้าดุดันเขาจับไหล่บางๆไอ้จอมขยับออกเล็กน้อยแล้วเดินขึ้นนำด้านหน้าทันใดนั้น...มือสังหารยกดาบสั้นออกมา ดวงตาเจือรอยยิ้มเย็น "มึงคือเสือหาญสินะ…ได้ยินชื่อมานานแล้ว"ยังไม่ทันที่ใครขยับ ร่างนั้นก็พุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว เสือหาญยกดาบรับทัน ดาบทั้งสองกระแทกกันเสียงแหลม เคร้ง! จนสะเก็ดไฟปลิวว่อนไอ้จอมที่อยู่ไม่ไกลตะโกน "พี่หาญ!! ระวังมันนะโว้ย!!"เสือหาญไม่ตอบ เขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะประมาทได้มือสังหารชำนาญเคลื่อนไหวรวดเร็ว วาดดาบเข้าใส่จากมุมที่ยากจะป้องกัน ทุกครั้งที่เสือหาญรับไว้ได้ แขนก็ชาหน่วงเพราะแรงกดมหาศาลแต่แล้วดวงตาคมของเสือหาญวาววับ มือซ้ายที่ซ่อนอยู่ในเสื้อค่อย ๆ เลื่อนลงไปคว้ามีดเล่มเล็ก ขนาดเท่าฝ่ามือที่เหน็บไว้ตรงข้างเอว"คราวนี้…ถึงตาข้าแล้ว"เพียงเสี้ยววินาที เสื
รุ่งเช้าของหมู่บ้านสนธยา แสงแดดแรกลอดผ่านยอดไม้ลงมาทาบกับหลังคาเรือน เสียงไก่ขันประสานกับเสียงคนในหมู่บ้านที่ตื่นกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักผิดจากความเงียบสงบเมื่อคืนพวกผู้หญิงช่วยกันห่อข้าวต้มมัด ทำห่อข้าวใส่กระบอกไม้ไผ่สำหรับพกติดตัว ส่วนชายหนุ่มแต่ละคนก็เดินตรวจอาวุธ มีทั้งดาบสั้น ดาบยาว ธนู และปืนที่ซ่อนพกไว้เสือบุญยืนกอดอกอยู่หน้าลาน สายตาคมกวาดมองลูกน้องทีละคน ก่อนตะโกนเสียงดัง "วันนี้…เราจะออกไปล่าของจริง! ใครใจไม่ถึงก็ถอยตั้งแต่ตอนนี้"เสียงโห่รับจากพวกโจรดังลั่นสนั่นป่า ทำเอาบรรยากาศฮึกเหิมทันตาเสือหาญยืนอยู่ข้างไอ้จอม กำลังตรวจดาบที่ผูกกับเอว เขาก้มลงนิดหนึ่งก่อนกระซิบ "อย่าลืม…ตามฉันให้ติดล่ะ ไอ้จอม อย่าทำตัวซุ่มซ่ามเหมือนเมื่อคืนอีก"ไอ้จอมหน้าขึ้นสีเล็กน้อย แต่ก็พยายามทำเสียงแข็งกลบเกลื่อน "เออ ๆ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะพี่หาญ ฉันดูแลตัวเองได้"เสือหาญหัวเราะหึในคอ พลางยกมือขึ้นยีหัวมันเบา ๆ จนผมกระจุกยุ่ง "ถ้าไม่อยากให้ฉันเป็นห่วง ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วกัน"ระหว่างนั้น ไอ้สันขวานกับไอ้กระบานก็เดินถือกระสอบใบใหญ่เข้ามา แอบหันมากระซิบกันเองเสียงเจ