หลังเรียนจบมาด้วยทุนทรัพย์จากพ่อแม่ ลงหุ้นเปิดบริษัทกันสามคนมีอิงฟ้า ขณิกา พิมพ์ลภัส ปริญญาโทด้านการตลาด Newcastle University มหา’ลัยอันดับหนึ่งของ UK ไม่ได้ช่วยอะไรสักอย่าง
“ฉันว่า... ปริญญาไม่ต่างจากกระดาษใบเดียว หางานทำ หาเงินยากกว่าเป็นร้อยเท่า” คนบ่นหยิบแป้งตลับออกมาจากกระเป๋าเพื่อจัดการกับสภาพใบหน้าของตัวเองให้ดูดีมากพอไปพบลูกน้องอย่างสง่าผ่าเผย
“แต่จะให้เกาะพ่อแม่กินไปตลอดชีวิตก็ไม่ไหวอ่าเนอะ”
“เออ... ก็ต้องทนกันไป... จนกว่าจำได้ดีล่ะ มันต้องมีสักวัน” ขณิกาบ่นปนให้กำลังใจเพื่อนและตัวเอง
ขณะที่อิงฟ้ามีเรื่องคันปากอยากเม้าท์กับกลุ่มเพื่อนสนิทจนตัวสั่น วางแก้วพลาสติกในมือลง ลดน้ำเสียงลงเอ่ย
“เออ... พาย แกได้ข่าวยัยวาป่ะ ฉันได้ยินว่านางรับช่วงต่อบริษัทโฆษณาจากพ่อ ที่นางชอบโม้อ่ะว่าเปิดเป็นเจ้าแรกรุ่นเดอะอะไรของนางสักอย่าง นางลงเฟซไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์กับหนุ่มหล่อด้วยนะ ดูอู้ฟู่เชียว”
แค่ได้ยินชื่อเพื่อนร่วมรุ่นอีกคน ขณิกาชะงักนิ่ง เก็บแป้งใส่กระเป๋าด้วยหน้าตาเจื่อน ๆ
“ออ... ก็ดีนะ ฉันดีใจกับนางด้วย” แน่ว่าเธอโกหก ในเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างที่พูดเลย
อิงฟ้ากระแทกแก้วพลาสติกลงบนโต๊ะกระจกจนน้ำสีน้ำตาลเข้มข้างในกระเด็นเปรอะเปื้อนอย่างโมโห
“แต่ฉันหมั่นไส้! ฉันว่านางสร้างภาพ หนุ่มหล่อรวยอะไรนั่นเหรอ? ถ้าไม่ใช่เรื่องบนเตียงจะเอานาง ไม่แมงดาก็พวกหลอกฟัน”
“คงจะจริงอย่างที่แกว่ามั้ง...” ขณิกาทำเอออตาม
ด้วยความที่เธอเป็นเด็กดี ถึงจะจบเมืองนอกมาพร้อมวัฒนธรรมต่างชาติ ความเรียบร้อยช่างพูดดูน่าหมั่นไส้กับผู้หญิงด้วยกันเอง เธอจึงเป็นฝ่ายถูกกระทำมาตลอด
‘บูลลี่’ ขณิกานั้นโดนมาสารพัดจนห่างไกลคำว่าอ่อนแอ กลายเป็นว่าเธอคือผู้ชินชากับความเศร้า การกดขี่ข่มเหงซึ่งเคยสัมผัสมาหลากหลายรูปแบบ
โดยเฉพาะวาริน... ที่ชอบกลั่นแกล้งเล็ก ๆ น้อย ๆ จากนั้นหล่อนก็จะทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องสนุกในกลุ่มเพื่อน มีแค่พิมพ์ลภัสและอิงฟ้าที่เป็นห่วงเป็นใยเธอเสมอ
“นางชอบแกล้งแกตอนเรียนจะตาย ฉันไม่ได้อยากพูดถึงนังนั่นหรอก เอ่อ... แต่แกไม่เป็นไรแน่นะ?”
