LOGINเช้าวันรุ่งขึ้น ที่อาคารสำนักงานใหญ่สิริมันตรากรุ๊ป... บรรยากาศภายในบริษัทวันนี้คึกคักและตึงเครียดกว่าปกติ ข่าวการกลับมาของทายาทเพียงคนเดียวของอดีตท่านประธานแพร่สะพัดไปทั่วทุกแผนกตั้งแต่เมื่อวาน พนักงานต่างจับกลุ่มซุบซิบและชะเง้อมองไปทางลิฟต์ผู้บริหารอย่างใจจดใจจ่อ
เวลา 09:00 น. ตรง... ประตูลิฟต์เปิดออก พร้อมกับการปรากฏตัวของระรินธรในชุดสูทกางเกงสีขาวงาช้างคัตติ้งเนี้ยบกริบจากแบรนด์ดัง รองเท้าส้นสูงหัวแหลมสีนู้ดเสริมบุคลิกให้ดูสง่างามและคล่องตัว ผมยาวสลวยถูกรวบตึงเป็นหางม้าต่ำเผยให้เห็นโครงหน้าสวยเฉี่ยวที่แต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างประณีต
เธอเดินก้าวเข้ามาในโถงทางเดินด้วยท่วงท่ามั่นใจ โดยมีกวินทร์เดินขนาบข้างในฐานะที่ปรึกษาและเลขาฯ ส่วนตัว
“สวัสดีค่ะคุณระรินธร ดิฉันวิภาเลขาฯ ของคุณวิไลเอ่อ... ท่านรักษาการประธานค่ะ” หญิงวัยกลางคนท่าทางลุกลี้ลุกลนรีบวิ่งเข้ามารับหน้า
“ไม่ต้องแก้หรอกค่ะคุณวิภา” ระรินธรยิ้มเย็น “อีกไม่นานตำแหน่งนั้นก็จะไม่มีใครเรียกแล้ว... พาฉันไปที่ห้องประชุมเลยค่ะ วันนี้ฉันให้คุณนัดหัวหน้าแผนกทุกคนไว้แล้วไม่ใช่เหรอคะ”
“คะ... ค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ”
เมื่อระรินธรเดินเข้าสู่ห้องประชุมใหญ่ สายตาของเหล่าผู้บริหารระดับสูงกว่ายี่สิบคู่ต่างจับจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียว บางคนมองด้วยความชื่นชมในรูปลักษณ์ แต่ส่วนใหญ่... โดยเฉพาะกลุ่มคนเก่าคนแก่ของแม่เลี้ยง มองเธอด้วยสายตาเคลือบแคลงและท้าทาย
ระรินธรเดินไปนั่งที่หัวโต๊ะ ตำแหน่งที่เคยเป็นของบิดา เธอวางแฟ้มเอกสารลงเบา ๆ ก่อนจะกวาดสายตามองทุกคน
“สวัสดีทุกท่านค่ะ” เธอเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่กังวาน “ดิฉัน ระรินธร สิริมันตรา... วันนี้ดิฉันเข้ามารับตำแหน่งรองประธานบริหารฝ่ายออกแบบและพัฒนาโครงการ ตามมติที่ประชุมเมื่อวาน”
“รองประธาน?” ชายแก่หัวล้านคนหนึ่งแค่นหัวเราะ “หนูระรินธร... ลุงว่าหนูใจเย็น ๆ ก่อนดีไหม งานบริหารมันไม่ใช่เรื่องเล่นขายของนะ หนูเพิ่งกลับมาเมืองไทย ประสบการณ์ก็ไม่มี จะมาคุมฝ่ายที่สำคัญที่สุดของบริษัทได้ยังไง”
“นั่นสิครับ” อีกคนเสริม “งานออกแบบมันต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และรสนิยม ผมว่าคุณควรไปเริ่มเรียนรู้งานจากแผนกเล็ก ๆ ก่อนดีกว่า”
เสียงสนับสนุนดังเซ็งแซ่ ระรินธรเพียงแค่ยิ้มมุมปาก เธอนั่งฟังคำปรามาสเหล่านั้นจนจบ ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กวินทร์
กวินทร์เปิดโปรเจกเตอร์บนหน้าจอขนาดใหญ่ ทันใดนั้น ภาพผลงานการตกแต่งภายในที่สวยงามตระการตาและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ก็ปรากฏขึ้น ทีละภาพ... ทีละภาพ
“สวยมาก...”
“งานละเอียดขนาดนี้... ฝีมือใครกัน?”
เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นความทึ่ง
“ผลงานที่ทุกท่านเห็นอยู่บนจอนี้... คือผลงานออกแบบตกแต่งภายในของโรงแรมระดับ 6 ดาวในมิลาน เพนต์เฮาส์หรูในปารีส และล่าสุด... โครงการรีโนเวทปราสาทเก่าแก่ในลอนดอน”
ระรินธรลุกขึ้นยืน ชี้มือไปที่หน้าจอ
“และผลงานทั้งหมดนี้... ได้รับรางวัล International Design Awards สามปีซ้อน ภายใต้นามปากกาของดีไซเนอร์ที่ชื่อว่า... ไอรีน”
ทุกคนในห้องต่างพากันเบิกตากว้าง... เนื่องจากชื่อของไอรีน เป็นที่รู้จักกันดีในวงการออกแบบว่าเป็นดีไซเนอร์ปริศนาที่ฝีมือหาตัวจับยาก แต่ไม่เคยมีใครเห็นหน้า
“และไอรีน... ก็คือดิฉันเองค่ะ”
ความเงียบเข้าปกคลุมห้องประชุมทันทีราวกับมีใครมากดปุ่มหยุดเวลา ชายแก่ที่เคยปรามาสเธอเมื่อครู่อ้าปากค้าง
“6 ปีที่ผ่านมา... ดิฉันไม่ได้หายไปเที่ยวเล่น แต่ดิฉันไปสร้างตัวตนและพิสูจน์ฝีมือในเวทีโลก” ระรินธรกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ทีนี้... ยังมีใครสงสัยในความสามารถของดิฉันอยู่อีกไหมคะ?”
ไม่มีใครกล้าสบตาเธอแม้แต่คนเดียว
“ดีค่ะ... ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มงานกันเลย” ระรินธรนั่งลง สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง “ดิฉันได้ดูงบการเงินย้อนหลัง พบว่ากำไรของฝ่ายตกแต่งภายในลดลงฮวบฮาบในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพราะมัวแต่รับงานเกรด B ราคาถูก... ตั้งแต่วันนี้ เราจะเปลี่ยนทิศทางใหม่ เราจะรับเฉพาะงานระดับ High-End เท่านั้น”
“และงานแรกที่เราจะประเดิม...” เธอหยิบซองเอกสารสีทองขึ้นมาชูให้ทุกคนดู
“คือการเข้าประมูลงานตกแต่งภายในโครงการ ‘Riverside Iconic’ ของ DL Group มูลค่า 500 ล้านบาท!”
ชื่อโครงการทำเอาที่ประชุมฮือฮาอีกครั้ง เพราะทุกคนรู้ดีว่า DL Group คือบริษัทของดลลวิญ์ อดีตคู่หมั้นที่เพิ่งมีข่าวฉาวโฉ่กับเธอ
“ตะ... แต่ท่านประธานดลลวิญ์... เขาจะยอมให้เราเข้าประมูลเหรอครับ?”
“ทำไมจะไม่ยอมล่ะคะ?” ระรินธรยิ้มร้ายกาจ แววตาเป็นประกายวาววับ
“ในเมื่อเขากำลังมองหามืออาชีพ... และดิฉันก็คือมืออาชีพที่เก่งที่สุดที่เขาจะหาได้ในตอนนี้”
‘คอยดูเถอะดลลวิญ์... ฉันจะใช้ฝีมือของฉันบีบให้นายต้องก้มหัวยอมรับฉันให้ได้... ไม่ใช่ในฐานะคู่หมั้นเก่าหรือคู่นอนที่นายดูถูก แต่ในฐานะคู่ค้าที่นายปฏิเสธไม่ลง!’
ในขณะเดียวกัน ที่ตึก DL Group
“ฮัดชิ้ว!”
ดลลวิญ์จามออกมาเสียงดังจนหน้าแดง เขาถูจมูกตัวเองแรง ๆ พลางขมวดคิ้ว
“ไม่สบายเหรอครับบอส?” พีระถามอย่างเป็นห่วง
“เปล่า... สงสัยจะมีคนนินทา” ดลลวิญ์บ่นอุบ ก่อนจะโยนแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะ “โครงการริเวอร์ไซด์ฯ มีบริษัทไหนยื่นซองประมูลมาบ้าง?”
“มีประมาณ 5 เจ้าใหญ่ครับ... แต่มีเจ้าหนึ่งที่น่าสนใจมาก เพิ่งยื่นเข้ามาเมื่อเช้านี้สด ๆ ร้อน ๆ”
“ใคร?”
