เวอเรียนพยายามทำตัวปกติพร้อมกับ ‘ใบหน้าที่ดูมีความสุขสุดขีด’ และมองไปที่ฮีลตันอย่างชื่นชม แต่ในความเป็นจริงหัวใจของเธอเต้นเร็วมากถ้าฮีลตันดึงมือเธอออกไป และปฏิเสธความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ต่อหน้าวาเนลล์และเจนเซ่น เธออาจจะต้องฝังตัวเองลงไปในหลุมแน่ๆเจลลี่ บีน ช่วยเธอปลอบฮีลตันด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก และนุ่มนวลของเธอ “พ่อกลับบ้านกันเถอะ มอนตี้ของหนูไม่ชอบพวกเขา!”ดวงตาที่ลึกล้ำของฮีลตัน จับจ้องไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ที่สวยงามของเวอเรียน และความขี้เล่นก็ปรากฏขึ้นในดวงตาที่เย็นชาของเขาจากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นเพื่อหนีจากเงื้อมมือของเธอ สิ่งนี้ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัว และมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี ...ไม่ทันคาดคิดในวินาทีต่อมาเธอรู้สึกมีแรงกดเกิดขึ้นที่ไหล่แขนยาวของชายคนนั้นกอดเธอ และ เจลลี่ บีน เอาไว้ ใบหน้าที่นิ่งสงบของเขาก็ยิ้มเบา ๆ “ตกลง กลับบ้านกันเถอะ”เวอเรียนสับสน ขณะที่สายตาของเจนเซ่น และวาเนลล์ได้ตกตะลึง ฮีลตันโอบกอดเธอเข้าไปในรถมายบัค ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 60 ล้านเหรียญเมื่อรถมายบัค สีดำขับผ่านเรนจ์ โรเวอร์ ที่ค่อนข้างโทรมของเจนเซ่น ซึ่งมีมูลค่าเพียงหนึ่งล้านก็หยุดลง ชายในรถเจตนาหยุ
คฤหาสน์ตระกูลฟัดด์เมื่อ คุช ซาเวียร์ มาส่งรายงานดีเอ็นเอ ที่คฤหาสน์ของฮีลตัน, เขาเห็น แนนซี่ แซนเดอร์ กำลังนั่งเล่นที่ห้องนั่งเล่นด้านล่าง“คุณแซนเดอร์ บอสกลับมาหรือยังครับ”แนนซี่มองออกไปที่ลานจอดรถ “รถของเขาไม่ได้จอดอยู่ที่นั่น เขาอาจจะไปรับ เจลลี่ บีน ผู้ช่วยคุชมีอะไรที่คุณต้องการเร่งด่วนไหม”คุชถือแฟ้มกระดาษสีน้ำตาลไว้ในมือ และพูดอย่างอื่นปกปิดแทน “โอ้! ไม่มีอะไร พอดีมีเอกสารที่ต้องให้บอสตรวจสอบเป็นการส่วนตัว ผมจะนำไปให้เขาดู”คุช จากไปหลังจากนำรายงานดีเอ็นเอที่ไปตรวจสอบมาทิ้งไว้ หลังจากนั้นแนนซี่ก็เข้าไปสำรวจดูซองเอกสารของฮีลตัน ที่อยู่ในซองสีน้ำตาล และดูรายงานการตรวจพิสูจน์ความเป็นมารดาจากผลตรวจดีเอ็นเอ[ผลการเปรียบเทียบระหว่างดีเอ็นเอ ของ เวอเรียน มอนท์ และ เชรีช ฟัดด์ พบว่ามีความคล้ายคลึงกันถึง 99 เปอร์เซ็นต์]ดวงตาของแนนซี่กระตุกอย่างตกใจ และมองไปที่รูปถ่ายของผู้หญิงคนนั้นในโปรไฟล์ ผู้หญิงที่เธอชนเมื่อวันก่อนเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของ เจลลี่ บีน จริงหรือ?เธอหายไปสามปี ทำไมเธอถึงเลือกที่จะกลับมาตอนนี้?เวอเรียน มอนท์...บางทีเธออาจจะต้องการใช้ประโยชน์จากฐานะแม่ที่ให้กำเนิ