“ขอบใจนะฟ้า ฉันโอเคมาก ๆ ฉันไม่ได้อะไรกับนางเลย ยัยวาน่ะ เฉย ๆ แต่ถ้าให้สนิทแบบแกหรือกับพิมพ์ ขอบาย”
ใบหน้าสวยโฉบเฉี่ยวผุดรอยยิ้มกว้างพอได้หายห่วงเพื่อนที่มีสีหน้าดีขึ้น ก่อนจะลุกไปนั่งข้าง ๆ กัน โซฟาสีแดงตัวกว้างยาวของร้านกาแฟหรู ตัดกับเดรสคุณสีขาวสไตล์คุณหนูเข้ารูปทรงสมส่วนของหญิงสาวทั้งสองคน
ขณิกาชอบที่จะใส่งานเดรสแขนยาวระบายลูกไม้ อย่างวันนี้ที่เธอจัดงานแบรนด์แบบชีิฟองพองหรูหรา ความสั้นประเข่า ต่างจากอิงฟ้าที่ใส่เดรสเข้ารูปยาวถึงตาตุ่มแฝงความเปรี้ยวไว้ด้วยผ่าข้าง
อิงฟ้าวางกระเป๋าของตัวเองไว้บนตักหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางใบเล็ก ๆ ออกมา
“เบ้าตาแกมันแดง ต้องจัดหนักโบกหนักด้วยคอนซีลเลอร์ในตำนาน มานี่... ฉันทำให้”
“อืม... จัดมา” พูดพลางปิดกระบอกตาร้อนผ่าวลง รอให้เพื่อนสาวลงมือจัดการให้อย่างเคย อิงฟ้าจึงค่อย ๆ เกลี่ยเนื้อครีมสีเนื้อบนหลังฝ่ามือ ปากก็บ่น
“ผู้ชายเยอะแยะ คนไหนเขาไม่แคร์เรา ปล่อยเขาไปตามทาง ระดับลูกสาวคุณนายกนิษฐา เศรษฐีนีเจ้าของหมู่บ้านจัดสรร ต้องคงคอนเซฟสวยรวยมากไว้นะยะ เสียชื่อหมด”
ได้รับกำลังใจจากสัมผัสอบอุ่นผ่านปลายนิ้วที่คลึงรอบดวงตาให้อย่างอ่อนโยน ท้องฟ้าหม่นหมองของเธอเหมือนมีประกายแสงแห่งความหวัง รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าแม้ว่าจะยังหลับตาอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งช่างแต่งหน้าส่วนตัวทำงานเสร็จ
“ไม่ไหว ๆ เท่านี้พอ หนากว่านี้ได้ไปอยู่โรงงิ้วแน่นอน” อิงฟ้ามองผลงานของตัวเองด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก เก็บทุกอย่างลงในกระเป๋า แต่ส่งตลับกระจกให้อีกคนรับไป และคนถูกโบก! ก็อ้าปากตะลึงกับเนื้อครีมคนละสีกับผิวหน้า
“ไหนว่าคอนซีลเลอร์ในตำนานไงวะ... หลอกลวงผู้บริโภคนี่หว่า รองพื้นผิดเบอร์ป่ะเนี่ย แต่งหน้าแบบนี้ฉันไปโรงลิเกได้เลยนะเพื่อน”
“ไปล้างเหอะ ฮ่า ๆ” เสียงหัวเราะของเพื่อนที่ยกมือป้องปากขำน้ำตาเล็ด ขณิกาเผลอหัวเราะตาม ส่งตลับแป้งคืนอย่างทำใจว่าคงทำอะไรไม่ได้กับขอบตาบวมช้ำของตัวเองเพราะว่าเครื่องสำอางตลับใหญ่ของเธออยู่ที่บ้าน จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแทน หลังจากที่ได้ยินเสียงสั่นดังสองสามครั้ง
ในใจหวังว่าจะเป็นอาภพและก็เป็นอย่างนั้น
‘พายกลับกรุงเทพฯ เหรอ? ไม่เห็นบอกอาเลย เมื่อไรมาหาอาครับ?’
‘เลิกงานแล้วโทรหาอานะ ขับรถไม่ไหว อาไปรับ...’
‘พาย... ไปไหนกับใคร? โกรธอะไรอาอ่ะ...’
