Home / วัยรุ่น / เมื่อไหร่จะเลิกร้าย / บทที่ 5 เด็กเลี้ยงของบุรินทร์

Share

บทที่ 5 เด็กเลี้ยงของบุรินทร์

last update Last Updated: 2025-05-12 16:53:15

-บ้านของบุรินทร์-

ตึกตัก…เสียงของฝีเท้านับสิบดังขึ้นอย่างรีบร้อน ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องพักภายในคฤหาสน์ของลูกชาย

“เดมี่อยู่ไหน” บุรินทร์ภัทรถามลูกน้องคนสนิทอย่างร้อนใจ พอมีคนของบุรินทร์โทรบอกว่าเจอเดมี่ก็รีบขับรถมาหาในทันที

“คุณเดมี่อยู่ในห้องครับนายใหญ่”

“เดมี่เป็นยังไงบ้าง”

“มีอาการขาดน้ำและอ่อนเพลียครับ”

แกร๊ก…บานประตูห้องพักถูกเปิดออก บุรินทร์ภัทรค่อยๆ ก้าวเดินเข้าไปหาหลานสาวที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียงด้วยความระมัดระวัง

ตามเนื้อตัวของเดมี่มีแต่ร่องรอยฟกช้ำแถมเสื้อผ้าก็ยังดูเก่าเปรอะเปื้อนน่าสงสาร

“เดมี่…เดมี่ได้ยินอาไหม”

“คุณอาเหรอคะ” หญิงสาวลืมตาขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเรียก

“ใช่! อาแฟรงก์เอง เดมี่จำอาได้ไหม”

“…..” หญิงสาวกระพริบตาถี่ๆ พลางจ้องมองใบหน้าของคนที่เพิ่งมาใหม่ ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนัก

“ฮึก…คุณอา”

“เล่าให้อาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“ฮึก…แด๊ดดี้กับหม่ามี้ตายแล้วค่ะ”

“หลานไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”

“จดหมายจากแด๊ดดี้ฝากให้คุณอาค่ะ” เดมี่สะอึกสะอื้นยื่นจดหมายฉบับสุดท้ายที่พ่อฝากไว้ให้ก่อนตายส่งถึงมือเพื่อนคนที่ไว้ใจที่สุด

“…..”

เขารับมันมาด้วยมือสั่นเทา บรรยากาศรอบตัวเงียบวังเวง จะมีก็แค่เพียงเสียงร้องไห้ของบุรินทร์ภัทรที่ดังเล็ดลอดพอให้ได้ยิน

บุรินทร์ภัทรทรุดเข่านั่งลงบนพื้นด้วยแขนขาอ่อนแรง ยกมือสั่นเทาขึ้นปิดใบหน้า น้ำตาลูกผู้ชายไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้เมื่อในวันนี้ไอ้เจย์เดนมันไม่อยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว

พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่จำความไม่ได้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานับครั้งไม่ถ้วน แต่จู่ๆ มันกลับทิ้งเขาไปไม่ลาสักคำ แทบไม่อยากจะเชื่อว่ามันคือความจริง

“เวรเอ้ย! มันเกิดอะไรขึ้น” บุรินทร์ภัทรบอกด้วยความคับแค้นภายในใจ ยังไงเพื่อนต้องไม่ตายฟรี ใครที่มีส่วนรู้เห็นในครั้งนี้ เขาจะลากมันลงนรกพร้อมกันให้หมด

“ระ…รถแด๊ดดี้โดนตัดสายเบรกค่ะ”

‘ไอ้แฟรงก์…ถ้ากูไม่อยู่ ฝากมึงดูแลเดมี่ด้วยนะ’

‘ลูกมึง มึงก็เลี้ยงเองดิ’

‘มึงก็รู้งานที่กูทำมันเสี่ยงแค่ไหน’

‘…..’

