“คุณคงไม่หลงกลกับคำพูดของฉันจริงๆใช่ไหม?”หลินซือซือมองไปทางด้านหลินเซวียนที่วิตกกังวล และอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าเมื่อสักครู่เธอก็เพียงแค่คาดเดาสุ่มสี่สุ่มห้า“ฮ่าๆ จะเป็นไปได้ไง!”หลินเซวียนยิ้ม พร้อมเอ่ย“ฉันเองก็คิดเหมือนกัน……”“เหอะ ไม่อนุญาตให้คิด”ในเวลานี้หวังซือซือตะคอกออกมาเบาๆ“ห๊ะ?”หลินเซวียนตกใจหวังซือซือโกรธเล็กน้อย สัมผัสได้ว่าปฏิกิริยาของตนเองค่อนข้างมากเกินไป และรีบเปลี่ยนหัวข้อในการพูดคุยทันที“หลินเซวียน คุณตอบฉันมาอย่างซื่อสัตย์นะ คุณรู้จักคุณซูใช่ไหม?”ติ๊งในเวลานี้ ลิฟต์ลงมาถึงชั้นที่หนึ่ง“พวกเราออกไปกันก่อนเถอะ”หลินเซวียนมองไปยังประตูลิฟต์ที่เปิดออก พร้อมเอ่ยพูด“อื้อ”หวังซือซือพยักหน้าทั้งสองคนเดินออกไปทางประตูของโรงแรม“หลินเซวียน คุณรู้จักคุณซูใช่ไหม?”หลินซือซือถามคำถามเมื่อครู่ต่อ“ทำไมจู่ๆถึงถามแบบนี้ละ?”หลินเซวียนต้องการฟังน้ำเสียงของหวังซือซือ“ถ้าไม่งั้นวันนี้คุณซูก็คงจะไม่มาหาฉันเพื่อพูดคุยเรื่องการร่วมมือโครงการใช่ไหม?”หวังซือซือเอ่ยพูด“ทำไมจะไม่ใช่ละ ก็เห็นอยู่ว่าคุณเก่งทั้งและยอดเยี่ยมถึงถูกคุณซูเลือก”หลินเซวียนเอ่ยอ้าง“หลินเซวียน คุณไม่จ
“ปัญหาข้อมูลเอกสารของผม?”หลินเซวียนตกใจ แต่ก็เข้าใจสิ่งที่จ้าวหลิงซานพูดขึ้นมาทันทีดูๆแล้ว ผู้หญิงคนนี้ได้ทำการไปตรวจสอบข้อมูลเอกสารของเขามาแล้ว“ใช่”จ้าวหลิงซานมองด้วยสายตาที่ดุดันไปทางหลินเซวียนตรวจสอบไม่พบบุคคลนี้ ปกติมีความเป็นได้เพียงสองทางประการที่หนึ่ง หลินเซวียนลักลอบเข้ามาประการที่สอง ข้อมูลเอกสารของหลินเซวียนเป็นความลับของรัฐตอนนี้เธอคิดว่ามีแนวโน้มไปทางที่สองมากกว่าแต่ว่า เธอไม่สามารถประมาทได้จนกว่าความเป็นไปได้ประการที่หนึ่งยังไม่ได้รับการยกเว้นอย่างสมบูรณ์แบบ“ทหารจ้าว ตรวจสอบข้อมูลเอกสารส่วนบุคคลของผู้อื่น คงไม่ใช่เรื่องที่ดีคุณว่าไหม?”หลินเซวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมมองไปทางด้านจ้าวหลิงซาน“เหอะ ฉันทำงานอย่างยุติธรรม และฉันก็มีเหตุผลที่จะสงสัยคุณ”จ้าวหลิงซานถอนหายใจ พร้อมเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็ง“ดังนั้น ตอนนี้คุณไปกับฉันเถอะ ฉันมีเรื่องอยากจะถามคุณเยอะแยะไปหมด”ระหว่างที่พูด เธอก็ได้ส่งสัญญาณผ่านสายตาให้กับหลินเซวียน เพื่อเป็นการบอกว่าคุณเองก็คงไม่อยากพูดเรื่องเหล่านั้นต่อหน้าผู้อื่นเพื่อเป็นการเปิดเผยตัวตนหรอกนะ?หลินเซวียนรู้สึกว่าจ้าวหลิงซานคิดวิเคราะห์มาร