สีหน้าเศร้าหมองของขณิกาอยู่ในสายตาของเพื่อนตลอด ความสนิทสนมของเพื่อนรักอย่างอิงฟ้าทำให้รู้ทุกอย่างพอ ๆ กับพิมพ์ลภัส และรุ่นพี่อีกคนของเจ้าตัวก็คืออริสา
“คุณอาใช่มะ? นี่! ไม่ต้องตอบข้อความไปเลยนะ ไม่ต้องไปยุ่งกับเขา ได้ยินที่ฉันพูดไหม?”
“อืม...” เธอตอบโดยที่ยังจ้องมองข้อความด้วยแววตาเอ่อคลอ
ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาเขาเป็นอย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้น
เป็นอา...
ครั้งหนึ่งเธอเคยถูกพี่อริสา ลูกสาวของเขาไล่ลงจากรถ อาภพก็แค่ตามไปปลอบกอด จูบหน้าผากเธอแผ่วเบา มันให้ความรู้สึกดีที่สุดของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เขาก็เป็นแค่อา เขาไม่เคยล่วงเกินเธอ แม้ว่าเขาจะมานอนกินขนมที่คอนโดในกรุงเทพฯ ไม่ไกลจากออฟฟิศ เขาก็แค่นั่งกินขนม ดูโทรทัศน์
เขาทำให้เธอเป็นอีโง่! เหมือนคนไม่คิดหน้าคิดหลังอะไรแค่เอาหัวพุ่งชนผู้ชายคนหนึ่งเหมือนวัวควายเหมือนควาย และเขายังยืนยันคำเดิม
เขารักเธอไม่ได้...
“นางแค่ให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ แกเท่านั้นล่ะ ไม่น่าโง่เลยเพื่อนฉัน เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจนั้นปลุกเธอจากภวังค์ ขณะเงยหน้าขึ้นมองหน้าเพื่อนที่แย่งโทรศัพท์ไปกดลบข้อความทิ้งดื้อ ๆ ก่อนยัดใส่มือคืน
“สติค่ะสติ สวยแล้วกรุณามีสมองด้วยนะคะ ถ้าว่างฟุ้งซ่านมากก็เข้าไปเคลียร์งานที่บริษัท นอนมันที่นั่นไปเลย ไม่ต้องกลับไปสักพัก... เขาใหญ่น่ะ”
ขณิกาพยักหน้าหงึกหงัก “อืม... ขอบใจนะฟ้า แกเป็นเพื่อนที่ดีมาก”
พูดได้เท่านั้นเสียงสั่นดังของโทรศัพท์อีกรอบทำให้เธอเกือบจะร้องไห้ขึ้นมา และพ่ายแพ้ให้กับความรักเหมือนเดิม ทว่าสีหน้าของเธอกลับเต็มไปด้วยความสงสัย
‘พายทำไมไม่ตอบอาอ่ะ... โกรธอะไรอาครับ? อาคิดถึง...’
‘รายการเงินเข้า จำนวนเงิน 300,000 บาท คงเหลือ 250,XXX’
พิภพไม่เคยโอนเงินให้เธอ และก็คงไม่ใช่คนที่บ้านแน่นอน เธอไม่ได้ขอเงินพ่อแม่ใช้มาสองปีกว่า ๆ แล้ว
“แกโอนเงินมาเหรอฟ้า ค่าอะไร?”
“ฉันก็นั่งอยู่กับแก โอนล่วงหน้าฉันสั่งจ่ายแค่พนักงาน ฉันไม่เคยโอนเงินให้แกสักหน่อย ยัยพิมพ์โอนมาเปล่า?”
ในคำถามนั้นยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ พิมพ์ลภัสไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องโอนเงินจำนวนมากขนาดนี้มา หรือจะเป็นลูกค้า...
“อ๋อ...” เสียงหวานพูดกับตัวเอง ให้อีกคนขมวดคิ้วมุ่น
“ใครโอนมาอ่ะ?”
