Home / วัยรุ่น / เมื่อไหร่จะเลิกร้าย / บทที่ 4 เดมี่หายไปไหน

Share

บทที่ 4 เดมี่หายไปไหน

last update Last Updated: 2025-05-12 16:51:36

พลั่ก! หญิงสาวเสียหลักล้มลงไปนอนกองที่พื้นเมื่อถูกชายฉกรรจ์ฉุดกระชากหิ้วปีกมาทิ้งข้างทาง คนมากมายที่เห็นเหตุการณ์ต่างไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยเหลือเพราะรู้ดีว่าชายชุดดำกลุ่มนั้นเป็นคนของใคร

“ปล่อยฉันนะ!”

“ถ้าไม่อยากตาย อย่ากลับมาที่นี่อีก”

เดมี่พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนทั้งน้ำตา ได้แต่มองตามอย่างสิ้นหวัง แสงสุดท้ายที่เหลือในชีวิตค่อยๆ ดับมืดสนิทมองไม่เห็นหนทางที่จะใช้ชีวิตต่อ

-เช้าวันต่อมา-

“เฮ้ย…ตื่น! ตื่นได้แล้ว”

หญิงสาวปรือตามองด้วยความงัวเงีย ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความทุลักทุเล

ทันทีที่ขยับเพียงนิดก็รู้สึกปวดร้าวระบมเหมือนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไอความร้อนที่แผ่กระจายผ่านลมหายใจบ่งบอกได้ว่าเธอกำลังป่วยหลังจากที่นอนตากน้ำค้างอยู่ข้างทางมาตลอดทั้งคืน

“นี่แกอีกแล้วเหรอ” ชายชุดดำยืนเท้าเอวมองหญิงสาวอย่างรำคาญใจ นังเด็กคนนี้มันดื้อด้านเกินใคร ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป

“ฉันอยากเจอคุณอา”

“พูดไม่รู้เรื่องหรือไง

“แต่ฉันไม่มีที่ไปจริงๆ พี่พาฉันไปหาคุณอาเถอะนะ ได้โปรด” เดมี่พนมมืออ้อนวอนขอร้องทั้งน้ำตา ยังไงก็ต้องเจอคุณอาให้ได้ เขาเป็นที่พึ่งสุดท้ายเพื่อให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อ

“เอาไงดีวะ พามันไปหานายดีไหม” ชายอีกคนเริ่มมีท่าทางชั่งใจ หรือบางทีนังเด็กนี่อาจจะเป็นคนรู้จักของเจ้านายจริงๆ

ถ้าเกิดว่าเป็นแขกของเจ้านาย มีหวังหัวได้หลุดออกจากบ่า แค่คิดก็ขนหัวลุกไปหมด

“นายบอกแล้วว่าไม่รู้จัก ขืนพาไปหา เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีกหรอก”

“งั้นมึงจะทำอะไรก็รีบทำ เดี๋ยวนายน้อยมาเห็นแล้วจะซวยกันหมด”

คนทั้งสองมองไปทางหญิงสาวอย่างพิจารณา คิดจะกำจัดเด็กนี่ให้พ้นทางก่อนที่เจ้านายของพวกเขาจะมา

“เออๆ งั้นตามมาทางนี้ เดี๋ยวจะพาไปหานาย”

“…..” เดมี่ยิ้มกว้างอีกครั้งเริ่มกลับมามีความหวัง รีบหอบกระเป๋าวิ่งตามชายฉกรรจ์มายังโกดังติดกับแม่น้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ทางด้านหลัง

ตึกตัก… เสียงฝีเท้าดังขึ้นอย่างระมัดระวัง ดวงตาคู่สวยวาดสายตามองด้วยความสงสัย เมื่อวานไม่ได้มาทางนี้

“จะพาฉันไปไหน”

“ไปหานายไง”

