นลินดาปลุกลูกให้ตื่นขึ้นมาเป่าเค้กก่อน
" พ่อมาแล้วเหรอครับ "
" ยังจ๊ะ พ่อมีงานด่วนมาไม่ได้แล้ว น้องธามไม่ต้องรอพ่อแล้วนะลูก เป่าเค้กกัน ดึกแล้วจะได้เข้านอน พรุ่งนี้สายๆแม่กับน้ามิวจะพาน้องธามไปเที่ยวทะเลครับ"
" เย้ ไปเที่ยวทะเล น้องธามอยากเล่นน้ำทะเลมานานแล้ว "
นลินดากับมุทิตาร้องเพลงแฮปปี้เบริดเดย์ให้ธามไท เมื่อธามไทเป่าเค้กเสร็จ ดูสภาพไม่ไหวแล้ว เด็กน้อยง่วงจัด เธอเลยต้องอุ้มลูกไปนอน ส่วนเค้กกับของกินที่ยังไม่มีใครแตะเลยมุทิตาก็จัดการเก็บเข้าตู้เย็น เอาไว้เป็นเสบียงไปเที่ยวทะเลพรุ่งนี้แทน
นลินดาห่มผ้าให้ลูกลูบหัวเบาๆจุ๊บเหม่งไป1ที สงสารลูกไม่น้อย เธอโทรหาพีรวิชหลายสายแต่เขาก็ไม่ยอมรับ ทั้งที่รับปากเอาไว้แล้วว่าจะมาหาลูก ตอนนี้เธอกับลูกคงไม่มีความหมายไม่สำคัญกับเขาแล้วใช่ไหมกับเธอไม่เท่าไหร่ แต่กับน้องธามลูกคงจะน้อยใจที่พ่อไม่อยู่ด้วยในวันเกิดของเขา ตั้งแต่เขาทำงานเป็นบอดี้การ์ด เธอกับลูกนับครั้งได้ที่เจอหน้าเขา น้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้ม เธอสะอื้นเบาๆกลัวว่าลูกจะตื่นมาเห็น
พีรวิชขบกรามแน่นแววตาเกรี้ยวโกรธ เมื่อเห็นเพื่อนชายของมาริษาโอบกอดเธอเอาไว้ เขาฟิวส์ขาดเดินเข้าไปกระชากตัวเธอออกมาแล้วกอดเธอเอาไว้เอง มืออีกข้างก็คว้าหยิบกระเป๋าของเธอมาสะพาย
" เฮ้ย! มึงเป็นใครวะมาเสือกอะไรด้วย ปล่อยมาริเดี๋ยวนี้นะ "
" กูเป็นบอดี้การ์ดของคุณมาริ กูจะพาเธอกลับบ้านตามคำสั่งเจ้าสัว "
" ถุ๊ย นึกว่าใคร ที่แท้ก็ขี้ข้านี่เอง ปล่อยมาริถ้ามึงไม่อยากเจ็บตัว "
มาริษาที่ซุกอกพีรวิช ก็งัวเงียขึ้นมามองหน้า มือนุ่มลูบไล้ที่แก้มสากของพีรวิช
" อือใครหน่ะพีร์เหรอ ฉันอยากกลับบ้านแล้ว"
" ครับ ผมจะพาคุณหนูกลับเดี๋ยวนี้ "
แต่วรุตไม่ยอม ยื้อแขนของมาริษาเอาไว้
" มาริจะรีบกลับทำไมแค่ตี1เองอยู่ต่ออีกหน่อยสิ ให้ไอ้ขี้ข้านั่นมันกลับไปก่อน เดี๋ยวโอไปส่งมาริเอง "
มาริษาตาปรือมองวรุตฉีกยิ้มหวาน
" เออนั่นสิตี1เอง จารีบกลับทำมาย "
" ไม่ได้ครับคุณหนู ดึกแล้วเจ้าสัวโทรมาถามผมหลายรอบแล้ว ถ้าเจ้าสัวรู้ว่าคุณหนูมาดื่มจนเมาแบบนี้ เจ้าสัวจะดุคุณหนูนะครับ"
" เจ้าสัวเขารักมาริจะตายเขาไม่ดุด่ามาริหรอก มาริไม่ต้องไปฟังมัน มามานั่งกับโอดีกว่า "
วรุตดึงมาริษาออกมาจากอ้อมอกพีรวิชฉุดให้เธอนั่งตักของเขา สายตาเย้ยหยันพีรวิชสุดๆ
" เดี๋ยวกูดูแลมาริเอง มึงกลับไปได้แล้ว "
พูดจบก็หยิบแก้วเหล้ามากระดกลงคอ แต่พีรวิชหรือจะยอม ยังไงเขาก็ต้องพามาริษากลับไปด้วยให้ได้ พีรวิชดึงมาริษาให้ลุกขึ้น วรุตโมโหที่ถูกแย่งผลักพีรวิชออก มาริษาเสียหลักล้มลงก้นจ้ำเบ้าเพื่อนของเธอรีบเข้ามาประคองให้ลุกขึ้น พีรวิชปล่อยหมัดซัดเข้าไปที่เบ้าหน้าของวรุต วรุตก็สวนกลับ กลายเป็นว่าตอนนี้ทั้ง2แลกหมัดกันอีรุงตุงนัง จนเพื่อนคนอื่นต้องเข้ามาแยก ก่อนที่การ์ดจะวิ่งเข้ามา พีรวิชเช็ดเลือดที่มุมปากจ้องหน้าวรุตด้วยสายตาเคียดแค้น แล้วเข้าไปอุ้มมาริษา ที่ฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรออกไป
พีรวิชอุ้มมาริษาเข้ามาในรถ คาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ มือก็โดนอกนุ่มโดยไม่ตั้งใจ เขามองเธอในระยะใกล้ ลมหายใจก็ติดขัดขึ้นมา สวยเหลือเกิน ก้มดูหน้าอกอวบใหญ่คิดอยากจะสัมผัสสักครั้ง แล้วก็สะบัดหัวไล่ความคิดชั่วร้ายออกไป ปิดประตูรถอ้อมไปทางฝั่งคนขับแล้วขับออกไป
พีรวิชขับรถไปก็ปรายตามองมาริษาไปเป็นระยะ เขาขับรถช้าๆไม่อยากจะให้ถึงบ้านเร็ว ไม่รู้ทำไมอยากอยู่ใกล้เธอแบบนี้ คงเป็นเพราะกลิ่นน้ำหอมของเธอที่ทำให้เขาสดชื่นจนอยากจะดอมดมไปทั่งตัวเธอ หรือเป็นเพราะอกอวบใหญ่ที่โผล่พ้นขอบเสื้อคอกว้างมาก็ไม่รู้ ที่ทำให้เขาคอยชำเลืองมองอยู่บ่อยๆ
นลินดาเธอตัวเล็กอะไรๆก็เล็กตามไปด้วย หน้าอกหน้าใจไม่ต้องพูดถึง แบนราบยิ่งกว่าไม้กระดาน ขนาดมีลูกก็ยังแบนเหมือนเดิม จนไม่มีน้ำนมให้ลูกกิน ลูกต้องกินนมผงแทน เขากับเธอแค่อยากรู้อยากลองกันตามประสาวัยรุ่น เราเป็นคนแรกของกันและกัน พอได้ลองก็อยากจะลองอีกบ่อยๆจนเธอเกิดตั้งท้องขึ้นมา เขากับเธอเลยไปจดทะเบียนสมรสกัน หลังจากนั้นเขาได้ช่วยชีวิตเจ้าสัวโดยบังเอิญจากการที่ถูกลอบยิงเขาพาเจ้าสัวหลบหนี และเอาตัวบังกระสุนแทนจนบาดเจ็บ พอเขาหายดีเจ้าสัวก็ให้เขามาทำงานด้วย ให้เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว
เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องตัวเองเพลิน รู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่มือนุ่มนิ่มมาป้วนเปี้ยนกลางหว่างขา ก้มลงไปมองก็ใจสั่นรุนแรง มาริษาลูบไล้ไปที่เป้ากางเกงของเขาและกำลังจะรูดซิบลง พีรวิชรีบตะปบมือเธอเอาไว้ได้ทัน
" อืออย่าขัดใจ "
มาริษาร้องโวยวายปัดมือเขาออก พยายามจะรูดซิบกางเกงเขาให้ได้ เขาจับมือเธอไว้ข้าง อีกข้างก็จับพวงมาลัยรถไว้แน่น อารมณ์ของเขาเริ่มจะเตลิดแล้ว ไอ้นั่นของเขาก็แข็งขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่เธอลูบๆคลำๆแล้ว มาริษาซบลงบนบ่าแกร่งจมูกซุกไซร้ ทั่วทั้งซอกคอไล่ต่ำมาที่ไหปลาร้า ปลดกระดุมเสื้อเขาออก เขายังไม่ทันจะได้ร้องห้าม ลิ้นของเธอก็ตวัดเลียไปทั่วหัวนมสีชมพูของเขา
"ซี๊ดดด คุณหนูหยุดเดี๋ยวนี้ อาาา ผมบอกให้หยุดก่อนที่ผมจะอดใจไม่ไหว "
