จิรัสยาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เตรียมตัวลงไปหาเพื่อนๆตามเวลานัดหมายข้างล่าง เที่ยวบินกลับของเธอวันนี้คือเวลาบ่ายสองโมงสิบห้านาที ระหว่างรอนั้นพอนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงใบหน้าขาวนวลก็เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความอายขึ้นมาอีกจนได้
เมื่อเวลาตีห้ากว่าๆเธอถูกทิมปลุกขึ้นมาเพื่อบอกว่าเขาต้องกลับออกไปแล้ว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีใครมาเห็นและเอาเธอไปต่อว่าได้ว่าเธอนั้นทำผิดกฏการปฏิบัติงาน โดยกฏของการทำงานมีอยู่ว่าห้ามไม่ให้พนักงานพาบุคคลภายนอกเข้ามาพักด้วยระหว่างที่ยังรอสแตนบายเพื่อปฏิบัติหน้าที่โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะถูกตักเตือนและถูกพิจารณาชั่วโมงการทำงาน
ก่อนจะไปทิมดึงเธอเข้ามาหอมและกอดแถมยังขอ 'มอนิ่งคิส' ก่อนไปหนึ่งที ซึ่งมันยาวนานและเนิ่นนานมากกว่าทิมจะยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระอีกครั้ง จิรัสยาคิดในใจว่าตกลงเมื่อคืนที่ผ่านมาเธอและทิมมีอะไรเกินเลยกันไปแล้วจริงๆอย่างนั้นหรือ แต่ทำไมเธอถึงยังรู้สึกว่าร่างกายของเธอยังรู้สึกปกติสุขดีราวกับว่าไม่เคยมีการผ่านเรื่องราวใดๆมาก่อน ด้วยความสงสัยลังเลคงจะแสดงออกมาบนใบหน้าเธอ จึงได้ลองเปิดผ้าห่มดูแล้วทิมก็พูดขึ้นมาว่า
"ทุกอย่างของคุณยังอยู่ครบปกติดี เมื่อคืนผมกับคุณเรายังไม่ได้มีอะไรกัน ใจร้ายมากๆ คุณหลับไปตอนที่ผมกำลังแก้ผ้าคุณอยู่นั่นแหละ ผมเลยทำได้แค่ฉวยโอกาสนอนกอดคุณเอาไว้เฉยๆจนถึงเช้า เพราะว่าไม่ชอบมีอะไรกับท่อนไม้"
พอได้ฟังจิรัสยาก็ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ นี่อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนเธอหลับใส่เขาตอนที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มแถมยังเก็บเอาไปฝันต่อเป็นตุเป็นตะอีก คิดแล้วจิรัสยาก็แทบอยากจะเอาหน้ามุดลงไปในดินแล้วไม่โผล่หัวกลับขึ้นมาอีกเลย มันเป็นไปได้อย่างไรกัน นี่ถ้าเขารู้ว่าเธอแอบฝันสัปดนกับเขาขึ้นมาเป็นเรื่องเป็นราวล่ะก็ เธอคงต้องหาปี๊บมาคลุมหัวเดินไปเลยหรือเปล่า
พออธิบายทุกอย่างเสร็จสรรพทิมก็หัวเราะขำออกมาเมื่อเห็นว่าเธอหน้าเหวอ เขาเดินเข้ามาใกล้ๆก่อนจะจุ๊บลงไปที่กลางศรีษะแล้วตามมาด้วย "มอนิ่งคิส" ช็อตใหญ่ๆ
"แต่ถึงเมื่อคืนเราจะไม่ได้มีอะไรกัน แต่ผมก็เห็นแล้วว่าคุณน่ะ 'ฮอต' มากเวลาเมา เอาไว้เจอกันบนเครื่องนะครับคนสวย วันนี้ผมกลับไฟล์ทเดียวกับคุณ"
"เสียใจด้วยนะคะ แต่เราคงไม่ได้เจอกันหรอกค่ะ เพราะว่าฉันไม่ได้ดูแลผู้โดยสารคลาสที่คุณนั่ง"
"ลองดูมั้ยล่ะครับ"
ทิมยิ้มกริ่มให้เธอหนึ่งทีก่อนจะลุกขึ้นไปแต่งงตัวแล้วรีบกลับออกไป พอนึกมาถึงตรงนี้ใบหน้าขาวนวลก็แดงสุกปลั่งขึ้นมาอีก เธอรู้สึกอายเหลือเกินกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น จิรัสยาไม่อยากจะคิดว่าถ้าลองเป็นผู้ชายคนอื่นเขาจะปล่อยให้เธออยู่รอดปลอดภัยดีอยู่มั้ย
พอถึงสนามบินทุกคนก็เดินตรงเข้าไปในตัวอาคารของบริษัทเพื่อรับบรีฟงาน แต่ที่หน้าตกใจก็คือจู่ๆเที่ยวนี้จิรัสยาถูกโยกให้ไปดูแลผู้โดยสารที่นงชั้นหนึ่งอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวจนเพื้อนร่วมงานคนอื่นๆต่างก็ตกใจไปด้วยแต่ก็ไม่มีใครสามารถหาคำตอบได้และไม่มีใครกล้าพอที่จะไปถามหาเหตุผล ทุกคนได้รับแค่เพียงคำอธิบายว่า 'เป็นคำสั่งของข้างบน'
จิรัสยายังคงอยู่ในอาการงงๆ ตอนนี้ภายในใจเริ่มฉุกคิดถึงคำพูดของทิมขึ้นมาตะหงิดๆที่บอกว่าเจอกันบนเครื่อง ใช่ฝีมือเขาจริงๆอย่างนั้นหรือ นี่เขามีอำนาจมากถึงขนาดสั่งอะไรหรือทำอะไรก็ได้ขนาดนั้นเลยเชียว เข้าใจว่าเขามีเงิน แต่พอคิดเเล้วจิรัสยาก็ยังไม่อยากจะเชื่อ
แล้วมันก็ถึงเวลา ตอนนี้ทิมนั่งอยู่ตรงที่นั่งของเขาเรียบร้อยและที่สำคัญที่ด้านข้างของเขายังมีหญิงสาวคนนั้นนั่งประกบชิดอยู่ด้วย นี่ถ้าไม่บอกว่าคิดกับผู้หญิงคนนั้นแค่น้องสาว เธอคงจะเข้าใจว่าทั้งสองพึ่งกลับจากทริปฮันนีมูนกันมาแน่ๆ เพราะดูจากท่าทางของหญิงสาวแล้วดูจะคลั่งรักฝ่ายชายไม่น้อย
'นิชาเป็นหลานสาวคุณเอมอร หุ้นส่วนบริษัทอสังหาที่ผมกำลังจะร่วมทุนอยู่ ผมรักเธอเหมือนน้องสาวเพราะเห็นเธอมาตั้งแต่เด็กๆ'
สุ้มเสียงที่ทิมบอกยังลอยแว่วๆเข้ามาในหู จิรัสยาพยายามบอกตัวเองว่าอย่าไปใส่ใจ เธอควรจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและโฟกัสกับงานของตัวเองจะดีกว่า ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ สายตาขิงทิมยังคงตามโฟกัสมาที่เธอยู่ตลอดจนพักหลังๆมาเธอเริ่มรู้สึกได้ถึงรังสีของความไม่น่าไว้วางใยส่งผ่านมาทางสายตาของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเขา
"นั่นคุณณัฐนิชา หลานสาวซีอีโอบริษัทเรา ว่าที่คู่หมั้นคุณทิมแหละแก ดูสิสวยหล่อเหมาะสมกันแกว่ามะ" เอกพงศ์กระซิบเบาๆเมื่อเดินห่างออกมาจากตรงนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ตกลงผู้หญิงคนนี้คือว่าที่คู่หมั้นของเขาจริงๆหรอ"