“…..” บรรยากาศเงียบสงัดจนทำให้ใจไม่ดี มองไปทางไหนก็พบเจอแต่ตู้คอนเทนเนอร์นับร้อยนับพันวางเรียงรายกว้างไกลจนสุดลูกหูลูกตา มีความคิดเสี้ยววินาทีว่าให้รีบหนีออกไปจากที่นี่

“อยากเจอนายไม่ใช่เหรอ”

“พวกคุณไม่ได้หลอกฉันใช่ไหม”

“นายน้อยกำลังเช็คงานอยู่ท่าเรือ เดินตามมาเงียบๆ อย่าส่งเสียงดัง”

หญิงสาวทำตามคำสั่ง เอาแต่เดินก้มหน้าตามหลังอย่างไม่มีทางเลือก จนมาหยุดอยู่ที่หน้าเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่

“ขึ้นไปบนเรือ นายน้อยรออยู่”

“ให้ฉันไปคนเดียวเหรอ”

“ก็เออน่ะสิ รีบขึ้นไป เดี๋ยวนายน้อยรอนาน”

“…..”

-หลายชั่วโมงผ่านไป-

“เรียบร้อยแล้วใช่ไหม” บุรินทร์หันไปถามลูกน้องคนสนิท ในอ้อมแขนมีตุ๊กตาตัวโปรดที่ติดตัวอยู่ไม่ห่าง

ดวงตาเฉี่ยวคมทอดสายตามองไปยังผืนแม่น้ำกว้างใหญ่ที่มีเรือขนส่งสินค้าของเขามากมายขับเคลื่อนไปมา

“ไม่มีปัญหาครับนายไว้ใจพวกผมได้เลย”

“…..” ชายหนุ่มพยักหน้ารับไอ้ครามคือลูกน้องคนสนิทที่ไว้ใจมาก เปรียบเสมือนตัวตายตัวแทนที่ทำงานด้วยกันมาหลายปี ไม่มีใครเป็นมือเป็นเท้า รองรับอารมณ์ได้ดีเท่ามันอีกแล้ว

เรียกได้ว่าแค่มองตาก็รู้ใจ…

ลูกน้องคนสนิทยืนเฝ้าผู้เป็นนายที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำบางสิ่งบางอย่างด้วยความมุ่งมั่น

“ที่หน้าผากของหนูเป็นแผลอีกแล้ว เดี๋ยวป๊าทำแผลให้นะ” บุรินทร์บรรจงจูบดูแลอย่างอ่อนโยน สายตาของชายหนุ่มเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความตั้งใจ

ภาพคุ้นเคยที่พวกลูกน้องมักจะได้เห็นอยู่เป็นประจำ นั่นก็คือภาพที่บุรินทร์นั่งเย็บตุ๊กตาด้วยตัวเอง นอกจากผู้เป็นนายแล้วไม่มีใครได้แตะต้องตุ๊กตาตัวนี้

“แล้วพวกมึงสองตัวมายืนทำอะไรตรงนี้”

“เอาของมาส่งครับ”

“ของอะไร”

“พวกผมเห็นเด็กฝรั่งคนนึง ผิวขาวจวั๊ะเลยนะนาย ท่าทางมันดูซื่อๆ อ่านหนังสือก็ไม่ออกแถมยังหลอกง่ายด้วย ทางฝั่งเจ๊ใหญ่มาเลน่าจะชอบครับ คงขายได้ราคาดี”

“…..” มาเฟียหนุ่มไม่ได้คิดใส่ใจ ค่อยๆ หยิบเข็มขึ้นมานั่งเย็บตุ๊กตาตัวเก่าที่เต็มไปด้วยรอยปะติดปะต่อ

“มันมาถามหานายใหญ่สองวันแล้ว สงสัยจะเป็นพวกมิจฉาชีพ แต่ไม่ต้องห่วง ผมจัดการมันให้นายเรียบร้อย”

“…..”

