LOGINภายในโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา - งานกาล่าดินเนอร์เปิดตัวโครงการ Riverside Iconic
แสงไฟสปอตไลต์สาดส่องไปทั่วห้องบอลรูมที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นงานเลี้ยงสุดหรูหรา บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความมั่งคั่งและอำนาจของ ‘อัครเดชา กรุ๊ป’ เจ้าภาพในค่ำคืนนี้
จุดศูนย์กลางของความสนใจย่อมหนีไม่พ้นโมเดลโครงการคอนโดมิเนียมริมน้ำมูลค่าพันล้าน และดลลวิญ์เจ้าของโปรเจกต์ผู้ทรงอิทธิพล
ทว่า... บรรยากาศราบรื่นเหล่านั้นกลับสะดุดลง เมื่อประตูบานใหญ่เปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของแขกที่ไม่ได้รับเชิญในสายตาคนทั่วไป แต่กลับเป็นผู้ท้าชิงที่น่าจับตามองที่สุด
ร่างระหงในชุดราตรียาวสีแดงเบอร์กันดีผ่าสูงโชว์เรียวขาขาวเนียนก้าวเข้ามาในงานด้วยความสง่าผ่าเผย ระรินธร สิริมันตรามาในลุคที่สะกดทุกสายตา โดยมีกวินทร์ในชุดทักซิโด้สีกรมท่าเดินเคียงข้างในฐานะที่ปรึกษา ซึ่งทั้งคู่ดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
“คืนนี้คุณสวยมากครับคุณรองประธาน” กวินทร์กระซิบชม “สวยจนผมเริ่มหวงแล้วนะ”
“ปากหวาน” ระรินธรยิ้มตอบ พลางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย “เตรียมตัวให้พร้อมนะวิน วันนี้เรามาในฐานะผู้รับเหมาก็จริง แต่เราต้องทำให้เจ้าของงานรู้ว่า... เราต่างหากที่เป็นคนเลือกเขา ไม่ใช่เขาเลือกเรา”
สายตาคมกริบของเธอกวาดมองไปทั่วงาน จนกระทั่งไปสะดุดอยู่ที่กลางฟลอร์ ดลลวิญ์ในชุดสูทสีดำสนิทกำลังยืนคุยกับแขกผู้ใหญ่ ข้างกายเขามีพิมดาวนางแบบสาวคู่ควงที่ยืนเคียงข้างด้วยท่าทีสง่างาม พิมดาววันนี้มาในชุดราตรีสีทองอร่าม แม้จะดูเซ็กซี่แต่ก็วางตัวดีสมกับเป็นเซเลบริตี้แถวหน้า
ทันทีที่พิมดาวเห็นระรินธร รอยยิ้มการค้าบนใบหน้าของเธอกระตุกไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะปรับให้เป็นปกติอย่างรวดเร็ว เธอไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจหรือโวยวายออกมาให้เสียลุค แต่ดวงตาคู่นั้นกลับฉายแววประเมินค่าศัตรูอย่างละเอียดถี่ถ้วน
‘ระรินธร... กลับมาแล้วสินะ’ พิมดาวคิดในใจ ‘ดูแพงขึ้น มั่นใจขึ้น... มิน่าล่ะ ดลถึงได้ดูสนใจนัก’
เธอสังเกตเห็นสายตาของดลลวิญ์ที่มองค้างไปที่ระรินธร สายตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงและโหยหาบางอย่างที่แม้แต่เจ้าตัวก็อาจไม่รู้ตัว พิมดาวรู้ดีว่าการโวยวายหึงหวงมีแต่จะทำให้ดลลวิญ์รำคาญ เธอจึงเลือกใช้วิธีที่ฉลาดมากกว่านั้น...
“ดลคะ...” พิมดาวกระซิบบอกชายหนุ่มเสียงนุ่ม “นั่นคุณระรินธรใช่ไหมคะ? เปลี่ยนไปเยอะเลย... พิมได้ข่าวว่าเธอกลับมาเทคโอเวอร์บริษัทพ่อตัวเองด้วยวิธีที่... ค่อนข้างดุเดือดน่าดู”
ดลลวิญ์หันกลับมามองพิมดาว “คุณรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ?”
