พีรวิชเดินตามหลังมาริษาสองมือของเขาเต็มไปด้วยถุงใส่ของแบรนด์เนม เธอเดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ และตอนนี้เธอก็เดินเข้าร้านนาฬิกาแบรนด์หรู
" เอาของวางไว้ตรงนั้น แล้วนายมานี่ "
พีรวิชทำตามคำสั่งวางของเอาไว้แล้วเดินไปหาเธอ แม้จะรู้สึกเบื่อหน่ายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อเธอเป็นเจ้านายส่วนเขาเป็นลูกน้อง ที่เจ้านายสั่งอะไรก็ต้องทำตาม
" แบบนี้นายว่าสวยไหม "
มาริษายื่นนาฬิกาแบรนด์ดังมาให้เขาดู เขาไม่รู้หรอกว่ารสนิยมคนรวยเป็นยังไง นาฬิกามันก็คือนาฬิกาจะถูกจะแพงมันก็ใช้ดูเวลาได้เหมือนกัน
" สวยครับ"
" แล้วนายชอบรึเปล่า"
" ชอบครับ "
" งั้นก็ดี เอามือมา"
พีรวิชแปลกใจว่าจะขอมือเขาทำไมแต่ก็ยอมยื่นให้ไปโดยดี มาริษาเอานาฬิกามาใส่ข้อมือให้เขา พลิกดูไปมาแล้วยิ้มชอบใจ
" เหมาะกับนายมาก เอาอันนี้แหละ "
" รุ่นนี้ราคาอยู่ที่ 354,300 บาทค่ะ "
มาริษาส่งแบล็คการ์ดให้พนักงาน พีรวิชยังตกตะลึงไม่หายเธอซื้อนาฬิกาแพงๆให้เขาทำไมกัน เขาปฏิเสธว่าไม่รับและทำท่าจะถอดออก แต่มาริษาส่งสายตาดุมาให้ เขาเลยต้องยอมรับเอาไว้ เขาก้มมองดูที่แขนตัวเองแล้วยิ้มออกมา จะว่าไปนาฬิกานี่ก็เหมาะกับเขาจริงๆนั่นแหละ
ออกจากร้านนาฬิกา มาริษาก็เข้าร้านอาหารญี่ปุ่นสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ แล้วบังคับให้เขากินเป็นเพื่อน ไอ้เขาก็ไม่ค่อยถนัด จับตะเกียบคีบอาหารทีก็หลุดหล่นอยู่นั่นหล่ะ มาริษาหัวเราะคิกคักชอบใจใหญ่ แล้วเธอก็คีบอาหารมาจ่อที่ปากของเขา เขาก็อ้าปากงับอาหารเข้าไป กินไปก็มองหน้าเธอไป ความอิ่มเอมเกิดขึ้นในใจอย่างบอกไม่ถูก
ลมทะเลยามเย็นพัดโชยผสานกับเสียงเกลียวคลื่น นลินดายืนมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกน้ำทะเล เธอครุ่นคิดถึงเรื่องราวของเธอกับพีรวิช นับตั้งแต่เขาไปเป็นบอดี้การ์ด ความรักของเธอกับเขาก็ดูเหมือนจะลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ ความเอาใจใส่ที่เคยมีให้เธอกับลูกก็น้อยลง เขาเห็นงานสำคัญกว่าเธอเธอไม่ว่า แต่นี่เขาไม่เห็นความสำคัญของลูกเลย
