Chapter 2
'พลาดท่าให้ตัวร้าย'
.
.
จะว่าไปตัวนางเองก็รู้สึกวูบวาบอยู่เหมือนกัน ความร้อนผ่าวในร่างกายนี้มันเกิดจากอะไรหรือว่านางจะโดนพิษจริง ๆ เหมือนที่เคยอ่านนิยายหรือดูซีรี่ส์อาจจะเป็นพิษจำพวกมีฤทธิ์เพิ่มกำหนัดก็เป็นได้ ตอนนี้เหมือนร่างกายคล้ายจะควบคุมตัวเองไม่ได้
“อ๊ะ!” ร่างเล็กถูกจับกดให้นอนลงไปบนเตียงมันทำให้หลันผิงลั่วตกใจไม่น้อย มือเล็กยกขึ้นดันอกกว้างเอาไว้
“จะ… เจ้า เจ้าจะทำอะไร”
“ข้าไม่ไหว”
“มะ… ไม่ไหวอะไร”
ริมฝีปากก้มจูบลงมาแทนคำตอบทำเอาหลันผิงลั่วตกใจหน้าเหวอ ริมฝีปากถูกครอบครองและลุกล้ำอย่างเอาแต่ใจจนนางตั้งตัวไม่ทัน มือไม้อ่อนแรงไร้การขัดขืนคล้ายกับถูกมนต์สะกดชวนให้ลุ่มหลงอาจจะเป็นเพราะพิษกำหนัดในกายที่ทำให้รู้สึกต้องการความวาบหวามมากขนาดนี้
“จะ… เจ้า นามของเจ้า” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามชายหนุ่มที่กำลังร่วมรักกับนาง
“เหอมู่เซียง”
“เป็นชื่อที่ไพเราะ”
นางส่งยิ้มหวานล้ำให้เขา เหอมู่เซียง ชื่อพระเอกของเรื่องนี้สินะ เป็นชื่อที่เพราะสำหรับนางและรู้สึกชอบมาก ๆ พระเอกของนางช่างดีเลิศทั้งรูปร่างหน้าตาและชื่อแซ่
ร่างเล็กบิดเร้าด้วยความเสียวซ่านยามร่างกายถูกปรนเปรอจากสัมผัสร้อนผ่าวของเขา ผิวกายขาวละเอียดกระทบอากาศเย็นจนสั่นสะท้านเล็กน้อย อาภรณ์ถูกดึงออกจากร่างกายก่อนจะโยนมันทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี
ผิวกายเปลือยเปล่าร้อนรุ่มไปด้วยสัมผัสที่ลากผ่านตั้งแต่ริมฝีปากจรดปลายเท้าเรียวที่กำลังถูกเหอมู่เซียงกดจูบอย่างอ่อนโยน ปลายลิ้นลากเลียไปตามขาเรียวแล้วแหวกมันออกเพื่อเข้าไปสัมผัสส่วนที่อยู่ลึกด้านใน
นิ้วยาวนวลเนียนดั่งหยกลูบไล้กลีบดอกไม้งามที่ผลิแย้มชวนให้สัมผัสจนหลันผิงลั่วสะดุ้งเพราะเธอไม่เคยหลับนอนกับใคร บริสุทธิ์ผุดผ่องทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนแห่งนี้แต่ถึงจะเคอะเขินแค่ไหนแต่ร่างกายก็ไม่ปฏิเสธสัมผัสนี้เลยมันช่างดีเหลือเกินเป็นความสุขล้นจนแทบจะหลอมละลาย
ร่างกายบิดเร้าปลายเท้าจิกเกร็งยามลิ้นใหญ่กวาดต้อนเลียที่จุดอ่อนไหวของเธอ น้ำหวานสีใสเอ่อล้นให้ชายหนุ่มได้เชยชิมกลีบดอกไม้งดงามผลิบานต้อนรับสัมผัสอย่างสุขสม
เหอมู่เซียงผละตัวออกมาเรียวลิ้นแลบเลียริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนเองออก หลันผิงลั่วมองเรือนร่างของชายหนุ่มตรงหน้าถึงกลับต้องลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคออย่างยากลำบากเล็กน้อยเพราะเหมือนจะจุกกับมวลมัดกล้ามแน่นของเขาที่ไม่ว่าตรงไหนมันก็แน่นไปหมด ยิ่งเห็นร่างกายก็ยิ่งร้อนผ่าวอยากโดนความแน่นนั้นแนบเนื้อลงมาเสียจริง ๆ
“โปรดอ่อนโยนด้วย”
“ไม่ต้องกังวล ข้าจะถนอมเจ้า”