“แวดวงธุรกิจมันแคบนี่คะ” พิมดาวพูดพร้อมรอยยิ้มบาง “ใคร ๆ เขาก็ลือกันว่าเธอมีนายทุนลับหนุนหลังอยู่... การที่เธอมายื่นซองประมูลงานใหญ่ขนาดนี้ ทั้งที่บริษัทเพิ่งเปลี่ยนโครงสร้าง พิมเกรงว่า... มันอาจจะกระทบภาพลักษณ์ความโปร่งใสของโครงการคุณหรือเปล่าคะ?”
คำพูดของพิมดาวจี้จุดอย่างตรงประเด็น... ซึ่งเป็นสิ่งที่ดลลวิญ์ให้ความสำคัญมากที่สุด เธอไม่ได้ด่าว่าระรินธรเป็นเมียน้อยหรือเกาะผู้ชาย แต่เธอตั้งคำถามเรื่องความน่าเชื่อถือทางธุรกิจซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า
ดลลวิญ์ขมวดคิ้วแน่น “ผมแยกแยะเรื่องงานได้พิม... แต่ขอบคุณที่เป็นห่วง”
“พิมก็แค่ไม่อยากให้ใครมาครหาคุณน่ะค่ะ” เธอแตะแขนเขาเบา ๆ “ไปทักทายเธอหน่อยไหมคะ? ในฐานะเจ้าบ้านที่ดี”
พิมดาวเป็นฝ่ายเดินนำดลลวิญ์เข้าไปหาระรินธรเสียเอง การเดินเข้าไปอย่างมั่นใจทำให้เธอดูเหนือกว่าและเป็นฝ่ายคุมเกม
“สวัสดีค่ะ คุณระรินธร” พิมดาวเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงสุภาพ พร้อมรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรแต่แววตาเย็นเยียบ
“ไม่เจอกันนานเลยนะคะ ยินดีด้วยกับตำแหน่งรองประธาน... พิมนึกว่าหลังจากเรื่องวุ่นวายในครอบครัว คุณจะพักผ่อนรักษาแผลใจสักพักเสียอีก ไม่คิดว่าจะรีบกลับมารับงานใหญ่ขนาดนี้”
ระรินธรมองพิมดาวแล้วรู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา “ขอบคุณค่ะคุณพิมดาว” ระรินธรยิ้มตอบด้วยความเย็นชาพอกัน “แต่สำหรับดิฉัน การทำงานคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดค่ะ... โดยเฉพาะงานที่ท้าทายความสามารถ ไม่ใช่แค่เดินสวย ๆ ไปวัน ๆ”
พิมดาวหัวเราะออกมาเล็กน้อยอย่างมีจริต ไม่สะเทือนกับคำเหน็บแนม “ทัศนคติดีจังเลยค่ะ... มิน่าล่ะ ถึงกล้ายื่นซองประมูลแข่งกับบริษัทอินเตอร์ฯ เจ้าอื่น” เธอหันไปสบตาดลลวิญ์
“แต่ดลคะ พิมแอบห่วงนิดหน่อย... ประวัติการทำงานของคุณระรินธรในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาในเอกสารประมูล มันดู... ว่างเปล่าชอบกล ไม่มีการระบุผลงานที่ชัดเจน นอกจากชื่อนามแฝงลอย ๆ”
เธอกลับมามองระรินธร สายตาเต็มไปด้วยความเชือดเฉือน “ในวงการอสังหาฯ ระดับพันล้าน... ความน่าเชื่อถือสำคัญมากกว่าความมั่นใจนะคะคุณระรินธร... พิมกลัวว่าบอร์ดบริหารจะมองว่าคุณใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวในอดีตมาเป็นทางลัดในการรับงานนี้หรือเปล่า?”