“สิริมันตรา กรุ๊ป ครับ... โดยมีชื่อหัวหน้าทีมออกแบบระบุว่า... คุณระรินธร สิริมันตรา”
ดลลวิญ์ชะงัก มุมปากกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แววตาคมกริบฉายแววท้าทาย
“กล้ามากนะ... ที่กล้าเดินเข้ามาในถ้ำเสือด้วยตัวเองแบบนี้”
เขาเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ
“รับใบสมัครของเธอไว้... ผมอยากจะรู้เหมือนกันว่ามือใหม่อย่างเธอ จะเอาอะไรมาสู้กับเสือสิงห์กระทิงแรดในสนามประมูลนี้... หวังว่าคงไม่ร้องไห้ขี้มูกโป่งกลับไปฟ้องแม่เลี้ยงซะก่อนล่ะ”
ศึกครั้งใหม่กำลังจะระเบิดขึ้น... และคราวนี้... ได้เดิมพันด้วยศักดิ์ศรีของทั้งสองฝ่าย!
[คฤหาสน์อัครเดชา] รถสปอร์ตหรูสีดำเลี้ยวเข้ามาจอดเทียบหน้าประตูคฤหาสน์หลังงามด้วยความเร็วที่ทำเอาเหล่าคนรับใช้สะดุ้งโหยง เสียงเบรกดังสนั่นบ่งบอกถึงอารมณ์ที่คุกรุ่นของเจ้าของรถได้เป็นอย่างดี ดลลวิญ์ก้าวลงจากรถด้วยใบหน้าถมึงทึง เขาโยนกุญแจรถให้พ่อบ้านโดยไม่พูดจา ก่อนจะเดินดุ่ม ๆ ขึ้นไปยังห้องนอนส่วนตัวอย่างรวดเร็ว... ทิ้งให้ทุกคนในบ้านมองหน้ากันเลิ่กลั่กด้วยความหวาดกลัว เพราะร้อยวันพันปีนายน้อยของบ้านไม่เคยหลุดมาดขรึมให้เห็นขนาดนี้ ปัง! ประตูห้องนอนถูกกระแทกปิดลง ดลลวิญ์เหวี่ยงเสื้อสูทราคาแพงลงบนพื้นอย่างไม่ไยดี ร่างกายของเขายังคงเหนียวเหนอะหนะจากคราบไคลและร่องรอยของค่ำคืนที่บ้าคลั่ง... ร่องรอยที่เขา ‘คิดว่า’ เป็นของระรินธร แต่กลับตื่นมาพบพิมดาว&n
[เช้าวันรุ่งขึ้น] แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านม่านเข้ามา ดลลวิญ์ขยับตัวตื่นด้วยความปวดร้าวไปทั้งหัว ความทรงจำเมื่อคืนค่อย ๆ ไหลย้อนกลับมาเป็นฉาก ๆ สัมผัสร้อนแรง... กลิ่นกุหลาบหอมกรุ่น... เสียงครางหวาน ๆ ของระรินธร... และความสุขสมที่เขาได้รับ “ริน...” เขายิ้มออกมาทั้งที่ตายังปิดอยู่ วาดแขนไปกระชับกอดร่างนุ่มนิ่มที่นอนเปลือยเปล่าอยู่ข้างกายอย่างหวงแหน “เมื่อคืนคุณยอดเยี่ยมมาก... ผมจะไม่ปล่อยคุณไปอีกแล้ว” แต่แล้ว... ปัง! ปัง! ปัง! เสียงทุบประตูดังสนั่นหวั่นไหว ดลลวิญ์สะดุ้งลืมตาตื่นอย่างหัวเสีย “ใครวะ!