"ชัวร์ป๊าบล้านเปอร์เซ็น ฉันสืบมาหมดละว่าจริงๆทางฝ่ายหญิงน่ะพร้อมมาก แค่รอคำตอบจากทางฝ่ายชายเท่านั้น แกเอ้ยถ้าดิลกันได้เมื่อไหร่ล่ะก็งานแต่งคงระดับประเทศแน่ๆ"
พอได้ฟังคำบอกเล่าจากเอกพงศ์ทั้งหมดหัวใจดวงน้อยของจิรัสยาก็เริ่มสั่นไหวอย่างไม่รู้ตัว สิ่งที่เอกพงศ์พูดมาทั้งหมดนั้นกำลังช่วยเตือนสติเธอได้อย่างดีว่าที่ตรงนั้นมีคนยืนรอเป็นเจ้าของจับจองอยู่ก่อนเธอแล้ว เธอกำลังเอาตัวเองเข้าไปแทรก ถอยออกมาเถอะจิรัสยา มันยังไม่สาย
ขณะที่กำลังยืนนิ่งสงบสติอารมณ์ตัวเอง เสียงสัญญาณเรียกจากที่นั่งตรงนั้นซึ่งจิรัสยาจำได้ว่ามีทิมนั่งอยู่ก็ดังขึ้น เธอไม่อยากเจอหน้าเขาแล้ว ว่าจะขอให้เอกพงศ์ไปดูหน่อยแต่เพื่อนของเธอก็กำลังบริการที่นั่งด้านหน้าอยู่เธอจึงจำใจต้องเดินไปดู
"ต้องการจะรับอะไรคะ"จิรัสยาถามทิมตามหน้าที่ เวลานี้มีเพียงเขาที่นั่งอยู่ตรงนี้คนเดียว ส่วนคู่หมั้นสาวคงน่าจะไปเข้าห้องน้ำอยู่
"ถ้าผมบอกว่าต้องการคุณ.." ทิมหยุดและจ้องมองจิรัสยาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
"ขอโทษนะคะ ดิฉันกำลังอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ถ้าผู้โดยสารไม่ได้ต้องการอะไร.."
"ขอกาแฟดำให้ผมแก้วหนึ่งครับ"
เมื่อเห็นว่าจิรัสยาเอาจริงทิมก็เลยเลือกที่จะเปลี่ยนเข้าโหมดจริงจังขึ้นมาบ้าง หลังจากรับทราบความต้องการของผู้โดยสารแล้วเธอจึงเดินเข้าไปนำกาแฟร้อนมาเสิร์ฟ แต่ในขณะที่กำลังจะยกเครื่องดื่มให้เขานั้น จู่ๆเครื่องบินก็เกิดอาการสั่นโคลงขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว จิรัสยาพยายามหาที่เกาะกับอะไรสักอย่างแต่ก็คว้าได้เพียงแค่อากาศ จนกระทั่งร่างของเธอเซล้มลงไปบนตักเขาอย่างพอเหมาะพอเจ๊าะ
"คุณโอเคมั้ย เป็นอะไรหรือเปล่า"
ทิมได้โอกาสจึงรีบกอดรอบเอวเธอไว้ก่อนจะดึงโน้มลำตัวของเธอให้เข้าไปใกล้ๆ เพียงเสี้ยววินาทีพอทุกอย่างหยุดลงจิรัสยาก็รีบผลักหน้าเขาออกก่อนจะรีบลุกขี้น แต่จังหวะพอหันกลับมาก็พบว่าหญิงสาวคนที่มากับเขากำลังจ้องมองมาที่เธออยู่พอดี
"อ๊ะ ๆ อ๊า ไม่ไหวแล้วค่ะคุณทิม จีไม่ไหว"เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังกระทบกันจนสั่นผืนน้ำนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน พอกลับมาจากกรุงเทพได้ ทิมก็เอาเรือออกแล้วนำมาจอดลอยไว้อยู่กลางทะเล วันๆไม่ทำอะไร ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่เรื่องอย่างว่า นี่สามวันมาแล้ว ทิมยังเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเธอโดยไม่คิดจะทำอย่างอื่น มิหนำซ้ำพ่อคนบ้ากามยังมาบังคับให้เธอทำมันไปกับเขาด้วย"ขย่มอีกสิครับยาหยี ขย่มผมแรงๆ""แต่จีเหนื่อยจนหมดแรงแล้วนะคะ วันนี้คุณเล่นให้จีขย่มมาตั้งแต่เช้า จนตรงนั้น..