Share

บทที่ 5

last update Last Updated: 2025-07-29 05:34:56

เยว่ซินยังคงสงสัยแต่ไม่รู้ยังไงตอนนี้เธออยู่บนรถของฟาหยางเรียบร้อยแล้ว

"ช่วงนี้เราได้เจอกันบ่อยเลยนะคะ" เสียงหวานพูด ซึ่งฟาหยางหัวเราะตอบ

"อึดอัดหรือ"

"ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ...แค่แปลกใจ"

"ผู้กำกับฝูคงนัดวันถ่ายแล้วใช่ไหม"

"ค่ะ...อีกสี่วัน" ฟาหยางนิ่งเงียบ เขากำลังคิดถึงตารางล่วงหน้าของตนเอง

"คุณหนูเยว่อยากจะทานอะไรหรือไม่" เสียงทุ้มเอ่ยถาม

"นี่คุณฟาหยางมาหาฉันเพราะเรื่องนี้เหรอคะ?"

"ทำไมล่ะ...ฉันก็แค่หาเพื่อนทานข้าวเที่ยงด้วยกัน" เยว่ซินคิดจะปฏิเสธ แต่ก็รู้ดีว่าชายหนุ่มคงจะหาข้ออ้างต่างๆ มาเพื่อให้เธอเลือกอยู่ดี

"ตามใจคุณฟาหยางเลยค่ะ" เยว่ซินให้สิทธิ์อีกคน เอาจริงๆที่นี่เธอก็ยังไม่รู้จักร้านอาหารมากนัก

ฟาหยางไม่ได้ตอบอะไร เขาหันไปพูดอะไรบางอย่างกับอาโปแล้วจึงหันกลับมา นี่จึงเป็นอีกครั้งที่เยว่ซินต้องมายุ่งเกี่ยวกับพระเอกของเรื่องอย่างห้ามไม่ได้ แถมเธอไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้เนื้อหานิยายเปลี่ยนไปเป็นเช่นไรแล้ว แล้วตอนจบของมัน เธอยังต้องกลายเป็นคนเสียสติอีกหรือเปล่านะ!?

สี่วันต่อมา

เยว่ซินพิจารณาตัวเองในกระจกอีกครั้ง วันนี้เธออยู่ในชุดสีขาวฟ้าแบบผ้าทิ้งตัว ช่วงไหล่และไหปลาร้าโชว์ผิวขาวราวหิมะ ผมโดนเกล้าขึ้นแล้วประดับด้วยเครื่องตกแต่งสีมุก

เมื่อเยว่ซินเดินออกจากห้องแต่งตัว เหล่าทีมงานต่างมองกันตาค้างทั้งยังหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแอบถ่ายรูปอีกต่างหาก

นี่มันคุณหนูเยว่ซินแสนร้ายกาจคนนั้นจริงๆหรือ!

"งดงามจริงๆคุณหนูเยว่"

"งานนี้ต้องชื่นชมสไตล์ลิสท์ค่ะผู้กำกับฝู" หญิงสาวเอ่ยตอบแบบนอบน้อม สร้างความน่าเอ็นดูให้คนที่ได้ยินนัก

"ฮ่าๆๆขี้เกรงใจซะจริง...แล้วนี่คุณหนูเยว่อ่านสคริปต์เรียบร้อยแล้วใช่ไหม" เยว่ซินพยักหน้า แน่นอนว่าในสี่วันนี้เธอทำการบ้านมาดีนัก

"ตอนนี้เหลือจัดไฟอีกเล็กน้อย แต่ฉันมีเรื่องจะรบกวนคุณหนูเยว่เสียหน่อย" คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน เยว่ซินเอ่ยถามว่ามีอะไรให้เธอช่วยหรือ

"คะ?" หญิงสาวทวนคำอีกครั้งเมื่อผู้กำกับฝูพูดจบ

"ก็แค่เอาน้ำดื่มไปให้คุณฟาหยางเขาหน่อย...เขาเป็นคนรีเควสมาน่ะว่าอยากให้คุณหนูเยว่เป็นคนทำ" เยว่ซินยิ่งสงสัยขึ้นกว่าเก่า ทำไมฟาหยางถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วทำไมเธอถึงต้องเป็นคนทำอีกแล้ว!?