สิ่งที่พิมดาวทำ... ไม่อาจรอดพ้นสายตาดุจเหยี่ยวของกวินทร์ ชายหนุ่มที่ยืนสังเกตการณ์อยู่มุมมืดเห็นจังหวะที่บริกรส่งแก้วให้ดลลวิญ์ และเห็นรอยยิ้มมุมปากของพิมดาวที่ยืนอยู่อีกฝั่ง เขาอ่านเกมออกทะลุปรุโปร่งทันที “ร้ายนักนะแม่คุณ...” กวินทร์พึมพำ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปประชิดตัวระรินธรที่เพิ่งเดินออกมาจากระเบียงด้วยอารมณ์คุกรุ่น “ริน... ฟังผมนะ” กวินทร์กระซิบเสียงเครียด “พิมดาววางยาดลลวิญ์... เมื่อกี้เขาเพิ่งดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นเข้าไป เต็ม ๆ” ระรินธรชะงัก ดวงตาเบิกกว้าง “นายว่าไงนะ? ยัยนั่นกล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?” “ใช่ แผนของเธอคงกะจะรวบหัวรวบหางดลคืนนี้เพื่อจับให้อยู่หมัด” กวินทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ “แต่ผมเตรียมแผนแก้เผ็ดไว้แล้ว... ผมเตรียมผู้หญิงหากินไว้คนหนึ่
ภายในโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา - งานกาล่าดินเนอร์เปิดตัวโครงการ Riverside Iconic แสงไฟสปอตไลต์สาดส่องไปทั่วห้องบอลรูมที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นงานเลี้ยงสุดหรูหรา บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความมั่งคั่งและอำนาจของ ‘อัครเดชา กรุ๊ป’ เจ้าภาพในค่ำคืนนี้ จุดศูนย์กลางของความสนใจย่อมหนีไม่พ้นโมเดลโครงการคอนโดมิเนียมริมน้ำมูลค่าพันล้าน และดลลวิญ์เจ้าของโปรเจกต์ผู้ทรงอิทธิพล ทว่า... บรรยากาศราบรื่นเหล่านั้นกลับสะดุดลง เมื่อประตูบานใหญ่เปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของแขกที่ไม่ได้รับเชิญในสายตาคนทั่วไป แต่กลับเป็นผู้ท้าชิงที่น่าจับตามองที่สุด ร่างระหงในชุดราตรียาวสีแดงเบอร์กันดีผ่าสูงโชว์เรียวขาขาวเนียนก้าวเข้ามาในงานด้วยความสง่าผ่
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่อาคารสำนักงานใหญ่สิริมันตรากรุ๊ป... บรรยากาศภายในบริษัทวันนี้คึกคักและตึงเครียดกว่าปกติ ข่าวการกลับมาของทายาทเพียงคนเดียวของอดีตท่านประธานแพร่สะพัดไปทั่วทุกแผนกตั้งแต่เมื่อวาน พนักงานต่างจับกลุ่มซุบซิบและชะเง้อมองไปทางลิฟต์ผู้บริหารอย่างใจจดใจจ่อ เวลา 09:00 น. ตรง... ประตูลิฟต์เปิดออก พร้อมกับการปรากฏตัวของระรินธรในชุดสูทกางเกงสีขาวงาช้างคัตติ้งเนี้ยบกริบจากแบรนด์ดัง รองเท้าส้นสูงหัวแหลมสีนู้ดเสริมบุคลิกให้ดูสง่างามและคล่องตัว ผมยาวสลวยถูกรวบตึงเป็นหางม้าต่ำเผยให้เห็นโครงหน้าสวยเฉี่ยวที่แต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างประณีต เธอเดินก้าวเข้ามาในโถงทางเดินด้วยท่วงท่ามั่นใจ โดยมีกวินทร์เดินขนาบข้างในฐานะที่ปรึกษาและเลขาฯ ส่วนตัว “สวัสดีค่ะคุณระรินธร ดิฉันวิภาเลขาฯ ของคุณวิไลเอ่อ... ท่านรักษาการประธานค่ะ” หญิงวัยกลา
ภายในรถตู้ส่วนตัวของกวินทร์ ระหว่างเดินทางกลับคอนโดหลังจากประตูรถปิดลงตัดขาดความวุ่นวายและสายตาจับผิดจากภายนอก หน้ากากนางสิงห์ผู้เย่อหยิ่งที่สวมใส่มาตลอดช่วงบ่ายก็ถูกปลดออก ระรินธรทิ้งตัวลงพิงเบาะหนังอย่างอ่อนล้า หลับตาลงเพื่อพักสายตาจากการปะทะคารมที่สูบพลังงานชีวิตไปไม่น้อย “เหนื่อยไหมครับคุณเลขาฯ?” กวินทร์เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มพร้อมยื่นขวดน้ำแร่เย็นเจี๊ยบให้เธอ “วันนี้คุณทำได้ยอดเยี่ยมมาก ทั้งเรื่องไล่บี้แม่เลี้ยง แล้วก็เรื่องตอกหน้าท่านประธานดล” ระรินธรรับน้ำมาจิบ พลางระบายลมหายใจยาว “เหนื่อยสิ... เหนื่อยที่ต้องปั้นหน้าเย็นชา ทั้งที่ในใจอยากจะกรี๊ดออกมาให้รู้แล้วรู้รอดตอนที่เห็นสภาพห้องทำงานแม่เละเทะแบบนั้น” “แต่คุณก็คุมสติได้ดี” กวินทร์เอ่ยชมจากใจจริง “แถมยังทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้ดลลวิญ์สงสัยเล่นอีกต่างหาก ป่านนี้เขาคงสั่ง







