เมื่อจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วมนัญชญาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาติดตามข่าวตามสื่อโซเชียลรวมถึงพูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มไลน์ ซึ่งช่วงนี้เพื่อนๆ แต่ละคนก็มักจะเล่าเรื่องวีรกรรมเด็กของโรงเรียนที่ตัวเองสอน
เพื่อนของมนัญชญาเป็นครูเหมือนกับเธอบางคนก็สอนที่โรงเรียนเอกชนบางคนโชคดีหน่อยก็สอบบรรจุได้ตั้งแต่เรียนจบปีแรก แต่ส่วนใหญ่ก็จะสอนชั้นอนุบาลกันทั้งนั้นเนื่องจากพวกเธอจบระดับประถมวัย การสอนเด็กอนุบาลบางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไม่ยากเพราะเป็นการสอนแค่ท่องจำ สอนผสมคำแค่นิดหน่อยแต่ความยากมันอยู่ที่จะทำยังไงให้เด็กมีสมาธิกับสิ่งที่พวกเธอสอนได้
เรื่องนี้มนัญชญาเองก็เคยมีปัญหาในช่วงแรกๆ แต่เธอปรึกษาครูรุ่นพี่ที่โรงเรียนรวมถึงปรึกษาคุณยายถึงวิธีการต่างๆ ที่จะทำให้เด็กสนใจเรียนและนำมาปรับใช้ มาถึงตอนนี้ก็ทำให้หญิงสาวค่อนข้างมีประสบการณ์และรับมือได้กับการสอนเด็กอนุบาลได้
แต่สิ่งที่มนัญชญาหนักใจในตอนนี้ก็คือเธอจะสอนผู้ใหญ่ที่พูดภาษาไทยชัดแจ๋วอย่างริคาโด้ยังไง เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขายังเขาจะต้องอยากอ่านอยากเขียนภาษาไทยทั้งที่คนระดับเขาถ้าหากจะต้องการเขียนหรือต้องการอ่านเธอคิดว่าเขาก็น่าจะมีผู้ช่วยอยู่แล้ว
หญิงสาวไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าจุดประสงค์ที่เขาเข้ามาสอนเธอนั้นเพราะอยากจะเรียนจริงๆ หรือมีจุดประสงค์อื่น เรื่องนี้เธอจะลองถามสิรภพดูก่อนว่าพี่ชายของคุณเอเลน่ามีนิสัยเป็นยังไงและไว้ใจได้มากแค่ไหนถ้าเธอจะอยู่กับเขาตามลำพัง
โรงแรมของริคาโด้
เมื่อส่งมนัญชญาที่บ้านของเธอแล้ว ริคาโด้ก็ขับรถมายังโรงแรมที่ตนเองเป็นเจ้าของอยู่ เขาลงไปที่ชั้นใต้ดินซึ่งเปิดเป็นผับสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งที่เป็นแขกของโรงแรมและยังเปิดให้คนที่ไม่เข้ามาใช้บริการได้อีกด้วย
ปกติผับแห่งนี้ริคาโด้จะให้วสันต์ผู้ช่วยเป็นคนดูแล ส่วนตัวเขาเองก็จะแวะมานั่งดื่มบ้างมาดูความเรียบร้อยบ้างแต่ก็ไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่เพราะวสันต์ทำหน้าที่ของตนเองได้ดีมาตลอด
“สวัสดีครับคุณริค” วสันต์เดินเข้ามาทักทายเจ้านายพร้อมกับบริกรที่เดินเอาเครื่องดื่มมาวางให้เขาที่โต๊ะเล็กหน้าโซฟาที่อยู่ด้านในสุดของร้าน
“อือ คืนนี้คนเยอะดีนะ”
“ครับคุณริค ช่วงนี้ผับที่อยู่ใกล้โรงแรมมีปัญหาลูกค้าก็เลยมาใช้บริการเยอะครับ ชั้นดาดฟ้าก็คนจองเต็มทุกวันแลย”
“แบบนี้นายคงเหนื่อยแย่”
