ดวงตาของหลินเซวียนหรี่ลงซูป๋ายมั่ว ยังคงเก็บภาพนี้ไว้อยู่งั้นเหรอ?ซูป๋ายมั่วก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองของหลินเซวียน แต่เดิมที่ภายในใจนิ่งสงบ ตอนนี้ก็กลับรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาทันทีทันใดเขาเองก็ เห็นแล้วงั้นเหรอ?เธอเริ่มกัดริมรีปากที่แดงก่ำอย่างเบา แต่ซูป๋ายมั่วที่คิดอะไรบางอย่างออกขึ้นมา วินาทีถัดมาก็เปลี่ยนมาเป็นคนเย็นชาเช่นเดิม พร้อมเอ่ยพูด“คุณหวัง รูปภาพที่คุณเห็นเมื่อสักครู่ ฉันหวังว่าคุณจะเก็บเป็นความลับแทนฉันนะคะ รูปภาพใบนี้เป็นรูปเดียวที่รู้สึกว่าถ่ายฉันออกมาได้ค่อนข้างดีในเวลานั้น ดังนั้นจึงเก็บมันไว้ตลอดหลายปีมานี้ค่ะ”“สบายใจได้เลยค่ะคุณซู ฉันจะไม่บอกใครอย่างแน่นอนค่ะ”หวังซือซือเอ่ยรับปาก“ค่ะ”ซูป๋ายมั่วพยักหน้าตอบรับอย่างเบาๆแต่สายตาของหลินเซวียนกลับหัวเราะเยาะกับตนเอง เพียงแค่เพราะว่ารูปนี้ถ่ายเธอออกมาค่อนข้างดี ดังนั้นจึงเก็บไว้งั้นเหรอ?ซูป๋ายมั่วมองไปยังแววตาที่หัวเราะเยาะเล็กน้อยของหลินเซวียน ภายในใจก็สั่นไหวเล็กน้อยเธอรู้ว่าหลินเซวียนเข้าใจเธอผิดแล้วเธอเองก็อยากจะบอกความในใจต่อหลินเซวียน แต่ว่า……“คุณซูรูปภาพอะไรเหรอคะ?”ในเวลานี้ เซียวเม่ยผู้ที่ยืนอยู่ด้า
“หลินเซวียน รูปภาพที่คุณซูทำตกจากกระเป๋าเมื่อสักครู่ คุณเองก็เห็นแล้วใช่ไหม?”เมื่อลงลิฟต์ลงไปชั้นล่าง หวังซือซือก็เอ่ยปากพูด“อื้อ”หลินเซวียนพยักหน้า“ถ้าหากว่าไม่ได้เห็นด้วยตาของตัวเอง ฉันเองก็คาดไม่ถึงว่า คุณซูเองก็เคยมีความรักกับเค้าเหมือนกัน ซ้ำยังดูเหมือนสาวน้อยที่กำลังตกหลุมรักอยู่อย่างเห็นได้ชัด”หลินซือซือเอ่ยพูดอย่างประหลาดใจ และเริ่มพูดซุบซิบ“หลินเซวียน คุณคิดว่าผู้ชายในรูปนั้นเป็นใครเหรอ?”หลินเซวียนเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก พร้อมเอ่ยพูด“ผมเองก็ไม่แน่ใจ อาจจะเป็นคุณชายของตระกูลใดตระกูลหนึ่งนั่นแหละ”“แต่ฉันว่าไม่ใช่”หวังซือซือส่ายหัว“ห๊ะ?”คิ้วของหลินเซวียนกระตุกขึ้น“เธอดูออกได้ยังไง?”“ง่ายมาก ดูจากการแต่งตัวของเขา คุณชายของเหยียนจิงพวกนั้นไม่มีทางที่จะใส่เสื้อผ้าธรรมดาแบบนั้นอย่างแน่นอน”หวังซือซือเอ่ยพูด และเป็นเพราะเหตุผลนี้ ยิ่งทำให้เธอยิ่งสงสัยเข้าไปอีกสรุปว่าเป็นผู้ชายแบบไหนกันแน่ ถึงได้รับการโปรดปรานจากซูป๋ายมั่ว?“เห้อ ถ้าแบบนั้นก็ไม่มั่นใจแล้ว”หลินเซวียนส่ายหน้าพร้อมเอ่ยพูด“หลินเซวียน คุณคิดว่าคุณซูจะยังติดต่อเป็นการส่วนตัวกับผู้ชายคนน
