เจ้าสมุทร...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นหลายต่อหลายครั้งทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองประตู แต่ถามว่าผมลุกไปเปิดไหม...ก็ไม่
แอร๊ดดดดด สักพักเสียงประตูเปิดออกอย่างช้าๆคล้ายกับว่าคนเปิดพยายามที่จะไม่ทำเสียงดังแต่ผมก็ได้ยินตั้งแต่เคาะแล้วล่ะแค่ขี้เกียจลุกไปเปิดก็เท่านั้น ประตูเปิดพร้อมกับคนรับใช้กิตติมศักดิ์ของพ่อที่ท่านบอกกับผมว่ายัยนี่ไม่ใช่คนรับใช้ท่านเลี้ยงเหมือนลูกเหมือนหลานมากกว่า หึ ผมเชื่อตายล่ะ
"ไง..ฉันนึกว่าเธอจะโง่ยืนเคาะประตูอยู่ตรงนั้นทั้งวันทั้งคืนซะอีก" ผมมองคนตรงหน้าแบบพิจารณาอยากจะบอกว่าผมมีความรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกเหมือนเคยสายตาแบบนี้มาก่อน ผมจำแววตาแบบนี้ได้แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหนเพราะผมไปอยู่อเมริกาตั้งแต่เจ็ดขวบเพิ่งกลับมาไทยครั้งแรก แต่ก็ช่างมันเถอะคิดไปก็ไร้สาระเพราะมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรและอีกอย่างยัยนี่เป็นแค่คนรับใช้ที่บ้านที่แม้ว่าพ่อจะบอกว่าไม่ใช่แต่ดูจากสภาพ....ยังไงก็คนรับใช้สภาพซอมซ่อซะขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเสื้อผ้าที่ใส่ใช้มันมากี่วันกี่ปีแล้วเพราะมันทั้งซีดทั้งเก่ามีรอยปะรอยเย็บจนผมคิดว่าผ้าเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำยังสะอาดกว่านี้เลย
"ยังดีที่รู้จักหน้าที่นึกว่าฉันต้องเดินกลับไปตึกใหญ่แล้วยกกระเป๋ามาเอง" ผมพูดโดยที่คนตรงหน้าเอาแต่ยืนก้มหน้า
"เอากระเป๋าฉันขึ้นไปเก็บที่ห้องแล้วก็จัดการแขวนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยของใช้ก็จัดวางไว้ให้เป็นระเบียบเข้าใจไหม" พอผมพูดจบประโยคยัยนี่ก็แค่พยักหน้ารับก่อนจะลากกระเป๋าของผมผ่านหน้าไปโดยไม่พูดไม่จาสักคำ ผมมองตามหลังก่อนจะหันกลับมาสนใจเครื่องดื่มตรงหน้าต่อ
ตึ๊ดดดดด ตึ๊ดดดดด ตึ๊ดดดดด
เสียงมือถือผมดังพอหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นเจษผู้จัดการโรงแรม
"มีอะไร"
"คุณเจ้าสมุทรครับเรื่องที่ให้ผมจัดการตอนนี้ผมติดต่อคุณคิตตี้ให้แล้วนะครับพอเธอรู้ว่าเป็นคุณเจ้าสมุทรเธอก็ถามผมว่าจะให้เธอไปพบเมื่อไหร่" ผมแสยะยิ้มมุมปากทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น
"หึ นึกว่าจะเล่นตัวซะอีก นายบอกไปว่าเดี๋ยวจะติดต่อกลับไปตอนนี้ฉันยังไม่มีอารมณ์ยังไม่อยากใช้บริการ"
"อ่ออ ครับๆ ถ้าอย่างนั้นผมคงไม่รบกวนแล้ว สวัสดีครับ"