“ไม่หรอกครับ ระบบงานมันดีอยู่แล้วผมไม่เหนื่อยเลยครับ ว่าแต่วันนี้คุณริคตั้งใจมาดื่มหรือมาตรวจงานด้วยครับ”
“นั่งลงก่อนสิ ฉันมีเรื่องจะให้นายช่วย”
“เรื่องอะไรครับคุณริค” วสันต์ถามก่อนจะนั่งลงตรงข้ามเจ้านาย
“ฉันมีเรื่องจะให้นายช่วยหน่อยนะ”
“ได้เลยครับคุณริค”
“นายช่วยตรวจสอบประวัติของผู้หญิงคนนี้ให้ฉันด้วยนะ เดี๋ยวฉันส่งรูปให้” ริคาโด้พูดแล้วก็ส่งรูปถ่ายและชื่อของหญิงสาวให้กับวสันต์ทางไลน์
“ใครเหรอครับคุณริค เธอสวยมากเลยหรือว่าเป็นผู้หญิงคนใหม่ของคุณริคครับ”
“ไม่ใช่หรอก”
“แล้วคุณจะให้ผมตามสืบประวัติทำไมครับ”
“ฉันเลยอยากรู้ประวัติของเธอนิดหน่อย”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้ ถ้าได้เรื่องแล้วจะรีบติดต่อนะครับ”
“แล้วก็อีกเรื่องที่ฉันจะให้นายช่วย”
“บอกมาได้เลยครับ ผมยินดีทำให้ทุกอย่าง”
“ฉันอยากให้ตามสืบด้วยนะว่าช่วงนี้สิรภพไปทำอะไร ที่ไหนกับใครบ้าง” เขาพูดกับวสันต์ด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“คุณสิรภพน้องเขยคุณริคน่ะเหรอครับ” วสันต์ถามด้วยความสงสัยเพราะเจ้านายไม่เคยให้ทำเรื่องแบบนี้มาก่อน
“สองเรื่องนี้เกี่ยวกันหรือเปล่าครับคุณริค”
“จะว่าเกี่ยวก็เกี่ยว ฉันกลัวว่าน้องเขยของฉันกับผู้หญิงที่ชื่อมนัญชญาจะแอบคบหากัน”
“ผมว่าไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนะครับ เท่าที่ดูคุณสิรภพก็รักน้องสาวคุณริคมากนะครับ เขาไม่น่าจะทำเรื่องแบบนั้นหรอกครับ”
“มันก็ไม่แน่หรอกว่า”
“ว่าแต่ผู้หญิงคนนี้เป็นใครเหรอครับ”
“เธอเป็นครูสอนพิเศษของหนูอันนาน่ะ ฉันสังเกตว่าเธอสนิทสนมกับสิรภพมากก็เลยจากจะตัดไฟไว้ตั้งแต่ต้นลม ยังไงนายช่วยตามสืบทั้งสองคนนี้ให้ฉันหน่อยนะ”
“ได้ครับคุณริค แค่นี้ใช่ไหมที่คุณอยากจะให้ผมช่วย”
“แค่นี้แหละ ฉันดื่มต่ออีกนิดก็จะกลับแล้วนายไปทำงานของนายเถอะนะ ได้เรื่องยังไงก็โทรบอกฉัน
“ครับคุณริค ผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด”
“เรื่องนี้เป็นความลับนะ คนรู้น้อยที่สุดยิ่งดี”
“ครับคุณริคผมจะเลือกคนที่ไว้ใจได้ให้ทำงานนี้และทุกอย่างจะเป็นความลับ ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
“อือ”
ริคาโด้นั่งดื่มต่ออีกไม่นานก็ขับรถกลับมายังคอนโดมิเนียมของตนเอง
เขาอาบน้ำแต่งตัวและมองดูนาฬิกาบนหน้าจอโทรศัพท์เห็นว่าเป็นเวลาดึกมากแล้วความคิดที่จะโทรศัพท์ไปคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการเรียนของตัวเองกับมนัญชญาก็เลยต้องพักไว้ก่อน แต่ชายหนุ่มรู้มาจากน้องสาวว่าพรุ่งนี้คุณครูคนสวยจะไปสอนหนูอันนาที่บ้านอีก