“คุณคงไม่หลงกลกับคำพูดของฉันจริงๆใช่ไหม?”หลินซือซือมองไปทางด้านหลินเซวียนที่วิตกกังวล และอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าเมื่อสักครู่เธอก็เพียงแค่คาดเดาสุ่มสี่สุ่มห้า“ฮ่าๆ จะเป็นไปได้ไง!”หลินเซวียนยิ้ม พร้อมเอ่ย“ฉันเองก็คิดเหมือนกัน……”“เหอะ ไม่อนุญาตให้คิด”ในเวลานี้หวังซือซือตะคอกออกมาเบาๆ“ห๊ะ?”หลินเซวียนตกใจหวังซือซือโกรธเล็กน้อย สัมผัสได้ว่าปฏิกิริยาของตนเองค่อนข้างมากเกินไป และรีบเปลี่ยนหัวข้อในการพูดคุยทันที“หลินเซวียน คุณตอบฉันมาอย่างซื่อสัตย์นะ คุณรู้จักคุณซูใช่ไหม?”ติ๊งในเวลานี้ ลิฟต์ลงมาถึงชั้นที่หนึ่ง“พวกเราออกไปกันก่อนเถอะ”หลินเซวียนมองไปยังประตูลิฟต์ที่เปิดออก พร้อมเอ่ยพูด“อื้อ”หวังซือซือพยักหน้าทั้งสองคนเดินออกไปทางประตูของโรงแรม“หลินเซวียน คุณรู้จักคุณซูใช่ไหม?”หลินซือซือถามคำถามเมื่อครู่ต่อ“ทำไมจู่ๆถึงถามแบบนี้ละ?”หลินเซวียนต้องการฟังน้ำเสียงของหวังซือซือ“ถ้าไม่งั้นวันนี้คุณซูก็คงจะไม่มาหาฉันเพื่อพูดคุยเรื่องการร่วมมือโครงการใช่ไหม?”หวังซือซือเอ่ยพูด“ทำไมจะไม่ใช่ละ ก็เห็นอยู่ว่าคุณเก่งทั้งและยอดเยี่ยมถึงถูกคุณซูเลือก”หลินเซวียนเอ่ยอ้าง“หลินเซวียน คุณไม่จ
“ปัญหาข้อมูลเอกสารของผม?”หลินเซวียนตกใจ แต่ก็เข้าใจสิ่งที่จ้าวหลิงซานพูดขึ้นมาทันทีดูๆแล้ว ผู้หญิงคนนี้ได้ทำการไปตรวจสอบข้อมูลเอกสารของเขามาแล้ว“ใช่”จ้าวหลิงซานมองด้วยสายตาที่ดุดันไปทางหลินเซวียนตรวจสอบไม่พบบุคคลนี้ ปกติมีความเป็นได้เพียงสองทางประการที่หนึ่ง หลินเซวียนลักลอบเข้ามาประการที่สอง ข้อมูลเอกสารของหลินเซวียนเป็นความลับของรัฐตอนนี้เธอคิดว่ามีแนวโน้มไปทางที่สองมากกว่าแต่ว่า เธอไม่สามารถประมาทได้จนกว่าความเป็นไปได้ประการที่หนึ่งยังไม่ได้รับการยกเว้นอย่างสมบูรณ์แบบ“ทหารจ้าว ตรวจสอบข้อมูลเอกสารส่วนบุคคลของผู้อื่น คงไม่ใช่เรื่องที่ดีคุณว่าไหม?”หลินเซวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมมองไปทางด้านจ้าวหลิงซาน“เหอะ ฉันทำงานอย่างยุติธรรม และฉันก็มีเหตุผลที่จะสงสัยคุณ”จ้าวหลิงซานถอนหายใจ พร้อมเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็ง“ดังนั้น ตอนนี้คุณไปกับฉันเถอะ ฉันมีเรื่องอยากจะถามคุณเยอะแยะไปหมด”ระหว่างที่พูด เธอก็ได้ส่งสัญญาณผ่านสายตาให้กับหลินเซวียน เพื่อเป็นการบอกว่าคุณเองก็คงไม่อยากพูดเรื่องเหล่านั้นต่อหน้าผู้อื่นเพื่อเป็นการเปิดเผยตัวตนหรอกนะ?หลินเซวียนรู้สึกว่าจ้าวหลิงซานคิดวิเคราะห์มาร