เช้าวันรุ่งขึ้นเวอเรียน เห็นรถมายบัค สีดำที่คุ้นเคยดึงขึ้นมาจอดที่หน้าประตูโรงเรียนอนุบาลเมื่อเธอมาถึงผู้ชายที่ดูแข็งแรงกำลังยืนพิงรถราวกับว่ารอใครสักคนอยู่“คุณฟัดด์?”ฮีลตันเหล่ตาสีดำของเขา มองไปที่ใบหน้าสวยงามของเธอ จากนั้นริมฝีปากของเขาก็เปิดออกเล็กน้อย “คุณมอนท์ ขึ้นรถเรามีเรื่องต้องคุยกัน”ต้องคุยกันงั้นหรือ?เวอเรียนรู้สึกอึดอัดทันทีเมื่อเธอเข้าไปในรถ ฮีลตันดูสงบเหมือนปกติ เขายื่นข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรต่อหน้าเธอ น้ำเสียงของเขาช่างซ้ำซากจำเจ “ลองอ่านดู ถ้าไม่มีปัญหาก็เซ็นมันซะ”เวอเรียนรู้สึกงุนงง ดวงตาของเธอมองไปที่ข้อตกลงที่อยู่ตรงหน้าเธอ แทนที่จะบอกว่ามันคือข้อตกลง มันน่าจะดีกว่าถ้าเรียกว่าสัญญาซื้อขายตัวเธอเองอย่างไรก็ตาม เงื่อนไขนั้นน่าดึงดูดอย่างยิ่ง : คฤหาสน์ตระกูลมอนท์จะไม่ถูกทำลาย และจะอยู่ภายใต้ชื่อของเธอหลังจากอ่านบรรทัดนั้นเวอเรียน ก็หยิบปากกาสีดำขึ้นมาและเซ็นชื่อโดยไม่ต้องคิดฮีลตันเลิกคิ้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ระมัดระวังอะไรเลย เธอเซ็นชื่อลงทันทีหลังจากที่ได้เห็นเธอไม่กลัวว่าเขาจะขายเธอออกไป?“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณเป็นภรรยาเพียงแค่ในนามของผม และเ
รถมายบัคถูกขับเข้าไปในสนามของคฤหาสน์ตระกูลฟัดด์ และค่อย ๆ มาหยุดอยู่บนสนามหญ้าสีเขียวเวอร์เรียนนั่งบีบฝ่ามือที่ชุ่มเหงื่อเล็กน้อย เธอรู้สึกประหม่า แม้ว่าฮีตัน และเธอจะแกล้งทำเป็นสามีภรรยากันแค่ในนาม แต่เธอก็มีความรู้สึกว่าพวกเขาได้ “ภรรยาขี้เหร่เป็นสะใภ้” จริง ๆฮีลตันลงจากรถ เมื่อเห็นว่าเธอยังอยู่ในรถเขาจึงเคาะหน้าต่าง “คุณต้องการให้ผมอุ้มคุณออกจากรถหรือไม่”เวอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ เปิดประตู และลงจากรถ เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “ฉันกังวลนิดหน่อยเกี่ยวกับครอบครัวของคุณ... พวกเขาเข้ากับคนอื่นง่ายไหม”ในความเป็นจริงเธออยากถามว่า ครอบครัวของเขายากที่จะเข้ากับเธอใช่หรือไม่ แต่เธอไม่กล้าทำเช่นนั้นเธอคิดในใจ ‘ขนาดฮีลตันยังยากที่จะรับมือ คนในตระกูลฟัดด์ก็คงจะเป็นเหมือนกันหมด พวกเขาคงเป็นคนเจ้าอารมณ์ไม่น้อยไปกว่าฮีลตัน’เจลลี่ บีน เงยหน้าขึ้นเพื่อปลอบโยนเธอพูดว่า “มอนตี้ คุณปู่กับคุณป้าน่ารักมาก แต่คุณยายกับลุงไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว!”โอ้ พูดได้เลยว่าพื้นฐานครอบครัวของตระกูลฟัดด์ ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่มีความเป็นศัตรูหรือความบาดหมางกันภายในครอบครัวนั่นหมายความว่าเธอต้องรับมือกับคุณปู่และ