เขาจึงคิดจะไปเจอกับเธอที่นั่น แม้จะยังไม่เริ่มเรียนภาษาไทยในตอนนี้แต่ก็อยากจะสนิทสนมกับเธอไว้ก่อนอีกอย่างก็อยากจะสังเกตพฤติกรรมของน้องเขยและมนัญชญาว่ามีความสนิทสนมกันมากแค่ไหน
ครบหนึ่งหกเดือนแล้วที่ริคาโด้ประสบอุบัติเหตุตอนนี้เขากลับมาเดินได้ตามปกติแต่คุณหมอยังไม่อนุญาตให้วิ่งหรือออกแรงขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บมากจนเกินไปวันนี้เป็นโอกาสที่ที่เขาได้มาร่วมงานแต่งงานของน้องชายต่างมารดาที่อิตาลี การมาครั้งนี้นอกจากตัวเอาเองแล้วครอบครัวของเอเลน่ารวมถึงมนัญชญาก็มาร่วมงานแต่งงานด้วยหลังจากงานแต่งงานของน้องชายเสร็จเรียบร้อยแล้วริคาโด้ก็มาคุยกับบิดาและพามนัญชญามากับเขาด้วย“ฉันดีใจจะที่ความรักของนายยังไปได้สวย”“แน่นอนครับ เราสองคนยังรักกันดี”“น้องของแกก็แต่งงานไปแล้ว เมื่อไหร่แกจะแต่งล่ะ”“คงอีกไม่นานหรอกครับพ่อ”“ฉันขอถามเธออีกครั้งและมันจะเป็นครั้งสุดท้ายนะ” อัลแบโต้มองหน้าคนรักของลูกชายด้วยสายตาที่ยังคงเป็นกังวล“ได้ค่ะคุณอัลแบโต้”“เธอจะไม่เปลี่ยนใจจากลูกชายของฉันแน่ใช่ไหม”“แน่ค่ะ คำตอบของฉันก็ยังคงเหมือนเดิม”“พ่อจะถามเพื่ออะไรครับ หรือยังไม่เลิกคิดจะให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นอีก”“เรื่องนั้นฉันเลิกคิดไปแล้ว”“พ่อเลิกคิดเองหรือเพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมแต่งงานกับผมล่ะครับ ผมรู้ว่าเรื่องของผมที่นี่มันไม่เป็นความลับ” ริคาโด้รู้จากคนของเขาว่าโซเฟียเอาเรื่องของเ
ผ่านมาหนึ่งเดือนหลังจากเกิดอุบัติเหตุตอนนี้ริคาโด้ออกจากโรงพยาบาลและกลับมาอยู่ที่บ้านของเอเลน่าซึ่งแต่ก่อนเขาก็เคยอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้แต่พอน้องสาวแต่งงานชายหนุ่มจึงย้ายออกไปอยู่ที่คอนโดมิเนียมเหตุผลที่ริคาโด้ต้องกลับมาอยู่ที่บ้านของเอเลน่าก็เพราะถ้าเขาไปอยู่ที่คอนโดมนัญชญาจะไม่ยอมตามไปดูแลเขาที่นั่นเพราะหญิงสาวเป็นห่วงและกลัวว่าช่วงที่เธอไปทำงานริคาโด้จะไม่มีคนคอยดูแลตอนนี้ชายหนุ่มยังต้องใช้ไม้เท้าเวลาเดินและนั่งรถเข็นเวลาไปทำงานที่โรงแรมในบางวันที่เขามีประชุม ส่วนวันอื่นๆ ก็เอางานกลับมาทำที่บ้านโดยมีวสันต์และคนของเขาคอยประสานงาน“วันนี้เหนื่อยหรือเปล่าคะ” มนัญชญาถามหลังจากคนของเขาไปรับเธอมาจากโรงเรียน“ไม่เท่าไหร่ครับวันนี้ผมไปประชุมแค่ครึ่งวัน เสร็จแล้วก็รีบกลับมาพัก”“ดีมากค่ะ แบบนี้จะได้หายไวๆ นะคะ เราไปทานข้าวกันนะคะหนูอันนาน่าจะหิวแล้ว” หญิงสาวช่วยพยุงเขาลุกขึ้นจากนั้นก็ส่งไม้เท้าให้เขา ในตอนแรกเธอก็คอยช่วยประคองเวลาเขาเดิน แต่นักกายภาพบำบัดแนะนำว่าควรให้เขาเดินเองเพราะจะได้รู้จังหวะในการเดินและลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุซ้ำได้“ลุงริคขา วันเสาร์คุณพ่อคุณแม่จะพาอันนาไปเที่ยวทะ