มือใหญ่สัมผัสลงบนแก้มอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มละมุนละไมมอบให้กันคล้ายเป็นเครื่องยืนยันความมั่นใจแต่ช่วงล่างกลับไม่เป็นดั่งปากว่าสักนิดเมื่อสิ่งแปลกปลอมที่แข็งขืนสอดแทรกเข้ามาในร่างกายมันเข้ายากแต่เขาก็ยังดื้อดึงดันเข้ามาอย่างตั้งใจจนความเจ็บแปล๊บแล่นไปทั่วสรรพางค์กาย น้ำตาหยดใสเอ่อล้นคลอเบ้าตาสวย
ร่างบางสั่นไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น สองแขนโอบกอดร่างใหญ่เอาไว้แน่นเล็บจิกลงบนแผ่นหลังหนาจนเป็นรอยแดงซ่าน ริมฝีปากเล็กเผยออกส่งเสียงครวญครางออกมาด้วยความสุขสม สัมผัสร้อนผ่าวลูบไล้ไปตามเรือนกายสร้างความเสียวซ่านมากขึ้นจนอยากได้มันมากกว่านี้อีก
จูบอ่อนหวานประทับแลกสัมผัสกันอย่างดูดดื่มมอบรสรักให้กันและกันอย่างเร่าร้อน ค่ำคืนวสันต์ช่างงดงามชวนลุ่มหลงทุกอย่างละมุนละไมอ่อนโยนแต่ก็สลับด้วยความรุนแรงชวนให้กายสั่นสะท้านอาบชุ่มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายทั่วสรรพางค์กายที่กำลังมีความสุขเสียจนเอ่อล้น
……….
หลันผิงลั่วตื่นขึ้นมาก่อน นางชำระล้างร่างกายแต่งตัวจนเรียบร้อยแล้วจึงมานั่งดื่มชาบนโต๊ะไม้ที่สลักลวดลายงดงาม ดวงตาคู่สวยจ้องมองเหอมู่เซียงที่ยังคงนอนหลับใหลอยู่บนเตียง แผนหลังขาวนั้นยังคงมีรอยเล็บขูดเป็นทางยาว กล้ามแขนแน่น ๆ ชวนให้ลุ่มหลงได้เสียง่าย ๆ
รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นไม่คลายไปไหน ผู้ใดจะคิดว่าพระเอกของนางจะหล่อเหลาถึงเพียงนี้ ดูจากผิวกายที่ขาวผ่องนวลพรรณบ่งบอกว่าถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ไม่ใช่ว่าเป็นเชื้อพระวงศ์หรอกนะแบบนั้นก็ลาภลอยเลยสิ งานนี้ได้สุขสบายไปจนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น
“ระบบสตาร์ท 3 2 1”
“อ๊ะ!” หลันผิงลั่วสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ดี ๆ ก็มีหน้าจอโปร่งแสงปรากฏขึ้นตรงหน้าของเธอเหมือนโปรแกรมระบบ
“สวัสดีค่ะคุณหลัน” เสียงของอีฟดังขึ้นมันทำให้หลันผิงลั่วยิ้มออกทันที
“นี่เธอหายหัวไปไหนมา ฉันเรียกเธอจนคอจะแตก”
“ต้องขอโทษด้วยค่ะ เนื่องจากระบบอยู่ในการทดสอบทำให้มีข้อผิดพลาดอยู่เล็กน้อย เมื่อวานมีไวรัสเข้ามาทำให้ไม่สามารถออนระบบได้ค่ะ แต่ตอนนี้ได้จัดการปัญหานั้นเรียบร้อยแล้ว”
“อ๋อ” หลันผิงลั่วลากเสียงยาวอย่างเข้าใจก่อนจะนึกบางอย่างออกรีบเดินเข้าไปใกล้หน้าต่างโปรแกรมด้วยท่าทางเขินอายแล้วชี้นิ้วไปทางเตียงนอน
“ข้านอนกับพระเอกแล้ว”
“นั่นไม่ใช่พระเอก” อีฟกล่าวขึ้นจนหลันผิงลั่วใจเสียเล็กน้อย
“มะ… หมายความว่ายังไง”
“ระบบได้ทำการสุ่มเนื้อเรื่องนิยายหรือซีรี่ส์จากหลายเรื่องในโลก ประมวลเอาเหตุการณ์ต่าง ๆ มาหลอมรวมกันเพื่อสร้างโลกเสมือนจริงนี้ขึ้นมา ตัวละครถูกวางตัวเอาไว้แล้วเรียบร้อย คนที่นอนบนเตียงไม่ใช่พระเอกแต่เป็นเหอมู่เซียงตัวร้ายของเรื่อง”
“ฮะ?”