"ถ้าเราดูแลคุณฟาหยางดีล่ะก็...งานหน้าเราคงได้เขามาเป็นสปอนเซอร์อีก ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นเราอาจจะได้ทำงานด้วยกันอีกก็ได้นะคุณหนูเยว่" ผู้กำกับฝูกระซิบเบาๆ แต่คนได้ฟังกลับเบิกตากว้าง

หรือนี่คือเส้นทางสู่การเข้าวงการบันเทิงของหลี่ เยว่ซิน!

เยว่ซินยอมตกลงในที่สุด เธอรับถาดเครื่องดื่มและผลไม้มาถือไว้ในมือ ก่อนจะเดินไปยังห้องที่ผู้กำกับฝูบอกว่าฟาหยางอยู่ด้านใน

ทันทีที่เปิดประตูออก พบเป็นฟาหยางที่กำลังนั่งไขว่ห้างสูบซิการ์กลิ่นที่คุ้นเคยอยู่ เขากำลังคุยอยู่กับโปรดิวเซอร์ของกองอยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ด้านฟาหยางที่เห็นว่าเยว่ซินเป็นคนนำเครื่องดื่มมาให้จริงๆแล้วกระตุกยิ้ม เขาส่งสายตาให้คนในห้องออกไปก่อนจึงเหลือแค่ฟาหยางและเยว่ซินเท่านั้น

"เครื่องดื่มค่ะคุณฟาหยาง"

"นั่งก่อนสิ" เยว่ซินไม่มีทางเลือก เธอโค้งให้ชายหนุ่มเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกัน

"วันนี้คุณหนูเยว่ก็งดงามอีกแล้ว" ดวงตาคมสำรวจอีกคนแล้วเผยรอยยิ้ม ชุดวันนี้เข้ากับหญิงสาวมากจริงๆ เพียงแต่มันอาจจะโชว์ผิวขาวๆนั่นเยอะไปเสียหน่อย

"ขอบคุณค่ะ" เยว่ซินที่ไม่รู้จะต่อบทสนทนายังไงได้แค่นั่งนิ่งๆ แต่อยู่ๆก็นึกถึงคำพูดผู้กำกับฝูขึ้นมาได้

ถ้าเอาใจฟาหยางเสียหน่อย เธออาจจะได้ผลประโยชน์ทางการงานมากขึ้น...

"คุณหยางมาดูแผนงานของกองด้วยตัวเองเลยหรือคะ" นั่นคือสิ่งที่เธอสงสัย หากเป็นปกติสปอนเซอร์รายใหญ่คงไม่มาด้วยตนเองแต่ส่งลูกน้องมาแทน

แบบนี้คือฟาหยางเป็นคนละเอียดรอบคอบมากๆ?

"ก็ไม่ทั้งหมด...จริงๆฉันก็อยากมาดูคุณหนูเยว่" เยว่ซินหายใจสะดุดเล็กน้อย ทำไมฟาหยางถึงต้องมาดูเธอด้วย?

"ฮ่าๆ ทำเอาฉันเกร็งนิดหน่อยนะคะ" ฟาหยางยกยิ้ม เวลาที่คุณหนูเยว่ซินดูประหม่านั้นช่างน่ามองนัก

"คงใกล้ได้เวลาที่ฉันต้องไปถ่ายแล้ว...ขอตัวนะคะ"

"เอาสิ" ฟาหยางลุกขึ้นเช่นเดียวกัน เขาทิ้งซิการ์ที่เหลือครึ่งมวนลง

"คุณไม่ได้นั่งพักในห้องนี้เหรอคะ" ด้วยความสูงที่แตกต่างกันทำให้เยว่ซินต้องช้อนตาขึ้นเพื่อถาม ฟาหยางมองกระต่ายน้อยตาแป๋วที่มองเขาอยู่ด้วยแววตาเอ็นดู

