“ว๊าว เด็กคนนี้ใช่มั้ยมึงที่คุณเรย์มันพาขึ้นคอนโด” ทอฟ้าเพื่อนสาวสุดแซ่บของเรย์หันไปถามนัตตี้เพื่อนอีกคนที่เป็นคนเห็นเหตุการณ์ที่คุณเรย์พาผู้ชายขึ้นคอนโด
“ใช่มึง คนนี้เลย…ไม่คิดว่าจะหอบมาถึงนี่ด้วย” “หุบปาก! กัญมานั่ง” เรย์หันไปว่าเพื่อนสาวปากแซ่บแล้วก็หย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาไม่ลืมที่เรียกกัญชาให้มานั่งข้างเธอด้วย “แหม น้องคนนี้เหรอที่เลี้ยงไว้” “มึงรู้แล้วก็อย่ามาทำแกล้งถามเลย ถามชื่อดีกว่าน้องชื่ออะไรเหรอคะ?” นัตตี้ส่ายหน้าให้ทอฝันแล้วหันไปถามชายหนุ่มที่เพื่อนสาวหอบหิ้วมาในผับด้วย “ชื่อกัญชาครับ” “ชื่อเพราะจัง ตอนแม่นายตั้งท้องพ่อนายชอบสูบแน่เลย ฮ่าๆ” ทอฟ้าเอ่ยติดตลกแล้วเอ่ยถามต่อ “อายุเท่าไหร่เหรอ” “สิบแปดครับ” “สิบหรือยี่นะ?” อาจจะเพราะเสียงเพลงในผับค่อนข้างจะดังเลยได้ยินไม่ค่อยชัด นัตตี้จึงเอียงหน้าเข้าไปหากัญชาเพื่อฟังอายุที่เจ้าตัวบอกใหม่อีกครั้งว่าเพื่อนเธอไม่ได้กำลังพรากผู้เยาว์ใช่มั้ย “สิบครับ..สิบแปด” “สิบแปด!!” สองสาวอุทานขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันเมื่อชายหนุ่มตรงหน้านี้มีอายุเพียงแค่สิบแปดปี “ไอ้เรย์! พรากผู้เยาว์เลยนะเว้ย…ที่บอกเลี้ยงเด็กกูก็คิดว่ายี่สิบสองยี่สิบสามแล้ว” นัตตี้บอกพร้อมกับกระพริบตาถี่ๆ ไม่คิดว่าคนอย่างเรย์จะชอบคนที่อายุน้อยกว่าขนาดนี้ แล้วคือหมอนี่ดูตัวโตอ่ะเลยไม่คิดว่าจะอายุแค่นี้แถมหน้าตาก็คือหล่อการแต่งตัวดูโตคิดว่าน่าจะยี่สิบกว่าแล้ว “เมล่ะ?” “มึงนี่สุดยอดจริงๆ” “ไม่รู้กูยังไม่เห็นเลย” ทอฟ้าก็ได้แต่ส่ายหน้าให้ความมึนของเรย์แล้วตอบกลับเมื่อยังไม่เห็นเจ้าน้องเล็กมา แต่สักพักร่างบางในชุดเสื้อสายเดี่ยวสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาสั้นก็เดินเข้ามาแล้วหยุดชะงักเมื่อเห็นการแต่งตัวของพี่สาวเหมือนกับตัวเองเป๊ะๆ “พี่เรย์แต่งตัวเหมือนหนูทำไม?” เมจิถามแล้วก็นั่งลงเมื่อถูกมือของภูเขาดึงให้นั่ง “พี่ไม่ได้แต่งเหมือนเธอ” “แล้วมันเหมือนหนูได้ไง” “เธอก็ลองใช้สมองคิดสิ” เรย์ตอบพลางหยิบขวดเหล้ามาทำการชงเหล้าให้เพื่อนๆ ส่วนเมจิก็ได้แต่นั่งส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอแล้วชะเง้อคอไปมองบุคคลที่นั่งอยู่ข้างพี่สาวและภูเขากำลังนั่งอยู่ข้างบุคคลนั้น “กัญชา…” เสียงหวานจึงเอ่ยเรียกบุคคลที่เธอพอจะเห็นผ่านๆ จากในโรงเรียนชายหนุ่มที่ถูกเรียกจึงหันมามองเธอด้วยรอยยิ้ม “รู้จักกันเหรอ?” ภูเขาถามแล้วผลักใบหน้าของเมจิให้นั่งตรงๆ “เรียนโรงเรียนเดียวกันค่ะ แต่อยู่คนละห้องเลยไม่ค่อยสนิทกันแค่รู้จักผ่าน” “เธออยู่ห้องหนึ่งใช่มั้ย?” กัญชาหันไปถามเมจิที่ก็ผงกศีรษะรับด้วยรอยยิ้มหวานๆ จนเห็นฟันแทบจะทุกซี่ในปากนั่นแล้ว “แล้วมากับพี่เรย์ได้ไงอ่ะ?” “เอ่อ…” “นั่งรถมา” เป็นเรย์ที่หันไปตอบน้องสาว “หนูไม่ได้ถามพี่!” “ดื่มให้เมาๆ ไปซะ” ปึก!เรย์ว่าพลางวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะตรงหน้าของเมจิ เรียกสายตาค้อนควับจากคนตัวใหญ่อย่างภูเขาทันที มือหนาจึงจับแก้วเหล้าไปวางด้านหน้าของกัญชาพร้อมกับเอ่ยบอก “เมอายุสิบแปด” “กัญก็อายุสิบแปด!” เรย์บอกเพื่อนหนุ่มแล้วดันแก้วเหล้าไปตรงหน้าของภูเขา แล้วจ้องหน้าเขานิ่งจนภูเขาต้องแค่นหัวเราะออกมาแล้วยกแก้วเหล้าแก้วนั้นขึ้นมากระดกดื่มเป็นการตัดบทสนทนา “วู้วว! กูว่าเราไปสนุกกันดีกว่าอีนัตตี้” ทอฟ้าที่เห็นว่าบรรยากาศภายในโต๊ะเริ่มจะขุ่นมัวจึงหันไปกอดคอเพื่อนสาวแล้วลุกขึ้นยืน “หนูไปด้วย” เมจิจึงเดินไปกอดเอวของทอฟ้าซึ่งก็พยักหน้ารับแล้วพากันเดินออกไปเต้นแด๊นซ์กับคนอื่นๆ “อย่าบอกนะนี่เด็กที่เลี้ยงไว้?” เมื่อภายในโต๊ะเหลือแค่สามคนภูเขาจึงเอ่ยถามเรย์ที่นั่งตัวตรงทำหน้านิ่งอยู่ “ยุ่ง!” เธอบอกด้วยน้ำเสียงห้วนๆ รู้สึกไม่ชอบที่ทุกคนชอบหาว่าเธอเลี้ยงเด็ก เธอไม่ได้เลี้ยงเธอแค่เอ็นดูจึงรับมาดูแล… “นายอ่ะ ชื่ออะไร?” “กัญชาครับ” กัญชาตอบชายหนุ่มข้างกายด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ ตอนนี้เขาบอกเลยว่าเขานั่งเกร็งมาก ข้างขวาคือเรย์หญิงสาวผู้เย็นชาส่วนข้างซ้ายเป็นชายหนุ่มรุ่นพี่ที่ทรงดูโหดนิดๆ “รู้มั้ยว่าฉันเคยคบกับเรย์” “นายหุบปากของนายไปนะภู!” เรย์หันไปมองภูเขาแล้วบอกด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจกับการที่เจ้าตัวมาพูดถึงความสัมพันธ์ในอดีตต่อเด็กของเธอแบบนี้ “เอ่อ ไม่รู้ครับ…” “ก็รู้ไว้” “ครับ…แล้วเลิกกันทำไม?” ในเมื่อภูเขาเปรยมาแบบนี้แล้วเขาก็ต้องถามต่อเพื่อจะได้รู้ไม่ต้องค้างคาใจ และเมื่อเขาเอ่ยปากถามไปแบบนี้เสียงลมหายใจที่ฟึดฟัดของเรย์ก็ดังขึ้น “ก็ไม่รู้สิ เรย์บอกเลิกฉัน” “อ่อ เลิกกันนานยังครับ” “นายนี่ก็ขี้สงสัยเหมือนกันนะ” ภูเขาเลิ่กคิ้วถามทำเอากัญชาถึงกับหัวเราะแห้งเพราะคิดว่าภูเขาอยากจะพูดว่าเขาขี้เสือกมากกว่าขี้สงสัยแต่คงไม่กล้าพูดมากกว่า “สิบกว่าปีแล้ว” “ห้ะ! สิบกว่าปี…ผมคิดว่าเพิ่งเลิกซะอีก” “ฉันคบกับเรย์ตั้งแต่มอหนึ่งน่ะพอมอสามเรย์ก็บอกเลิก” “เมื่อไหร่จะเลิกพูด!?” ร่างบางที่เหมือนไม่อยากฟังเรื่องพวกนี้หันไปถามภูเขาที่ก็ยักคิ้วไหวไหล่ให้ด้วยสีหน้ากวนๆ แล้วเอ่ยต่อ “แต่นายไม่ต้องห่วงนะ ตอนนี้ฉันกับเรย์เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและฉันก็มีคู่หมั้นแล้ว” “อ่อ คู่หมั้นพี่ผมรู้จักหรือเปล่า?” “รู้จักสิ เมจิไง” “ห้ะ! อ่อ…พี่กับเมหมั้นกันแล้วเหรอครับ?” “ใช่สิ แล้วนายมาเที่ยวกับคุณเรย์แบบนี้แฟนนายไม่ว่าเหรอ?” กัญชานิ่งเงียบไปเป็นพักเมื่อเจอกับคำถามนี้ของภูเขา ทำให้เรย์ต้องหันมามองเพื่อรอคำตอบซึ่งภูเขาก็เหมือนจะดูออกว่าเพื่อนสาวคงไม่ได้สืบเรื่องนี้มาแน่จึงเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง “ว่าไงแฟนนายไม่ว่าเหรอ?” “ไม่ว่าหรอกครับ…” “นายมีแฟนแล้วเหรอ?” เป็นเรย์ที่เอ่ยถามชายหนุ่มข้างกาย กัญชาจึงพยักหน้าให้ ปึก! มือบางจึงวางแก้วเหล้าที่ถืออยู่ในมือจนมันดังและหากวางแรงอีกนิดเดียวมันอาจจะแตกได้ “ผมคิดว่าพี่น่าจะรู้เลยไม่ได้บอก” กัญชารีบอธิบายเพราะกลัวว่าเธอจะโมโหเรื่องที่เขามีแฟนแต่ไม่ได้บอกเนื่องจากตัวเขาคิดว่าผู้หญิงอย่างเรย์คงจะสืบทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขาและรู้เรื่องนี้ แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้…กลับมาจากบ้านของข้าวแกง เรย์ก็ขอแยกกับกัญชาไปที่ร้านนัตตี้ ส่วนกัญชานั้นคุณรินนะให้ไปเป็นเพื่อนเดินห้าง“มาเล่าให้ฟังหน่อย ทั้งเรื่องพี่ชายมึงกับลาร์สเลย” ทันทีที่เรย์หย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ เพื่อนสาวอย่างนัตตี้ก็รีบเดินมานั่งตรงข้ามพร้อมถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อนทันทีเรย์จึงเล่าเรื่องราวพวกนั้นให้นัตตี้ฟังแบบคร่าวๆ“แล้วแบบนี้ฟ้ามันจะไม่โกรธมึงใช่ไหม?”“ถ้าจะโกรธกูเพราะกูมีส่วนทำให้ผัวมันถูกจับก็เรื่องของมันสิ ลาร์สมันไม่ได้แค่เข้ามายุ่งกับกัญหรือเพิ่งเข้ามายุ่งกับกู มันสองแม่ลูกสร้างปัญหาให้กูมาเยอะมึงก็รู้” แต่ทุกครั้งเธอไม่ได้สนใจและพยายามหลีกเลี่ยงสองแม่ลูกนั่นมาตลอดเพราะไม่อยากมีปัญหาแต่ครั้งนี้รู้สึกว่ามันเกินไป หากปล่อยไว้สองคนนั้นก็ต้องวางแผนเล่นงานเธออีก และอาจจะเล่นงานในเรื่องที่ใหญ่กว่าเรื่องพวกนี้ขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ได้“กูเข้าใจมึง แล้วตอนนี้ลาร์สกับแม่มันโดนตำรวจจับไปแล้วเหรอ?”