'คุณนายเธอเป็นเมียคนล่าสุดของเจ้าสัวจ้ะพี่ แต่งงานได้ไม่ถึงเดือนเจ้าสัวก็เส้นเลือดในสมองแตกกลายเป็นผัก รักษาอยู่ปีครึ่งก็จากไปอย่างสงบ นับจากวันนั้นก็ห้าปีได้แล้วมั้ง'
'แล้วคุณนายเธอไม่มีลูกกับเจ้าสัวหรือ'
'ไม่มีหรอกจ้ะ อย่างที่บอก ตอนที่แต่งงานกันเจ้าสัวก็สภาพร่างกายไม่ค่อยดี ตอนนั้นคุณนายอายุยี่สิบแปดเอง ส่วนเจ้าสัวห้าสิบกว่าเข้าไปแล้ว แต่งได้เดี๋ยวเดียวก็ล้มหมอนนอนเสื่อ'
'น่าสงสาร'
'ชีวิตคุณนายเธอน่าสงสารมากจ้ะพี่เบิ้ม เธอรักเจ้าสัวด้วยใจจริง ยอมแต่งงานไม่สนคำครหาว่าจับผัวรวย ตอนที่เจ้าสัวล้มป่วยคุณนายก็ดูแลอย่างดีเป็นปีๆ พอเจ้าสัวจากไปเธอก็จัดแจงแบ่งสมบัติให้ลูกๆ เจ้าสัวอย่างเท่าเทียม ส่วนตัวเองก็เก็บไว้แค่บ้านหลังที่เป็นเรือนหอ กับเงินที่เจ้าสัวให้ไว้ แถมยังเข้าไปดูแลธุรกิจของเจ้าสัวที่ลูกๆ ไม่เอาอีก ดีแสนดี แต่ก็อาภัพนัก'
'อืม'
'พี่ต้องทำตัวดีๆ นะ ทำงานกับคุณนายสบายจะตาย เงินเดือนเยอะ สวัสดิการดีเยี่ยม เดือนๆ หนึ่งแทบไม่ได้ใช้เงินสักแดง พี่จะได้มีเงินส่งให้เจ้าบัวมัน'
'พี่รู้แล้ว'
'เมียเก่าพี่ก็กะไร ใจดำ แต่งกับผัวรวยแต่ไม่ส่งเสียลูกสาวตัวเองสักแดง'
'อย่าพูดถึงเขาเลย พี่ไปขับรถให้คุณนายก่อนนะบิว'
'จ้ะ โชคดีพี่'
.
.
'คุณนายเธอน่าสงสาร ทุกวันนี้ต้องดูแลอะไรหลายๆ อย่างจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ลูกๆ ของเจ้าสัวไม่เอาไหนเลยซักคน สักจะเอาแต่เงินแต่ทองไม่ยอมทำงาน'
คำพูดของน้องสาวดังขึ้นในหัว เบิ้มมองผ่านกระจกมองหลัง เห็นร่างอรชรเอนหลับสนิทก็นึกเห็นใจ ผู้หญิงสวยๆ ที่อายุเพียงสามสิบห้าปีกลับต้องแบกภาระไว้มากมาย ไหล่เล็กๆ นั่นจะรับได้แค่ไหนเชียว
'คุณนายยังสวยยังสาว เธอไม่คิดมีผัวใหม่หรือ'
'ไม่รู้สิพี่ แต่ใครเข้ามาจีบคุณนายเธอก็ไม่เล่นด้วยเลย เอาแต่ทำงานงกๆ'
หลังจากทำงานมาได้ร่วมเดือน เบิ้มก็มั่นใจว่าสิ่งที่น้องสาวพูดไม่ผิดนัก
เพราะเขาต้องขับรถรับส่งเจ้านายสาว เลยได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างที่หลายคนไม่มีทางรู้ และสิ่งหนึ่งที่ต้องได้เห็นเป็นประจำทุกวัน คือภาพของคุณนายสวยสง่าที่นอนหลับอุตุอยู่ด้านหลังเขา
ภาพที่คนอื่นเห็น กับภาพที่เบิ้มเห็นมันต่างกัน