ขณิกายิ้มกรุ้มกริ่ม อาจเป็นเพราะว่าเธอมัวแต่พะวงคิดเรื่องของอาภพ ทำให้ลืมไปเสียเองว่ามีลูกค้าคนสำคัญติดต่อมาเมื่อหลายวันก่อน ดวงตาคู่สวยฉายประกายวูบวาบด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
“ฉันรู้แล้วว่าใคร ยัยฟ้า... งานใหญ่งานดัง บริษัทเรางานเข้าแล้วเพื่อน”
เสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วทั้งโรงละครกว้างขวาง ครอบคลุมด้วยระบบเสียงดิจิตัลรอบทิศทาง ตกแต่งด้วยลวดลายงามแบบไทย โขนละครรามเกียรติ์ตอนยกทัพไปรบ หนุมานชูกล่องดวงใจ หนุมานรบมัจฉานุ ลักสีดา พิเภกสวามิภักดิ์ อีกหลากหลายตอนที่เธอมารอชม ไม่มีรอบไหนพลาด ซื้อตั๋วไม่มีขาด FC แฟนพันธุ์แท้ กดจองได้เร็วเสียยิ่งกว่าตั๋วงานคอนฯ BTS ในที่สุดเธอก็กลายเป็นเจ้าแม่จนต้องได้ที่นั่งด้านหน้าสุดทุกครั้ง! ขณิกากลายเป็นหนึ่งคนที่อนุรักษ์วัฒนธรรมไทย บางครั้งยังนุ่งซิ่นมานั่งชมละครโขน ละครเพลง กับพี่สาวคนสนิทและคุณอา ทว่าสิ้นสุดงานแสดงจบลงมีสิ่งเดียวที่เธอไม่เคยนึกชอบ! คือตอนถอดหัวโขน มักจะมีเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาว ๆ เบา ๆ ‘นายหัวเมฆแห่งไร่องุ่น พีควัลเลย์’ กลายเป็นคนดังในวงการเซเลบด้วยความหล่อเหลากระชากใจด้วยรอยยิ้มตรงมุมปาก ชายหนุ่มยังได้ตำแหน่งครองใจสาวน้อยใหญ่เป็น ‘ทศกัณฐ์ที่หล่อที่สุด!’ ทั้งโลกโซเชียลแชร์กันแค่ข้ามคืน เรื่องที่เขาถูกใส่ร้ายได้รับการเปิดเผยความจริง สาวไหน ๆ มาต่อคิวรอเสนอตัวให้ด้วยความอยากจะเป็นนางสีดากันทั้งนั้น
แผนการร้ายของทินกรนั้นคาเดาได้ไม่ยาก เขาคงคิดจะสั่งสอนผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เพื่อที่จะได้นำเงินก้อนนี้ไปตั้งตัว หนีไปกบดานประเทศอื่น ทว่าทันใดนั้นเอง หมับ! แรงหนักแน่นจับเข้าต้นแขนพาความรู้สึกเย็นวาบ เมื่อทินกรหันกลับไปมองชายหนุ่มที่ปกปิดใบหน้าเกรี้ยวโกรธไว้ด้วยผ้าปิดปากสีดำลายยักษ์! ไม่มีใครรู้ว่าชายแปลกหน้าเป็นใคร เว้นเพียงหญิงสาวที่จับจ้องมองเขาด้วยสีหน้าตื่นตะลึง “ของผัวเขาให้เมียไว้ใช้ ส่วนของเมียมันต้องเยอะกว่าสิวะ ไอ้น้องชาย...” “พะ... พี่ยักษ์” เสียงสั่นขลาดกลัว ทินกรยืนตัวสั่นเทาหลังจากที่เขาพยายามหลบชายตรงหน้ามาตลอดหลายเดือนหลังทุบตีครูนพ นำเงินไปใช้หนี้บ่อน ที่น่ากลัวกว่าติดคุกน่าจะเป็น ‘ไอ้เมธพนธ์’ “มึงหนีหน้ากูทำไม ไอ้ถิน... กลัวตายอย่างนั้นเหรอ? เจ้าหนี้มึงโดนตำรวจรวบเมื่อเช้า... อย่าบอกนะว่าไม่รู้?” เสียงหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีดังพร้อมกับนายตำรวจใหญ่อีกคน ปรีชาได้สั่งให้ผู้หมวดผู้กองติดตามนายทินกรจนรวบตัวเจ้าหนี้ ซึ่งก็คือเจ้าของยาเสพติดล็อตใหญ่ได้สำเร็จที่หน้าบ่อน เป็นข่าวดังประจำวันแต่ดูเหม
