ม่านไหม...
"แกจะหิ้วกระเป๋าไปไหนน่ะนังใบ้"
"นังม่านจะย้ายไปอยู่ที่ตึกเล็กพวกเอ็งไม่รู้เรอะ"
"ห๊ะว่าไงนะป้า/ว่าไงนะ"
"แล้วพวกเอ็งสองคนจะพูดเสียงดังกันทำไมห๊ะนังแจงนังนุ่ม"
"ก็ป้าบอกนังม่านจะไปอยู่ตึกเล็กอ่ะ"
"ก็ใช่ไงมันเป็นคำสั่งของคุณท่านคุณท่านจะให้นังม่านไปดูแลรับใช้คุณเจ้าสมุทร"
"แล้วทำไมต้องเป็นนังม่านด้วยล่ะ เราสองคนก็ทำได้"
"อยากรู้พวกเอ็งก็ไปถามคุณท่านสิ"
"ใครจะกล้าไปถามล่ะป้าก็"
"นี่นังม่านแกไปอ้อนวอนขอคุณท่านใช่ไหมแกชอบคุณเจ้าสมุทรอยากใกล้ชิดคุณเจ้าสมุทรใช่ไหมห๊ะ"
"มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆนังนุ่ม นังใบ้มันต้องไปขอร้องอ้อนวอนคุณท่านแน่ๆไม่อย่างนั้นคุณท่านจะให้มันไปอยู่ที่ตึกเล็กกับคุณเจ้าสมุทรสองต่อสองทำไม"
"พวกเอ็งสองคนนี่ยังไงห๊ะ ทำไมไปกล่าวหานังม่านมันแบบนั้น อยู่กับมันมาตั้งหลายปีไม่รู้จักนิสัยใจคอมันเรอะ"
"ใครจะไปรู้ คุณเจ้าสมุทรหล่อซะขนาดนั้นมันอาจจะหลงรักแอบชอบคุณเจ้าสมุทรจนอยากได้เป็นผัว"
"ใช่มันคงคิดไฝ่สูงอยากจะเป็นเมียคุณเจ้าสมุทรแหงๆ"
"หยุดปากพล่อยๆของพวกเอ็งเดี๋ยวนี้เลยนะนังนุ่มนังแจงข้าอยู่ที่นี่มานานกว่าพวกเอ็งสองคนนังม่านมันก็อยู่ที่นี่ก่อนพวกเอ็งนิสัยมันเป็นยังไงข้ารู้ดีที่สุด มันไม่เคยมักใหญ่ใฝ่สูงไม่เคยทำตัวเป็นคุณหนูทั้งที่คุณท่านรับมันมาเลี้ยงในฐานะหลานสาวแต่มันก็ไม่เคยงอมืองอเท้านั่งๆนอนๆเป็นคุณหนูหรืออยู่เฉยๆมันน่ะคอยช่วยทำงานในบ้านทุกอย่างไม่ว่าจะงานในบ้านงานในครัว นังม่านมันทำได้หมดมันไม่เหมือนเอ็งสองคนหรอกนะที่วันๆงานการไม่ค่อยทำชอบหลบงานอู้งานแอบนอนหลับแล้วปล่อยนังม่านทำงานแแทน พวกเอ็งอย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าพวกเอ็งสองคนหายไปไหนตอนกลางคืนแล้วกลับมาอีกทีตอนเช้า สักวันข้าจะฟ้องคุณท่าน"
"ป้า!!!"
"ม่านเอ้ยเอ็งรีบไปเถอะไม่ต้องสนใจเสียงหมามันเห่าแถวนี้"
"นี่ป้าด่าฉันสองคนเป็นหมาเหรอ"
"เออใช่ข้าด่าเอ็งสองคน มีอย่างที่ไหนหาเรื่องนังม่านมันได้ทุกวี่ทุกวันไม่สงสารมันมั่งรึไงห๊ะ พูดมันก็พูดไม่ได้ถ้าพวกเอ็งไม่สงสารมันพวกเอ็งก็ไม่ต้องพูดไม่ต้องด่าไม่ต้องหาเรื่องมันแล้วก็ไม่ต้องใช้มันทำงานแทน"
"ป้า!!!"