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาละเลยลูก แต่หลายครั้งที่สัญญากับลูกไว้แล้วเขาก็ลืม มีอยู่ครั้งหนึ่งลูกไม่สบายต้องนอนร.พ เขาก็ไม่เคยมาเยี่ยมลูกเลย ได้แต่โทรมาถามอยู่2ครั้ง ทุกคืนเธอต้องนอนกอดลูกเพียงลำพัง เขาไม่เคยถามไม่เคยสนใจว่าเป็นยังไงบ้าง ขาดเหลืออะไรไหม ลูกเป็นยังไง มีแต่ลูกที่บ่นคิดถึงเขา ให้เธอโทรหาหน่อยอยากคุยกับพ่อ อยากเห็นหน้าพ่อ แต่โทรไปทีไรเขาก็ไม่ค่อยรับสาย ถ้ารับก็รีบพูดรีบวางบอกว่าไม่ว่าง ทำงานอยู่กลัวเจ้าสัวว่า เดี๋ยวโทรกลับแต่เขาก็ไม่เคยโทรกลับ เธอคิดว่าการมีเขากับไม่มีมันก็ไม่ต่างกันเลย
ตุ๊บ โอ้ย เด็กน้อยธามไทมัวแต่หันมองดูกังหันลม จนไปชนเข้ากับใครคนหนึ่งจนล้มลง มือหนาคว้าตัวเด็กน้อยขึ้นมา นั่งยองปัดทรายออกจากตัวเด็กน้อย ถามด้วยเสียงอ่อนโยน
" เจ็บตรงไหนใหมครับ "
ธามไทกระพริบตาปริบๆ มองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าแล้วส่ายหัว
" น้องธามเป็นอะไรรึเปล่าลูก เจ็บตรงไหนใหม " นลินดารีบวิ่งมาพลิกตัวลูกซ้ายขวา ดูว่ามีบาดแผลตรงไหนรึเปล่า
เธอโทษตัวเองที่เอาแต่ยืนเหม่อปล่อยให้ลูกเดินไปไกลสายตาทั้งที่เมื่อกี้ลูกยังเล่นอยู่ตรงนี้อยู่เลย
" ไม่เป็นไรครับ ไม่เจ็บตรงไหนเลย น้องธามเห็นกังหันเลยเดินตามมา น้องธามไม่มองทางเลยชนกับพี่คนหล่อครับ "
นลินดาเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็สบตากับชายหนุ่มนัยตาสีดำเป็นประกาย ดูๆแล้วอายุน่าจะยังน้อยอยู่ หน้าตาหล่อเหลาเหมือนอย่างที่ลูกเธอบอกไม่มีผิด อ่า หล่อเท่ห์แบดบอย นลินดาดึงสติคืนมาแล้วลุกขึ้น
" ขอโทษนะคะ ที่ลูกฉันชนคุณ น้องธามขอโทษพี่เขาสิลูก "
" น้องธามขอโทษครับพี่คนหล่อ "
โยธากระตุกยิ้มมุมปากหัวเราะ หึ หึ เขาก็รู้ตัวอ่ะนะว่าเขาหล่อ เด็กนี่ก็ชมเขาจริงจังซะด้วย ดูสิมองเขาตาไม่กระพริบเลย ยิ่งคนเป็นแม่เธอยิ่งมองเขาแบบตะลึง เหมือนเขาเป็นซุปตาร์ยังไงยังงั้นแหละ
" ไม่เป็นไร หนูน้อยชอบกังหันเหรอ "
" ครับ "
" เดี๋ยวแม่ " เธอพูดยังไม่ทันจบว่าเดี๋ยวจะซื้อให้ลูกเอง เขาก็พูดขึ้นมาก่อน
" แม่ค้ามานี่หน่อย "
เขาตะโกนเรียกแม่ค้าที่ถือกังหันเดินไปมา
" ชอบอันไหนเลือกเลย "
โยธาถือวิสาสะอุ้มธามไทขึ้นมาให้เขาได้เลือกได้สะดวก ธามไทหยิบเอากังหันอันใหญ่สีฟ้ามา1อัน หันมายิ้มหวานให้โยธา
โยธาวางเด็กลงหยิบเอาเงินในกระเป๋าออกมาส่งแบงค์ร้อย1ใบให้แม่ค้า
" อ่ะ ไม่ต้องทอน "
แม่ค้าก้มมองเงินในมือ แล้วเงยหน้ามองตาขวาง จนโยธาต้องบอกอีกครั้ง
" ไม่ต้องเกรงใจ เอาไปเถอะบอกแล้วไงว่าไม่ต้องทอน "