หลันผิงลั่วหน้าตาเหลอหลาเมื่อได้ฟังในสิ่งที่อีฟบอก นางรีบหันไปมองเหอมู่เซียงอีกครั้ง คราวนี้กลับมีหน้าต่างเล็ก ๆ โปร่งแสงปรากฏขึ้นเป็นข้อมูลของตัวละครนี้ทั้งหมด ที่สำคัญมันเขียนตัวแดงแจ๋ไว้ว่า ตัวร้าย จริง ๆ
“ตัวร้ายไม่ใช่พระเอก” เธอหันมามองอีฟอีกครั้ง
“พระเอกคือหลี่ซงจวิน” คล้ายอีฟจะตอกย้ำด้วยการโชว์ใบหน้าของพระเอกตัวจริงขึ้นมาให้ได้เห็น
เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจเพราะพระเอกตัวจริงกับพระเอกตัวปลอมที่นางเข้าใจผิดไปเองหน้าตาต่างกันคนละโยชน์ ตอกย้ำมาก ย้ำจนทรุดลงไปกองกับพื้น วาดฝันไว้ว่าได้นอนกับพระเอกแล้วเรื่องหลังจากนี้มันก็จะง่ายที่ไหนได้ไอ้คนที่นอนอยู่มันไม่ใช่พระเอก
“ซะ… ซวยแล้ว” หลันผิงลั่วรีบหันมองซ้ายมองขวาก่อนจะตัดสินใจเข้าไปรื้อค้นข้าวของของเหอมู่เซียงจนเจอป้ายหยกสลักลวดลายดอกโบตั๋นชิ้นหนึ่งที่ดูท่าแล้วจะมีค่ามากโขจึงรีบเก็บเข้ากระเป๋าตัวเอง
“เอาอันนี้ติดตัวไปด้วย น่าจะขายได้” นางยัดป้ายหยกใส่ในเสื้อตนเองก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ จนเจอกำไลหยกอีกอัน อันนี้ก็ขายได้ เก็บไปด้วย
“คุณจะเก็บของมีค่าทุกอย่างเลยเหรอคะ?” อีฟถามขึ้น
“ฉันเสียตัวแล้ว จะไม่ยอมเสียเปล่าหรอกนะ แบบนั้นขาดทุนแย่ ของมีค่าอะไรข้าจะเก็บไปให้หมดเอาทุกอย่างเลย”
“อันนี้ก็ขายได้”
“อันนี้ อันนี้ด้วย”
“รองเท้าขายได้ไหม เสื้อผ้าขายได้ไหม?”
“งั้นเอาไปด้วยให้หมด”
หลันผิงลั่วเก็บทุกอย่างยัดใส่ห่อผ้า ไป ๆ มา ๆ ก็ไม่เหลืออะไรให้เขาเลยนอกจากซับในตัวบางเพราะเสื้อผ้าตัวนอกและรองเท้านางก็ขนไปด้วย เอาไปขายมือสองได้ของดีขนาดนี้ขายได้ราคาแน่นอน จะมาอยู่ที่นี่ก็ต้องสร้างตัว ในเมื่อเสียตัวไปแล้วก็ต้องได้ค่าตอบแทนด้วยเหมือนกัน!
……….
.
หลันผิงลั่วเดินอารมณ์ดีออกมาจากโรงจำนำหลังเอากำไลหยกไปขายแลกเงินเรียบร้อยแล้ว ริมฝีปากฮัมเพลงอย่างมีความสุขมองเหล่าผู้คนที่จะเรียกว่า NPC ได้หรือเปล่า กำลังใช้ชีวิตไปตามที่ถูกระบบมาเพราะทุกอย่างที่นี่เป็นโลกเสมือนจริงที่ถูกสร้างโดยปัญญาประดิษฐ์เพราะฉะนั้นทุกคนล้วนถูกใส่ชิปโปรแกรมมาแล้วว่าต้องทำอะไรในแต่ละวัน
“อีฟ”
“คะ?” ด้านข้างปรากฏเป็นรูปนกพิราบโปร่งแสงขึ้น
“ภารกิจคืออะไร”
“มูฟออนแล้วเหรอคะ?”