ของจี บานนน ไปหมดแล้วค่ะ""จี! พูดจาน่าเกลียดแบบนั้นได้ยังไง ของจีออกจะทั้งนุ่มแล้วก็ยังฟิต บานเบินอะไรกันครับ""พูดจริงๆค่ะ คุณทิมหัดทำอย่างอื่นบ้างเถอะค่ะ ไม่ใช่คิดว่าตัวเองรวยแล้วไม่ยอมทำอะไร คนบ้าอะไรมานอนจอดเรือข้ามคืนข้ามวันเพื่อมีเซ็กซ์""ก็ผมชอบบรรยากาศนี่ โรแมนติกดีออก ยิ่งได้'เอา'จีวันละสี่ห้ารอบแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกกระชุ่มกระชวยดีชะมัด""คุณกระชุ่มกระชวยอยู่คนเดียวน่ะสิคะ ส่วนจีจะ บานแล้วบานอีก""จี! หยุดพูดจาห่ามๆแบบนี้เดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าจีบอกว่าไหนๆจีก็บานแล้ว งั้นมานอนอ้าขาตรงนี้เร็ว ขอเสียบอีกรอบ เพราะว่าเมื่อกี้ผมยังไม่แตกเลย"
สรุปก็คือพราวฟ้าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเธออีกเพราะว่าไม่สามารถทนเป็นเพื่อนกับใครก็ตามที่ได้หัวใจของทิมไปครองได้ เธอบอกว่าสำหรับเธอแล้วทิมคือเจ้าของหัวใจของเธอมานานและเป็นเพียงเขาคนเดียวมาตลอด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้และไม่เคยรู้ แม้จะรู้ตัวเองดีว่าไม่มีทางที่ทิมจะหันมามองแต่เธอก็ไม่สามารถทำใจได้จริงๆกับความจริงที่ว่าทิมรักคนอื่น เธอขอให้จิรัสยาใช้ชีวิตกับทิมให้มีความสุขแต่ขอแค่อย่ามายุ่งเกี่ยวกับเธออีกเพราะเธอคงไม่สามารถทนเห็นภาพความเจ็บปวดนั้นได้ "เป็นอะไรครับหน้าเครียดเชียว"ทิมหันมาจับมือเธอเอาไว้หลังจากที่เครื่องบินลงจอดและตอนนี้เธอกับเขาก็นั่งอยู่บนรถตู้คันใหญ่มุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของเธอ "บ้านดารารัตน์" ซึ่งเวลานี้มีมารดาของเธออาศัยอยู่กับแม่บ้านคนสนิทอีกสองคนรถตู้สีดำคันใหญ่ค่อยจอดเรียบไปกับบริเวณริมรั้ว จิรัสยามองบ้านหลังนี้แล้วก็น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ ในที่สุดเธอก็ได้กลับมายังบ้านหลังนี้อีกครั้ง บ้านที่เธอเติบโตมาและได้วิ่งเล่นมาตั้งแต่ยังเด็ก"เข้าไปหาคุณแม่ของจีกันเถอะ ผมอยากเข้าไปฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกเขยจะแย่แล้ว""แน่ใจหรอคะว่าแม่จีจะอนุญาต""เชื่อมือผมสิ"จิรัสยาพาทิม