เขาเข้าใจว่าเดินขายของแบบนี้มันเหนื่อยกว่าจะได้แต่ละบาท วันนึงจะขายได้กี่อันกันเชียว ดูสิเย็นป่านนี้แล้วยังไม่เลิกขายเลย
" อันนั้นอันใหญ่ 200บาท "
โยธาหุบยิ้มแทบไม่ทัน อะไรนะ200ทำไมมันแพงจังวะ มันก็แค่กังหันธรรมดา ที่บอกอันใหญ่ก็ไม่เห็นมันจะใหญ่กว่ากันตรงไหนก็มีแต่ไม้จับนั่นแหละที่ยาวกว่ากันนิดหน่อย
" นี่ค่ะ "
นลินดาส่งแบงค์ร้อยสองใบให้แม่ค้า แล้วเอาแบงค์ร้อยก่อนหน้ายัดใส่มือคืนให้โยธา ก่อนจะอุ้มลูกเดินออกไป ธามไทหันมาโบกมือบ๊ายบายโยธา ส่งยิ้มหวานให้แล้วหันกลับไปสนใจกังหันในมือต่อ
โยธาหันไปมองแม่ค้าที่ส่งสายตาเย้ยหยันมาให้ คงคิดว่าเขาไม่มีเงินล่ะสิ โธ่ เขาก็ไม่มีจริงๆนั่นแหละ เงินสดมีติดกะเป๋าอยู่แค่100เดียว แต่เงินในบัตร อันลิมิเต็ด เมื่อกี้สแกนจ่ายซะก็ดี
" ไอ้โย มึงมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ "
" กูมาเดินเล่น ดูพระอาทิตย์ตก "
" หน้าอย่างมึงมีอารมณ์สุนทรีกับเขาด้วย "
โยธาหันควับมาส่งสายตาดุให้เลโก้
" พระอาทิตย์หรือว่าสาว กูเห็นนะว่ามึงมองผู้หญิงที่อุ้มลูกไปเมื่อกี้ "
โยธาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ไอ้เพื่อนเวรนี่มันตาดีจริงๆ ไปไหนทำอะไรมันรู้หมด
โคตรเสือก เมื่อคิดถึงหน้าของผู้หญิงเมื่อกี้ก็กระตุกยิ้มมุมปากอย่างอดไม่ได้
เลโก้มองหน้าโยธาสลับกับทางที่ผู้หญิงอุ้มลูกไปเมื่อกี้ เขาก็คิดในใจ สงสัยเพื่อนเขาจะชอบแบบนี้ แบบมีพันธะ จีบติดปุ๊ปแถมลูกปั๊บ แต่ถ้าผัวเขารู้อาจได้ตีนมาเป็นของแถม ไม่ได้ ไม่ได้ เขาต้องคอยจับตามองมันไว้ ไม่ให้มันไปสร้างความร้าวฉานให้ครอบครัวคนอื่น
" นายครับได้ร่องรอยแล้วครับ เราพบรถตู้สีดำแบบเดียวกันกับภาพจากกล้องวงจรปิดในลานจอดรถที่ห้าง ถูกจอดทิ้งอยู่ท่าเรือ คาดว่ามันน่าจะพาคุณมาริขึ้นเรือไปครับพีรวิชรีบขึ้นรถขับมุ่งหน้าตรงไปท่าเรือทันที หลังจากที่ตามหามาริษามาทั้งวันภายในเรือสินค้ามาริษารู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ก้มลงไปดูตกใจสุดขีดเมื่อชายหัวโล้น กำลังตวัดลิ้นเลียร่องสวาทของเธอ" กรี๊ดดดด ไอ้บ้าออกไปนะ "มาริษาใช้มือดันหัวโล้นๆออกไปจากกลางหว่างขาของเธอ พิษณุลุกขึ้นแสยะยิ้ม ร่างกายเปลือยเปล่า ดุ้นดำๆยาวๆชี้โด่เด่ กระชากขามาริษาเข้าหาแล้วกดดุ้นลงร่องสวบ! อืมโคตรแน่น ตับ ตับ ตับ ตับพิษณุกระเด้าอย่างเมามัน " อ่า ลูกเจ้าสัวนี่มันเด็ดจริงๆโว้ย "" เด็ดอย่างนี้สิ ถึงจะขายได้ราคาดี "พิษณุใส่เสื้อผ้ากลับคืนหลังเสร็จกิจ" แก ไอ้โล้น แกหมายความว่ายังไง "" ก็หมายความว่ากูจะเอามึงไปขายหน่ะสิ แต่ก่อนขายมันก็ต้องทดลองสินค้าก่อน อย่าพูดมากเสียเวลา ลูกน้องกูอีกเป็น10 รออยู่ "มาริษาหน้าซีดเมื่อรู้ว่าถูกจับมาขาย แล้วยังจะให้พวกมันขืนใจอีก แล้วไอ้โล้นนี่มันบอกว่ายังมีรอข้างนอกอีกเป็น10 มันจะให้พวกนั้นมารุมเธอ
พีรวิชกลับถึงบ้านตอนตี1 เขาพึ่งกลับมาจากต่างประเทศเพื่อเคลียร์ปัญหาสินค้ากับมิสเตอร์ลี พอหัวถึงหมอนก็หลับเลย ตื่นเช้ามาพบว่ามือถือแบตหมดจึงรีบชาร์จ เมื่อเปิดเครื่องก็เห็นเบอร์ของมุทิตาโทรมา เขารอสักพักให้ชาร์จไฟเข้าสักหน่อย แล้วรีบกดโทรกลับไปแต่รออยู่นานก็ไม่มีคนรับ จึงโทรหานลินดาก็ปรากฎว่าเธอปิดเครื่อง เขาจึงทำได้แต่ฝากข้อความไปหลังเสร็จงานศพ นลินดากับมุทิตากลับมาที่บ้านช่วยกันเก็บข้าวของ พวกเธอตัดสินใจจะไปจากที่นี่ หลังจากช่วยกันขนของขึ้นรถแล้ว มุทิตาก็ไปทำเรื่องย้ายออกและคืนกุญแจบ้าน ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป นลินดายังคงเหม่อลอยไม่พูดไม่จา หลายวันมานี้เธอแทบไม่ได้กินอะไร จนร่างกายซูบลงไปเยอะ พวกเธอย้ายไปอยู่ห้องเช่าเล็กๆราคาถูก พอดีมี2ห้องว่างติดกัน เลยแยกกันอยู่คนละห้อง เพื่อความเป็นส่วนตัว เพราะห้องแคบมาก อยู่2คนก็จะเบียดเสียดเกินไป พีรวิชขับรถมาหานลินดา เขาคิดว่าลูกคงออกจากร.พมาพักที่บ้านแล้ว แต่พอเขาเดินไปที่หน้าบ้าน ก็เจอกับป้ายประกาศให้เช่า " อ้าวพ่อหนุ่ม จะมากินข้าวแกงเรอะ เขาเลิกขายแล้วหล่ะ ย้ายออกไปแล้ว น่าเสียดายอร่อยด้วยถูกด้วย ป้าหน่ะลูกค้าประจำเลยนะ "" ป้าพอจะรู้ไหม
พีรวิชพามาริษาขึ้นไปบนห้องนอน ในใจก็คิดถึงลูกว่าจะเป็นยังไงบ้าง ไหนจะนลินดาเธอจะหยุดร้องไห้หรือยังนะ ก็อก! ก็อก! ก็อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น พีรวิชเปิดประตูก็พบเมฆา" คุณพีร์ครับ ตอนนี้การส่งออกมีปัญหาครับ ระบายสินค้าไม่ได้ ทางบริษัทต้นทางไม่สามารถรับสินค้าได้ตามกำหนดบอกให้เราต้องชดใช้ให้เร็วที่สุด ทางบริษัทย่อยโทรมาบอกเมื่อกี้ ผมโทรหาคุณพีร์แล้วแต่ไม่มีคนรับ เลยต้องมาที่นี่ครับ"พีรวิชนึกถึงมือถือขึ้นมาก็คิดได้ ว่าลืมทิ้งไว้ที่รถ เขารีบออกไปทันที แล้วตรงไปที่โรงงานscc ซึ่งเป็นโรงงานผลิตอาหารแช่แข็งส่งต่างประเทศ อีก1ธุรกิจในเครือของเจ้าสัว ที่ร.