ประโยคนี้ทำเอากวินทร์คิ้วกระตุกจะสวนกลับแต่ระรินธรยกมือห้ามไว้ เธอก้าวเข้าไปใกล้พิมดาวอีกนิด สบตาอย่างตรงไปตรงมา
“ความกังวลของคุณพิมดาวมีเหตุผลค่ะ” ระรินธรตอบเสียงเรียบ “แต่ความน่าเชื่อถือของดิฉัน ไม่ได้อยู่ที่กระดาษประวัติ... แต่อยู่ที่เนื้องานในแฟ้มสะสมผลงานที่ยื่นไป ซึ่งดิฉันมั่นใจว่าท่านประธานดลลวิญ์คงได้เปิดดูและพิจารณาด้วยวิจารณญาณของนักธุรกิจมืออาชีพ... ไม่ใช่อคติส่วนตัวเหมือนคนวงนอก”
เธอหันไปทางดลลวิญ์ “จริงไหมคะท่านประธาน?”
ดลลวิญ์มองการปะทะคารมที่เชือดเฉือนแบบไม่มีใครยอมใครตรงหน้าด้วยความทึ่ง พิมดาวพยายามดิสเครดิตระรินธรเรื่องความโปร่งใส แต่ระรินธรก็ตอกกลับด้วยเรื่องความเป็นมืออาชีพ... มวยคู่นี้สูสีและฉลาดทั้งคู่
“แน่นอนครับ” ดลลวิญ์เอ่ยเสียงขรึม “ผมตัดสินที่ผลงานและเท่าที่ดูผ่านตา ข้อเสนอของคุณน่าสนใจมาก แต่ผมยังมีข้อสงสัยบางอย่างที่อยากซักถามเป็นการส่วนตัว”
เขาผายมือไปทางระเบียง “เชิญครับคุณระรินธร”
พิมดาวเม้มปากแน่นเมื่อเห็นดลลวิญ์ให้ความสำคัญกับระรินธร แต่เธอก็ฉลาดพอที่จะไม่ตามไปเกาะแกะให้เขารำคาญ เธอพยักหน้าใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้มแม้ว่าจะไปไม่ถึงดวงตาก็ตาม
“เชิญตามสบายค่ะดล... พิมจะช่วยรับรองแขกทางนี้ให้เอง”
เธอวางตัวเป็นหลังบ้านที่ดีเพื่อซื้อใจดลลวิญ์ แต่ทันทีที่ดลลวิญ์และระรินธรเดินลับตาไป รอยยิ้มบนหน้าพิมดาวก็เลือนหายไปทันที แววตาอำมหิตฉายชัดขึ้นมาแทนที่
เธอรู้ดีว่าลำพังคำพูดหรือการดิสเครดิตอาจจะหยุดระรินธรไม่ได้ และยิ่งดลลวิญ์ดูสนใจในตัวระรินธรมากเท่าไหร่ ตำแหน่งนายหญิงแห่งอัครเดชาของเธอก็ยิ่งสั่นคลอน
“ฉลาดดีนี่ระรินธร... แต่ฉลาดแค่เรื่องงาน ระวังจะตกม้าตายเรื่องผู้ชายนะ”
พิมดาวหันไปสบตากับบริกรคนสนิทที่ยืนรอคำสั่งอยู่มุมห้อง เธอพยักหน้าเบา ๆ เพียงครั้งเดียว... เป็นสัญญาณที่รู้กัน ยาที่เธอเตรียมมาเป็นชนิดพิเศษที่ไม่ออกฤทธิ์ทันที แต่จะค่อย ๆ กระตุ้นความต้องการและทำให้สติพร่าเลือน... เธอตั้งใจจะใช้มันกับดลลวิญ์ในคืนนี้เพื่อรวบหัวรวบหางเขาให้เป็นของเธออย่างสมบูรณ์ และใช้ความเป็นภรรยาผูกมัดเขาไว้
“เสิร์ฟแก้วพิเศษให้คุณดลตอนที่เขาเดินกลับเข้ามา... บอกว่าเป็นวิสกี้ฉลองความสำเร็จจากหุ้นส่วน” เธอสั่งเสียงเรียบ “แล้วก็กันทุกคนออกไป... คืนนี้ฉันจะเป็นคนพาดลกลับห้องเอง”
แผนของเธอแยบยลและใจเย็น เธอไม่ได้จะทำร้ายระรินธรตรง ๆ แต่เธอจะขโมยหัวใจสำคัญของเกมนี้ไปครอง... นั่นคือตัวดลลวิญ์
หารู้ไม่ว่า... แผนการที่วางไว้อย่างดิบดีกำลังจะผิดพลาดเพราะความดื้อรั้นของดลลวิญ์เอง!