เช้านี้จิรัสยาลืมตาตื่นมาท่ามกลางเตียงสีขาวสะอาดตาขนาดหกฟุต เมื่อคืนหลังจากตกลงกับทิมในเรื่องของบทพิสูจน์รักแท้จนเป็นที่น่าพอใจแล้ว เขาก็จัดการให้เธอมาพักที่ในส่วนนี้โดยมีข้อแม้ว่าระหว่างนี้เขาจะต้องไม่ฉวยโอกาสกับเธอโดยเด็ดขาดและเป็นอันว่าทิมเองก็ตกลงแค่มีข้อแม้ว่าเธอจะต้องอยู่ให้เขาพิสูจน์รักเเท้ที่นี่ขาเรียวยาวค่อยๆก้าวลงจากเตียงค่อยๆ เสื้อผ้าข้าวของๆเธอถูกเก็บออกมาจากที่พักพนักงานตั้งแต่เมื่อวานด้วยฝีมือของเขา และยังกับชับกับเธออีกว่าให้อยู่เฉยๆที่นี่โดยที่ไม่ต้องทำอะไร ระหว่างนี้เขายังคงจ่ายเงินเดือนให้เธอตามปกติ จิรัสยายืนมองตัวเองในกระจกก่อนจะเกาศรีษะแกรกๆ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันที่อยู่ๆจะมาบอกให้เธออยู่เฉยๆ คนเคยทำงานมาตลอด ถ้าขืนเป็นแบบนี้เธอคงได้เป็นบ้า"ตื่นแล้วหรอครับ ผมเตรียมอาหารเช้าให้จีเสร็จแล้ว ออกไปทานเลยมั้ย" ทิมเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กก่อนจะหอมจุ๊บลงไปที่บนหน้าผากหนึ่งทีจากนั้นจึงจูงมือเธออกไป ขณะที่กำลังถูกทิมประเคนป้อนนั่นป้อนนี่ให้ เสียงข้อความจากมือถือก็ดังขึ้น จิรัสยาจึงหยิบมันขึ้นมาดู ปรากฎว่าคือข้อความจากชนัญญาที่แนบไฟล์ภาพมาด้วย'ไหนบอกว่าเกลียด อ๊ะๆยังไงน้า
ข้อมือน้อยๆยังคงถูกทิมดึงให้เดินตามหลังเขาไปติดๆจนมาถึงด้านข้างของโรงแรมทิมก็พาเธอขึ้นมานั่งบนรถของทางโรงแรมที่จอดรออยู่ ก่อนจะบอกให้คนขับมุ่งหน้าตรงไปยังวิลล่าส่วนตัวของเขา"ต่อไปนี้จีไม่ต้องไปทำงานที่นั่นอีกแล้วนะ""นี่คุณไล่จีออกหรอคะ" จิรัสยาหน้าเครียด"ใช่ ผมไล่จีออกจากการเป็นพนักงานของทางโรงแรม""ใจร้าย ไม่มีเหตุผล ทั้งๆที่ผู้หญิงของคุณเป็นคนมาหาเรื่องจีก่อนแท้ๆ แต่คุณกลับคิดว่าจีเป็นคนผิด นี่มันครั้งที่สองแล้วนะคะที่ผู้หญิงของคุณทำจีเดือดร้อนจนถึงกับต้องออกจากงาน" จิรัสยายังคงต่อว่าออกมาปาวๆยาวเหยียดอย่างอดไม่ได้ เธอทั้งโกรธ เสียใจและน้อยใจที่ชีวิตตั้งแต่เจอเขามามีแต่เรื่องวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นพอจังหวะที่รถจอดจิรัสยาก็เปิดประตูก้าวลงไปทันที ขาเรียวเดินตรงเข้ามาในวิลล่าหรูอย่างลืมตัวก่อนจะเปิดประตูเข้าไปราวกับว่าตัวเองนั้นคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ดี"จี" ทิมเดินตามเข้ามาแล้วหยุดเรียก พอได้สติและเห็นว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหนจิรัสยาก็ได้แต่อึกอัก"ขอโทษค่ะจีลืมตัวจนถือวิสาสะเดินเข้ามาในที่ส่วนตัวของคุณ" ใบหน้างามก้มลงน้อยๆและไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตา"ผมไม่ได้ว่าอะไร จีสามารถไปที่ไหนก