"คุณนายขอรับ"
เบิ้มร้องเรียกเสียงนุ่มสุภาพ ร่างอรชรในชุดราตรียาวขยับเล็กน้อยแต่ยังไม่ยอมลืมตาขึ้น ปกติคุณนายเป็นคนตื่นง่าย บางครั้งแค่จอดรถเธอก็ตื่นขึ้นมาโดยไม่ต้องเรียกด้วยซ้ำ
"คุณนายขอรับ ถึงบ้านแล้วนะขอรับ"
เบิ้มลองเรียกอีกครั้ง แต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม คุณนายคนสวยขยับตัวเหมือนรำคาญแต่ไม่ยอมตื่น
"เอาไงดีล่ะคราวนี้"
เบิ้มคิดไม่ตก ตอนนี้ตีหนึ่งกว่าแล้ว บ้านทั้งหลังเงียบสนิท คนงานคนอื่นคงนอนกันหมดแล้ว จะให้เรียกก็ไม่ได้ เพราะทุกคนต้องตื่นแต่เช้าต่างจากเขาที่ตื่นสายได้ถ้าวันไหนคุณนายออกงานเย็นค่ำแบบวันนี้
นั่งคิดอยู่สักพักหนุ่มผิวแทนตัวใหญ่ก็ตัดสินใจ เบิ้มลงจากที่ของตัวเอง ก่อนจะเปิดประตูด้านหลังออกแล้วช้อนเจ้านายสาวขึ้นด้วยอ้อมแขนแกร่งที่ผ่านการทำงานหนักมาทั้งชีวิต
"อื้อ..."
"คุณนายขอรับ"
ไม่มีเสียงตอบรับ ร่างระหงทำเพียงแค่เบียดกายเข้าหาไออุ่น แล้วซุกหน้าลงกับแผ่นอกแกร่งก่อนจะหลับใหลอีกครั้ง
กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ทำให้เบิ้มรู้ว่าสิ่งที่ทำให้คุณนายหลับลึกคืออะไร ชายหนุ่มใช้หลังดันปิดประตูรถ ก่อนจะก้าวอาดๆ เข้าไปในตัวบ้านที่เงียบสนิท....
.
.
"อื้อออ"
เบิ้มวางคุณนายลงบนเตียงนอน คุณนายรีบซุกกายเข้าหาผ้าห่มผืนใหญ่ ขาเรียวยกขึ้นกอดก่ายเหมือนคนขี้เหงา เธอหลับสนิท ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมา แม้แต่รองเท้าส้นสูงที่ใส่อยู่ก็ไม่คิดจะถอดออก
เห็นแบบนั้นเบิ้มก็ใจร้ายทิ้งให้เจ้านายนอนหลับไม่สบายไม่ลง ร่างใหญ่คุกเข่าลงข้างเตียง มือหยาบค่อยๆ จับข้อเท้าขาวไว้ แล้วลงมือแกะสายรัดรองเท้าที่ค่อนข้างซับซ้อนอย่างใจเย็น
"อื้อ"
เสียงของคนเมายังคงดังเป็นระยะ เบิ้มถอดรองเท้าข้างหนึ่งได้สำเร็จแล้ว แต่พอเขาจับข้อเท้าอีกข้างขึ้นมา...
"เจ็บ"
เสียงครางประท้วงด้วยความเจ็บปวดของคนหลับทำให้เบิ้มตกใจจนเกือบปล่อยข้อเท้าหลุดมือ เพราะพาลคิดไปว่าตัวเองมือหนักจนทำให้ผิวขาวๆ บอบช้ำเข้าจนได้
"คุณนาย..."
"เจ็บจัง"
คุณนายร้องบอกอีกครั้ง ก่อนจะดึงกระโปรงขึ้นสูงจนคนขับรถตาเหลือก
"เจ็บ... ถูกผลัก นวดให้หน่อย"
อึก!