"ทำไม ถ้ามีปัญหามากนักข้าจะไปบอกคุณท่านพวกเอ็งสองคนจะได้ไปหางานใหม่ทำเอาไหม"
"ไม่เอา/ไม่"
ฉันหิ้วกระเป๋าใบเล็กของตัวเองเดินมาที่ตึกเล็กซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของอาณาเขตรั้วบ้านมันเป็นความต้องการของคุณเจ้าสมุทร อยากจะบอกว่าจากตึกคนงานมาที่ตึกเล็กใช้เวลาเดินนานพอสมควร คืออาณาเขตบ้านของคุณท่านกว้างใหญ่มากเนื้อที่หลายไร่เพราะเหตุนี้คุณท่านถึงให้ฉันย้ายมาอยู่ที่ตึกเล็กแทนการเดินไปกลับ
ฉันถึงกับปาดเหงื่อเมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านเพราะตอนนี้ก็เกือบเที่ยงแล้วฉันยืนทำใจก่อนจะเคาะประตูซึ่งรออยู่นานพอสมควรสักพักประตูก็ถูกเปิดออกอย่างแรงพร้อมเจ้าของบ้านคุณเจ้าสมุทรใส่เสื้อคลุมอาบน้ำผมเผ้ากระเซิงเขาคงน่าจะเพิ่งตื่น พอเขาเห็นฉันเขาก็ทำหน้าไม่พอใจทันทีก่อนจะก้มมองกระเป๋าที่ฉันถือมา
"มาทำไม" น้ำเสียงห้วนถามอย่างไม่พอใจ ฉันคงจะรบกวนเวลานอนของเขา ฉันจึงรีบหยิบสมุดกับปากกาออกมาจากกระเป๋ากระโปรงแล้วเขียนก่อนจะยื่นให้เขาอ่าน
คุณท่านให้ฉันมาดูแลคุณเจ้าสมุทรค่ะ
"ดูแล?? ดูแลทำไมพ่อเห็นฉันเป็นเด็กหรือไงถึงต้องให้คนมาดูแล" น้ำเสียงเอาแต่ใจเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อรู้ว่าฉันมาทำไม
" แล้วก็นะเอาคนปกติมาก็ไม่เอามาเอาคนเป็นใบ้พูดไม่ได้ไม่สมประกอบมาดูแลฉันเนี้ยนะ จะพูดคุยกันแต่ละทีก็ต้องเสียเวลาเขียนใส่กระดาษ ฉันว่าเธอกลับไปอยู่ในที่ของเธอตามเดิมเหอะไม่ต้องมาดูแลฉัน" ฉันทำได้แค่พยักหน้าในเมื่อเขาไม่อยากให้ฉันมาดูแลฉันก็คงต้องกลับตึกคนงานตามเดิม
"อ่ออีกอย่างถ้าฉันไม่ได้สั่งก็ไม่ต้องเสนอหน้าเข้ามาที่นี่เพราะฉันชอบความเป็นส่วนตัวไม่ชอบความวุ่นวายเข้าใจไหม"
"คงไม่ได้"
"พ่อ" คุณท่านเดินเข้ามาแล้วยืนอยู่ข้างๆฉัน
"ม่านไม่ต้องไปไหนลูกอยู่ที่นี่แล่ะ"
"ไม่ต้อง บ้านหลังนี้มันบ้านของผมผมจะให้ใครอยู่หรือไม่ให้ใครอยู่มันก็เป็นสิทธิ์ของผม"
"พ่อรู้ว่าแกชอบความเป็นส่วนตัวแต่ที่พ่อให้ม่านไหมมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อดูแลแกดูแลบ้าน"
"ผมไม่ต้องการ"
"แล้วแกจะทำงานบ้านเองซักผ้าล้างจานทำกับข้าวเองงั้นเหรอตาเจ้า"
"......" พอคุณท่านพูดจบคุณเจ้าสมุทรก็เงียบไปก่อนจะหันไปทางอื่นทำหน้าฟึดฟัดไม่พอใจ
"เอาล่ะยังไงพ่อก็คงจะต้องให้หนูม่านมาอยู่ที่นี่กับแกแกจะได้ไม่เหงา หนูม่านทำอาหารอร่อยมากเลยนะเผื่อแกไม่รู้ งานบ้านงานเรือนก็ทำได้เรียบร้อยทำได้ทุกอย่างไม่มีขาดตกบกพร่องพ่อเชื่อว่าหนูม่านจะเป็นแม่บ้านที่ดีดูแลบ้านดูแลแกได้เป็น"