“ยัง ขอสู้คดีมั้ง”“สู้ไปก็เสียเงินเปล่าๆ”“ช่างเถอะ แล้วนี่ได้คุยกับฟ้าบ้างไหม?” ถามพร้อมกับหยิบใบเมนูมาสั่งอาหารกับพนักงานที่เธอกวักมือเรียกมาให้รับออเดอร์“คุยเมื่อคืน มันแค่ทักมาบอ
หลายวันต่อมา ณ บ้านข้าวแกง“อีข้าวแกง! น้องมึงอยู่ไหนห้ะ!!” เสียงของภาคภูมิโวยวายเข้ามาในบ้านพร้อมกับร่างสูงท้วมของเจ้าตัว ทุกคนที่นั่งอยู่ภายในบ้านที่นอกจากข้าวแกงและคุณกัญญาก็ยังมีเรย์ กัญชาและคุณรินนะอีกด้วย สายตาหลายคู่กำลังจับจ้องไปยังเขาเป็นตาเดียว“อยู่กันพร้อมหน้ากันก็ดีแล้ว ไอ้กัญไอ้ลูกอกตัญญู!!”“พ่อครับ…”“มีอะไร?” เรย์กดหน้าตักของกัญชาที่กำลังจะลุกขึ้นไว้แล้วเธอก็หันไปถามภาคภูมิแทน“มีอะไรเหรอ! พวกมึงไงที่ทำให้ธุรกิจริต้าล้มละลาย!!”“แต่ถ้าจำไม่ผิดคุณริต้าของคุณโกงเงินจากบริษัทสามีเก่ามาเกือบร้อยล้านเลยนะ”“มึงอย่ามารู้ดี!!”“รอบที่แล้วคุณคงเจ็บตัวไม่พอสินะ” ร่างบางหยัดกายลุกขึ้นยืนพร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำลง เรย์ชายตามองคนตรงหน้าก่อนจะแสยะยิ้มมุมปาก“มึงอย่าคิดว่าแค่นั้นแล้วกูจะกลัวมึงนะ”“ทางทีดีคุณควรจะออกมาจากสองแม่ลูกนั่นก่อนที่ตัวคุณจะลงแหไปด้วย”“ใช่ พ่อควรจะออกมาจากสองแม่ลูกนั่นนะ”“มึงไม่ต้องมาเสือกกับชีวิตกูอีข้าวแกง!!” จากที่ว่าเรย์เมื่อข้าวแกงพูดบ้างภาคภูมิก็หันไปชี้นิ้วใส่ข้าวแกงเรย์กับคุณรินนะในตอนนี้ไม่ต่างกันคือพยายามกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองไว้ให้ได้ม
“ทำไปเพื่ออะไรครับ?”“อยากรู้ก็ถามสิ” เรย์พูดพร้อมยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาลาร์สที่ไม่กี่นามีหมอนั่นก็รับสาย เรย์จึงเปิดเสียงแล้ววางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะเพื่อให้ทุกคนได้ฟัง(ว้าว! ครั้งแรกเลยมั้งที่คุณเรย์โทรหาผม ไม่ทราบว่ามีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ?)“นายเป็นคนตั้งกล้องถ่ายคลิปไว้เหรอ?”(จะไปรู้ได้ไงล่ะครับ?)