หลังจากวางสายผมก็ยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเปิดดูรูปของนางแบบดาวรุ่งที่ตอนนี้เธอกำลังโด่งดังแบบสุดๆในเวลานี้เธอชื่อว่าคิตตี้เธอดูสวยและดูหยิ่งเวลาเดินอยู่บนเวที ผมเจอเธอที่งานเดินแบบที่มีการประมูลเครื่องเพชรซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมของผมเองเมื่อหลายวันก่อนเธอถูกเชิญให้มาเดินแบบงานนี้ที่ตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจที่จะไปดูเพราะผมไม่ชอบเครื่องเพชรแต่พอดีว่างานนี้เจ้าของงานคือเพื่อนสนิทสมัยเรียนที่อเมริกาของผมเองมันชื่อไอ้นุซึ่งพอมันเรียนจบมันก็กลับไทยมาช่วยพ่อแม่มันดูแลกิจการร้านเพชรมันก็เลยชวนผมไปเป็นแขกในงานโดยมันเอาเรื่องผู้หญิงมาล่อมันบอกว่างานนี้ดารานางแบบดังๆ มาเดินแบบกันเยอะ ไอ้ผมก็ชอบอยู่แล้วก็เลยไปร่วมงานตามคำเชิญของมัน และผู้หญิงในงานที่ผมสนใจก็คือคิตตี้นางแบบที่กำลังดังที่สุดในตอนนี้และที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือเธอเป็นหลานสาวของผู้หญิงที่ชื่อพิไลลักษณ์ผู้หญิงที่พ่อของผมกำลังคบอยู่นั่นเองและในงานนี้ผมก็ได้เห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นผู้หญิงที่พ่อจะเอามาแทนที่แม่ของผม แค่คิดผมก็รู้สึกโกรธแค้นอยากหาที่ระบาย ผมเลื่อนเบอร์ในมือถือเพื่อที่จะโทรเรียกติน่ามาแต่พอคิดถึงวันนั้นผมก็โยนมือถือลงข้างๆอย่างอารมณ์เสียแทนเอามาก็คงไม่ได้ช่วยอะไรหลวมซะขนาดนั้น ผมนั่งดื่มอีกสักพักจนเหล้าหมดขวดก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องเพราะเริ่มไม่ไหวสงสัย
ม่านไหม...
แอร๊ดดดด ฉันที่กำลังจัดการกับกระเป๋าเดินทางของคุณเจ้าสมุทรต้องรีบหันไปมองที่ประตูทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอน พอเขาเห็นว่าฉันอยู่ในห้องเขาก็ทำหน้าไม่พอใจใส่ทันที
"จัดของยังไม่เสร็จ??" เขาถามฉันเสียงเข้มซึ่งตอนนี้ดูแล้วเขาน่าจะเมา ฉันคงจะต้องรีบออกไปเพราะไม่อยากรบกวน
"ถามทำไมไม่ตอบวะ" ฉันไม่รู้จะว่ายังไงเพราะเขาคงไม่รู้ว่าฉันพูดไม่ได้ ฉันก็เลยหยิบสมุดออกมาจากกระเป๋ากระโปรง
ฉันพูดไม่ได้ค่ะ ฉันยื่นกระดาษที่เขียนให้เขาอ่านเขาไม่ได้หยิบไปแต่ก้มมองดูแทนก่อนจะเงยหน้ามองฉันอีกรอบ
"เป็นใบ้??" ฉันพยักหน้าตอบ
"เหอะ พ่อฉันคิดยังไงเอาคนใบ้มาทำงานวะ"
"เธออยู่นี่กี่ปีแล้ว"
สิบสองปีแล้วค่ะ
"นานนี่หว่า ว่าแต่เธออายุเท่าไหร่"
สิบแปดจะสิบเก้า ค่ะ
"หึ ถามหน่อยดิเธอเป็นอะไรกับพ่อของฉันกันแน่ เป็นหลานอย่างที่ท่านบอกกับฉันหรือว่าเป็น...เมีย"
ฉันเป็นคนรับใช้ค่ะ ฉันรีบเขียนคำตอบทันทีแล้วยื่นให้เขาอ่าน
"ดูจากสภาพของเธอฉันก็คิดแบบนั้นแล่ะแต่พ่อฉันบอกว่าไม่ใช่ แต่ก็ช่างเหอะถ้าเธอจะเป็นอะไรก็เรื่องของเธอ เอาล่ะออกไปได้ละฉันจะนอน" ฉันรีบพยักหน้าก่อนจะรีบเดินออกไปจากห้องทันที
วันต่อมา...