“คุณซู!”จางเหวินและสวี่ถิงเห็นว่าซูป๋ายมั่วและเซียวเม่ยเดินออกมาที่ประตูโรงแรม ก็รีบไปต้อนรับทันที“ทำไมพวกคุณถึงยังไม่ไปกันอีก?”ซูป๋ายมั่วขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีสวี่ถิงชะงัก เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาอันเลือดเย็นของซูป๋ายมั่ว ในเวลานี้เธอไม่รู้ว่าสมควรจะตอบอย่างไรดีจางเหวินตีเนียนอย่างเห็นได้ชัด ทำหน้าทำตาเอาจริงเอาจัง พร้อมเอ่ยพูดอย่างสบายใจ“คุณซู เมื่อสักครู่เจอกับทหารจ้าวที่ประตูโรงแรม เธอมาหาหลินเซวียน”“มาหาหลินเซวียน?”ซูป๋ายมั่วแววตาสั่นคลอน พร้อมเอ่ยถามต่อ“จ้าวหลิงซานมาหาหลินเซวียนทำไม?”เธอประหลาดใจว่าเมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้นเธอและหลินเซวียนคลาดกันเพียงไม่ถึงหนึ่งนาที หลินเซวียนก็นั่งรถกับจ้าวหลิงซานออกไปด้วยกันแล้ว เธอมาไม่ทันสอบถามสาเหตุจางเหวินเห็นว่าซูป๋ายมั่วกำลังหาที่มาที่ไป จึงรีบเอ่ยพูด“คุณซู เรื่องราวเป็นแบบนี้ครับ เพราะว่าหลินเซวียนทำเรื่องผิดมา ดังนั้นจึงถูกทหารจ้าวมานำตัวไปด้วยตัวของเธอเอง”“ทำเรื่องผิดมา?”ซูป๋ายมั่วขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย“ใช่ครับคุณซู”จางเหวินมองไปยังสีหน้าของซูป๋ายมั่วจึงยิ่งเอ่ยพูดมากขึ้นอีก“เมื่อสักครู่ทหารจ้าวบอกว่าข้อมูลเอกสารส่วนตัวของเขามีปั
“ทหารจ้าว คุณจะพาผมไปที่ไหน?”หลินเซวียนเอ่ยถามขณะนั่งอยู่ที่ที่นั่งฝั่งผู้โดยสารของรถกระบะ พร้อมมองทิวทัศน์ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วด้านนอกหน้าต่าง“สบายใจเถอะ ฉันไม่พาคุณไปที่เขตสงครามหรอก แค่นั่งรถเล่นไปเรื่อยๆ”จ้าวหลิงซานเอ่ยตอบ พร้อมพูดเสริมต่อ“แน่นอน ถ้าหากว่าคุณไม่สามารถตอบคำถามตามความจริงของฉันได้ ไม่แน่ฉันอาจจะพาคุณกลับไปทรมานก็เป็นได้ และท้ายที่สุดแล้ว คุณก็เป็นบุคคลที่ไม่มีข้อมูลเอกสาร”“ทหารจ้าว ผมเป็นประชากรที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบคนหนึ่งนะ”หลินเซวียนเอ่ยพูด พร้อมยิ้มมุมปากอย่างไม่แยแสเขาไม่กังวลว่าจ้าวหลิงซานจะพาเขากลับไปทรมานที่เขตสงครามจริงๆ“เหอะ ใครจะรู้ล่ะ”จ้าวหลิงซานถอนหายใจ และตอนนี้แววตาก็กลับมาดุดันอีกครั้ง“หลินเซวียน ฉันถามคุณ มือปืนบนยอดเขาคนนั้น คุณฆ่าเขาจริงๆเหรอ?”“ใช่”หลินเซวียนตอบกลับอย่างไม่ลังเลฟึด!เมื่อจ้าวหลิงซานได้ยินเช่นนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นเฉียบลงท้อง แม้ว่าเธอจะพอเตรียมใจมาบ้างแล้ว“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆแล้วลำดับความแข็งแกร่งของคุณคือ?”จ้าวหลิงซานชะลอรถ และมองไปทางด้านหลินเซวียนอย่างเคร่งขรึม“เอ่อ……ไม่เคยจัด และไม่ชัดเจนเกี่ยวกับผู