“นายก็รู้นะลาร์สว่าถ้าฉันเอาจริงกับนายเมื่อไหร่ ครอบครัวนายจะไม่ได้อยู่กันอย่างมีความสุขแน่ ฉันเห็นแก่หน้าพ่อกัญอยู่นะ”(อ่า ฉันทำเองล่ะทำไม ที่จริงฉันวางแผนไว้ให้คนที่ไปนอนในห้องนั้นเป็นแฟนเธอ แต่ก็นะ…พี่ชายเธอเสือกเข้ามาเองนี่นา ไหนๆ ฉันก็ตั้งกล้องไว้แล้วเลยส่งไปน้องข้าวคนสวยอยู่สักหน่อย แค่นั้นเอง) ลาร์สพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนเป็นผู้ชนะกับเกมส์นี้“มึงต้องการอะไรกันแน่!!” เป็นเรียวที่ตะโกนถามลาร์สไปด้วยน้ำเสียงที่ดังลั่นห้อง(อ้าว คุณเรียวก็อยู่ด้วย…ฉันก็แค่ต้องการเอาชนะน้องสาวนายแค่นั้นเอง)“แล้วมาดูกันว่าใครจะชนะ!” เรย์ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเช่นเดิม จากนั้นก็กดวางสายไปแล้วหันไปมองเรียวที่กำลังใส่เสื้อผ้าของตัวเองอยู่“ฉันรู้ว่าเธอทำอาชีพนี้และคงไม่รู้ว่าเขามีแฟนแล้ว และฉันไ
“คุณคะ..” วีร่าเอื้อมมือไปแตะแขนของเรียวแล้วเอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ไม่เพียงแค่นั้นยังขยับใบหน้าเข้าไปหาชายหนุ่มข้างกายจนตัวแทบติดกันและเมื่อเรียวหันมามองเธอก็ขยับใบหน้าขึ้นไปประกบปากเขา“ทำอะไรของเธอ!!” เรียวรีบผลักตัวของวีร่าออกแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ“ฉัน ฉันต้องการให้คุณช่วยฉัน ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?” เสียงแหบพร่าบอกพลางนั่งบิดตัวไปมาเมื่อภายในตัวเธอตอนนี้มันร้อนลุ่มไปหมด เธอมีความต้องการในเรื่องอย่าว่าเป็นอย่างมาก มากจนแทบจะหักห้ามตัวไว้ไม่อยู่เริ่มที่จะล้วงมือเข้าไปด้านในเสื้อของเรียวที่ก็นั่งหน้าแดงก่ำไม่ต่างจากเธอ“อืม ปวดหัวจางเลย อย่าเสียงดังกันด้ายม้าย~” กัญชาที่นอนอยู่บนโซฟาเอ่บอกด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาแต่ยานคล้อย เปลือกตาบางนั้นปิดสนิทไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยสักนิด“นะคะ คุณช่วยฉันหน่อยนะ ฉันมะ ไม่ไหวแล้ว” วีร่าพูดแล้วก็ขยับใบหน้าไปบดจูบปากเรียวอีกครั้ง และครั้งนี้เขาไม่ได้ผลักออกแถมยังจูบตอบเธอกลับไปอีก ฝ่ามือหนาล้วงเข้าไปใต้กระโปรงเดรสของวีร่าแล้วขยี้ลงบนกลีบเนื้อผ่านกางเกงชั้นในของหล่อน“ไปในห้องไหมคะ?” เมื่อผล่ะจูบออกแล้ววีร่าก็เอ่ยถามเรียว เขาไม่ตอบเพียงแต่ช้