‘กูจะตายวันไหนก็ไม่รู้ ถ้ากูตายไปมึงเลี้ยงลูกให้กูด้วยนะ มึงเป็นเพื่อนคนเดียวที่กูไว้ใจมากที่สุด นอกจากมึงแล้วกูไม่ไว้ใจใคร’

‘เออ! จะตายก็รีบตาย ส่วนลูกมึงเดี๋ยวกูเลี้ยงให้เอง’

‘มึงรับปากกับกูแล้วนะห้ามผิดสัญญา’

‘เออ! กูบอกว่าจะเลี้ยงก็คือเลี้ยง ถ้ามึงตายเมื่อไหร่กูจะดูแลลูกมึงให้อย่างดี’

“นับจากนี้ไป…อาจะเป็นคนดูแลมี่เองนะ” บุรินทร์ภัทรออกปากรับ ลูบศีรษะของหลานสาวเพื่อปลอบใจ ตอนมีชีวิตอยู่ก็มีแต่ไอ้เจย์เดนที่อยู่เคียงข้างและคอยช่วยเหลือกันมา

เดมี่คือสิ่งเดียวที่มันรัก เขาจึงอยากดูแลชีวิตน้อยๆ ที่เหลือต่อจากนี้

“อารับปากกับพ่อของหลานไว้แล้ว ก็แค่หลานคนเดียวทำไมอาจะเลี้ยงไม่ได้”

“…..”

-เวลาต่อมา-

“มีเวลาว่างให้ป๊าสักหน่อยไหม พอดีป๊ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”

บุรินทร์ภัทรเดินเข้าไปหาลูกชายที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาเซ็นเอกสารสำคัญอยู่บนโต๊ะทำงานภายในห้องขนาดใหญ่ ข้างกายของบุรินทร์มีลูกน้องคนสนิทคอยยืนเฝ้าไม่ห่างไปไหน

เขามองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวอย่างเกรงใจ เฟยเป็นคนนิ่งเงียบ หัวรุนแรงจนบางทีก็ดูน่ากลัว และหวงความเป็นส่วนตัว ชอบเก็บตัวลึกลับไม่ค่อยสุงสิงกับใคร

“มีอะไรก็พูดมา”

“เรื่องเดมี่”

เฟยหยุดชะงัก วางมือจากงานที่ทำ เงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นพ่อหลังจากได้ยินชื่อนั้น ‘เดมี่’ ยัยเด็กตัวอ้วนจอมวุ่นวายเขาจำได้ดี “อืม…แล้วยังไง?”

“อาเจย์เดนเสียแล้ว ตอนนี้เดมี่ไม่เหลือใคร ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน”

“…..”

“ป๊ารับปากกับอาเจย์เดนไว้ว่าจะดูแลน้อง ป๊าไม่อยากผิดคำพูดกับคนที่ตายไปแล้ว” เดมี่อ่านภาษาไทยไม่ออก เขียนไม่ได้ ถ้าปล่อยให้ไปอยู่อย่างโดดเดี่ยวตัวคนเดียว มันก็จะดูโหดร้ายเกินไป

“เดี๋ยวผมดูแลเด็กนี่ให้เอง”

“แต่ป๊าไม่อยากให้เฮียลำบาก ลำพังงานของเฮียก็เยอะมากอยู่แล้ว” บุรินทร์ภัทรพูดเสียงอ่อน พยายามหว่านล้อมเพื่อให้ลูกชายเปลี่ยนใจ

แค่มองตาก็เข้าใจว่าเฟยกำลังคิดจะทำอะไรอยู่

“กลัวผมทำอะไรเด็กนั่นเหรอ” เงยหน้าขึ้นสบตากับผู้เป็นพ่ออย่างรู้ทันความคิดไม่ต่างกัน กระตุกยิ้มร้ายเมื่อเห็นท่าทางหนักใจของคนตรงหน้า

“ป๊าขอนะเฮีย เว้นเดมี่ไว้สักคนได้มั้ย อย่าทำอะไรน้อง”

“…..” เขาได้แต่พยายามข่มใจตัวเองไว้ไม่ให้เจอหน้าเธอในตอนนี้ แต่คงคิดว่าอีกไม่นานที่ความอดทนบ้าๆ นี่จะหมดลง

“ถ้าเฮียอยากได้คนใหม่ป๊าจะหามาให้เดี๋ยวนี้ ส่วนเดมี่ป๊าขอเอาไปดูแลเอง”

“เอาไว้ถ้าเบื่อมันเมื่อไหร่จะโยนทิ้งให้แล้วกัน”

“…..”