มนัญชญาพูดกับอัลแบโต้เพราะอยากให้เขามั่นใจว่าจากนี้ลูกชายของเขาจะมีเธอเป็นคนดูแลอย่างดี“แล้วเธอจะได้อะไรกับการทำแบบนี้” อัลแบโต้ถามไปตามตรงเพราะถ้าหากลูกชายเขารักษาไม่หายผู้หญิงคนนี้ก็คงจะเป็นทุกข์มาก เขารู้ว่าหญิงชายวัยนี้เรื่องบนเตียงมันก็เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต แล้วจะมีใครยอมเอาตัวเองมาจบอยู่กับผู้ชายที่ให้ความสุขไม่ได้แบบนี้“นั่นสิ เธอจะทนอยู่กับเขาได้ยังไง หรือคิดว่าเขาจะรักษาหาย” โซเฟียมองมนัญชญาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยว่าเธอจะยอมอยู่กับริคาโด้ได้ยังไงเพราะถ้าเป็นตัวเธอเองคงไม่อยู่กับเขาแน่“เพราะคุณริคคือคนรักของฉันไงคะ เขาจะรักษาหายหรือไม่หายมันก็ไม่สำคัญหรอกนะ”“เธอจะทนอยู่ได้แน่เหรอ ฉันไม่เชื่อหรอกนะ”“ฉันไม่สนใจว่าคุณหรือใครจะเชื่อหรือไม่ ฉันสนใจแค่คุณริคคนเดียว”“ขอบใจนะขิม แต่ที่โซเฟียพูดก็ถูกนะ ผมคงไม่เห็นแก่ตัวแบบนั้นหรอก”“เรื่องของเราเอาไว้คุยกันสองคนดีกว่านะคุณริค” มนัญชญาไม่อยากให้ริคาโด้ต้องลำบากใจไปมากกว่านี้“ก็ได้ครับ”“ฉันว่าเรื่องนี้คงต้องคุยกันยาวๆ” อัลแบโต้ยังไม่แน่ใจว่ามนัญชญาจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่าและเขาก็จะลองให้โอกาสเธอดูสักครั้งถ้าหากเว
ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัยไม่มีใครรู้ว่าริคาโด้กับคุณหมอพูดเรื่องอะไรกัน“ถ้าคุณตัดสินใจแล้วผมก็จะบอกความจริงทั้งหมดให้กับทุกคนรู้”คุณหมอวัยกลางคนมองหน้าริคาโด้และทุกคนในห้องแล้วถอนหายใจก่อนจะบอกถึงอาการของริคาโด้ให้กับทุกคนรู้“เท่าที่เราทุกคนทราบว่าคุณริคาโด้ประสบอุบัติเหตุจนกระดูกหักแต่ที่ทุกคนไม่รู้ก็คือระหว่างเกิดอุบัติเหตุนี้ร่างกายของคุณริคาโด้ถูกกระแทกตรงบริเวณหน้าอก ช่องท้องรวมถึงอุ้งเชิงกรานของเขาด้วย แรงกระแทกไม่ได้ส่งผลให้อวัยวะเสียหายอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็มีอวัยวะและเส้นประสาทบางส่วนเสียหายจากแรงกระแทกนี้” คุณหมออธิบายด้วยภาษาอังกฤษช้าๆ เพื่อให้ทุกคนในห้องเข้าใจอย่างชัดเจน“หมอคะ หมอกำลังจะบอกอะไรก็บอกมาเลยค่ะไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาว” โซเฟียไม่เข้าใจสิ่งที่คุณหมอพูดและเธอก็คิดว่าคนอื่นก็คงไม่มีใครเข้าใจเหมือนกันเพียงแต่ไม่มีใครกล้าถามคุณหมอยังคงมีท่าทางอึดอัดที่จะพูดออกมาตรงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนไข้ของเขา“ผมไม่อายหรอกครับหมอบอกทุกคนไปเลย” ริคาโด้พูดขึ้นเพราะเห็นทุกคนมีสีหน้าสงสัยและอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่“เส้นประสาทบางส่วนของคุณริคาโด้ได้รับค