"ก็บอกแล้วว่ามาดูอาเยว่" เยว่ซินชะงัก ยามที่มือหนาประดับรอยสักข้างนั้นยกขึ้นมาทาบแก้มของเธอ หมู่นี้ฟาหยางชักป้วนเปี้ยนกับเธอมากเกินไปหน่อยแล้ว ราวกับรับรู้ความคิด ฟาหยางผละตัวออก เดินนำเยว่ซินออกจากห้อง

เมื่อสปอนเซอร์รายใหญ่ปรากฎตัวเหล่าทีมงานรีบกุลีกุจอทักทายกันเสียยกใหญ่

"คุณหยางต้องการผู้ดูแลสักคนหรือไม่" ผู้กำกับฝูเอ่ยถาม ซึ่งฟาหยางก็ส่ายหน้าตอบ

"แค่คุณหนูเยว่คนเดียวพอ" ครั้นคำตอบเป็นเช่นนั้นทำให้คนได้ยินต้องหันมามองกันเป็นสายตาเดียว คุณหนูเยว่เป็นคนโปรดของคุณฟาหยางอย่างนั้นหรือ?

เยว่ซินถอนหายใจ ดูเหมือนว่าถ้าเป็นเช่นนี้ เธอคงมีทางเดียวคือช่วยเอาใจฟาหยางเท่านั้น

"งั้นเรามาเริ่มกันเลย" ผู้กำกับฝูเอ่ยเช่นนั้น เหล่าทีมงานถึงได้ประจำที่ของตนเอง ฟาหยางเดินไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างผู้กำกับ ชายหนุ่มดูเยว่ซินผ่านจอ ใบหน้าสวยประหม่าเล็กน้อยแต่ก็ยังทำได้ดี ถูกอกถูกใจผู้กำกับฝูเหลือเกิน

"คุณหนูเยว่ช่วยเชิดหน้าขึ้นอีกหน่อย" เยว่ซินเชิดหน้าขึ้นตามคำสั่ง คราวนี้เธอยกขวดน้ำขึ้นเปิดฝาแล้วดื่ม หยาดน้ำบางส่วนไหลลงข้างริมฝีปากเป็นภาพที่ดูเซ็กซี่จนทีมงานในกองมองกันตาค้างรวมถึงฟาหยางที่เผยรอยยิ้มด้วยความถูกใจ

เยว่ซินผู้นี้น่าเก็บมาไว้ข้างตัวยิ่งนัก

การถ่ายทำผ่านไปโดยใช้เวลาไม่นาน อาจเพราะไม่ว่าผู้กำกับฝูจะบรีฟท่าไหนให้เยว่ซินนั้น หญิงสาวก็ทำออกมาได้สวยสง่าอย่างยิ่ง

"คุณหนูเยว่เป็นมืออาชีพกว่าที่ฉันคิด ไม่น่าเชื่อเลยว่านี่จะเป็นครั้งแรก" เยว่ซินยิ้มตอบ หากจะพูดตามจริง นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอจริงๆ

"ต้องขอบคุณคุณฟาหยางเสียแล้วที่แนะนำคุณหนูเยว่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้" ฟาหยางหัวเราะ จริงๆชื่อของเยว่ซินนั้น จางลี่เป็นคนแนะนำต่างหาก เพียงแต่ชายหนุ่มเป็นคนเสนอคอนเฟิร์มอีกครั้งก็แค่นั้น

หลังจากหยุดคุยกับผู้กำกับฝูเล็กน้อย เยว่ซินขอตัวไปเปลี่ยนชุดแล้วลาทีมงานเพื่อที่จะขอตัวกลับ

"อาเยว่กลับกับฉัน" ฟาหยางเดินเข้ามาใกล้ เยว่ซินแม้อยากปฏิเสธแต่ก็คิดถึงอนาคตข้างหน้าที่เธออาจได้ประโยชน์จากเขาจึงตอบตกลง

"ขอบคุณคุณหยาง" หากเธอไม่สามารถสลัดเขาพ้น งั้นก็แแค่ใช้โอกาสนี้เปลี่ยนใจฟาหยางซะ

เยว่ซินบอกเลยว่าคราวนี้จุดจบของตัวละครนางร้ายคนนี้ต้องเปลี่ยนไป!