“แม่งคนเยอะฉิบหายรอกูอยู่ตรงนี้นะ” มิกกี้บ่นก่อนจะหันไปบอกกัญชาแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ กัญชาจึงขยับมายืนรอด้านหน้าห้องน้ำเพื่อจะได้ไม่รบกวนคนอื่นที่ต้องการเข้าห้องน้ำจริงๆ“ไง ไม่ได้เจอกันหลายวันเลยนะ”“ลาร์ส…” กัญชาเอ่ยเรียกคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาเมื่อลาร์สกำลังเดินตรงมาทางเขา“ใช่ ฉันเอง”“มีอะไรกับผมหรือเปล่า?”“มีสิ อยากชวนนายไปนั่งด้วยสักหน่อย” ไม่เพียงแต่พูดลาร์สยังจับแขนของกัญชาให้เดินตามเขาออกไปจากห้องน้ำด้วย“พี่จะพาผมไปไหน!?” กัญชาสะบัดแขนออกจากมือของลาร์สแล้วหยุดเดินทำให้ลาร์สหันมามองเขาด้วยสายตาเรียบนิ่งแล้วเอื้อมมือมาจับแขนของกัญชาอีกครั้ง“แค่ให้ไปเป็นเพื่อนนั่งดื่ม” แล้วก็ลากมือของกัญชาพาขึ้นยังไปชั้นสองของผับซึ่งมีห้องสำหรับแขกวีไอพีที่ต้องการสนุกสนานเป็นการส่วนตัว ภายในห้องขนาดกว้างมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งดื่ม และมีห้องนอนกับน้ำในตัวด้วย กัญชามัวแต่ยืนสำรวจห้องจนไม่ได้สนใจว่าเขากำลังถูกลาร์สดึงเข้ามาในนี้“ชอบไหมแบบนี้”“พูดอะไรของพี่!?”“อืม ฉันแค่อยากทำความรู้จักกับน้องชายของฉัน” “ผมไม่อยากทำความรู้จักกับพี่” กัญชาตะโกนใส่หน้าของลาร์สแล้วตั้งท่าจะเดินออกจากห
@บ้านคุณเคนจิ“สวัสดีครับคุณแม่รินนะ” เสียงทุ้มของเรียวเอ่ยทักทายคุณรินนะทันทีที่หล่อนก้าวเข้ามาในตัวบ้านที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ หล่อนพยักหน้าให้เบาๆ ก่อนจะปรายตาไปมองหญิงสาวที่นั่งข้างเรียว“คนนี้เหรอแฟนนาย” พร้อมเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม ข้าวแกงจึงยกมือขึ้นมาไหว้โดยที่ยังไม่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นใคร คุณรินนะรับไหว้แล้วก็เดินไปนั่งตรงข้ามกับข้าวแกง“ใช่ครับ สวยไหม?”“น้อยกว่าฉัน”“อ่า หลงตัวเองชะมัด” เรียวหันไปว่าคุณรินนะอย่างไม่จริงจังนัก“มาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ?” คุณเอมิที่กำลังเดินถือถ้วยขนมหวานออกมาเอ่ยถามพร้อมวางจานลงบนโต๊ะตรงหน้าของข้าวแกง ส่วนตัวเธอก็เดินไปนั่งข้างสามี“เพิ่งมา แวะไปหาเรย์มาก่อนเห็นเรย์บอกว่าเรียวพาลูกสะใภ้มาที่นี่เลยแวะมาทำความรู้จักสักหน่อย”“อ่อ นั่นแม่ของข้าวนะ” คุณเอมิตอบรับพร้อมชี้นิ้วไปยังคุณกัญญาที่กำลังเดินออกมาจากทางครัว หล่อนจึงยิ้มหวานให้คุณรินนะแล้วเดินมานั่งข้างลูกสาวคนสวยที่กำลังตักขนามหวานที่เธอกับคุณเอมิเข้าไปช่วยกันทำมาอย่างบัวลอย“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันรินนะแม่ของเรย์แฟนลูกชายคุณ”“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” คุณกัญญาตอบกลับด้วยรอยยิ้มแล้วม