เข้าวันที่สี่แล้วในการนอนโรงพยาบาลของริคาโด้ ตอนนี้อาการปวดบริเวณแผลผ่าตัดของชายหนุ่มแทบไม่มีแล้วแต่หมอก็ยังไม่อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้เพราะแผลยังไม่หายดีเท่าไหร่แต่เขาก็ไม่ได้อยากออกจากโรงพยาบาลเพราะรู้สึกดีที่มนัญชญามานอนเฝ้าเขาทุกคืนวันนี้หลังจากเลิกมนัญชญาแล้วก็กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่บ้านก่อนจะกลับมานอนเฝ้าริคาโด้ที่โรงพยาบาลเหมือนกับสามคืนก่อนหน้านี้“เป็นยังไงบ้างคะปวดแผลหรือเปล่า” หญิงสาวถามคนรักก่อนจะเดินมานั่งข้างเตียง“ปวดครับแต่ไม่เยอะเท่าไหร่ วันนี้ผมเลยไม่ขอยาแก้ปวดจากพยาบาลเลยครับ”“คุณริคเก่งมากและฟื้นตัวได้ดีมากๆ เลยนะคะ”“เพราะผมได้กำลังใจดีจากขิมไงล่ะครับ แล้วขิมเหนื่อยไหมที่ต้องมานอนเฝ้าผมทุกคืนแบบนี้ อดทนอีกนิดนะครับถ้าผมหายดีแล้วผมจะทำหน้าที่แฟนให้ดีที่สุดเลย”“ตอนนี้คงริคก็ดีที่สุดสำหรับขิมแล้วนะคะ”“ขิมของผมน่ารักที่สุดเลย” ริคาโด้จับมือเธอแล้วยกขึ้นมาจูบ ไปบนหลังมือด้วยความรักตั้งแต่เขานอนอยู่ที่โรงพยาบาลมนัญชญาก็คอยดูแลมาตลอดเธอไม่เคยชักสีหน้าไม่พอใจหรือทำท่าทางเบื่อหน่ายที่ต้องมานอนเฝ้าเขาที่โรงพยาบาลเลย มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกรักเธอมากขึ้นอีกและคิดว่าค
วันรุ่งขึ้นมนัญชญาก็แวะมาโรงพยาบาลตั้งแต่เช้าเพื่อสอบถามอาการของริคาโด้จากพยาบาลประจำห้องไอซียูก่อนไปทำงานและพอเลิกงานหญิงสาวก็แวะมาหาเขาอีกครั้งก็เลยได้เจอกับสิรภพและเอเลน่าพอดีหลังจากคุยกับพยาบาลแล้วทั้งสามคนก็แยกย้ายกันกลับก่อนจะนัดกันมาเยี่ยมริคาโด้อีกครั้งในเช้าวันเสาร์ซึ่งพยาบาลบอกว่าจะย้ายชายหนุ่มไปยังห้องพักฟื้นเช้าวันเสาร์มนัญชญารีบออกมาจากบ้านเมื่อได้ยินเสียงรถของสิรภพมาจอด ทั้งสามคนพากันมายังห้องพักผู้ป่วยวีไอพีที่เอเลน่าจองไว้ให้กับพี่ชาย พอประตูห้องเปิดเข้าไปก็เห็นริคาโด้นอนอยู่บนเตียงโดยมีวสันต์ผู้ช่วยของเขายืนอยู่ข้างๆ“อะไรคะพี่ริคเจ็บหนักขนาดนี้ยังจะทำงานอีกเหรอคะ” เอเลน่าต่อว่าพี่ชาย“พี่แค่สั่งงานนิดหน่อยเอง” เขารีบส่งแฟ้มคืนให้วสันต์แล้วยิ้มให้กับน้องสาวและคนรัก“เจ็บมากมั้ยคะ” หญิงสาวมองขาของคนรักมีผ้าพันแผลแล้วถามด้วยความเป็นห่วงอันที่จริงมนัญชญาได้คุยกับริคาโด้แล้วตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแต่ยังไม่ได้มาเยี่ยมเพราะหมอยังไม่อนุญาต“ตอนนี้ไม่เจ็บเพราะพยาบาลเพิ่งฉีดยาให้แต่ถ้าหมดฤทธิ์ยาก็เจ็บเอาการอยู่”“พี่ริคคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุแน่นะคะ”“ทำไมถามแบบนั้นล่ะเอเลน