อาจูนั่งดูรูปภาพในมือถือนิ่ง วันนี้คนในกองถ่ายส่งมาให้เธอดูว่าฟาหยางคนที่มีศักดิ์จะเป็นคู่หมั้นของเธอนั้นตามไปเฝ้าเยว่ซินถึงที่

'คุณหนูจูคงไม่เชื่อแน่ว่าคุณฟาหยางคนนั้นมองเยว่ซินไม่วางตา'

'คุณฟาหยางตามมาดูแลถึงที่'

'คุณฟาหยางอาสาไปส่งคุณหนูเยว่ซิน' และอีกหลากหลายข้อความที่อาจูได้รับ เธอไม่แน่ใจนักว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นอย่างไร แต่การที่ฟาหยางผู้นั้นไปคลุกคลีอยู่กับกองถ่ายโฆษณาที่มีเยว่ซินเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้นก็ค่อนข้างชัดเจนว่าฟาหยางดูสนใจเยว่ซินขึ้นมา

"ไหนบอกว่าเกลียดกันนี่นา" อาจูอยากจะไปถามให้แน่ใจแต่ก็รู้ว่าฟาหยางคงไม่พอใจแน่ที่เธอจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเขา

มือเรียวกดมือถือไปที่เบอร์ของใครบางคน ก่อนที่เสียงหวานจะเอ่ยพูดพร้อมรอยยิ้มวาดบนใบหน้า

"สวัสดีค่ะผู้กำกับฝู...ถ้าพี่เยว่ซินมีงานใหม่เข้ามารบกวนให้อาจูเป็นผู้ถ่ายร่วมได้หรือไม่คะ..."

หลี่ เยว่ซินค่อนข้างกระอั่กกระอ่วนกับสถานการณ์ตรงหน้า เธอโดนฟาหยางพามาที่บริษัท แถมตอนนี้เขาที่กำลังคุยกับคู่ค้านั้นเอาแต่โอบไหล่เธอไม่ยอมปล่อยอีกต่างหาก!

"คุณหยางคะ" เลขาของฟาหยางเดินมาคุยรายละเอียดงานกับเขา หญิงสาวทำท่าทางลังเลชั่วครู่ที่เห็นว่าเยว่ซินนั่งอยู่ด้วย

"เชิญคุณหลิงพูดมาได้ นี่คนของฉัน" เยว่ซินเมื่อได้ยินชายหนุ่มแนะนำตนแบบนั้นก็ก้มหน้างุดด้วยความอาย ใครเป็นคนของใครนะ!

เลขาหลิงอธิบายถึงตารางงานของท่านประธานต่อจากนี้ ซึ่งเยว่ซินรู้สึกว่าฟาหยางนั้นคิวงานแน่นจริงๆ หากแต่ทำไมเขาถึงไม่ยอมให้เธอกลับกันเล่า!

"เพราะเมื่อเช้าคุณหยางไม่ได้เข้าบริษัทเลยทำให้บ่ายถึงช่วงเย็นตารางแน่นขึ้นน่ะค่ะ" เลขาหลิงพูดแต่มันทำให้เยว่ซินที่ได้ฟังเบิกตาโต หรือเพราะฟาหยางไปกองถ่ายเมื่อเช้านี้งั้นหรือ?

"คุณหนูเยว่เบื่อหรือยัง" ฟาหยางกระซิบข้างใบหู เยว่ซินส่ายหน้าตอบ ที่จริงเธอก็ค่อนข้างชินอยู่เหมือนกันเพราะในโลกของเธอนั้นก็ต้องไปคุยงานกับคุณพ่ออยู่บ่อยๆ

"คุณหยางทำธุรกิจหลายอย่างเหมือนกันนะคะถึงว่าคุณชอบปวดหัวตอนดึกบ่อยๆ" ฟาหยางขมวดคิ้ว เรื่องนี้น้อยคนที่รู้นักและเขาก็ไม่เคยบอกหญิงสาวมาก่อนแล้วเธอรู้ได้อย่างไรกัน?