เบิ้มมองขาเรียวขาวเนียนละเอียดตรงหน้าด้วยความรู้สึกสับสน คุณนายดึงกระโปรงขึ้นไปจนเห็นขาอ่อน ตรงนั้นเขาเห็นว่ามันแดงขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทำให้ความสวยงามลดลงเลย
ชายหนุ่มวันสามสิบเจ็ดเหงื่อตก ภาพตรงหน้าสวยงามจนร่างกายมีปฏิกิริยาที่ไม่ควรขึ้น ทั้งๆ ที่หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาควบคุมมันได้แล้วแท้ๆ แต่เพราะเป็นผู้ชาย บางทีร่างกายมันก็ไม่เชื่อฟังสมอง
"นวดหน่อย"
"เอ่อ..."
เบิ้มรีบดึงสติให้กลับมา เขาตบแก้มตัวเองแรงๆ ความคิดร้ายจึงค่อยๆ หลุดออกไป
"เดี๋ยวผมตามเจ้าบิวมาให้นะขอรับ"
นี่คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ยอมโดนน้องด่าหน่อย แต่ดีกว่าให้แตะต้องผิวขาวๆ นั่นด้วยตัวเอง
เบิ้มไม่ใช่คนดีนัก แต่ก็ไม่อยากเป็นคนเลว คุณนายมีบุญคุณ เขาไม่ควรคิดต่ำๆ แบบนั้น มือหยาบด้านนี้ก็ไม่ควรแตะต้องผิวเนียนนุ่มของคุณนายให้ต้องแปดเปื้อนด้วยซ้ำ
"ไม่..."
เสียงอ้อแอ้ร้องประท้วง ดวงตาฉ่ำน้ำเปิดขึ้นมอง
"เบิ้มนั่นแหละ นวดให้ฉันที"
"ไม่ได้ขอรับคุณนาย มันไม่เหมาะ"
แทบไม่ต้องคิด เบิ้มปฏิเสธเสียงหนักแน่นทันที
"เธอเองก็รังเกียจฉันหรือ"
เสียงหวานตัดพ้อ ปลายเสียงสะอื้นเล็กน้อยจนคนฟังใจอ่อนยวบ
"มีแต่คนรังเกียจฉัน ทำไมล่ะ? ฉันทำอะไรผิด"
"คุณนายขอรับ..."
เบิ้มเสียงอ่อนไปหมด เขาแพ้น้ำตาผู้หญิง ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ยอมอยู่กินกับเมียเก่าที่วันๆ เอาแต่แต่งตัวสวยๆ ไม่คิดทำมาหากินแบบนั้นมาได้ตั้งหลายปี พอเบิ้มต่อว่าเจ้าหล่อนก็ร้องไห้ และเขาก็ใจอ่อนทุกครั้งจนน้องสาวด่า
"เธอไปพักเถอะ ฉันจะนอนแล้ว"
ชายตัวใหญ่ละล้าละลัง ทำท่าจะลุกออกไปเพราะกลัวคำครหา แต่อีกใจก็สงสารเจ้านายสาวที่แบกรับอะไรไว้มากมายจนเผยความอ่อนแอออกมาแบบนี้
ร่างระหงพลิกหันหลัง ไหล่เล็กสั่นเทาเพราะแรงสะอื้น นาทีนั้นเบิ้มไม่มีความคิดอะไรในหัว นอกจากทำอะไรก็ตามให้คุณนายหยุดร้องไห้แบบนี้
"คุณนายขอรับ"
แค่นวด คงไม่เป็นไร
"เดี๋ยวผมนวดให้ขอรับ"
.
.
.
.
.