พ น้องธามยังคงอยู่ในห้องicu นลินดายังเฝ้าอยู่หน้าห้องไม่ไปไหน" ขิง แกกลับไปพักก่อนดีไหม เดี๋ยวฉันอยู่เฝ้าที่นี่เอง ถึงอยู่ต่อก็ทำอะไรไม่ได้หรอก ตอนนี้น้องธามยังอยู่ในห้องicu แกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ได้ ดูสิเสื้อแกมีแต่เลือด "" ไม่ ฉันไม่ไป ถ้าน้องธามตื่นขึ้นมาไม่เห็นฉันแล้วจะทำยังไง ฉันไม่ไปทั้งนั้นแหละ "นลินดาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา สีหน้าอิดโรยแววตาเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง นลินดาไม่ยอมไปไหน ไม่กินข้าวกินน้ำ ไม่ว่ามุทิตาจะพูดยังไ
น้องธามถูกส่งเข้าห้องผ่าตัด กระสุนฝังที่ไหล่ นลินดายืนตัวสั่นร้องไห้โฮ มุทิตารีบตามมาหาที่ร.พ ก็ตรงเข้าไปกอดนลินดาเอาไว้ สักพักหมอเดินออกมา" คนไหนญาติน้องธามไทค่ะ "" ฉันค่ะ ฉันเป็นแม่น้อง น้องเป็นยังไงบ้างค่ะ"" เราได้ผ่าตัดเอากระสุนออกให้น้องแล้วน้องเสียเลือดมากต้องให้เลือด แต่เลือดของน้องเป็นกรุ๊ป AB negative เป็นเลือดกรุ๊ปพิเศษหายาก ทางร.พไม่มีเลือดกรุ๊ปนี้ พอจะมีคนรู้จักบริจาคไหมค่ะ "" ไอ้เลวพีร์ไงเลือดกรุ๊ปนี้ "มุทิตาบอกนลินดาก่อนจะหันไปพูดกับหมอ" พ่อของน้องเลือดกรุ๊ปนี้ค่ะ เดี๋ยวจะโทรตามให้มาเดี๋ยวนี้ "" ค่ะ ทางอย่างนั้นมาแล้วให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่นะคะ ช้าไม่ได้ตอนนี้น้องหมดสติอยู่ "มุทิตากดโทรออกหาพีรวิชทันที นลินดาลุ้นอยู่ข้างๆให้เขารีบรับสายไวๆ ความหวังของเธออยู่ที่เขาคนเดียว ถึงเราจะเลิกกันแล้วแต่น้องธามยังเป็นลูกของเขา เขายังเป็นพ่อของลูกคงไม่ใจดำขนาดนั้น มุทิตากดโทรออกหลายครั้งก็ไม่มีคนรับสาย" ติดไหม รับรึยัง เอามานี่ "นลินดาแย่งเอามือถือกดโทรหาพีรวิชเอง กดที่รอบกี่รอบก็ไม่มีคนรับสาย นลินดาทรุดตัวนั่งลงร้องไห้ ทำไมเขาถึงได้เลวขนาดนี้ ลูกกำลังจะตายแต่เขาก็ไม่สนใจ