“คุณซู!”จางเหวินและสวี่ถิงเห็นว่าซูป๋ายมั่วและเซียวเม่ยเดินออกมาที่ประตูโรงแรม ก็รีบไปต้อนรับทันที“ทำไมพวกคุณถึงยังไม่ไปกันอีก?”ซูป๋ายมั่วขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีสวี่ถิงชะงัก เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาอันเลือดเย็นของซูป๋ายมั่ว ในเวลานี้เธอไม่รู้ว่าสมควรจะตอบอย่างไรดีจางเหวินตีเนียนอย่างเห็นได้ชัด ทำหน้าทำตาเอาจริงเอาจัง พร้อมเอ่ยพูดอย่างสบายใจ“คุณซู เมื่อสักครู่เจอกับทหารจ้าวที่ประตูโรงแรม เธอมาหาหลินเซวียน”“มาหาหลินเซวียน?”ซูป๋ายมั่วแววตาสั่นคลอน พร้อมเอ่ยถามต่อ“จ้าวหลิงซานมาหาหลินเซวียนทำไม?”เธอประหลาดใจว่าเมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้นเธอและหลินเซวียนคลาดกันเพียงไม่ถึงหนึ่งนาที หลินเซวียนก็นั่งรถกับจ้าวหลิงซานออกไปด้วยกันแล้ว เธอมาไม่ทันสอบถามสาเหตุจางเหวินเห็นว่าซูป๋ายมั่วกำลังหาที่มาที่ไป จึงรีบเอ่ยพูด“คุณซู เรื่องราวเป็นแบบนี้ครับ เพราะว่าหลินเซวียนทำเรื่องผิดมา ดังนั้นจึงถูกทหารจ้าวมานำตัวไปด้วยตัวของเธอเอง”“ทำเรื่องผิดมา?”ซูป๋ายมั่วขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย“ใช่ครับคุณซู”จางเหวินมองไปยังสีหน้าของซูป๋ายมั่วจึงยิ่งเอ่ยพูดมากขึ้นอีก“เมื่อสักครู่ทหารจ้าวบอกว่าข้อมูลเอกสารส่วนตัวของเขามีปั
“ทหารจ้าว คุณจะพาผมไปที่ไหน?”หลินเซวียนเอ่ยถามขณะนั่งอยู่ที่ที่นั่งฝั่งผู้โดยสารของรถกระบะ พร้อมมองทิวทัศน์ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วด้านนอกหน้าต่าง“สบายใจเถอะ ฉันไม่พาคุณไปที่เขตสงครามหรอก แค่นั่งรถเล่นไปเรื่อยๆ”จ้าวหลิงซานเอ่ยตอบ พร้อมพูดเสริมต่อ“แน่นอน ถ้าหากว่าคุณไม่สามารถตอบคำถามตามความจริงของฉันได้ ไม่แน่ฉันอาจจะพาคุณกลับไปทรมานก็เป็นได้ และท้ายที่สุดแล้ว คุณก็เป็นบุคคลที่ไม่มีข้อมูลเอกสาร”“ทหารจ้าว ผมเป็นประชากรที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบคนหนึ่งนะ”หลินเซวียนเอ่ยพูด พร้อมยิ้มมุมปากอย่างไม่แยแสเขาไม่กังวลว่าจ้าวหลิงซานจะพาเขากลับไปทรมานที่เขตสงครามจริงๆ“เหอะ ใครจะรู้ล่ะ”จ้าวหลิงซานถอนหายใจ และตอนนี้แววตาก็กลับมาดุดันอีกครั้ง“หลินเซวียน ฉันถามคุณ มือปืนบนยอดเขาคนนั้น คุณฆ่าเขาจริงๆเหรอ?”“ใช่”หลินเซวียนตอบกลับอย่างไม่ลังเลฟึด!เมื่อจ้าวหลิงซานได้ยินเช่นนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นเฉียบลงท้อง แม้ว่าเธอจะพอเตรียมใจมาบ้างแล้ว“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆแล้วลำดับความแข็งแกร่งของคุณคือ?”จ้าวหลิงซานชะลอรถ และมองไปทางด้านหลินเซวียนอย่างเคร่งขรึม“เอ่อ……ไม่เคยจัด และไม่ชัดเจนเกี่ยวกับผู