“ส่วนนี่เป็นพาสปอร์ตของมันครับนาย ชื่อแปลกพิลึก…คนอะไรชื่อวนิลา

สองมือที่เคยแน่นิ่งค่อยๆ เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสั่นเทาหลังจากได้ยินชื่อที่คุ้นเคย เขาหยิบพาสปอร์ตที่ลูกน้องยื่นให้ ก่อนจะเปิดอ่านแล้วเห็นภาพถ่ายใครบางคน

“วนิลา เวสลี่” ใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้มมุมปาก สบถหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะเรียกชื่อเธอซ้ำๆ “เดมี่…เดมี่…เดมี่”

จนลูกน้องพากันเลิ่กลั่ก ทำงานด้วยกันมานานหลายปี ยังไม่เคยได้ยินเสียงหัวเราะของเจ้านายเลยสักครั้ง

“ใช่เลยนาย มันบอกว่าชื่อเดมี่”

“แล้วตอนนี้เธออยู่ไหน”

“ผมจัดการให้แล้วครับนาย”

“กูถามว่าเดมี่อยู่ไหน!”

“ยะ…อยู่บนเรือครับ”

“บนเรือ?”

“ใช่ครับ ผมให้มันไปอยู่บนเรือที่จะส่งไปมาเล”

“พวกเวร! สั่งให้เรือวนกลับมาเดี๋ยวนี้”

“ทำไมครับ มีอะไรผิดพลาด”

“เอาเดมี่กลับมา”

“ถ้าทำแบบนั้น เราจะส่งของไม่ทัน เสียหายหลายล้านเลยนะครับนาย” ลูกน้องคนสนิทเลิ่กลั่กหลังจากได้ยินคำสั่งเด็ดขาด ไม่ใช่แค่หลักล้าน แต่มูลค่าความเสียหายที่ต้องโดนปรับอาจจะมากถึงสิบล้าน

“จะเสียเท่าไหร่ช่างหัวมัน พาเธอกลับมาหากูเดี๋ยวนี้”

“รับทราบครับนายน้อย”

“ถ้าเธอเป็นอะไรแม้แต่นิดเดียว กูจะเป่าหัวพวกมึงเรียงตัว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 6 – จุดสุดท้ายของชีวิต2

    หลายเดือนผ่านไป“ปู่…” เด็กชายฟาเรนตะโกนร้องเรียกด้วยความดีใจเมื่อเห็นหน้าคนที่เฝ้ารอมานานแสนนาน ไม่ใช่แค่ปู่แฟรงก์ที่มาหาแต่ปู่ฟรินก็มาด้วยเหมือนกัน“แด๊ดดี้กับหม่ามี๊ของพวกเอ็งไปไหน”“แด๊ดดี้ไปทำงานที่ภูเก็ตกับหม่ามี๊” ฟรานตอบด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วพักหลังมานี้พ่อกับแม่ชอบทำตัวติดกันอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าพ่อจะไปไหนมักจะบังคับเอาแม่ติดสอยห้อยตามไปด้วยเสมอ“แล้วพวกเอ็งอยู่บ้านกับใคร ทำไมไม่โทรหาปู่”“พวกเราอยู่กับลุงครามและแนนนี่ค่ะ”ครามรีบก้มหน้าอย่างเจียมตัวเมื่อเห็นสายตาของนายใหญ่ที่ใช้มอง“หลบหน้าหลบตากูทำไม” แฟรงก์เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อลูกน้องตัวดี“เปล่าครับนาย”“อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงกับลูกสาวกูทำอะไรกันมา” ถึงแม้จะเป็นความลับแต่เขารู้ว่าดาวศุกร์และครามมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง “กูไม่มีวันรับคนอย่างมึงมาเป็นลูกเขย จำใส่หัวสมองของมึงไว้เลย”“ผมรู้ตัวครับ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น”“ไปทำท่าไหนมาล่ะ ลูกกูถึงรักถึงหลงมึงจนหัวปักหัวปำ”“ลุงครามเป็นแฟนอานตี้นะ ฟรานจะฟ้องอานตี้ว่าปู่ดุลุงคราม” เด็กหญิงยืนเท้าเอวพูดเสียงแข็งตอบกลับ ลุงครามมีท่าทางซึมลงจนน่าสงสารพวกเด็ก