“แต่ไม่รับประกันนะ ว่าในท้องของยัยเด็กนั่นจะมีหลานป๊าติดไปด้วยหรือเปล่า”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 6 – จุดสุดท้ายของชีวิต2

    หลายเดือนผ่านไป“ปู่…” เด็กชายฟาเรนตะโกนร้องเรียกด้วยความดีใจเมื่อเห็นหน้าคนที่เฝ้ารอมานานแสนนาน ไม่ใช่แค่ปู่แฟรงก์ที่มาหาแต่ปู่ฟรินก็มาด้วยเหมือนกัน“แด๊ดดี้กับหม่ามี๊ของพวกเอ็งไปไหน”“แด๊ดดี้ไปทำงานที่ภูเก็ตกับหม่ามี๊” ฟรานตอบด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้วพักหลังมานี้พ่อกับแม่ชอบทำตัวติดกันอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าพ่อจะไปไหนมักจะบังคับเอาแม่ติดสอยห้อยตามไปด้วยเสมอ“แล้วพวกเอ็งอยู่บ้านกับใคร ทำไมไม่โทรหาปู่”“พวกเราอยู่กับลุงครามและแนนนี่ค่ะ”ครามรีบก้มหน้าอย่างเจียมตัวเมื่อเห็นสายตาของนายใหญ่ที่ใช้มอง“หลบหน้าหลบตากูทำไม” แฟรงก์เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อลูกน้องตัวดี“เปล่าครับนาย”“อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงกับลูกสาวกูทำอะไรกันมา” ถึงแม้จะเป็นความลับแต่เขารู้ว่าดาวศุกร์และครามมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง “กูไม่มีวันรับคนอย่างมึงมาเป็นลูกเขย จำใส่หัวสมองของมึงไว้เลย”“ผมรู้ตัวครับ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น”“ไปทำท่าไหนมาล่ะ ลูกกูถึงรักถึงหลงมึงจนหัวปักหัวปำ”“ลุงครามเป็นแฟนอานตี้นะ ฟรานจะฟ้องอานตี้ว่าปู่ดุลุงคราม” เด็กหญิงยืนเท้าเอวพูดเสียงแข็งตอบกลับ ลุงครามมีท่าทางซึมลงจนน่าสงสารพวกเด็ก

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 5 – จุดสุดท้ายของชีวิต

    โรงพยาบาล“น้องจิ๋วมาแล้ว”“ไหนๆ ขอดูบ้าง”“ทำไมน้องไม่ลืมตา”“ตัวนิ่มมากเลย ลองจับดูสิ”เสียงบทสนทนาของพวกเด็กน้อยกำลังพูดคุยกันอย่างไร้เดียงสา ยืนล้อมวงจ้องมองสมาชิกใหม่ที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่วัน“ตัวเป็นอะไร ทำไมไม่มาดูน้องคนใหม่” ฟรานเดินเข้าไปถามแฝดน้องที่เอาแต่นั่งกอดอกทำหน้าบึ้งตึงไม่ยอมพูดจา“เบื่อ! เค้าไม่อยากได้น้องผู้ชาย เค้าอยากมีน้องผู้หญิง” เด็กชายบ่นพึมพำพลางเบือนหน้าหันหนี“ผู้ชายก็ดีนะ ตัวจะได้ไม่เหงา จะได้มีเพื่อนเล่นไง”“เล่นแต่ฟุตบอลกับปั่นจักรยานจนเบื่อแล้ว อยากเล่นอย่างอื่นบ้าง”“แล้วอย่างอื่นที่แฝดว่ามันคืออะไร อยากเล่นขายของหรือเล่นตุ๊กตาเหรอ” ใบหน้าน้อยๆ ของฟรานเอียงคอมองน้องชายฝาแฝดอย่างไม่เข้าใจ “เพราะหม่ามี๊เลือกน้องให้เราไม่ได้”“แล้วทำไมแด๊ดดี้ถึงมีแต่ลูกผู้ชาย ทำไมถึงไม่มีลูกผู้หญิงบ้าง” เด็กชายตัดพ้อทำสีหน้าเศร้า ถ้ามีน้องผู้ชายเพิ่มขึ้นมาอีกคนคงได้ปวดหัวกว่าเดิม“เพราะแด๊ดดี้ทำผู้หญิงไม่เป็น ทำเป็นแต่ผู้ชายไง”“เค้าขอเปลี่ยนแด๊ดดี้ได้ไหม อยากได้แด๊ดดี้คนใหม่ เค้าอยากลองมีน้องผู้หญิงดูบ้าง”“เปลี่ยนไม่ได้หรอก พวกเราเกิดมาจากปิ๊กาจูของแด๊ดดี้นะ ต