“มูฟออนอะไร”
“ก็เรื่องมีเซ็กซ์กับตัวร้ายไงคะ”
“แล้วจะตอกย้ำเพื่อ?” หลันผิงลั่วหยุดเดินก่อนจะยกแขนขึ้นเท้าเอวจ้องมองอีฟที่อยู่ในรูปแบบนกพิราบโปร่งแสงที่นางเห็นแค่คนเดียว
“อันนั้นมันเรียกความผิดพลาด คนเราพลาดกันได้ พลาดแล้วก็พลาดไปสิ”
หลันผิงลั่วสะบัดผมเชิดใบหน้าขึ้นไม่สนใจไม่แคร์อะไรทั้งนั้นถึงจะมีความเจ็บปวดเป็นเครื่องตอกย้ำที่ระหว่างขาก็เถอะ ชีวิตคนเรามันต้องเดินต่อไป โลกไม่ได้กำหนดมาว่าเราต้องเสียตัวให้ผู้ชายคนเดียวสักหน่อย
“แค่เสียตัวไม่ได้ตาย เพราะฉะนั้นบอกภารกิจมา”
“ภารกิจที่ระบบกำหนด คุณต้องแต่งงานและครองรักกับพระเอกหลี่ซงจวินให้ได้ เมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไปถึงตอนจบที่สมบูรณ์แบบคุณก็จะเสร็จสิ้นภารกิจจะได้ออกจากโลกเสมือนจริงแล้วรับค่าตอบแทนมหาศาลตามสัญญาที่คุณเซ็นเอาไว้ค่ะ มันมากพอที่คุณจะใช้รักษาตัวและใช้ชีวิตบั้นปลายได้อย่างสุขสบาย”
“จริง ๆ ก็ไม่ได้อยากออกไป อยากใช้ชีวิตในนี้นาน ๆ เลย”
นางถอนหายใจออกมาเล็กน้อยเพราะไม่ได้อยากจะออกจากโลกเสมือนใบนี้เลย เพราะโรคความเป็นจริงมันโหดร้ายเกินไปสำหรับนาง ป่วยเป็นโรคร้ายจะตายวันไหนยังไม่รู้ทำอะไรมากก็ไม่ได้เพราะสุขภาพไม่ดี แต่ในโลกนี้นางจะสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจตนเองได้อย่างเต็มที่และมีอิสรเสรีเหมือนนกที่ได้โบยบินออกไปในโลกกว้าง
“โปรดจงจำไว้ว่านี่คือการทดลองระบบ คุณมีหน้าที่ทดสอบว่าระบบสมบูรณ์แบบหรือเปล่าจึงจำเป็นต้องทำภารกิจให้เสร็จสิ้นเพื่อดูข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ทางบริษัทจะได้เตรียมความพร้อมเพื่อเปิดระบบที่สมบูรณ์แบบให้คนภายนอกได้เข้าใช้งานค่ะ”
“เออ ๆ รู้แล้วน่า เข้าใจแล้วว่าต้องทำให้หลี่ซงจวินรักข้า หลงข้า เรียกหาแต่ข้า”
หลันผิงลั่วถอนหายใจออกมาเล็กน้อยเพราะเข้าใจว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องทำภารกิจให้เสร็จสิ้นในฐานะของตัวแทนทดสอบระบบ แต่ก็คงประวิงเวลาเอาไว้เสียหน่อยเพราะยังอยากใช้ชีวิตในนี้ให้มากที่สุด เพราะชีวิตจริงมันทำไม่ได้ก็แค่คนป่วยคนหนึ่งแค่เดินมาก ๆ ยังเหนื่อยเลย
“ตอนนี้ไปหาบ้านเช่าสักหลังก่อนดีกว่า”
นางโยนถุงเงินในมือเล่นด้วยรอยยิ้มอย่างมั่นใจ อนาคตจะเป็นยังไงช่างมันไปกำหนดอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เอาตอนนี้ให้รอดเพื่อมีชีวิตไปยันอนาคตก่อนดีกว่า