เรื่องที่ได้ยินจากปากของขณิกานับว่าช่วยตำรวจได้ไม่น้อย วิทยาไม่ลืมบอกเรื่องสำคัญอีกอย่าง “ฟาร์มองุ่น... บ้าน ที่ดิน เพนท์เฮ้าส์ศรีราชา นายหัวเคยบอกผมว่ายกให้คุณพาย...” “เขา... ให้พายเหรอ? ให้... ทำไม...” ทั้งน้ำเสียงและแววตาตัดพ้อมองวิทยาอย่างต้องการคำตอบที่เขาไม่สามารถให้เธอได้ แม้แต่ปรีชาเองก็ส่ายหน้าไปมาว่าไม่รู้... “คุณเมฆ... ไม่สิ เขายังไม่ตาย... ไหนศพคุณเมฆ?” นั่นคือที่เธอไม่เชื่อคนตรงหน้ากับภาพที่เห็น ก่อนจะเริ่มส่งเสียงดังร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนเสียสติ ขณะที่กนิษฐามาถึงในอีกไม่นานด้วยความเป็นห่วงลูกสาว ในห้องผู้ป่วยพิเศษ คนเป็นพ่อจำต้องหันหลังให้ลูกสาวในคราวนี้ นายตำรวจใหญ่อย่างเขามีจิตใจเข้มแข็งมากพอ เพราะอีกหลายชีวิตบริสุทธิ์ยังเฝ้ารอแสงแห่งความหวัง ท่ามกลางความมืดมิดมัวเมาของการเป็นทาสยาเสพติด วิทยาปิดประตูปิดลงด้วยท่าทางเป็นห่วง ปล่อยให้สองแม่ลูกอยู่กันตามลำพัง ก่อนเดินตามนายตำรวจในชุดลำลอง อึกอักถาม “เอ่อ... ไหวไหมครับท่านรอง? ฝั่งผมน่ะไหว... แต่ลูกสาวท่าน...” “ไม่... ต้องจับมันกับเจ้าหนี้มันให้ได้... ฉันจะต้องปิดค
การหายตัวอย่างไร้ร่องรอยของนายทินกรที่ไม่ยอมมาตามหมายศาล เดือดร้อนถึงพลตำรวจเอกปรีชาและนายหัวไร่องุ่น ตำรวจยังไม่สามารถทำการเข้าจับกุมในเมื่อเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาในการประกันตัวสู้คดี จำเลยยังไม่ยอมรับสารภาพตามหลักฐานการจับกุมพร้อมของกลางทั้งหมด และซัดทอดไปที่นายเมธพนธ์ว่าเป็นคนบงการ แม้ไม่มีหลักฐานบางครั้งศาลอาจรับฟังคำซัดทอดลงโทษได้เช่นกัน ปัญหานี้คงจะมีแต่เขาสามารถจัดการกับนายถิน ร้อยตำรวจตรีพิมฐาติดต่อมาขอเจรจากับเขาว่าท่านอยากลงตำแหน่งอย่างสวย ๆ ในวัยใกล้เกษียณ แผนการนี้อาจจับตัวการใหญ่ได้แบบไม่ต้องมีใครเสียเลือดเนื้อ... ตัวเขาเองก็จะไม่ต้องเดือดร้อนยังเป็นการจับแก๊งค้ายานรกแบบละมุนละม่อมที่สุด “นายหัวจะทำตามที่ท่านรองฯ ขอไหม?” วิทยาถามนายที่มีท่าทีหงุดหงิด ทว่าเขาและนายเห็นด้วยกับนายตำรวจกับวิธีการนี้ “มันมีทางเลือกไหมล่ะ?” “ผมจะคุ้มกันความปลอดภัยของคุณพายให้ นายลุยได้เลย ไม่ต้องห่วง เรื่องทนายของเราผมเตรียมไว้แล้วครับ” เมื่อลูกน้องคนสนิทรับปากเป็นมั่นเหมาะ เจ้าของร่างสูงในเสื้อแขนยาวคอเต่าตามสภา