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 4 ไม่ได้เป็นตุ๊ด

    หลายเดือนผ่านไป“อาการของคุณฟาเรนดีขึ้นมากเลยค่ะ วันนี้ทำกายภาพได้หลายอย่างเลย”เดมี่ยิ้มกว้างพร้อมกับหัวใจที่พองโตหลังจากได้ยินข่าวดีจากพยาบาลที่ดูแลลูกชายตั้งแต่ได้รับตัวยาชนิดใหม่จากบุรินทร์ อาการของฟาเรนก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ จากกล้ามเนื้อที่เคยอ่อนแรงค่อยๆ ขยับได้มากขึ้น กลายเป็นช่วยเหลือตัวเองได้ดีและเดินเองได้ในที่สุด“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยดูแลฟาเรนให้เป็นอย่างดี”“คุณฟาเรนใจสู้มากค่ะ อีกไม่นานคงวิ่งเล่นกับพวกพี่ๆ ได้อย่างแน่นอน”“มี่รักแด๊ดดี้นะ รักที่สุดในโลก” หญิงสาวเดินเข้าไปกอดชายหนุ่มไว้แน่นแทนคำขอบคุณ ใบหน้าจิ้มลิ้มซบลงบนแผงอกแกร่งอย่างออดอ้อน“อะไรของเธอ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นมองการกระทำเหล่านั้น ถึงแม้จะดูเหมือนไม่ค่อยใส่ใจแต่หัวใจของเขายังคงเต้นแรงกับผู้หญิงคนนี้อยู่ตลอดต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมเสมอมา“เพราะมีแด๊ดดี้ ฟาเรนถึงมีอาการดีขึ้นในทุกวัน ถ้าไม่ได้แด๊ดดี้ช่วยดูแล ลูกคงแย่แน่เลยค่ะ”บุรินทร์อุทิศและทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดเพื่อคิดหาวิธีการรักษาลูกชาย จนในที่สุดเขาก็ทำมันได้สำเร็จ“ฟาเรนเป็นลูกฉันเหมือนกัน ยังไงก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด”“…..

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 3 หลานน้อยน่ารัก

    “ฟาเรน!” เด็กชายหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย ไปหน้าน้อยๆ เอียงคอมองด้วยความสงสัยเมื่อเห็นพี่สาววิ่งเข้ามากอด ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าบอกว่าปู่จะพาไปเที่ยวต่างประเทศ“ไหนบอกว่าปู่จะพาไปเล่นสกีที่ญี่ปุ่นไง”“ไม่อยากไปแล้ว เอาไว้ให้ฟาเรนหายป่วย พวกเราค่อยไปด้วยกัน” ฟรานโผกอดน้องชายที่นั่งอยู่บนรถเข็นวิลแชร์ด้วยความคิดเด็กหญิงไม่ได้คิดเสียใจหรือเสียดายเลยสักนิด พวกเขาสามคนตกลงกันแล้วว่าจะไม่ขอไปเที่ยวถ้าเกิดไม่มีฟาเรนหรือถ้าจะไปก็ต้องไปพร้อมกัน“ไปวิ่งเล่นกัน แด๊ดดี้ทำสนามเด็กเล่นให้พวกเราอันใหม่ใหญ่เบ้อเริ่มเลย”“แต่แด๊ดดี้ไม่ให้ออกจากบ้านนะ เดี๋ยวไม่สบาย” ฟาเรนพูดเสียงเบา สีหน้าดูซึมลงอย่างน่าสงสาร เขารู้ตัวเองเสมอว่าไม่ใช่เด็กปกติเหมือนคนทั่วไป“ตอนนี้แด๊ดดี้ไม่อยู่ ทางสะดวกแล้วนะ อยากไปไหม”“ยะ…อยากไป” พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะวาดสายตาหันซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้“งั้นก็รีบขี่หลังพี่เลย”“จะไม่โดนแด๊ดดี้ตีใช่ไหม”“ถ้าแด๊ดดี้โมโห ให้ตีฟาโรห์แทนก็ได้”“เอ้าแฝด…คะ…เค้าไม่อยากโดนแด๊ดดี้ตีนะ” แค่นึกเห็นหน้าผู้เป็นพ่อก็รู้สึกกลัวจนฉี่แทบราด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยโดนตี แต่กลับรู้สึกก

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 2 สาเหตุของการป่วย

    “ทำอะไรอยู่ตัวเล็ก”“ก่อประสาททรายอยู่ครับ”ฟาเรนเด็กชายวัยห้าขวบหันไปตอบผู้เป็นพ่อ ก่อนจะหันกลับมาสนใจสิ่งตรงหน้าดังเดิม“เล่นคนเดียวเหงาไหม” บุรินทร์ยืนมองลูกน้อยที่นั่งเล่นอยู่ไม่ไกล ข้างกายของฟาเรนมีรถเข็นวิลแชร์ประตำแหน่งและพยาบาลพิเศษมากถึงสามคนคอยประคบประหงมอยู่ไม่ห่างถึงแม้ว่าฟาเรนจะมีอายุห้าขวบ แต่น้ำหนักและสัดส่วนค่อนข้างตกเกณฑ์ต่ำกว่าเด็กปกติทั่วไปทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นผลข้างเคียงมาจากการคลอดก่อนกำหนด“หนูอยากมีเพื่อน” เด็กชายบอกผ่านน้ำเสียงเศร้าสร้อยท่าทางซึมลงจนสังเกตได้ตั้งแต่จำความได้ เขาถูกเลี้ยงดูแตกต่างจากเด็กทั่วไป ในขณะที่พวกพี่ได้วิ่งเล่นแต่ฟาเรนทำได้แค่นั่งมองอยู่ในห้องพักปลอดเชื้อต้องให้ยาทุกสี่ชั่วโมง“อย่านั่งตากแดดนาน เดี๋ยวไม่สบาย”“คุณปู่ไม่รักฟาเรนเหรอครับแด๊ดดี้ ทำไมถึงไม่พาหนูไปเที่ยวด้วย”คำถามของลูกชายทำเอามาเฟียหนุ่มหยุดชะงักนิ่งไป หัวอกคนเป็นพ่อสั่นไหวค่อยๆ ย่อตัวนั่งลงข้างเด็กน้อย“เพราะฟาเรนไม่ค่อยสบาย”“แล้วเมื่อไหร่จะหาย หนูอยากไปเที่ยวเหมือนคนอื่นบ้าง”“เดี๋ยวก็หายแล้ว”“…..”“เอาไว้ถ้าหายดีเมื่อไหร่ แด๊ดดี้จะพาไปเที่ยวทุกที่ที่ลูก

  • เมื่อไหร่จะเลิกร้าย   ตอนพิเศษ 1 – ยอมจำนน

    “แฟรงก์มา!”เด็กน้อยที่นั่งอยู่ต่างหันขวับกันอย่างพร้อมเพรียง ใบหน้าน้อยๆ ของหลานฉีกยิ้มกว้างเมื่อมองเห็นปู่ที่เดินเข้ามาหลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน“แฟรงก์…แฟรงก์!” เด็กหญิงตะโกนเรียกซ้ำๆ กระโดดโลดเต้นดีใจรีบวิ่งเข้าไปกอดด้วยความคิดถึงวันนี้ในมือปู่มีขนมแถมยังหิ้วของเล่นมาฝากหลานเยอะแยะ ตามใจกว่าแด๊ดดี้และหม่ามี๊ก็คงจะเป็นผู้ชายคนนี้“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกปู่ ข้าไม่ใช่เพื่อนเล่นของพวกเอ็งนะ” คนเป็นปู่ถอนหายใจมองหน้าไอ้พวกเด็กฝรั่งที่ไม่มีพ่อแม่คอยสั่งสอนแต่ได้พอสบสายตาอันไร้เดียงสาเหล่านั้น หัวใจแกร่งก็ยอมโอนอ่อนให้โดยดี“ปู่คืออะไร” ฟาโรห์ตัวป่วนเอียงคอถามอย่างสงสัย“คือพ่อของพ่อไง”“แล้วพ่อคือใคร” พอได้ยินแบบนั้นยิ่งทำให้งงไปกันใหญ่“พ่อก็คือแด๊ดดี้ไง ภาษาไทยเขาเรียกว่าพ่อ”“เข้าใจแล้ว”“เดี๋ยวนี้ลืมกันแล้วสิ ทำไมพวกเอ็งถึงไม่ไปหาปู่บ้างเลย” บุรินทร์ภัทรแสร้งทำท่าทางตัดพ้อน้อยใจ อยู่ที่บ้านก็เอาแต่ชะเง้อคอคอยมองทางหลานน้อยอยู่ทุกวัน“ไม่ได้ลืมสักหน่อย แต่แด๊ดดี้ไม่ให้ไป” เด็กหญิงพูดแทรกน้ำเสียงเจื้อยแจ้วแต่สีหน้ากลับดูซึมลงอย่างเห็นได้ชัด“อยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปเที่ยว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status