ตอนพิเศษ‘ความหลังของหลี่ซ่งจวิน’..“เจ้าว่าผ้าผืนนี้ดีไหม?” หลี่ซ่งจวินยื่นผ้าไหมซูจิ่นให้หลันผิงลั่วดูนางมองผ้าไหมผืนตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อย ระดับมันสมองที่ไม่เข้าใจความหรูหราฟู่ฟ่าแบบนางจะไปมองออกอะไร มองไปมันก็เหมือนกันทุกผืนไม่เห็นจะมีอันไหนแตกต่างกันเลยมันก็แค่ผ้าไหมเท่านั้น“ความคิดเรื่องแฟชั่นของข้าติดลบ”“แฟชั่นคืออะไร?” หลี่ซ่งจวินขมวดคิ้วเล็กน้อย“ก็แบบลวดลายอาภรณ์ การตัดเย็บชุดประมาณนั้น”“อ๋อ” เขาพยักหน้ารับก่อนจะยื่นผ้าไหมให้นางดูอีกครั้ง “เจ้าว่าผืนนี้งดงามหรือไม่?”แล้วทำไมมันวนกลับมาเรื่องนี้ได้เนี่ย!“อืม งาม” นางตอบแบบขอไปที“งั้นเอาผืนนี้ด้วย” เขายื่นมันให้เฒ่าแก่“นี่เจ้าก็ซื้อไปเยอะแล้วนะ เจ้าจะตัดสักกี่ชุด?”“ข้าชมชอบการตัดอาภรณ์งาม ๆ”“เจ้าสำอางกว่าที่ข้าคิดอีกนะ”“เมื่อก่อนข้ามาเลือกซื้อผ้าไหมกับเสี่ยวหลิวบ่อย ๆ” แต่พอพูดมาถึงตรงนี้เขาก็เงียบลงจนหลันผิงลั่วต้องเงยหน้ามองถึงได้เห็นแววตาเศร้าลงเล็กน้อยของเขา“เจ้ายังคิดถึงจางชิงหลิวอยู่สินะ”“ข้าอยู่กับนางมาเกือบร้อยปี ผ่านทุกข์ผ่านสุขมามากมาย” เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างนางก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“เมื่อก
ตอนพิเศษ‘ขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวา’..ดินแดนทะเลทรายอาสัญ“พี่สามีข้ามาหาท่านแล้ว!” หลันผิงลั่วตะโกนจนเสียงดังลั่นหน้าเรือนนอนของเหอมู่เสียงพร้อมโชว์ตะกร้าใส่ขนมให้ “ข้าเอาขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวาสูตรใหม่มาฝากท่านด้วย!”แต่แทนที่พี่สามีจะออกมาต้อนรับกลับมีพลังพุ่งออกมาจากด้านในเรือนแทนจนหลันผิงลั่วต้องหมุนตัวหลบ ทุกอย่างคล่องแคล่วมากเพราะนางอัปสกิลการต่อสู้มาแล้วเรียบร้อย“ไม่ได้กินข้าหรอกพี่สามี”“ข้ารำคาญเจ้าเสียจริง” เหอมู่เสียงเดินออกมาจากเรือนด้วยสีหน้าหงุดหงิดก่อนจะยกแขนขึ้นกอดอกจ้องมองน้องสะใภ้ที่ยังยิ้มร่าหน้าบานเป็นกระด้ง“การแต่งงานกับน้องชายของข้าทำให้เจ้าเบื่อหน่ายจนต้องฆ่าตัวตายเลยหรือ?”“น้องชายของท่านเป็นบุรุษที่ดี ถ้าจะมีเรื่องเบื่อหน่ายก็คงจะมีเรื่องเดียวคือเขามักมากในกามไปหน่อย ข้าต้องปรนนิบัติเขาแทบทุกคืน เหนื่อยจะขาดใจแล้ว”เหอมู่เสียงที่ได้ยินก็กลอกตามองบนอย่างเหนื่อยใจก่อนทำท่าจะหันตัวเดินกลับเข้าไปในเรือน“เดี๋ยวสิพี่สามี!” หลันผิงลั่วรีบวิ่งกระโดดเหยียบราวระเบียงก่อนจะหมุนตัวมายืนตรงหน้าของเหอมู่เสียงแล้วยื่นตะกร้าให้เขา“พี่สามีข้าทำขนมเปี๊ยะไข่เค็มลาวามาฝากท่าน”“โ