“ทำไมล่ะสวี่ถิง? ทำไมคุณต้องทำแบบนี้กับผม?”“แต่งงานกันมาห้าปี ผมดีกับคุณไม่พองั้นเหรอ? ทำไมคุณต้องไปนอนกับผู้ชายคนอื่นลับหลังผมด้วย!”ในวิลล่า ดวงตาทั้งสองข้างของหลินเซวียนแดงก่ำ เขาตะโกนถามสาวสวยร่างสูงที่สวมชุดสูทสีดำโอแอลตรงหน้าบนโต๊ะด้านหน้าของพวกเขา มีรูปถ่ายหลายใบของสวี่ถิงกับผู้ชายแปลกหน้า เดินโอบเอวกันเข้าไปในโรงแรม“หลินเซวียน นี่คุณแอบสะกดรอยตามฉันงั้นเหรอ?”สวี่ถิงขมวดคิ้ว มองรูปถ่ายบนโต๊ะเหล่านั้น ใบหน้าสวยของเธอไม่มีร่องรอยของความละอายเลยแม้แต่น้อย ทว่ากลับเต็มไปด้วยความเย็นชา “ถ้างั้น เราหย่ากันเถอะ”“หย่า?”หลินเซวียนรู้สึกเหมือนศีรษะของเขาถูกกระแทก ร่างกายของเขาสั่นสะท้านเล็กน้อยเขาแค่ต้องการคำอธิบายจากสวี่ถิง บอกเขาว่าทุกอย่างไม่เป็นความจริง แม้จะเป็นคำโกหกก็ตามแต่สิ่งที่เขาได้รับคือคำขอหย่า“ใช่ หย่า”“นี่ใบหย่า เซ็นซะ”สวี่ถิงหยิบใบหย่าออกมาจากกระเป๋าสะพายแอร์เมสมูลค่าหลายสิบล้านบาท และวางตรงหน้าหลินเซวียนหลินเซวียนเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อ มองดูใบหย่าร้างที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไปที่สวี่ถิง “คุณคิดอยากจะหย่ากับผมมาตั้งนานแล้วใช่ไหม?”
สำหรับกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ตรงหน้าหลินเซวียนดูเฉยเมย ไม่ได้แปลกใจมากนัก“ยินดีต้อนรับคุณหลิน!”ทุกคนกล่าวทักทายเขาพร้อมกัน"อืม"หลินเซวียนพยักหน้าแล้วเข้าไปนั่งในรถในเวลาเดียวกัน เขาก็กดปุ่มตอบรับสายบนโทรศัพท์"นายท่าน!"ทันใดนั้น ก็มีเสียงผู้ชายแสดงความเคารพอย่างสูงก็ดังเข้ามา"เฮดีส"หลินเซวียนพูดเบา ๆ“ยินดีต้อนรับการกลับมาของนายท่าน!”“นายท่าน ในช่วงที่ท่านไม่อยู่ ผมได้ดูแลบริษัทหนึ่งร้อยห้าสิบแห่งทั่วประเทศ รวมถึงทรัพย์สินในต่างประเทศจำนวนสองพันห้าร้อยล้านบาทแทนท่าน ตอนนี้ท่านกลับมาแล้ว ทรัพย์สินเหล่านี้จะส่งต่อไปถึงในมือท่านภายในหนึ่งวันครับ”“ไม่ต้องรีบขนาดนั้น คุณก็รู้ว่า ห้าปีมานี้ฉันขี้เกียจจนเคยชินแล้ว”“ผู้หญิงคนนั้น เป็นตัวถ่วงคุณ”ทันใดนั้นน้ำเสียงของเฮดีสเต็มไปด้วยความเย็นชา: "นายท่าน คุณต้องการให้ผมทำให้บริษัทของเธอล้มละลายไหมครับ"หลายปีที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่เพราะนายท่านสั่งให้เขาแอบสนับสนุนสวี่ถิง บริษัทของผู้หญิงคนนั้นจะพัฒนาเหมือนที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้เหรอ เธอจะถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในสิบผู้ประกอบการดีเด่นในเมืองเมืองซูงั้นเหรอ?ผู้หญิงที่ไม่รู้จักสำนึก