“ทำไมล่ะสวี่ถิง? ทำไมคุณต้องทำแบบนี้กับผม?”“แต่งงานกันมาห้าปี ผมดีกับคุณไม่พองั้นเหรอ? ทำไมคุณต้องไปนอนกับผู้ชายคนอื่นลับหลังผมด้วย!”ในวิลล่า ดวงตาทั้งสองข้างของหลินเซวียนแดงก่ำ เขาตะโกนถามสาวสวยร่างสูงที่สวมชุดสูทสีดำโอแอลตรงหน้าบนโต๊ะด้านหน้าของพวกเขา มีรูปถ่ายหลายใบของสวี่ถิงกับผู้ชายแปลกหน้า เดินโอบเอวกันเข้าไปในโรงแรม“หลินเซวียน นี่คุณแอบสะกดรอยตามฉันงั้นเหรอ?”สวี่ถิงขมวดคิ้ว มองรูปถ่ายบนโต๊ะเหล่านั้น ใบหน้าสวยของเธอไม่มีร่องรอยของความละอายเลยแม้แต่น้อย ทว่ากลับเต็มไปด้วยความเย็นชา “ถ้างั้น เราหย่ากันเถอะ”“หย่า?”หลินเซวียนรู้สึกเหมือนศีรษะของเขาถูกกระแทก ร่างกายของเขาสั่นสะท้านเล็กน้อยเขาแค่ต้องการคำอธิบายจากสวี่ถิง บอกเขาว่าทุกอย่างไม่เป็นความจริง แม้จะเป็นคำโกหกก็ตามแต่สิ่งที่เขาได้รับคือคำขอหย่า“ใช่ หย่า”“นี่ใบหย่า เซ็นซะ”สวี่ถิงหยิบใบหย่าออกมาจากกระเป๋าสะพายแอร์เมสมูลค่าหลายสิบล้านบาท และวางตรงหน้าหลินเซวียนหลินเซวียนเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อ มองดูใบหย่าร้างที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไปที่สวี่ถิง “คุณคิดอยากจะหย่ากับผมมาตั้งนานแล้วใช่ไหม?”
สำหรับกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ตรงหน้าหลินเซวียนดูเฉยเมย ไม่ได้แปลกใจมากนัก“ยินดีต้อนรับคุณหลิน!”ทุกคนกล่าวทักทายเขาพร้อมกัน"อืม"หลินเซวียนพยักหน้าแล้วเข้าไปนั่งในรถในเวลาเดียวกัน เขาก็กดปุ่มตอบรับสายบนโทรศัพท์"นายท่าน!"ทันใดนั้น ก็มีเสียงผู้ชายแสดงความเคารพอย่างสูงก็ดังเข้ามา"เฮดีส"หลินเซวียนพูดเบา ๆ“ยินดีต้อนรับการกลับมาของนายท่าน!”“นายท่าน ในช่วงที่ท่านไม่อยู่ ผมได้ดูแลบริษัทหนึ่งร้อยห้าสิบแห่งทั่วประเทศ รวมถึงทรัพย์สินในต่างประเทศจำนวนสองพันห้าร้อยล้านบาทแทนท่าน ตอนนี้ท่านกลับมาแล้ว ทรัพย์สินเหล่านี้จะส่งต่อไปถึงในมือท่านภายในหนึ่งวันครับ”“ไม่ต้องรีบขนาดนั้น คุณก็รู้ว่า ห้าปีมานี้ฉันขี้เกียจจนเคยชินแล้ว”“ผู้หญิงคนนั้น เป็นตัวถ่วงคุณ”ทันใดนั้นน้ำเสียงของเฮดีสเต็มไปด้วยความเย็นชา: "นายท่าน คุณต้องการให้ผมทำให้บริษัทของเธอล้มละลายไหมครับ"หลายปีที่ผ่านมา ถ้าไม่ใช่เพราะนายท่านสั่งให้เขาแอบสนับสนุนสวี่ถิง บริษัทของผู้หญิงคนนั้นจะพัฒนาเหมือนที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้เหรอ เธอจะถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในสิบผู้ประกอบการดีเด่นในเมืองเมืองซูงั้นเหรอ?ผู้หญิงที่ไม่รู้จักสำนึก