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 5 – จุดสุดท้ายของชีวิต

    โรงพยาบาล“น้องจิ๋วมาแล้ว”“ไหนๆ ขอดูบ้าง”“ทำไมน้องไม่ลืมตา”“ตัวนิ่มมากเลย ลองจับดูสิ”เสียงบทสนทนาของพวกเด็กน้อยกำลังพูดคุยกันอย่างไร้เดียงสา ยืนล้อมวงจ้องมองสมาชิกใหม่ที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่วัน“ตัวเป็นอะไร ทำไมไม่มาดูน้องคนใหม่” ฟรานเดินเข้าไปถามแฝดน้องที่เอาแต่นั่งกอดอกทำหน้าบึ้งตึงไม่ยอมพูดจา“เบื่อ! เค้าไม่อยากได้น้องผู้ชาย เค้าอยากมีน้องผู้หญิง” เด็กชายบ่นพึมพำพลางเบือนหน้าหันหนี“ผู้ชายก็ดีนะ ตัวจะได้ไม่เหงา จะได้มีเพื่อนเล่นไง”“เล่นแต่ฟุตบอลกับปั่นจักรยานจนเบื่อแล้ว อยากเล่นอย่างอื่นบ้าง”“แล้วอย่างอื่นที่แฝดว่ามันคืออะไร อยากเล่นขายของหรือเล่นตุ๊กตาเหรอ” ใบหน้าน้อยๆ ของฟรานเอียงคอมองน้องชายฝาแฝดอย่างไม่เข้าใจ “เพราะหม่ามี๊เลือกน้องให้เราไม่ได้”“แล้วทำไมแด๊ดดี้ถึงมีแต่ลูกผู้ชาย ทำไมถึงไม่มีลูกผู้หญิงบ้าง” เด็กชายตัดพ้อทำสีหน้าเศร้า ถ้ามีน้องผู้ชายเพิ่มขึ้นมาอีกคนคงได้ปวดหัวกว่าเดิม“เพราะแด๊ดดี้ทำผู้หญิงไม่เป็น ทำเป็นแต่ผู้ชายไง”“เค้าขอเปลี่ยนแด๊ดดี้ได้ไหม อยากได้แด๊ดดี้คนใหม่ เค้าอยากลองมีน้องผู้หญิงดูบ้าง”“เปลี่ยนไม่ได้หรอก พวกเราเกิดมาจากปิ๊กาจูของแด๊ดดี้นะ ต

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 4 ไม่ได้เป็นตุ๊ด

    หลายเดือนผ่านไป“อาการของคุณฟาเรนดีขึ้นมากเลยค่ะ วันนี้ทำกายภาพได้หลายอย่างเลย”เดมี่ยิ้มกว้างพร้อมกับหัวใจที่พองโตหลังจากได้ยินข่าวดีจากพยาบาลที่ดูแลลูกชายตั้งแต่ได้รับตัวยาชนิดใหม่จากบุรินทร์ อาการของฟาเรนก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ จากกล้ามเนื้อที่เคยอ่อนแรงค่อยๆ ขยับได้มากขึ้น กลายเป็นช่วยเหลือตัวเองได้ดีและเดินเองได้ในที่สุด“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยดูแลฟาเรนให้เป็นอย่างดี”“คุณฟาเรนใจสู้มากค่ะ อีกไม่นานคงวิ่งเล่นกับพวกพี่ๆ ได้อย่างแน่นอน”“มี่รักแด๊ดดี้นะ รักที่สุดในโลก” หญิงสาวเดินเข้าไปกอดชายหนุ่มไว้แน่นแทนคำขอบคุณ ใบหน้าจิ้มลิ้มซบลงบนแผงอกแกร่งอย่างออดอ้อน“อะไรของเธอ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นมองการกระทำเหล่านั้น ถึงแม้จะดูเหมือนไม่ค่อยใส่ใจแต่หัวใจของเขายังคงเต้นแรงกับผู้หญิงคนนี้อยู่ตลอดต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมเสมอมา“เพราะมีแด๊ดดี้ ฟาเรนถึงมีอาการดีขึ้นในทุกวัน ถ้าไม่ได้แด๊ดดี้ช่วยดูแล ลูกคงแย่แน่เลยค่ะ”บุรินทร์อุทิศและทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดเพื่อคิดหาวิธีการรักษาลูกชาย จนในที่สุดเขาก็ทำมันได้สำเร็จ“ฟาเรนเป็นลูกฉันเหมือนกัน ยังไงก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด”“…..