ภายในห้องทำงาน พบว่ากลิ่นหอมของแอมเบอร์กริส อบอวลไปทั่วอากาศ ชายชราถือไม้เท้าของเขาและถามอย่างจริงจัง “ผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของ เจลลี่ บีน จริงๆเหรอ”ฮีลตันส่งรายงานผลดีเอ็นเอให้กับ จอห์น ฟัดด์ “ถ้าไม่เชื่อผม ก็ลองดูรายละเอียดผลการตรวจดีเอ็นเอดู”จอห์นรับรายงานผลตรวจ และเห็นผลในแวบแรก ความคล้ายคลึงกันคือ 99 เปอร์เซ็นต์นั่นหมายความว่า... เวอเรียนเป็นแม่ของ เจลลี่ บีน จริง ๆ?ชายชราพยักหน้าราวกับว่าเขายินยอม “เนื่องจากเธอเป็นแม่ของ เจลลี่ บีน ฉันจึงไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการแต่งงานของแก แต่ยังไงซะ ฉันก็ยังไม่รู้ที่มาที่ไปของเด็กคนนี้ และฉันก็ยังไม่สบายใจ ถึงเวลานั้นเธอจะคิดยังไงเกี่ยวการเป็นแม่ที่มาอุ้มท้องแทน…”ฮีลตันขัดคำพูดของชายชรา ริมฝีปากบางของเขาเม้มเล็กน้อย “ภูมิหลังของเธอไม่สำคัญอะไรสำหรับผม มันเพียงพอสำหรับผมตราบใดที่เธอสามารถดูแล เจลลี่ บีน ได้ดี”จนห์น ฟัดด์ ขมวดคิ้วแน่น “อะไรนะ แกแต่งงานกับเธอ เพราะเจลลี่ บีน นั่นหมายความว่าแกไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเลยงั้นเหรอ”“พ่อครับ ไม่ว่าผมจะแต่งงานกับใครก็ไม่ต่างกัน พ่อไม่ต้องเป็นห่วง”“…แก! แกกำลังจะพูดอะไร?!”“พ่อ
“พี่สะใภ้ ฉันจะแกล้งทำเป็นว่าฉันไม่ได้ยินสิ่งที่คุณเพิ่งพูดมา ท้ายที่สุดคุณก็ยังคงเป็นพี่สะใภ้ของฮีลตันตลอดไป”หลังจากพูดจบ เวอเรียนก็จากไปพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ แนนซี่ยืนอยู่ในจุดของเธอ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เธอจิกเล็บลงบนฝ่ามือของเธอแม้ว่าเธอจะเป็นพี่สะใภ้ของฮีลตัน แต่ตราบใดที่เธอยังเป็นคนพิเศษในหัวใจของฮีลตัน แม้แต่ เวอเรียน มอนท์ ก็ไม่สามารถสร้างความคลางแคลงใจได้ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นภรรยาของฮีลตันก็ตาม…เวอเรียนใส่รองเท้าส้นสูงออกมาจากห้องน้ำ และเธอพบกับฮีลตันที่ยืนรออยู่เธอก็ฉวยโอกาสและพูดว่า “นี่มันดึกมากแล้ว คุณช่วยพาฉันกลับบ้านก่อนได้ไหมคะ” ดวงตาสีดำของฮีลตัน จ้องมาที่เธออย่างลึกซึ้ง มันทำให้เธอขนลุกซู่ จากนั้นเขาก็รีบพูดขึ้นมา “คืนนี้อย่ากลับเลย ค้างที่นี่เถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะส่งคุณกลับไปเก็บข้าวของในตอนเช้า”“ฮีลตัน ฟัดด์...ฉันต้องการเวลาปรับตัว”“หืม?”ชายคนนั้นมองมาที่เธออย่างเย็นชาราวกับว่า เขากำลังถามเธออยู่ในใจ ๆ ว่า ‘คุณไม่ต้องการอยู่คฤหาสน์อีกต่อไปแล้วหรือ?’น้ำเสียงที่แข็งกร้าวเล็กน้อยของเธออ่อนลงทันที เธอเอามือแตะคอ แล้วกัดริมฝีปากแล้วตอบตกลงอ