TBC
เฌอแตมอาศัยจังหวะที่เชนกำลังอึ้ง พลิกตัวคนตัวใหญ่กว่าลงบนเตียง โดยที่เธอคล่อมทับตามไปติด ๆ "แตม?" "ขา" มือบางลูบไล้ไปมาบนแผงอกแกร่ง เธอไม่เคยคิดว่าเชนจะมีหน้าอกที่แน่นตึงขนาดนี้ แม้ไม่ได้มีกล้ามเป็นมัด ๆ แต่ก็พอมีตามประสาผู้ชายเล่นกีฬา เชนชอบกีฬาฟุตบอลมาก เขามักใช้เวลาว่างไปเตะฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ประจำ "แตม" เฌอแตมเลิกสนใจเสียงเรียกของเชน สาวน้อยใช้มือลูบไล้ไปทั่วอกกว้าง ดวงตากลมเป็นประกายระยิบระยับเหมือนเจอของเล่นที่ถูกใจ "พี่เชนหุ่นดีจัง" "แตม อึก" เชนกลั้นเสียงครางเมื่อเฌอแตมใช้มือกอบกุมความเป็นชายของเขา เมื่อสาวน้อยเห็นว่าคนเป็นพี่พยายามกลั้นเสียงก็ออกแรงชักรูดถี่ ๆ จนชายหนุ่มอดทนไม่ไหวหลุดเสียงครางออกมา "อะ...อ่าห์" เฌอแตมขยับตัวขึ้น เธอจับแท่งร้อนตั้งตรงแล้วคล่อมทับ กดสะโพกลงจนส่วนหัวจมหายเข้าไปในช่องทางคับแคบ "อื้อ" "แตม" "แน่นจังเลย อ๊ะ... แน่น" ปากส่งเสียงครวญครางว่าแน่นไม่ขาดสาย แต่สะโพกกลับไม่ยอมหยุดนิ่ง เฌอแตมค่อย ๆ กลืนกินสิ่งใหญ่โตเข้าไปเรื่อย ๆ จนสุด เธอรู้สึกอึดอัดไปทั่วช่องท้องเมื่อสิ่งนั้นเข้ามาพองโตอยู่ในตัว "อ๊าาา ของพี่เชนใหญ่มากเลยค่ะ" "แตม" เชนกั
เชนถอดเสื้อออก ตามด้วยกางเกงและชั้นในสีเข้ม ตลอดเวลามีดวงตากลมแป๋วมองตามอย่างสนใจใคร่รู้ เฌอแตมไล่สายตามองตั้งแต่ใบหน้าหล่อ ลำคอแข็งแกร่ง แผ่นอกหนา กล้ามหน้าท้อง เรื่อยมาจนถึงสัดส่วนความเป็นชายที่เหยียดขยายใหญ่เต็มหน้าขา อึก! สาวน้อยตาโตเหมือนไข่ห่านเมื่อเห็นสิ่งนั้นครั้งแรก นะ...นั่นมัน....หยะ...ใหญ่มากกก เชนจับขาเรียวให้แยกออก เขาแทรกตัวเข้าตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้าง มือประคองท่อนกายจ่อเข้ากับกลีบเนื้อนุ่มที่ยังปิดสนิท "ดะ...เดี๋ยวค่ะ!" "พี่บอกแล้วว่าจะไม่หยุด" "ไม่ใช่ค่ะ" เฌอแตมดิ้นเล็กน้อยก็หลุดอย่างง่ายดาย บ่งบอกว่าเชนไม่ได้ตั้งใจกักขังหรือขืนใจถ้าหากเธอเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาจริง ๆ เขาไม่คิดเอาแต่ใจตัวเองทั้ง ๆ ที่ส่วนนั้นขยายใหญ่จนแทบระเบิดอยู่แล้ว สาวน้อยเอี้ยวตัวไปที่ลิ้นชักข้างเตียง เปิดมันออกและหยิบซองบางอย่างออกมา "แตม!" เชนอ้าปากค้าง เขามองสิ่งที่เฌอแตมถือสลับกับใบหน้าน่ารักที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เหมือนเห็นคนแปลกหน้า "ทำไมถึงมีมัน แตมใช้กับใคร" "คะ?" "แตมมีคนรักแล้วเหรอ ใครกัน ผู้ชายคนนั้นรับผิดชอบแตมหรือเปล่า" "พี่เชน..." "ถ้าไม่รับผิดชอบบอกพี่ พี่จะไปจั