สองร่างเปลือยเปล่ากอดก่ายกันบนเตียงใหญ่ขนาดคิงไซร์ กวินทร์ซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นของมาริษา มือก็เลื่อนไปกุมโหนกนูนนิ้วชี้บดขยี้ติ่งเสียว" อาาอูย ซี๊ดดด พะ พอ ก่อนวิน "มาริษาผลักกวินทร์ออกตั้งแต่เมื่อเช้าจนถึงตอนนี้บ่ายสองเธอกับเขากระแทกกันบนเตียงไม่หยุด ตั้งแต่ที่พีรวิชจดทะเบียนสมรสกับเธอ เขาก็เอาแต่ทำหน้าซะกะตายเหม่อลอยบ่อยๆ เธออ่อยขนาดไหนเขาก็ไม่สนใจ จนเธออารมณ์ค้างต้องไปพึ่งดิลโด้ช่วยตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งเมื่อเขาได้รับตำแหน่งประธานบริษัท เขาก็ยุ่งจนไม่มีเวลาให้เธอ บางวันก็กลับดึกบางวันก็ไม่กลับบ้านนอนค้างที่บริษัท เธอเหงาเธออยาก..... กวินทร์ที่เข้ามารับหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดคนใหม่ดูแลเธอ ได้ยินเสียงเธอร้องจึงเปิดประตูเข้ามาเจอเธอนนอนแก้ผ้าใช้ดิลโด้เสียบคารูอยู่ เขายืนมองอึ้งอยู่พักใหญ่ก่อนจะรีบไปล็อคประตูแล้ว ดึงเอาดิลโด้เขวี้ยงทิ้งไป จัดการควักดุ้นใหญ่ยักษ์ของเขาออกมาเสียบแทน ตั้งแต่นั้นมากวินทร์ก็ปรนเปรอเธอมาตลอด ลีลาของเขามันถึงใจเธอจริงๆแบบที่พีรวิชเทียบไม่ติดเลย" ที่ฉันให้สืบไปถึงไหนแล้ว "" เป็นอย่างที่คุณมาริสงสัย คุณพีร์ไปจอดรถแอบดูเมียเก่าที่ร้านขายข้าวแกงทุกวัน "" ฮึ
พีรวิชตื่นขึ้นมาหันไปมองข้างกาย มีมาริษานอนหลับตาพริ้มกอดเขาอยู่ พีรวิชจับแขนเธอที่พาดเอวเขาออก เปิดผ้าห่มเดินเปลือยกายไปเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัวให้น้ำไหลชะโลมจนเปียกโชกไปทั่วทั้งตัว ในหัวก็คิดว่าเขาทำถูกแล้วเหรอ เขาทิ้งนลินดากับลูกมาแต่งงานใหม่ ถ้าถามว่ายังรักนลินดาอยู่ไหมเขาก็ตอบว่ายังรัก ส่วนมาริษาเขารู้แค่ว่าเขาขาดเธอไม่ได้ โดยเฉพาะเซ็กซ์เธอตอบสนองเขาได้อย่างดีจนเขาเสพติดเธอไปแล้ว ไม่รู้ว่าเขาอยู่ในห้องน้ำนานเท่าไหร่รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงเคาะประตู พอเปิดออกก็พบกับมาริษาที่เดินเปลือยเปล่าเข้ามาหาเขา คุกเข่าลงไปแล้วทำให้เขาต้องเสียน้ำไปอีกหลายรอบ" ขิง แกอย่าลืมสิว่าแกมีทะเบียนสมรสนะ ฟ้องพวกมันเลยไหม เอาให้มันออกข่าวดังไปเลยเป็นไง ลูกสาวเจ้าสัวคนดังแย่งผัวชาวบ้าน แกว่าดีไหม " มุทิตาแนะนำเพื่อน" ไม่ ไม่ดี ฉันไม่มีเงินเงินจ้างทนายหรอก ที่สำคัญเล่นงานคนรวยคนมีอิทธิพลไม่ใช่เรื่องง่ายดีไม่ดีพวกเราจะซวยกันหมด ฉันอยากอยู่อย่างสงบไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใครทั้งนั้น "" เออฉันก็ลืมคิดไป ถึงต่อให้เราถูกยังไงก็สู้อำนาจเงินไม่ได้อยู่ดี ถึงจะออกข่าวไป แต่ทางนั้นก็คงใช้เงินใช้อำนาจปิดข่าว แล้วพวกเรา