“นี่คุณจับผิดฉันอยู่หรือเปล่า”เวอเรียนสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอแดงเล็กน้อย ไม่รู้ว่ารอยแดงเกิดจากไอร้อนหรือความเขินอายวิธีที่เขาจ้องมองเธอค่อยอึดอัดขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ใบหน้าเล็ก ๆ ของเวอเรียนแดงขึ้น“ถ้าผมไม่ตรวจสอบเรื่องของคุณ ผมจะกล้าพาคุณกลับบ้าน และนอนด้วยกันได้อย่างไร”น้ำเสียงของเขาดูไร้อารมณ์อย่างเห็นได้ชัดและมันฟังดูเย็นชาและไร้ความหมาย แต่เมื่อเวอเรียนได้ยินเขาพูดว่า 'นอนด้วยกันกับคุณ' การเต้นของหัวใจของเธอก็เร็วขึ้นเธอเม้มริมฝีปาก และพยายามถามอย่างใจเย็น “เนื่องจากประธานฟัดด์ ได้ตรวจสอบเรื่องฉันอย่างละเอียด และรู้ว่าฉันให้เคยมีลูกกับคนอื่นมาแล้ว ทำไมคุณถึงเลือกฉัน”สายตาที่สงบและมีสมาธิของเขานั้นจับจ้องมาที่เธอ “เป็นเพราะคุณเคยมีลูกดังนั้นคุณจะอดทนและรักลูกมาก ฉันไม่ได้มองหาผู้หญิงที่สามารถเป็นภรรยาของฉันได้ แต่เป็นคนที่สามารถดูแล เจลลี่ บีน และให้ความรักของแม่ที่เธอขาดได้”เวอเรียนขมวดคิ้ว และเปิดปากโดยสัญชาตญาณเพื่อถามว่า “แม่ผู้ให้กำเนิด เจลลี่ บีน อยู่ที่ไหน”จากสิ่งที่เธอได้ยินจาก เจลลี่ บีน ดูเหมือนว่าหนูน้อยไม่เคยเห็นแม่
เวลาสองทุ่ม มีหนุ่มสาวมากมายที่กำลังหลงใหล แสง สี มั่วสุมกันอยู่ภายใน ครอส บาร์หลังจากกวิน และเวอเรียน เข้าไปข้างในพวกเธอสั่งชาเย็น Long Island สองแก้วทันทีเวอเรียนไม่ค่อยชอบไปเที่ยวบาร์ เธอมีความรู้น้อยมากเกี่ยวกับค็อกเทลเหล่านี้ “กวินนี่ เราไปฉลองที่อื่นกันดีไหม ให้ฉันเลี้ยงกั้งเธอเอาไหม”แสงไฟ หลากหลายสี และเสียงพูดคุยที่ส่งเสียงดังในบาร์นั้นทำให้เธอแสบแก้วหูกวินเป็นคนขี้เล่น เธอตะโกนใส่หูของเวอเรียนว่า “เรนนี่ ฉันชวนพี่ชายของฉันมา ไว้ฉันจะแนะนำให้เธอรู้จัก! เขาเป็นศิลปินด้วยนะ!”กวินอยากจะแนะนำ เลฟี่ โบดด์ พี่ชายของเธอให้รู้จักกับเวอเรียนมาโดยตลอด เรือล่มในหนองทองจะไปไหน คนหนึ่งเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอ อีกคนคือเพื่อนรักที่ดีที่สุดของเธอ หากพวกเขาสามารถรักกันได้ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็จะยิ่งดีขึ้น!ขณะที่กวินกำลังคิดถึงเรื่องนี้อย่างมีความสุข เลฟี่ โบดด์ กำลังเดินเข้ามาหาพวกเธอแล้วกวินโบกมือให้เขา “พี่! ทางนี้ ๆ!”เลฟี่ สวมเสื้อยืดลายกราฟฟิตี้สีดำ เขาเป็นผู้ชายแต่งตัวดูทันสมัย ดูหล่อ และมีเสน่ห์ แค่เพียงเขาเดินเข้ามาในบาร์ หญิงสาวหลายคนก็หลงเสน่ห์เขาไปแล้วเลฟี่เดินไป