ตอนพิเศษ‘ชุดนอนไม่ได้นอน'..ช่วงนี้หลันผิงลั่วเอาแต่เย็บปักชุดชุดหนึ่ง นางตั้งใจทำมันมากเสียจนไม่มีเวลาให้เหอมู่เซียงนักจนพ่อหมาป่าหนุ่มน้อยอกน้อยใจหนีออกมาเดินเล่นที่ตลาดตั้งแต่เช้า ยันตอนนี้จะค่ำแล้วนางก็ยังไม่ออกมาตามหาหรือออกมาง้อเขาเลยสุดท้ายก็กลายเป็นเหอมู่เซียงที่ต้องแบกหน้าหนา ๆ ของตนเองกลับบ้าน แต่ภายในบ้านกลับเงียบเชียบราวกับไร้คนอยู่จึงก้าวเท้าเดินเข้ามาในเรือนก็เห็นว่าภรรยาคนงามยังคงนั่งเย็บปักถักร้อยเหมือนเดิมดูจริงจังกับชุดนั้นมาก“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่?”“เจ้ามาพอดีเลย”หลันผิงลั่วสะบัดชุดให้เหอมู่เซียงได้ดู เขาเองก็ยิ่งแปลกใจกับสิ่งที่เห็นมันมีรูปทรงเป็นเสื้อผ้าแต่ว่ามันบางยิ่งกว่าเสื้อซับในเสียอีก ไม่เข้าใจว่าเราจะสามารถใส่ชุดนี้ออกไปเดินข้างนอกได้อย่างไรในเมื่อมันปิดอะไรไม่มิดเลย หรือว่ามันจะไม่ใช่ชุดที่สวมใส่ ผ้าบางเบาลายปักฉลุเช่นนี้คงมีไม่กี่อย่าง“เจ้ากำลังทำผ้าม่านหรือ?”“ฮะ?” หลันผิงลั่วหน้าเหลอหลาเขาเลยชี้นิ้วไปยังผ้าม่านบางตรงหน้าต่างที่มันเหมือนชุดในมือของนางเลย“มะ… ไม่ใช่สักหน่อย” นางหน้ามุ่ยเล็กน้อย แต่จะว่าไปมันก็เหมือนผ้าม่านจริง ๆ นะ ผ้าบางเบา
ตอนพิเศษ‘ทดสอบยาพิษ’..หลี่ซ่งจวินยกขวดยาในมือขึ้นมองด้วยรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขาเก็บมันใส่ใต้เสื้อแล้วเดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีออกมาจากเรือนเพื่อไปยังหอจินหนิงที่นัดกับเจ้าหมาป่าดำชั่วเอาไว้ที่หอจินหนิงเองก็มีเหอมู่เซียงมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาหยิบเอาขวดยาพิษออกมาจากสาบเสื้อแล้วเทใส่กาน้ำชาพร้อมทั้งคนให้เข้ากัน ยาพิษนี้ไม่มีสีไม่มีกลิ่นกินเข้าไปไม่รู้แน่ว่าโดนพิษไม่นานนักคนที่กำลังรอก็มาถึงหลี่ซ่งจวินเดินเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งเรียบหยิ่งยโสโอหังเหมือนเช่นเดิมจนเขาอยากจะลุกไปหักคอทิ้งให้มันจบ ๆ ไปแต่ต้องพยายามอดทนอดกลั้นเอาไว้เพราะเห็นแก่หน้าของหลันผิงลั่วหรอกนะ“เจ้ามาไวเสียจนข้าละอายใจที่มาช้า” หลี่ซ่งจวินทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับเหอมู่เซียง“ก็สมควรละอายใจ” เหอมู่เซียงกล่าวออกมาอย่างไม่รักษาน้ำใจ“ใจสงบลงหน่อยเถิด หน้าบูดบึ้งทั้งวันจะทำให้แก่ไว”หลี่ซ่งจวินหันไปหาเสี่ยวเอ้อร์ก่อนจะยกมือเรียก“รับอะไรดีขอรับคุณชาย”“เจ้าอยากกินอะไร?”“กระต่าย” เหอมู่เซียงตอบเสียงเรียบ“กระต่ายย่างมีไหม?”“จริง ๆ ไม่มีแต่ถ้าคุณชายต้องการเราจะไปหามาให้ขอรับ”“งั้นหาให้ข้าที เดี๋ยวจ่ายเพิ่มให้ แล้ว