มาริษาดูดดุนหัวนมเสียงดังจ้วบจ้าบ ไม่สนคำเตือนของพีรวิช ส่งสายตายั่วยวนไปให้ ยังจับมือของเขาไปวางบนเต้าอวบของเธออีก พีรวิชกัดฟันกรอดความอดทนของเขาหมดลงแล้ว มือที่วางบนอกอวบก็บีบขยำเต็มแรง ก่อนจะหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าม่านรูดข้างหน้า
" นายครับได้ร่องรอยแล้วครับ เราพบรถตู้สีดำแบบเดียวกันกับภาพจากกล้องวงจรปิดในลานจอดรถที่ห้าง ถูกจอดทิ้งอยู่ท่าเรือ คาดว่ามันน่าจะพาคุณมาริขึ้นเรือไปครับพีรวิชรีบขึ้นรถขับมุ่งหน้าตรงไปท่าเรือทันที หลังจากที่ตามหามาริษามาทั้งวันภายในเรือสินค้ามาริษารู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ก้มลงไปดูตกใจสุดขีดเมื่อชายหัวโล้น กำลังตวัดลิ้นเลียร่องสวาทของเธอ" กรี๊ดดดด ไอ้บ้าออกไปนะ "มาริษาใช้มือดันหัวโล้นๆออกไปจากกลางหว่างขาของเธอ พิษณุลุกขึ้นแสยะยิ้ม ร่างกายเปลือยเปล่า ดุ้นดำๆยาวๆชี้โด่เด่ กระชากขามาริษาเข้าหาแล้วกดดุ้นลงร่องสวบ! อืมโคตรแน่น ตับ ตับ ตับ ตับพิษณุกระเด้าอย่างเมามัน " อ่า ลูกเจ้าสัวนี่มันเด็ดจริงๆโว้ย "" เด็ดอย่างนี้สิ ถึงจะขายได้ราคาดี "พิษณุใส่เสื้อผ้ากลับคืนหลังเสร็จกิจ" แก ไอ้โล้น แกหมายความว่ายังไง "" ก็หมายความว่ากูจะเอามึงไปขายหน่ะสิ แต่ก่อนขายมันก็ต้องทดลองสินค้าก่อน อย่าพูดมากเสียเวลา ลูกน้องกูอีกเป็น10 รออยู่ "มาริษาหน้าซีดเมื่อรู้ว่าถูกจับมาขาย แล้วยังจะให้พวกมันขืนใจอีก แล้วไอ้โล้นนี่มันบอกว่ายังมีรอข้างนอกอีกเป็น10 มันจะให้พวกนั้นมารุมเธอ
พีรวิชกลับถึงบ้านตอนตี1 เขาพึ่งกลับมาจากต่างประเทศเพื่อเคลียร์ปัญหาสินค้ากับมิสเตอร์ลี พอหัวถึงหมอนก็หลับเลย ตื่นเช้ามาพบว่ามือถือแบตหมดจึงรีบชาร์จ เมื่อเปิดเครื่องก็เห็นเบอร์ของมุทิตาโทรมา เขารอสักพักให้ชาร์จไฟเข้าสักหน่อย แล้วรีบกดโทรกลับไปแต่รออยู่นานก็ไม่มีคนรับ จึงโทรหานลินดาก็ปรากฎว่าเธอปิดเครื่อง เขาจึงทำได้แต่ฝากข้อความไปหลังเสร็จงานศพ นลินดากับมุทิตากลับมาที่บ้านช่วยกันเก็บข้าวของ พวกเธอตัดสินใจจะไปจากที่นี่ หลังจากช่วยกันขนของขึ้นรถแล้ว มุทิตาก็ไปทำเรื่องย้ายออกและคืนกุญแจบ้าน ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป นลินดายังคงเหม่อลอยไม่พูดไม่จา หลายวันมานี้เธอแทบไม่ได้กินอะไร จนร่างกายซูบลงไปเยอะ พวกเธอย้ายไปอยู่ห้องเช่าเล็กๆราคาถูก พอดีมี2ห้องว่างติดกัน เลยแยกกันอยู่คนละห้อง เพื่อความเป็นส่วนตัว เพราะห้องแคบมาก อยู่2คนก็จะเบียดเสียดเกินไป พีรวิชขับรถมาหานลินดา เขาคิดว่าลูกคงออกจากร.พมาพักที่บ้านแล้ว แต่พอเขาเดินไปที่หน้าบ้าน ก็เจอกับป้ายประกาศให้เช่า " อ้าวพ่อหนุ่ม จะมากินข้าวแกงเรอะ เขาเลิกขายแล้วหล่ะ ย้ายออกไปแล้ว น่าเสียดายอร่อยด้วยถูกด้วย ป้าหน่ะลูกค้าประจำเลยนะ "" ป้าพอจะรู้ไหม