ซือซือ เธอคงไม่แอบไปมีอะไรลับหลังกับหลินเซวียนใช่ไหมเป็นไปไม่ได้!สวี่ถิงปฏิเสธความคิดนี้อย่างรวดเร็วนอกเหนือจากการแต่งงานห้าปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยพาหลินเซวียนไปเจอกับเพื่อนสนิทของเธอเลยด้วยรูปร่างหน้าตาของหวังซือซือกับภูมิหลังครอบครัวของเธอ เธอคงจะไม่ตกหลุมรักชายไร้ค่าอย่างหลินเซวียนหรอกใช่ไหมแม้ว่าตระกูลหวังจะไม่ถือว่าเป็นตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองซู แต่ก็ถือได้ว่าเป็นตระกูลเก่าแก่กิ๊บติดผมผีเสื้ออันนี้ หลินเซวียนต้องหยิบหรือขโมยจากที่ไหนมาเป็นแน่!เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผู้ชายคนนี้สามารถจินตนาการให้ผู้หญิงสวยๆ มากมายเขียนจดหมายรักถึงเขาได้ แล้วเรื่องน่าขยะแขยงเรื่องอื่นเขาจะทำไม่ได้แต่ยังไง เพื่อความปลอดภัย เธอจึงตัดสินใจโทรหาหวังซือซือเพื่อถามเรื่องที่มันคลุมเครือนี้มีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถสวมเขาให้กับหลินเซวียนได้ โดยที่หลินเซวียนจะไม่มีสิทธิสวมเขาแบบนั้นให้เธออย่างเด็ดขาด!สวี่ถิงโทรหาหวังซือซือแต่ขึ้นว่าไม่มีการตอบรับจากเลขหมายเธอ“ไม่มีใครรับสายเหรอ”สวี่ถิงขมวดคิ้วและเธอก็คิดว่าในเวลานี้ ซือซือน่าจะอยู่ที่บริษัทและกำลังยุ่งอยู่เป็นแน่ช่างมันเถอะ เรื่องนี้ค่อย
หลินเซวียนตกตะลึงทันทีจริงๆแล้วว่าเขาเข้าใจผิดมาโดยตลอด!จริงๆแล้วกิ๊บติดผมยังมีอีกอันที่เหมือนกัน!จริงๆแล้วหญิงสาวที่สดใสคนนั้นไม่ใช่สวี่ถิง!“ทำไมล่ะ ฉันพูดถูกแล้วใช่ไหม”สวี่ถิงมองไปที่ปฏิกิริยาของหลินเซวียนที่คิดว่าเธอพูดถูก แววตาของเธอก็ดูรังเกียจมากขึ้นเรื่อยๆสมองของหลินเซวียนสับสนวุ่นวายไปหมด เขาแทบไม่ได้ยินสิ่งที่สวี่ถิงพูดเลยแม้แต่น้อย“พูดสิ เมื่อกี้ยังพูดเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงตอนนี้แกล้งเป็นใบ้ไปแล้วล่ะ”สวี่ถิงขมวดคิ้วและก้าวร้าวมากขึ้น “ทำไมฉันถึงอยู่กับคนแบบคุณมาห้าปีด้วย! ฉันจะบอกกับคุณนะหลินเซวียน ถ้าวันนี้คุณไม่ชดใช้ค่าเสียหายทางจิตใจของฉัน เรื่องนี้จะไม่มีวันจบสิ้น!”“คุณมันหมาบ้า! บอกฉันสิ คุณแอบซ่อนเรื่องเพื่อนสนิทของฉันมานานแค่ไหนแล้ว!”“หุบปากได้ไหม”หลินเซวียนดึงสติกลับมาได้และมองไปที่สวี่ถิงด้วยสายตาดูแคลน “ผมไม่ได้ขโมยอะไรจากเพื่อนสนิทของคุณ!”ตอนนี้เขายังอยู่ในอารมณ์สับสนและยังคงมีเสียงดังก้องอยู่ในหูสวี่ถิงก็ตกตะลึงผู้ชายคนนี้...กล้าดียังไงมาตะโกนใส่เธอคุณรู้ไหมว่าในช่วงห้าปีของการแต่งงาน ไม่มีวันไหนที่หลินเซวียนไม่ยอมแพ้ต่อเธอ!"