หญิงสาวส่ายหน้าไปมาไว ๆ “ไม่ดีค่ะ... พายไม่อยากกอด ตัวพาย เส้นผมของพาย... หัวใจพายมีเจ้าของ... จะทำอะไรต้องขออนุญาต ห้ามไม่ให้ผู้ชายคนไหนแตะเป็นคำสั่ง แฟนพายดุมาก อาภพจะเดือดร้อนเอา” ขณิกาทวนคำพูดของบางคนครบถ้วนทุกคำ เธอเป็นคนตรงพอ ๆ กับอริสา ลูกสาวของพิภพ เสียงผ่อนลมหายใจหนัก ๆ ดัง “อาขอโทษนะ... อาเคยเห็นแก่ตัวเพราะเรื่องเมียเก่า ทั้งที่แก้วตายไปตั้งนานแล้ว อารู้ว่าอารัก... อาหวงพายมากแต่อาโง่เอง” “ไม่เป็นไรค่ะ พายไม่โกรธอาภพเลย ถ้าพายไม่วิ่งหนีอาวันนั้น พายคงไม่ได้เจอคุณเมฆ... เขาดูแลพายดีมาก ๆ เขารักพายอย่างที่พายรักเขาคนเดียว” ในแววตาคู่สวยเต็มไปด้วยความชื่นชมในตัวชายหนุ่ม แม้ว่าเขาจะเคยเป็นเพลย์บอย เธอกลับแน่ใจว่าความรักของเธอและเขาเป็นเรื่องที่มีอยู่จริง หญิงสาวก้าวเข้าไปก้าวหนึ่ง เผชิญหน้ากับคุณอาที่เธอเคยปันหัวใจให้... “อาภพดูแลตัวเองนะคะ นายหัวฟาร์มม้าเป็นคนดีต้องเจอคนศีลเสมอกันแน่ค่ะ ถ้าไม่เจอก็แก่ตายไปคนเดียวเนอะ อายุเยอะแล้ว... ปลงค่ะปลง” และเป็นอีกครั้งที่เธอส่งยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ พิภพพอจะยิ้มออกบ้างพอเห็นว่าอด
“คุยอะไรกันคะ? หน้าตาคร่ำเครียดเชียว พายพลาดอะไรไปหรือเปล่า?” “นายหัวกำลังพูดถึงงานโฆษณาของคุณพายน่ะครับ” วิทยาหันไปตอบทำเหมือนว่าเขาไม่ได้คุยอะไรกับเจ้านายมาก่อนเลย แผนเซอร์ไพรส์สาวครั้งนี้คงไปได้ด้วยดีถ้าเขาไม่ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ วงหน้าหวานขมวดมุ่นมองถ้วยมีหูที่ว่างเปล่า ถามด้วยความหวังดี “คุณวิทย์... กาแฟอีกแก้วไหมคะ? พายไปซื้อให้... มันหมดแล้วนะ” “ไม่เป็นไรครับ...” เจ้านายส่ายหน้าไปมากับความไม่เนียนของลูกน้อง ก่อนที่หญิงสาวจะนั่งลงข้าง ๆ เขาหยิบแท็บเล็ตส่งให้ “ตัวอย่างโฆษณาเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ ตรวจดูความเรียบร้อยก่อนได้ คุณลูกค้าไม่ชอบตรงไหน แก้ไขได้ค่ะ” ได้ยินคำว่าตรวจตรา... ดวงตาคู่คมหรี่เล็กลงมองเดรสสีขาวแขนยาวความความยาวคลุมเข่าดูเรียบร้อยแฝงความเย้ายวนไว้ตรงหน้าอกอวบอัดคับแน่นในเสื้อคอลึกกว้างทรงสี่เหลี่ยม “แต่งตัวให้มันดี ๆ เสื้อ... คอลึกเอาผ้าพันคอคลุมไว้ด้วยครับ” “แหม... คุณเมฆหวงพายเหรอ? เมื่อก่อนไม่เห็นจะบ่น... งานจะเอาไหมคะ?” เธอย้ำอีกรอบให้ผู้ชายขี้บ่นรับงานไป ปั