พีรวิชพามาริษาขึ้นไปบนห้องนอน ในใจก็คิดถึงลูกว่าจะเป็นยังไงบ้าง ไหนจะนลินดาเธอจะหยุดร้องไห้หรือยังนะ ก็อก! ก็อก! ก็อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น พีรวิชเปิดประตูก็พบเมฆา" คุณพีร์ครับ ตอนนี้การส่งออกมีปัญหาครับ ระบายสินค้าไม่ได้ ทางบริษัทต้นทางไม่สามารถรับสินค้าได้ตามกำหนดบอกให้เราต้องชดใช้ให้เร็วที่สุด ทางบริษัทย่อยโทรมาบอกเมื่อกี้ ผมโทรหาคุณพีร์แล้วแต่ไม่มีคนรับ เลยต้องมาที่นี่ครับ"พีรวิชนึกถึงมือถือขึ้นมาก็คิดได้ ว่าลืมทิ้งไว้ที่รถ เขารีบออกไปทันที แล้วตรงไปที่โรงงานscc ซึ่งเป็นโรงงานผลิตอาหารแช่แข็งส่งต่างประเทศ อีก1ธุรกิจในเครือของเจ้าสัว ที่ร.พ น้องธามยังคงอยู่ในห้องicu นลินดายังเฝ้าอยู่หน้าห้องไม่ไปไหน" ขิง แกกลับไปพักก่อนดีไหม เดี๋ยวฉันอยู่เฝ้าที่นี่เอง ถึงอยู่ต่อก็ทำอะไรไม่ได้หรอก ตอนนี้น้องธามยังอยู่ในห้องicu แกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ได้ ดูสิเสื้อแกมีแต่เลือด "" ไม่ ฉันไม่ไป ถ้าน้องธามตื่นขึ้นมาไม่เห็นฉันแล้วจะทำยังไง ฉันไม่ไปทั้งนั้นแหละ "นลินดาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา สีหน้าอิดโรยแววตาเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง นลินดาไม่ยอมไปไหน ไม่กินข้าวกินน้ำ ไม่ว่ามุทิตาจะพูดยังไ
น้องธามถูกส่งเข้าห้องผ่าตัด กระสุนฝังที่ไหล่ นลินดายืนตัวสั่นร้องไห้โฮ มุทิตารีบตามมาหาที่ร.พ ก็ตรงเข้าไปกอดนลินดาเอาไว้ สักพักหมอเดินออกมา" คนไหนญาติน้องธามไทค่ะ "" ฉันค่ะ ฉันเป็นแม่น้อง น้องเป็นยังไงบ้างค่ะ"" เราได้ผ่าตัดเอากระสุนออกให้น้องแล้วน้องเสียเลือดมากต้องให้เลือด แต่เลือดของน้องเป็นกรุ๊ป AB negative เป็นเลือดกรุ๊ปพิเศษหายาก ทางร.พไม่มีเลือดกรุ๊ปนี้ พอจะมีคนรู้จักบริจาคไหมค่ะ "" ไอ้เลวพีร์ไงเลือดกรุ๊ปนี้ "มุทิตาบอกนลินดาก่อนจะหันไปพูดกับหมอ" พ่อของน้องเลือดกรุ๊ปนี้ค่ะ เดี๋ยวจะโทรตามให้มาเดี๋ยวนี้ "" ค่ะ ทางอย่างนั้นมาแล้วให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่นะคะ ช้าไม่ได้ตอนนี้น้องหมดสติอยู่ "มุทิตากดโทรออกหาพีรวิชทันที นลินดาลุ้นอยู่ข้างๆให้เขารีบรับสายไวๆ ความหวังของเธออยู่ที่เขาคนเดียว ถึงเราจะเลิกกันแล้วแต่น้องธามยังเป็นลูกของเขา เขายังเป็นพ่อของลูกคงไม่ใจดำขนาดนั้น มุทิตากดโทรออกหลายครั้งก็ไม่มีคนรับสาย" ติดไหม รับรึยัง เอามานี่ "นลินดาแย่งเอามือถือกดโทรหาพีรวิชเอง กดที่รอบกี่รอบก็ไม่มีคนรับสาย นลินดาทรุดตัวนั่งลงร้องไห้ ทำไมเขาถึงได้เลวขนาดนี้ ลูกกำลังจะตายแต่เขาก็ไม่สนใจ