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 3 หลานน้อยน่ารัก

    “ฟาเรน!” เด็กชายหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย ไปหน้าน้อยๆ เอียงคอมองด้วยความสงสัยเมื่อเห็นพี่สาววิ่งเข้ามากอด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าบอกว่าปู่จะพาไปเที่ยวต่างประเทศ“ไหนบอกว่าปู่จะพาไปเล่นสกีที่ญี่ปุ่นไง”“ไม่อยากไปแล้ว เอาไว้ให้ฟาเรนหายป่วย พวกเราค่อยไปด้วยกัน” ฟรานโผกอดน้องชายที่นั่งอยู่บนรถเข็นวิลแชร์ด้วยความคิดเด็กหญิงไม่ได้คิดเสียใจหรือเสียดายเลยสักนิด พวกเขาสามคนตกลงกันแล้วว่าจะไม่ขอไปเที่ยวถ้าเกิดไม่มีฟาเรนหรือถ้าจะไปก็ต้องไปพร้อมกัน“ไปวิ่งเล่นกัน แด๊ดดี้ทำสนามเด็กเล่นให้พวกเราอันใหม่ใหญ่เบ้อเริ่มเลย”“แต่แด๊ดดี้ไม่ให้ออกจากบ้านนะ เดี๋ยวไม่สบาย” ฟาเรนพูดเสียงเบา สีหน้าดูซึมลงอย่างน่าสงสาร เขารู้ตัวเองเสมอว่าไม่ใช่เด็กปกติเหมือนคนทั่วไป“ตอนนี้แด๊ดดี้ไม่อยู่ ทางสะดวกแล้วนะ อยากไปไหม”“ยะ…อยากไป” พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะวาดสายตาหันซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้“งั้นก็รีบขี่หลังพี่เลย”“จะไม่โดนแด๊ดดี้ตีใช่ไหม”“ถ้าแด๊ดดี้โมโห ให้ตีฟาโรห์แทนก็ได้”“เอ้าแฝด…คะ…เค้าไม่อยากโดนแด๊ดดี้ตีนะ” แค่นึกเห็นหน้าผู้เป็นพ่อก็รู้สึกกลัวจนฉี่แทบราด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยโดนตี แต่กลับรู้สึกก