ฝั่งเยว่ซินที่เห็นชายหนุ่มชะงักไปถึงได้รู้ตัวว่าเผลอหลุดข้อมูลจากในนิยายไปเสียแล้ว

"ฉันเดาเอาน่ะค่ะ ทำงานหนักแบบนี้คงปวดหัวใช่ไหมคะ" ฟาหยางหัวเราะ มือหนาประดับรอยสักยกขึ้นลูบผมนุ่ม ก่อนจะเอ่ยพูดเสียงอ่อน

"คุณหนูเยว่ช่างสังเกตจริงๆ"

"ฉันว่าคุณหยางต้องมีวันพักผ่อนบ้างนะคะ ขืนทำงานทั้งเจ็ดวันแบบนี้มันจะส่งผลเสียกับคุณเอง" ถึงในนิยายเยว่ซินตัวร้ายจะโดนฟาหยางสั่งสอนจนเสียสติ แต่เยว่ซินคนนี้ที่ถือเป็นนักอ่านคนหนึ่งก็ย่อมรู้สึกเป็นห่วงพระเอกอยู่เหมือนกัน

"ฉันอยากจับกระต่ายน้อยตัวนี้ฟัดจริงๆ"

"คะ?" เหมือนเธอจะได้ยินฟาหยางพูดอะไรบางอย่างแต่ไม่ชัดนัก ชายหนุ่มส่ายหน้าปฏิเสธ

"ขอบคุณคุณหนูเยว่" ทั้งคู่หยุดบทสนทนาเมื่อคราวนี้อาโปเดินเข้ามาเพื่อคุยกับฟาหยาง

ชายหนุ่มมีท่าทีเคร่งขรึมขึ้น เขาหันมาบอกเยว่ซินว่าจะให้อาโปไปส่งเพราะเขามีธุระด่วนต้องไปจัดการ ฝั่งหลี่ เยว่ซินที่เห็นท่าทีแบบนั้น มือเรียวกอบกุมมือของฟาหยางไว้ก่อนที่เขาจะเดินออกไป

"ไว้พบกันนะคะ" ไม่รู้มีอะไรที่ดลใจให้เธอพูดเช่นนั้นออกไป หากอ้างอิงจากนิยายช่วงนี้เป็นช่วงที่ฟาหยางมีปัญหากับคู่แข่งทางฮ่องกง ซึ่งเขาก็หัวหมุนอยู่นานเหมือนกัน

ฟาหยางชะงัก เขามองมือนุ่มที่กอบกุมมือเขาไว้ก่อนจะยกขึ้นจรดริมฝีปาก

"ไว้พบกันครับอาเยว่"

เยว่ซินยังใจเต้นรัวกับท่าทีสุดท้ายของฟาหยางก่อนที่จะจากกัน เธอกลับมาที่ห้องพักแล้ว ตอนนี้กำลังเช็คอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับข่าวที่ฟาหยางเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ให้กับโฆษณาแบรนด์นึง แน่นอนว่าข่าวที่เยว่ซินเป็นพรีเซ็นเตอร์งานนี้ยังคงเก็บเป็นความลับ

'เยว่ซินของฉันทำอะไรอยู่' ในช่องกล่องข้อความพบเป็นจางลี่ที่ส่งมาถึงตน

'ผู้กำกับฝูมาชมแกให้ฉันฟังเยอะเลย เก่งมากค่ะเพื่อนสาว' เยว่ซินหัวเราะเมื่ออ่านจบ

'ขอบคุณค่ะคุณหนูจางลี่'

'มาเจอกันที่ร้านกาแฟไหม' เยว่ซินตอบตกลง ในเมื่อถ้าอิงตามนิยายที่ฟาหยางไปฮ่องกงช่วงนี้ เธอคงต้องรีบกอบโกยชีวิตส่วนตัวก่อนที่เขาจะกลับมา

ใช่...เยว่ซินเริ่มรู้แล้วว่าเนื้อหาในนิยายนั้นเปลี่ยนไปตั้งแต่เธอเข้ามา หลายฉากหลายสถานการณ์นั้นไม่เคยมีอยู่ในนิยายมาก่อน รวมถึงฟาหยางที่มองเธอด้วยสายตาเปลี่ยนไป และการเรียกเธอว่า อาเยว่ นั่นอีก
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   บทที่ 139