[คฤหาสน์อัครเดชา] รถสปอร์ตหรูสีดำเลี้ยวเข้ามาจอดเทียบหน้าประตูคฤหาสน์หลังงามด้วยความเร็วที่ทำเอาเหล่าคนรับใช้สะดุ้งโหยง เสียงเบรกดังสนั่นบ่งบอกถึงอารมณ์ที่คุกรุ่นของเจ้าของรถได้เป็นอย่างดี ดลลวิญ์ก้าวลงจากรถด้วยใบหน้าถมึงทึง เขาโยนกุญแจรถให้พ่อบ้านโดยไม่พูดจา ก่อนจะเดินดุ่ม ๆ ขึ้นไปยังห้องนอนส่วนตัวอย่างรวดเร็ว... ทิ้งให้ทุกคนในบ้านมองหน้ากันเลิ่กลั่กด้วยความหวาดกลัว เพราะร้อยวันพันปีนายน้อยของบ้านไม่เคยหลุดมาดขรึมให้เห็นขนาดนี้ ปัง! ประตูห้องนอนถูกกระแทกปิดลง ดลลวิญ์เหวี่ยงเสื้อสูทราคาแพงลงบนพื้นอย่างไม่ไยดี ร่างกายของเขายังคงเหนียวเหนอะหนะจากคราบไคลและร่องรอยของค่ำคืนที่บ้าคลั่ง... ร่องรอยที่เขา ‘คิดว่า’ เป็นของระรินธร แต่กลับตื่นมาพบพิมดาว&n
[เช้าวันรุ่งขึ้น] แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านม่านเข้ามา ดลลวิญ์ขยับตัวตื่นด้วยความปวดร้าวไปทั้งหัว ความทรงจำเมื่อคืนค่อย ๆ ไหลย้อนกลับมาเป็นฉาก ๆ สัมผัสร้อนแรง... กลิ่นกุหลาบหอมกรุ่น... เสียงครางหวาน ๆ ของระรินธร... และความสุขสมที่เขาได้รับ “ริน...” เขายิ้มออกมาทั้งที่ตายังปิดอยู่ วาดแขนไปกระชับกอดร่างนุ่มนิ่มที่นอนเปลือยเปล่าอยู่ข้างกายอย่างหวงแหน “เมื่อคืนคุณยอดเยี่ยมมาก... ผมจะไม่ปล่อยคุณไปอีกแล้ว” แต่แล้ว... ปัง! ปัง! ปัง! เสียงทุบประตูดังสนั่นหวั่นไหว ดลลวิญ์สะดุ้งลืมตาตื่นอย่างหัวเสีย “ใครวะ!
สิ่งที่พิมดาวทำ... ไม่อาจรอดพ้นสายตาดุจเหยี่ยวของกวินทร์ ชายหนุ่มที่ยืนสังเกตการณ์อยู่มุมมืดเห็นจังหวะที่บริกรส่งแก้วให้ดลลวิญ์ และเห็นรอยยิ้มมุมปากของพิมดาวที่ยืนอยู่อีกฝั่ง เขาอ่านเกมออกทะลุปรุโปร่งทันที “ร้ายนักนะแม่คุณ...” กวินทร์พึมพำ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปประชิดตัวระรินธรที่เพิ่งเดินออกมาจากระเบียงด้วยอารมณ์คุกรุ่น “ริน... ฟังผมนะ” กวินทร์กระซิบเสียงเครียด “พิมดาววางยาดลลวิญ์... เมื่อกี้เขาเพิ่งดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นเข้าไป เต็ม ๆ” ระรินธรชะงัก ดวงตาเบิกกว้าง “นายว่าไงนะ? ยัยนั่นกล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?” “ใช่ แผนของเธอคงกะจะรวบหัวรวบหางดลคืนนี้เพื่อจับให้อยู่หมัด” กวินทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ “แต่ผมเตรียมแผนแก้เผ็ดไว้แล้ว... ผมเตรียมผู้หญิงหากินไว้คนหนึ่
ภายในโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา - งานกาล่าดินเนอร์เปิดตัวโครงการ Riverside Iconic แสงไฟสปอตไลต์สาดส่องไปทั่วห้องบอลรูมที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นงานเลี้ยงสุดหรูหรา บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความมั่งคั่งและอำนาจของ ‘อัครเดชา กรุ๊ป’ เจ้าภาพในค่ำคืนนี้ จุดศูนย์กลางของความสนใจย่อมหนีไม่พ้นโมเดลโครงการคอนโดมิเนียมริมน้ำมูลค่าพันล้าน และดลลวิญ์เจ้าของโปรเจกต์ผู้ทรงอิทธิพล ทว่า... บรรยากาศราบรื่นเหล่านั้นกลับสะดุดลง เมื่อประตูบานใหญ่เปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของแขกที่ไม่ได้รับเชิญในสายตาคนทั่วไป แต่กลับเป็นผู้ท้าชิงที่น่าจับตามองที่สุด ร่างระหงในชุดราตรียาวสีแดงเบอร์กันดีผ่าสูงโชว์เรียวขาขาวเนียนก้าวเข้ามาในงานด้วยความสง่าผ่
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่อาคารสำนักงานใหญ่สิริมันตรากรุ๊ป... บรรยากาศภายในบริษัทวันนี้คึกคักและตึงเครียดกว่าปกติ ข่าวการกลับมาของทายาทเพียงคนเดียวของอดีตท่านประธานแพร่สะพัดไปทั่วทุกแผนกตั้งแต่เมื่อวาน พนักงานต่างจับกลุ่มซุบซิบและชะเง้อมองไปทางลิฟต์ผู้บริหารอย่างใจจดใจจ่อ เวลา 09:00 น. ตรง... ประตูลิฟต์เปิดออก พร้อมกับการปรากฏตัวของระรินธรในชุดสูทกางเกงสีขาวงาช้างคัตติ้งเนี้ยบกริบจากแบรนด์ดัง รองเท้าส้นสูงหัวแหลมสีนู้ดเสริมบุคลิกให้ดูสง่างามและคล่องตัว ผมยาวสลวยถูกรวบตึงเป็นหางม้าต่ำเผยให้เห็นโครงหน้าสวยเฉี่ยวที่แต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างประณีต เธอเดินก้าวเข้ามาในโถงทางเดินด้วยท่วงท่ามั่นใจ โดยมีกวินทร์เดินขนาบข้างในฐานะที่ปรึกษาและเลขาฯ ส่วนตัว “สวัสดีค่ะคุณระรินธร ดิฉันวิภาเลขาฯ ของคุณวิไลเอ่อ... ท่านรักษาการประธานค่ะ” หญิงวัยกลา
ภายในรถตู้ส่วนตัวของกวินทร์ ระหว่างเดินทางกลับคอนโดหลังจากประตูรถปิดลงตัดขาดความวุ่นวายและสายตาจับผิดจากภายนอก หน้ากากนางสิงห์ผู้เย่อหยิ่งที่สวมใส่มาตลอดช่วงบ่ายก็ถูกปลดออก ระรินธรทิ้งตัวลงพิงเบาะหนังอย่างอ่อนล้า หลับตาลงเพื่อพักสายตาจากการปะทะคารมที่สูบพลังงานชีวิตไปไม่น้อย “เหนื่อยไหมครับคุณเลขาฯ?” กวินทร์เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มพร้อมยื่นขวดน้ำแร่เย็นเจี๊ยบให้เธอ “วันนี้คุณทำได้ยอดเยี่ยมมาก ทั้งเรื่องไล่บี้แม่เลี้ยง แล้วก็เรื่องตอกหน้าท่านประธานดล” ระรินธรรับน้ำมาจิบ พลางระบายลมหายใจยาว “เหนื่อยสิ... เหนื่อยที่ต้องปั้นหน้าเย็นชา ทั้งที่ในใจอยากจะกรี๊ดออกมาให้รู้แล้วรู้รอดตอนที่เห็นสภาพห้องทำงานแม่เละเทะแบบนั้น” “แต่คุณก็คุมสติได้ดี” กวินทร์เอ่ยชมจากใจจริง “แถมยังทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้ดลลวิญ์สงสัยเล่นอีกต่างหาก ป่านนี้เขาคงสั่ง