Chapter 33'จนผมหงอกขาว'..“ท่านพ่อ ท่านพ่อ” เสียงใสของเหอซ่างดังขึ้นพร้อมทั้งแรงเขย่าชายอาภรณ์จนเหอมู่เซียงต้องทิ้งตัวลงนั่งแล้วยกมือขึ้นลูบใบหน้าอ่อนเยาว์ด้วยรอยยิ้ม“ว่ายังไง?”“ข้าอยากกินกระต่าย”เหอมู่เซียงที่ได้ฟังก็ยิ้มออกมาก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวของบุตรชายที่ยามนี้อายุสามขวบปีแล้ว แต่กลับมีร่างกายสูงใหญ่ราวกับเด็กห้าขวบปีเพราะเป็นครึ่งปีศาจและยังเป็นปีศาจหมาป่าดำอีก วัยที่กำลังเรียนรู้และเล่นสนุกสนาน“ไว้พรุ่งนี้พ่อจะพาไปดีไหม?”เหอซ่างพยักหน้ารับทันทีก่อนจะหันไปปั้นหิมะที่ตกโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าด้านบน “ท่านแม่บอกว่ามันคือสโนแมน”เด็กน้อยให้พ่อดูตุ๊กตาหิมะที่เอาก้อนกลม ๆ มาต่อกันแล้วใช้นิ้ววาดใบหน้า แต่เขาจำได้ว่ามันต้องมีจมูกยาว ๆ ด้วยเลยหันไปหยิบกิ่งไม้มาเสียบให้“เก่งมากลูกพ่อ”“ท่านพ่อ!” เสียงตะโกนดังมาจากในบ้านจนเหอมู่เซียงตกใจรีบเดินมาดูทันทีเพราะวันนี้เขาอยู่บ้านผู้เดียวรับหน้าที่ดูแลบุตรชายทั้งสองคนเพราะหลันผิงลั่วไปช่วยหลี่ซ่งจวินที่โรงหมอ“เกิดสิ่งใดขึ้นซีเอ๋อร์?”เมื่อเข้ามาภายในบ้านก็เห็นเจ้าแฝดคนโตกำลังขยับตัวออกจากเก้าอี้ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะตัวดันเข้าไปติดกับช่องต
Chapter 32‘เทศกาลหยวนเซียว’..“ทางซ้ายหน่อย”“ตรงนี้หรือ?”“ไม่ ๆ ขยับอีกนิด”เสียงหวานของหลันผิงลั่วดังขึ้นพร้อมนิ้วที่ชี้ไปบนชายคาประตูหน้าบ้านเพื่อบอกให้หลี่ซ่งจวินที่กำลังแขวนโคมขยับให้ตรงสวยงาม ในยามนี้บ้านเรือนทุกหลังล้วนตกแต่งไปด้วยโคมสีแดงเพราะเทศกาลหยวนเซียวเวียนมาถึงแล้วทุกที่เลยครึกครื้นเป็นพิเศษ แม้แต่ตัวนางเองก็ตื่นเต้นเพราะเคยแต่เที่ยวเทศกาลนี้ในโลกจริงข้างนอกไม่เคยเที่ยวในโลกโบราณมาก่อนเลยแต่มันก็คงไม่ได้แตกต่างกันมากหรอกมั้ง“ได้หรือยัง?” หลี่ซ่งจวินหันมาส่งยิ้มให้สหายรู้ใจ“ได้แล้ว เยี่ยมมาก” นางยกนิ้วโป้งให้เขาด้วยรอยยิ้ม “งั้นเจ้าก็ลงมาได้แล้ว”แต่จังหวะที่หลี่ซ่งจวินกำลังจะลงจากบันไดลิงที่มันก็ไม่ได้แข็งแรงอะไรมากนัก เหอซีกลับวิ่งพรวดพราดออกมาจากบ้านจนทั้งสองคนตกใจแต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือเด็กน้อยดันชนเข้ากับขาบันไดเต็ม ๆ แม้ถึงจะยังเด็กแต่ก็เป็นครึ่งปีศาจจึงมีพละกำลังมากกว่าเด็กทั่วไปมากทำให้ทันทีที่วิ่งชนขาบันไดก็สะบัดเพราะมันไม่แข็งแรงอยู่แล้ว“เห๊ย!”ร่างของหลี่ซ่งจวินเสียหลักหงายหลังร่วงลงมาทันทีแบบไม่ทันได้ตั้งตัวจึงใช้พลังอะไรไม่ทันทั้งนั้น หลันผิงลั่วที่เห็