สองร่างเปลือยเปล่ากอดก่ายกันบนเตียงใหญ่ขนาดคิงไซร์ กวินทร์ซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นของมาริษา มือก็เลื่อนไปกุมโหนกนูนนิ้วชี้บดขยี้ติ่งเสียว" อาาอูย ซี๊ดดด พะ พอ ก่อนวิน "มาริษาผลักกวินทร์ออกตั้งแต่เมื่อเช้าจนถึงตอนนี้บ่ายสองเธอกับเขากระแทกกันบนเตียงไม่หยุด ตั้งแต่ที่พีรวิชจดทะเบียนสมรสกับเธอ เขาก็เอาแต่ทำหน้าซะกะตายเหม่อลอยบ่อยๆ เธออ่อยขนาดไหนเขาก็ไม่สนใจ จนเธออารมณ์ค้างต้องไปพึ่งดิลโด้ช่วยตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งเมื่อเขาได้รับตำแหน่งประธานบริษัท เขาก็ยุ่งจนไม่มีเวลาให้เธอ บางวันก็กลับดึกบางวันก็ไม่กลับบ้านนอนค้างที่บริษัท เธอเหงาเธออยาก..... กวินทร์ที่เข้ามารับหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดคนใหม่ดูแลเธอ ได้ยินเสียงเธอร้องจึงเปิดประตูเข้ามาเจอเธอนนอนแก้ผ้าใช้ดิลโด้เสียบคารูอยู่ เขายืนมองอึ้งอยู่พักใหญ่ก่อนจะรีบไปล็อคประตูแล้ว ดึงเอาดิลโด้เขวี้ยงทิ้งไป จัดการควักดุ้นใหญ่ยักษ์ของเขาออกมาเสียบแทน ตั้งแต่นั้นมากวินทร์ก็ปรนเปรอเธอมาตลอด ลีลาของเขามันถึงใจเธอจริงๆแบบที่พีรวิชเทียบไม่ติดเลย" ที่ฉันให้สืบไปถึงไหนแล้ว "" เป็นอย่างที่คุณมาริสงสัย คุณพีร์ไปจอดรถแอบดูเมียเก่าที่ร้านขายข้าวแกงทุกวัน "" ฮึ
พีรวิชตื่นขึ้นมาหันไปมองข้างกาย มีมาริษานอนหลับตาพริ้มกอดเขาอยู่ พีรวิชจับแขนเธอที่พาดเอวเขาออก เปิดผ้าห่มเดินเปลือยกายไปเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัวให้น้ำไหลชะโลมจนเปียกโชกไปทั่วทั้งตัว ในหัวก็คิดว่าเขาทำถูกแล้วเหรอ เขาทิ้งนลินดากับลูกมาแต่งงานใหม่ ถ้าถามว่ายังรักนลินดาอยู่ไหมเขาก็ตอบว่ายังรัก ส่วนมาริษาเขารู้แค่ว่าเขาขาดเธอไม่ได้ โดยเฉพาะเซ็กซ์เธอตอบสนองเขาได้อย่างดีจนเขาเสพติดเธอไปแล้ว ไม่รู้ว่าเขาอยู่ในห้องน้ำนานเท่าไหร่รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงเคาะประตู พอเปิดออกก็พบกับมาริษาที่เดินเปลือยเปล่าเข้ามาหาเขา คุกเข่าลงไปแล้วทำให้เขาต้องเสียน้ำไปอีกหลายรอบ" ขิง แกอย่าลืมสิว่าแกมีทะเบียนสมรสนะ ฟ้องพวกมันเลยไหม เอาให้มันออกข่าวดังไปเลยเป็นไง ลูกสาวเจ้าสัวคนดังแย่งผัวชาวบ้าน แกว่าดีไหม " มุทิตาแนะนำเพื่อน" ไม่ ไม่ดี ฉันไม่มีเงินเงินจ้างทนายหรอก ที่สำคัญเล่นงานคนรวยคนมีอิทธิพลไม่ใช่เรื่องง่ายดีไม่ดีพวกเราจะซวยกันหมด ฉันอยากอยู่อย่างสงบไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใครทั้งนั้น "" เออฉันก็ลืมคิดไป ถึงต่อให้เราถูกยังไงก็สู้อำนาจเงินไม่ได้อยู่ดี ถึงจะออกข่าวไป แต่ทางนั้นก็คงใช้เงินใช้อำนาจปิดข่าว แล้วพวกเรา