"ลุงว่าจะขอให้ม่านไปอยู่ที่ตึกเล็กไปช่วยดูแลตึกเล็กคอยดูแลคุณเจ้าสมุทรจะได้ไหมลูก" คุณท่านเอ่ยถามฉันหลังจากที่ฉันจัดยาให้ท่านทานเรียบร้อยแล้ว
ได้ค่ะ แต่ถ้าม่านไปอยู่ตึกเล็กใครจะดูแลเรื่องยาให้คุณท่านคะ เพราะถ้าฉันต้องไปอยู่ตึกเล็กแล้วใครจะจัดยาให้คุณท่านเพราะท่านต้องทานยาหลังอาหารสามมื้อไหนจะยาก่อนนอนอีกเรื่องนี้คือสิ่งที่ฉันเป็นห่วงเพราะที่ผ่านมามีเพียงฉันคนเดียวที่ดูแลเรื่องยาและอาหารของคุณท่าน
"ลุงลืมบอกม่านไปใช่ไหมว่าอาทิตย์หน้าพิไลจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะภรรยาของลุง เธอเคยเป็นพยาบาลเก่ามาก่อนเธอจะมาดูแลลุงเอง" ฉันพยักหน้ารับเพราะถ้ามีคนที่ไว้ใจได้มาดูแลคุณท่านฉันก็เบาใจ
"แต่ลุงก็มีเรื่องที่ต้องกังวลอีกเรื่อง คือเรื่องตาเจ้า" แววตาของท่านดูมีความวิดกกังวลอย่างเห็นได้ชัด ฉันรู้สึกสงสารและเห็นใจคุณท่านเป็นอย่างมากเพราะคุณเจ้าสมุทรพูดว่าจะไม่ยอมรับผู้หญิงคนไหนจะไม่ยอมให้ใครมาแทนที่แม่ซึ่งคุณท่านเคยพูดให้ฉันฟังว่าตอนแรกท่านคิดว่าจะปิดกั้นตัวเองจะไม่มีภรรยาใหม่เพราะยังรักคุณแม่ของคุณเจ้าสมุทรอยู่เต็มหัวใจทั้งที่ท่านไม่เคยรักคุณท่านเลย จนกระทั่งมาเจอคุณพิไลลักษณ์ทำให้ท่านอยากจะเริ่มต้นชีวิตคู่อีกครั้ง คุณพิไลลักษณ์เป็นผู้หญิงสวยแม้อายุจะมากแล้วก็ตามเธอมักจะมาหาคุณท่านที่บ้านบ่อยๆแต่เวลาเธอมาฉันจะถูกเธอไล่เสมอ แม้ต่อหน้าคุณท่านเธอจะดูเป็นผู้หญิงอ่อนหวานใจดีแต่ลับหลังมันไม่ใช่เลยสักนิด ตอนแรกที่เธอมาที่นี่คุณท่านแนะนำว่าฉันเป็นหลานสาวของคุณท่านคุณพิไลลักษณ์จะพูดดีจะทำดีกับฉันมากๆคอยซื้อของมาฝากเสมอแต่พอเธอมารู้ภายหลังว่าฉันเป็นเพียงคนอาศัยไม่ใช่หลานจริงๆของคุณท่านการแสดงออกของคุณพิไลลักษณ์ก็เปลี่ยนไปทันทีจากหน้ามือเป็นหลังมือแต่พออยู่ต่อหน้าคุณท่านเธอก็จะทำตัวดีกับฉันเหมือนเดิม
"ตอนแรกฉันก็หลงเอ็นดูแกเพราะคิดว่าแกเป็นหลานสาวของท่านแต่จริงๆแล้วแกมันก็แค่กาฝากที่คุณท่านเอ็นดูรับมาเลี้ยงเพราะพ่อตายเด็กกำพร้าไม่มีพ่อไม่มีแม่อย่างแกเป็นได้แค่คนอาศัยเป็นได้คนรับใช้เท่านั้นแล่ะเพราะฉะนั้นก็จำใส่สมองของแกไว้ให้ดีว่าอย่าทำตัวเกินฐานะ กาฝากยังไงก็คือกาฝาก" ที่คุณพิไลลักษณ์พูดแบบนี้ก็เพราะว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งคุณพิไลลักษณ์ชวนคุณท่านไปพักผ่อนที่เชียงใหม่กันตามลำพังสองต่อสองแต่คุณท่านเห็นว่าฉันไม่เคยได้ไปเที่ยวที่ไหนตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ท่านก็เลยให้ฉันตามไปเที่ยวด้วยซึ่งตอนแรกฉันก็ไม่อยากไปเพราะเกรงใจแต่คุณท่านให้เหตุผลว่าถ้าฉันไม่ไปด้วยท่านเกรงว่าจะลืมทานยาทำให้ฉันต้องตามไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ นั่นทำให้คุณพิไลลักษ์เกิดอาการไม่ค่อยพอใจเพราะต้องการไปกันแค่สองคน