"หึ ไหนพ่อบอกผมว่าพ่อรับยัยนี่มาเลี้ยงเหมือนลูกเหมือนหลานแล้วทำไมถึงให้ยัยนี่มาเป็นขี้ข้าผมล่ะ"
"แกก็พูดเกินไปไหมตาเจ้า พ่อให้หนูม่านมาดูแลแกดูแลบ้านไม่ได้ให้แกจิกหัวใช้เป็นขี้ข้าขนาดนั้นนะ"
"แล้วมันต่างกันตรงไหนเพราะถ้าผมต้องการอะไรยัยนี่ก็ต้องทำแบบนี้ไม่ให้เรียกว่าขี้ข้าแล้วจะให้เรียกว่าอะไร"
"เอาล่ะพ่อไม่อยากเถียงกับแกแล้วเถียงไปก็ไม่เคยชนะ เอาเป็นว่ายังไงพ่อจะให้หนูม่านอยู่ที่นี่ ม่านไหมเดี๋ยวเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องรับแขกนะลูกเลือกเอาตามสบายจะนอนห้องไหน"
"ห้องรับแขก??พ่อจะให้คนรับใช้นอนห้องรับแขกงั้นเหรอไม่มากไปหน่อยเหรอพ่อ"
"ถ้าไม่ให้นอนห้องรับแขกแกจะให้หนูม่านนอนห้องไหนล่ะนอกจากห้องรับแขก"
"แล้วทำไมไม่ให้อยู่ตึกคนงาน"
"ก็พ่อเพิ่งบอกว่ามันไกลมันไม่สะดวกถ้าหนูม่านต้องตื่นแต่เช้ามืดแล้วเดินมาทำงานที่ตึกเล็ก แต่ถ้าแกมีปัญหามากพ่อจะให้หนูม่านนอนห้องแกก็ได้นะเอาไหมล่ะ ไปหนูม่านเอากระเป๋าไปไว้ที่ห้องตาเจ้า"
"พ่อ!!!" คุณเจ้าสมุทรทำหน้าตกใจ คืออย่าว่าแต่คุณเจ้าสมุทรเลยที่ตกใจเลยฉันเองก็ตกใจเหมือนกันที่ได้ยินแบบนั้น
"พ่อต้องการอะไรกันแน่"
"เปล่าไม่มีอะไร พ่อก็แค่พูดเล่นเท่านั้นเองแกอย่าคิดมาก เอาล่ะหนูม่านเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องรับแขกนะลูกแล้วเดี๋ยวก็ทำอาหารเช้าให้ลูกชายลุงทานด้วยดูท่าจะเพิ่งตื่น"
ฉันรีบพยักหน้าก่อนจะก้มหน้าเดินหิ้วกระเป๋าไปที่ห้องนอนรับแขกอย่างจำใจ ถ้าเลือกได้ฉันก็ไม่อยากมาอยู่ที่นี่ฉันยอมตื่นแต่เช้ามืดแล้วเดินมาที่ตึกเล็กแทนการย้ายข้าวของมาอยู่ที่นี่
"ส่วนเราตาเจ้าพ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย"
เจ้าสมุทร...
"พ่อมีอะไรก็พูดมา ผมง่วงจะไปนอนต่อ"
"อาทิตย์หน้าพิไลลักษณ์จะย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของเรา"
"หึนึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้ก็เรื่องเมียใหม่"
"พ่ออยากให้แกเข้าใจว่าพ่อเองก็แก่แล้วพ่ออยากมีใครสักคนคอยดูแลคอยอยู่เคียงข้างกันไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่"
"ก็เลยอยากแต่งงานตอนแก่"
"พ่อรู้ว่าแกไม่พอใจที่พ่อจะแต่งงานใหม่"
"รู้แต่ก็ยังทำ"
"ถ้าแกรู้ความจริงทุกอย่างแกจะไม่พูดแบบนี้ แต่เอาเถอะพูดไปแกก็คงจะไม่เชื่อพ่อ แต่ครั้งนี้พ่ออยากขอร้องลูกเจ้าสมุทรในชีวิตของพ่อพ่อไม่เคยขออะไรแกเลย พ่อขอแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวจะได้ไหม"
"ได้ดิ"
"จริงเหรอลูก พ่อขอบใจมาก" พ่อแสดงสีหน้าดีใจขึ้นมาทันที่ผมพูดว่าได้แต่...
"แต่ผมมีข้อแม้"