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 2 สาเหตุของการป่วย

    “ทำอะไรอยู่ตัวเล็ก”“ก่อประสาททรายอยู่ครับ”ฟาเรนเด็กชายวัยห้าขวบหันไปตอบผู้เป็นพ่อ ก่อนจะหันกลับมาสนใจสิ่งตรงหน้าดังเดิม“เล่นคนเดียวเหงาไหม” บุรินทร์ยืนมองลูกน้อยที่นั่งเล่นอยู่ไม่ไกล ข้างกายของฟาเรนมีรถเข็นวิลแชร์ประตำแหน่งและพยาบาลพิเศษมากถึงสามคนคอยประคบประหงมอยู่ไม่ห่างถึงแม้ว่าฟาเรนจะมีอายุห้าขวบ แต่น้ำหนักและสัดส่วนค่อนข้างตกเกณฑ์ต่ำกว่าเด็กปกติทั่วไปทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นผลข้างเคียงมาจากการคลอดก่อนกำหนด“หนูอยากมีเพื่อน” เด็กชายบอกผ่านน้ำเสียงเศร้าสร้อยท่าทางซึมลงจนสังเกตได้ตั้งแต่จำความได้ เขาถูกเลี้ยงดูแตกต่างจากเด็กทั่วไป ในขณะที่พวกพี่ได้วิ่งเล่นแต่ฟาเรนทำได้แค่นั่งมองอยู่ในห้องพักปลอดเชื้อต้องให้ยาทุกสี่ชั่วโมง“อย่านั่งตากแดดนาน เดี๋ยวไม่สบาย”“คุณปู่ไม่รักฟาเรนเหรอครับแด๊ดดี้ ทำไมถึงไม่พาหนูไปเที่ยวด้วย”คำถามของลูกชายทำเอามาเฟียหนุ่มหยุดชะงักนิ่งไป หัวอกคนเป็นพ่อสั่นไหวค่อยๆ ย่อตัวนั่งลงข้างเด็กน้อย“เพราะฟาเรนไม่ค่อยสบาย”“แล้วเมื่อไหร่จะหาย หนูอยากไปเที่ยวเหมือนคนอื่นบ้าง”“เดี๋ยวก็หายแล้ว”“…..”“เอาไว้ถ้าหายดีเมื่อไหร่ แด๊ดดี้จะพาไปเที่ยวทุกที่ที่ลูก

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 1 – ยอมจำนน

    “แฟรงก์มา!”เด็กน้อยที่นั่งอยู่ต่างหันขวับกันอย่างพร้อมเพรียง ใบหน้าน้อยๆ ของหลานฉีกยิ้มกว้างเมื่อมองเห็นปู่ที่เดินเข้ามาหลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน“แฟรงก์…แฟรงก์!” เด็กหญิงตะโกนเรียกซ้ำๆ กระโดดโลดเต้นดีใจรีบวิ่งเข้าไปกอดด้วยความคิดถึงวันนี้ในมือปู่มีขนมแถมยังหิ้วของเล่นมาฝากหลานเยอะแยะ ตามใจกว่าแด๊ดดี้และหม่ามี๊ก็คงจะเป็นผู้ชายคนนี้“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกปู่ ข้าไม่ใช่เพื่อนเล่นของพวกเอ็งนะ” คนเป็นปู่ถอนหายใจมองหน้าไอ้พวกเด็กฝรั่งที่ไม่มีพ่อแม่คอยสั่งสอนแต่ได้พอสบสายตาอันไร้เดียงสาเหล่านั้น หัวใจแกร่งก็ยอมโอนอ่อนให้โดยดี“ปู่คืออะไร” ฟาโรห์ตัวป่วนเอียงคอถามอย่างสงสัย“คือพ่อของพ่อไง”“แล้วพ่อคือใคร” พอได้ยินแบบนั้นยิ่งทำให้งงไปกันใหญ่“พ่อก็คือแด๊ดดี้ไง ภาษาไทยเขาเรียกว่าพ่อ”“เข้าใจแล้ว”“เดี๋ยวนี้ลืมกันแล้วสิ ทำไมพวกเอ็งถึงไม่ไปหาปู่บ้างเลย” บุรินทร์ภัทรแสร้งทำท่าทางตัดพ้อน้อยใจ อยู่ที่บ้านก็เอาแต่ชะเง้อคอคอยมองทางหลานน้อยอยู่ทุกวัน“ไม่ได้ลืมสักหน่อย แต่แด๊ดดี้ไม่ให้ไป” เด็กหญิงพูดแทรกน้ำเสียงเจื้อยแจ้วแต่สีหน้ากลับดูซึมลงอย่างเห็นได้ชัด“อยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปเที่ยว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status