    "หอมด้วย" ยังชมอยู่ไม่ขาดปาก เยว่ซินพูดขอบคุณเสียงเบาก่อนจะกล่าวชมเขาไม่ต่างกัน ผลัดกันหอมผลัดกันจูบอยู่สักพักถึงได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายจากชั้นล่าง "เอาอีกแล้วเจ้าพวกลูกลิง" ฟาหยางผละตัวออกพลางเสยผมตัวเองลวก ๆ เยว่ซินที่ได้ยินเช่นนั้นหลุดหัวเราะก่อนจะเดินตามสามีตัวเองไปชั้นล่างเพื่อไปหาเจ้าลูกลิ

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   บทที่ 138

    "ได้ เหล่ากงรอเธอเป็นกวางเสียก่อน" "..." "ถึงตอนนั้นแล้วจะเอาให้ขู่ไม่ออกเลย" คนฟังได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ แค่คิดถึงชุดที่ทั้งฟาหยางและเจ้าแฝดเลือกกันให้เมื่อคืนนี้ก็รู้สึกหวั่นใจอยู่ไม่น้อย "ส่วนของขวัญที่อาซินถาม..." หัวข้อสนทนาก่อนหน้านี้ที่ข้ามไปถูกดึงกลับมาพูดอีกครั้ง คราวนี้ฟาหยางก็ถอดเสื้อ

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   บทที่ 137

    "ปะป๊าไม่กินผัก" "หม่าม๊าดุเลย" แล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังตามหลัง เจ้าเด็กแสบทั้งสองดูจะชอบใจที่ได้แกล้งปะป๊าของตัวเอง ผ่านไปสักพักกว่ามื้อค่ำจะเสร็จสิ้น เยว่ซินพาอาเฟยหลงและอาเฟิ่งไปอาบน้ำส่วนฟาหยางก็เคลียร์เอกสารอีกเล็กน้อย กลับมาที่ห้องนอนก็เห็นว่าทั้งสามคนอยู่ในชุดนอนแบบเดียวกันเสียแล้

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   บทที่ 136

    ยี่สิบสี่ธันวาคมคือวันที่คฤหาสน์ตระกูลหยางดูจะครึกครื้นเป็นพิเศษ ได้ยินเสียงถกเถียงของทายาทตระกูลใหญ่ที่หน้าตาเหมือนกันทุกประการพูดแข่งกันราวกับพูดกับกระจก "เฟิ่งบอกว่าจะให้หม่าม๊าใส่ตัวนี้" "ก็เฮียบอกว่าตัวนี้ไงอาเฟิ่ง" เด็กชายวัยกำลังย่างเข้าหกขวบยื้อแย่งชุดคลุมสีแดงที่ทางห้องเสื้อส่งมาให้นายห

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   บทที่ 135

    เสื้อยืดกับฟาหยางคือสิ่งต้องห้ามกันจริง ๆ ! อยู่ทักทายและเล่นกับสองเฟยได้ครู่หนึ่งคุณหนูตระกูลจางก็ต้องขอตัวกลับ คราวนี้ก็ได้เวลาที่เยว่ซินต้องเข้าครัวทำอาหารและขนมสำหรับมื้อเย็นในวันนี้ ผ้ากันเปื้อนสีชมพูถูกหยิบยกขึ้นมาสวมดูแล้วน่ารักจนคนมองอดใจไม่ไหวเอ่ยปากชมกันเสียทุกคน "คุณหนูเยว่สวมแล้วน่า

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   บทที่ 134

    "หม่าม๊า เฟิ่งหยิบลูกบอลไม่ถึงครับ" เป็นเฟยเฟิ่งที่กลับเข้ามาเพื่อจะหยิบของเล่นแต่เอื้อมไม่ถึง เหล่าลูกน้องตอนนี้ก็ไม่มีคนอยู่ถึงได้ตะโกนเรียกหม่าม๊าตัวเองเสียงดัง “คุณหยาง ปะ…ปล่อยซินก่อนค่ะ” ได้ยินเสียงฟาหยางจิ๊ปากแผ่วเบา เขายอมปล่อยเยว่ซินให้ปีนลงจากตักได้ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกจากห้องไปหาลูกชา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status