ถ้าคิดว่าเรื่องในวันนั้นจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าไม่... ไม่เลยสักนิด! พี่เชนยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้น มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองแต่ไม่มีอะไรขยับ บางทีอาจจะห่างกว่าปกติด้วยซ้ำ "ซื่อหรือบื้อเนี่ย!" เฌอแตมที่นั่งอยู่บนเตียงฟาดมือกับอากาศด้วยความหงุดหงิด อีกสองวันแม่เธอก็กลับมาแล้ว แต่ระหว่างเธอกับพี่เชนกลับไม่มีอะไรคืบหน้าเลย "หรือพี่เชนไม่ได้ชอบผู้หญิง" สาวน้อยตั้งข้อสงสัย เป็นไปได้เหรอที่ผู้ชายแท้ ๆ จะโสดมาทั้งชีวิตจนอายุจะเข้าเลขสามอยู่แล้ว พี่เชนไม่ใช่ว่าไม่หล่อ ตรงกันข้ามพี่เชนหล่อมากด้วย ติดแค่เฉิ่มไปนิด ถือตัวไปหน่อย แต่ก็ไม่น่าโสดและสดขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะชอบเพศเดียวกัน "แบบนี้ต้องพิสูจน์!" เฌอแตมบอกตัวเองอย่างแน่วแน่ ตาจ้องมองประตูห้องน้ำที่ยังปิดสนิท อย่างน้อย ๆ พรุ่งนี้ก็วันหยุดของทั้งเธอและพี่เชน ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ ก็ไม่กระทบกับหน้าที่แน่นอน รวมถึง... สาวน้อยเปิดลิ้นชักหัวเตียงออก ตาเป็นประกายเมื่อเห็นสิ่งที่นอนนิ่งอยู่ในนั้น ถุงยางอนามัย จะด่าว่าเธอแก่แดดก็ได้ แต่พอรู้ว่าพี่เชนจะมานอนด้วยเธอก็จัดการซื้อเครื่อ
สามวันที่เชนหายไป เฌอแตมไม่ได้เจอหน้าพี่ชายข้างบ้านเลย ไม่รู้ว่าเขาไม่ว่าง หรือจงใจหลบหน้ากัน แต่สุดท้ายการรอคอยก็สิ้นสุดลง วันนี้เชนกลับมาสอนปกติ ร่างสูงแต่งตัวสุภาพเหมือนเดิม ใบหน้าหล่อสุภาพยังคงมีรอยยิ้มบางประดับอยู่ "พี่เชน" "ครับ" "นึกว่าจะไม่มาแล้ว" ร่างน้อยเดินเข้าไปคลอเคลีย ยิ้มโชว์ฟันขาวให้พี่เชนรู้ว่าเธอดีใจแค่ไหน ไม่ได้เจอหน้าตั้งสามวัน คิดถึงที่สุดเลย เชนทำแค่เพียงยิ้มรับ ก่อนจะเดินไปสวัสดีแม่ของเฌอแตม "ขอโทษที่หายไปหลายวันครับคุณน้า" "โอ้ยไม่ต้องขอโทษหรอกเชน น้าบอกแล้วว่าไม่ต้องมาสอนเด็กดื้ออย่างแตมก็ได้ งานเชนล้นมือขนาดนั้น" "ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ" "เห็นไหมคะ พี่เชนน่ารักกับแตมจะตาย" เด็กสาวเข้ามาควงแขนพี่ชายคนสนิท ซบใบหน้ากับไหล่กว้างเย้ยแม่ตัวเอง "ไปกันค่ะพี่เชน วันนี้แตมสัญญาจะตั้งใจเรียน" เฌอแตมว่าพลางดึงแขนเชนขึ้นไปบนห้อง ร่างสูงแม้ไม่อยากตามแต่ก็ขัดใจน้องไม่ได้ เฌอแตมทำอย่างที่รับปากไว้ เด็กสาวเรียนอย่างตั้งใจ สองชั่วโมงของการติวเข้มผ่านไปอย่างรวดเร็ว "วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่า มากไปก็ปวดหัวเปล่า ๆ" "แตมยังไงก็ได้ค่ะ แล้วแต่พี่เชน" เด็กน้อยยิ้มโชว
"มองอะไรหืม" เชนถามขำ ๆ ตั้งเริ่มเรียนจนถึงตอนนี้น้องเอาแต่มองเขาตลอดเวลา เฌอแตมยกแขนขึ้นเท้าคางและมองมาด้วยสายตาหวาน ๆ พอถูกมองนาน ๆ ก็เริ่มรู้สึกเก้อแปลก ๆ "พี่เชนหล่อจังค่ะ" เชนหัวเราะ "หลอกให้คนแก่ดีใจหรือเรา" "ไม่เห็นแก่เลยค่ะ แค่ยี่สิบแปดเอง" "แต่ก็ห่างกับแตมตั้งเก้าปี" "ไม่เป็นไรค่ะ แตมชอบคนแก่ ยิ่งแก่ยิ่งประสบการณ์เยอะดีออก" สาวน้อยพูดพร้อมดวงตาที่เป็นประกาย ส่วนเชนนิ่งค้างไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนหน้ามันร้อน ๆ ขึ้นแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม "พี่เชน คำว่ารักภาษาฝรั่งเศสคืออะไรคะ" เฌอแตมเปลี่ยนเรื่อง เธอไม่อยากรุกมากเกินไปจนไก่ตื่น ดูก็รู้ว่าพี่เชนของเธอไม่เป็นประสา วัน ๆ คงเอาแต่เรียนไม่เคยคบใคร เธอเองก็ไม่เคยมีแฟน มีแค่นิยายรักหวานแหววที่ทำให้เฌอแตมรู้ว่าควรเข้าหาเชนยังไง ต้องขอบคุณนิยายพวกนั้นที่ทำหน้าที่เป็นครูชั้นดีให้เธอ "เฌอแตม" "ขา" "เฌอแตม แปลว่ารัก" ครั้งนี้สาวน้อยเป็นฝ่ายหน้าร้อนผ่าวแทน เสียงเจือยแจ้วเงียบไป เฌอแตมรู้ความหมายของชื่อตัวเองดี และที่ถามก็เพราะอยากแหย่เชนเท่านั้น ไม่คิดว่าเชนจะพูดออกมาง่าย ๆ แบบนี้ "เฌอแตมแปลว่ารัก ผมรักคุณ ฉันรักคุณ" "....." "พ
"จะรบกวนพี่เขาหรือเปล่า แค่งานสอนที่โรงเรียนก็น่าจะหนักแล้วนะ แม่ว่าแตมไปเรียนที่สถาบันดีไหม" "แตมไม่อยากเรียนแบบนั้นค่ะ ไม่มีเพื่อน" "แตมโตแล้วนะ อย่าเอาแต่ใจสิ" "แม่คะ" "ไม่เป็นไรครับคุณน้า" เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นขัดสองแม่ลูกที่ยังตกลงกันไม่ได้ เชนระบายยิ้มสุภาพให้คุณน้าที่รู้จักกันมานาน "ผมสอนน้องได้ น้องคนเดียว ไม่เหนื่อยเลยครับ" "น้าเกรงใจ" "ไม่ต้องเกรงใจครับ แตมก็เหมือนน้องแท้ ๆ ของผมคนหนึ่ง" ชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดที่แต่งตัวภูมิฐานสมกับอาชีพพ่อพิมพ์ของชาติส่งสายตาอ่อนโยนให้น้องสาวข้างบ้าน เฌอแตมก้มหน้างุด แก้มสองข้างแดงจัด พี่เชนขี้โกง ยิ้มแบบนั้นได้ยังไง! "เห้ออ น้าผิดเองที่เลี้ยงลูกตามใจจนเอาแต่ใจแบบนี้ แต่ถ้าเชนเต็มใจน้าก็ขอบคุณมาก ๆ เลยนะ" . . เฌอแตมเดินออกมาส่งเชนที่รั้วบ้าน บ้านขนาดกลางทั้งสองหลังปลูกติดกันมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย ผ่านร้อนผ่านฝนผ่านการบูรณะหลายครั้งจนเป็นบ้านที่น่าอยู่แบบทุกวันนี้ เมื่อประมาณสิบปีก่อนตอนที่เฌอแตมอายุได้เก้าขวบ บ้านทั้งสองหลังตัดสินใจพังรั้วส่วนหนึ่งเพื่อทำเป็นประตูระหว่างสองบ้าน สาเหตุเพราะเฌอแตมติดพี่เชนจนผู้ใหญ่พากันเอ็นดูไม่อยากให