ช่วงนี้จิรัสยาทำงานแบบไม่ค่อยจะมีสมาธิเท่าไหร่หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปหลังจากพาเธอกลับมาจากเกาะส่วนตัวแล้วจิรัสยาก็ไม่ได้เจอหน้าทิมอีกเลย มีแค่เพียงข้อความที่เขามักจะส่งมาหาเธออยู่เสมอๆ แต่นั่นก็ทำเอาจิรัสยาอดนอยด์ขึ้นมาไม่ได้ว่าเธอก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงหน้าโง่คนหนึ่งที่ถูกทิมหลอกให้รักนึกแล้วก็ได้แต่สมน้ำหน้าตัวเอง เกลียดดีนักพวกผู้ชายเจ้าชู้ แล้วในที่สุดเธอก็พลาดท่าเสียทีให้กับผู้ชายเจ้าชู้จนได้ ดั่งคำโบราณที่ว่า 'เกลียดอะไร ก็มักจะได้อย่างนั้น' ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสนกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แต่ก็ยังพยายามปลอบใจตัวเองเอาไว้ ว่าถึงแม้ว่าหัวใจเธอกำลังรู้สึกไม่โอเค แต่อย่างน้อยในตอนนี้เธอก็ได้สิ่งที่ต้องการกลับคืนมา บ้านดารารัตน์ถูกโอนให้เป็นชื่อของเธอเรียบร้อยแล้ว นั่นทำให้มารดาของเธอดีใจอย่างมากที่ได้มันกลับคืนมา "ในที่สุดแม่ก็ได้บ้านคืนมา จีหนูทำได้ยังไงกันลูก""จีทำได้ทุกอย่างเพื่อแม่ค่ะ ทุกอย่าง"ทิมหายหน้าหายตาไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ และเมื่อวันสองวันมานี้ก็เริ่มมีข่าวลืออักษรย่อออกมาให้เห็นตามแหล่งหน้าสื่อออนไลน์ติดๆกัน'ท่าทางจะไม่ได้เห็นงานหมั้นระดับช้างเนื่องจาก ไฮโซ ท ปฏิเสธแอบสะบั้นรักว่
แม้ว่าเเวลาจะผ่านไปแล้วแต่จิรัสยายังคงนิ่งเงียบและหนักใจกับคำถามที่ทิมยังคงรอฟังคำตอบ หลังจากที่พาเธอเดินทัวร์จนเกือบจะทั่วฟาร์มแล้ว ตอนใกล้จะกลับจู่ๆทิมก็ถามคำถามที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากเขาออกมา เเละเธอยังไม่ได้ตอบจนกระทั่งเขาพาเดินกลับมาจนถึงที่พักทิมต้องการขอคบกับเธอ เขาบอกแบบนั้น แต่เขากำลังลืมอะไรหรือเปล่าว่าเขาว่าสถานะของเขาตอนนี้นั้นคือคนที่กำลังจะหมั้น "อ้าวนาย มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะเนี่ย ป้าไม่เห็นรู้เลย" หญิงสูงวัยอีกคนหนึ่งที่กำลังเดินขึ้นมาจากชานระเบียงร้องทักขึ้น"มาถึงเมื่อตอนสายๆนี่เองครับป้าจวน""จีครับ นี่ป้าจวนเป็นแม่บ้านที่คอยดูแลที่นี่ แล้วก็เป็นภรรยาของลุงรงค์ที่จีไปเจอมาเมื่อสักครู่" จิรัสยายกมือขึ้นไหว้หญิงสูงวัยตรงหน้า ทำเอาหญิงสูงวัยยกมือขึ้นรับไหว้แทบไม่ทัน"อ้าวแล้วนี่คุณทิม พาใครมาด้วยล่ะคะเนี่ย""ผมพา 'ว่าที่' นายหญิงของที่นี่มาดูกิจการน่ะครับ" ทิมพูดยิ้มๆก่อนจะหันมามองเธออีกแล้ว"ว๊าย ตายแล้ว นี่นายกำลังจะมีนายหญิงแล้วจริงๆหรอคะเนี่ย โอ๊ยป้าจะเป็นลม" พอเห็นว่าหญิงสูงวัยตกใจจนต้องยกมือขึ้นมาทาบจับที่หน้าอกคล้ายจะเป็นลม จิรัสยาก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยพยุ