ทางด้านอนาวินก็รีบเข้ามาทำงานที่บริษัทแต่เช้า ถึงแม้งานตรงหน้าจะกองเยอะแค่ไหนแต่ในใจเขายังคงคิดถึงแฟนสาวอยู่ตลอดเวลา ยิ่งได้นึกถึงเหตุการณ์บนเรือก็ยิ่งทำให้เขาไม่มีสมาธิที่จะทำงาน
สุดท้ายชายหนุ่มก็ทนต่อความสงสัยไม่ไหวเพราะพิมพ์ดาวแฟนของเขาเคยผ่านผู้ชายมาแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเป็นเรื่องปกติสำหรับเขาอยู่แล้ว
แต่เมื่อคืนพิมพ์ดาวที่อยู่กับเขาบนเรือเธอยังบริสุทธิ์และไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน ซึ่งทำให้เขาติดอยู่กับความสงสัยนี้ไม่หาย จนต้องเรียกเลขาคนสนิทให้เข้ามาหาในห้องทำงาน
“ไปจ้างนักสืบให้หาข้อมูลครอบครัวของพิมพ์ดาวแบบละเอียดให้ด้วย”
“คุณพิมพ์ดาวเป็นแฟนท่านประธานไม่ใช่เหรอครับ” เลขาคนสนิทถามเจ้านายด้วยความสงสัย เพราะเจ้านายกับแฟนสาวก็คบหาดูใจกันมาหลายปีแล้ว ทำไมถึงต้องจ้างนักสืบให้ไปตามสืบอยู่อีก
“ไม่ต้องถาม รีบไปทำตามที่สั่งก็พอ”
เพราะพิมพ์ดาวเป็นแฟนอนาวิน เขาก็เลยต้องตามสืบประวัติของครอบครัวเธอให้ละเอียดเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้คลายความสงสัยที่ติดอยู่ในใจ ที่ผ่านมาที่เขาไม่ตามสืบเพราะเขารักเธอด้วยใจจริงและไม่เคยคิดว่าเธอต่ำต้อยเลยสักนิด
“ขอด่วนที่สุด!” ชายหนุ่มย้ำความต้องการของตัวเองให้ชัดเจนอีกครั้ง เพราะความใจร้อนและความสงสัยจนทำให้เขาไม่มีสมาธิที่จะทำงาน
“ครับ”
เลขาคนสนิทก้มหัวรับคำสั่งผู้เป็นเจ้านายก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อไปทำตามคำสั่งให้ได้ข้อมูลเร็วและด่วนที่สุดเท่าที่จะทำได้
เวลาผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมงเลขาคนสนิทก็เดินกลับเข้ามารายงานเจ้านายหนุ่มที่นั่งรออยู่ในห้องทำงานเช่นเคย
“ว่ามา”
“คุณพิมพ์ดาวไม่ใช่ลูกสาวคนเดียวเหมือนที่คุณดารารายเคยบอกครับ คุณดารารายมีลูกสาวฝาแฝดสองคนคุณพราวฟ้าเป็นแฝดพี่ ส่วนคุณพิมพ์ดาวเป็นแฝดน้องครับ”
“ฝาแฝดเหรอ?” ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความสงสัยทันที
“ใช่ครับ คุณดารารายแยกทางกับสามีตั้งแต่ตอนที่ลูกยังเล็ก แฝดพี่ที่ชื่อพราวฟ้าอยู่กับพ่อมีงานและบริษัทที่มั่นคง แต่เมื่อไม่กี่ปีก่อนพ่อได้เสียชีวิต คุณพราวฟ้าก็เลยตามหาและให้แม่กับคุณพิมพ์ดาวไปอยู่ที่บ้านด้วยกันครับ” เลขาคนสนิทรายงานไปตามที่นักสืบไปสืบหาข้อมูลมาให้
อนาวินฟังเลขารายงานอย่างตั้งใจ จนเขามั่นใจแล้วว่าเมื่อคืนผู้หญิงที่อยู่บนเรือกับเขาไม่ใช่พิมพ์ดาวแฟนตัวจริงของเขา แต่เธอคือพี่สาวฝาแฝดของพิมพ์ดาว
ยิ่งรู้ความจริงอนาวินก็ยิ่งเกิดความสงสัยมากขึ้น ทำไมพี่สาวฝาแฝดที่ชื่อพราวฟ้าถึงต้องไปกินข้าวกับเขา ทั้งๆ ที่เขานัดกับพิมพ์ดาวเอาไว้ แล้วพิมพ์ดาวแฟนสาวตัวจริงของเขาหายไปไหน
ชายหนุ่มทำได้เพียงแค่เก็บความสงสัยเอาไว้และรอเวลาเลิกงาน วันนี้เขาตั้งใจจะไปบ้านของพิมพ์ดาวเพื่อไปดูให้เห็นกับตาและพิสูจน์ความจริงที่ติดอยู่ในใจของเขา
พอถึงตอนเย็นอนาวินก็รีบขับรถตรงไปบ้านของพิมพ์ดาวทันที ถึงแม้จะรถติดและอยู่ไกลเขาก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้อของฝากมาฝากเจ้าของบ้านตามมารยาทเหมือนกับทุกครั้งที่เขาเคยทำ
ใช้เวลาอยู่บนรถหลายชั่วโมงกว่าจะมาถึงบ้านของพิมพ์ดาว เนื่องจากวันนี้การจราจรติดขัดจึงทำให้รถติดหนึบกว่าจะขยับได้ ก็เลยต้องใช้เวลาเดินทางยาวนานกว่าทุกวัน
รถยนต์คันหรูจอดรออยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ ก่อนที่อนาวินจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อต่อสายหาเจ้าของบ้าน เพราะวันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าเขาจะมา
“สวัสดีครับคุณแม่ พอดีผมผ่านมาทางนี้ก็เลยซื้อของมาฝาก ตอนนี้ผมจอดรถอยู่หน้าบ้านครับ”
(ห๊ะ! อยู่หน้าบ้านเหรอ) ดารารายพยายามเก็บความตกใจเอาไว้ ก่อนจะปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด
“ครับ”
(เอ่อ… รอแม่แป๊บนึงนะ เดี๋ยวแม่ไปเปิดประตูให้จ้ะ) ดารารายไม่มีทางเลือกอื่น เพราะถึงยังไงเธอก็ต้องไปเปิดประตูให้ว่าที่ลูกเขย
“ทำไมวันนี้มาดึกจังเลยล่ะ”
ดารารายทักทายชายหนุ่มขึ้นมาหลังจากที่เปิดประตูหน้าบ้านให้ นอกจากจะมาดึกแล้วเขายังมาแบบไม่ได้บอกไม่ได้กล่าวให้เธอรู้ล่วงหน้าก่อนเลย
“นี่ครับของฝาก พอดีรถติดมากเลยครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่มารบกวนคุณแม่ตอนดึกแบบนี้” อนาวินยื่นกระเช้าผลไม้ที่พึ่งจะซื้อมาให้กับเจ้าของบ้าน
“ไม่เป็นไรจ้ะ แล้วนี่ได้โทรบอกน้องหรือยัง” ดารารายแกล้งถามชายหนุ่ม
“โทรไปแล้วครับแต่น้องไม่รับสายเลย” อนาวินตอบตามปกติไม่ได้แสดงท่าทีน้อยใจแต่อย่างใด
“สงสัยจะนอนหลับแล้วมั้ง วันนี้แม่ได้ยินน้องบ่นว่าเหนื่อยทั้งวันเลย” ดารารายพูดตามน้ำไปก่อน ถึงแม้จะรู้ทุกอย่างเป็นอย่างดี ซึ่งตอนนี้พิมพ์ดาวก็ยังไม่กลับเข้าบ้าน
“ครับ”
“งั้นเข้าไปดื่มน้ำเย็นๆ ข้างในกันก่อนดีกว่าจ้ะ” ดารารายปฏิเสธอะไรไม่ได้ นอกจากจะเชิญว่าที่ลูกเขยเข้าไปนั่งในบ้านก่อน โชคดีที่วันนี้พราวฟ้าเข้านอนแล้วและไม่ค่อยจะลงจากห้องนอนในตอนดึกสักเท่าไหร่
“ครับ”
“มาๆ นั่งตรงนี้ก่อนลูก” ดารารายชี้ไปยังโซฟาที่อยู่ภายในห้องรับแขก ก่อนที่เธอจะเดินไปหาน้ำเย็นๆ มาให้ว่าที่ลูกเขยได้ดื่ม
ดารารายถือแก้วน้ำออกมาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นลูกสาวเดินลงมาพอดี ทำเอาเธอทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
อนาวินหันไปเห็นหญิงสาวที่สวมใส่ชุดนอนสบายๆ ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล ทำเอาเขาต้องจ้องมองเธอด้วยความสงสัยว่าเธอคือพิมพ์ดาวหรือพราวฟ้ากันแน่ เพราะทั้งสองคนเหมือนกันจนเขาแยกไม่ออก
“ลูกลงมาทำไมจ้ะ” ดารารายที่รู้ว่าเป็นพราวฟ้าจึงเอ่ยถามพร้อมกับเลี่ยงที่จะพูดชื่อลูกสาว
หัวใจดวงน้อยแทบจะหยุดเต้นไปชั่วขณะเมื่อเห็นชายหนุ่มที่นั่งอยู่ เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะมาที่บ้านเธอในเวลานี้ แต่พอตั้งสติได้พราวฟ้าก็รีบตอบผู้เป็นแม่ทันที
“หนูลงมาเอาน้ำส้มค่ะ พอดีว่าหนูเอางานมาทำที่บ้านด้วย” พราวฟ้าตอบคุณแม่ แต่สายตาของเธอกลับมองไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่อีกทาง
“แม่ก็นึกว่าหลับแล้ว” ดารารายตอบพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ให้กับลูกสาว
“น้องทำงานอะไรเหรอครับ” อนาวินแกล้งถาม ปกติแล้วพิมพ์ดาวจะทำงานนอกบ้านและถ่ายแบบเป็นหลัก ซึ่งงานของเธอไม่สามารถเอามาทำที่บ้านคนเดียวได้อย่างแน่นอน
ถึงแม้จะรู้คำตอบและมั่นใจแล้วว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่พิมพ์ดาวแฟนสาวของตัวเอง พร้อมกับมองสองแม่ลูกด้วยสายตาจับผิด เพราะเขาไม่ใช่คนโง่ที่จะให้ใครมาโกหกได้ง่ายๆ
ทำเอาดารารายหายใจไม่ทั่วท้องและยืนนิ่งด้วยท่าทางคิดหนัก ไม่รู้เลยว่าเธอจะแก้สถานการณ์นี้ต่อไปยังไง เพราะเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเร็วจนเธอไม่ทันได้ตั้งตัว
‘วันนี้มันวันอะไร ทำไมถึงได้ซวยแบบนี้’ ดารารายแทบกุมขมับ คิดไม่ตกเลยว่าจะต้องทำยังไงต่อไปดี
..
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
ร่างหนาเดินออกมาจากห้องน้ำก็ต้องพบกับความเงียบ เมื่อภายในห้องมีเพียงความว่างเปล่าไม่มีใครอยู่เลยสักคนอนาวินมีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่พันรอบเอวอยู่ พอได้อาบน้ำสบายตัวก็คิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนสายตาคมเข้มกวาดมองไปรอบห้องเพื่อที่จะมองหาพราวฟ้า แต่สายตาเขาก็สะดุดไปเห็นเสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นที่แขวนไว้อยู่หน้าตู้เสื้อผ้าที่อยู่ไม่ไกลซึ่งคงจะเป็นเสื้อและกางเกงที่ใหญ่ที่สุดในตู้ของพราวฟ้าและเธอคงจะมั่นใจและคิดว่าเขาคงจะใส่ได้อย่างแน่นอนอนาวินไม่รอช้ารีบใส่เสื้อผ้าและแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะเดินลงไปหาเธอข้างล่าง แน่นอนว่าเธอคงจะทำอาหารอยู่ในห้องครัวเป็นแน่“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอคะ” พราวฟ้าที่กำลังยุ่งอยู่หน้าเตาแก๊สก็เอ่ยถามชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้ม“ครับ ทำอะไรอยู่ครับทำไมหอมจังเลย” อนาวินไม่พูดเปล่าขายาวรีบเดินเข้าไปหาหญิงสาวพร้อมกับกอดเธอเอาไว้แน่น“พราวทำข้าวต้มค่ะ พี่วินหิวหรือยังคะ”ใบหน้าสวยตอบพร้อมรอยยิ้ม ถึงแม้จะโดนอีกฝ่ายกอดในขณะที่เธอกำลังทำข้าวต้มอยู่ เธอก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือวุ่นวาย แต่กลับรู้สึกดีและมีความสุขมากๆ อีกด้วย“หิวครับ”“รออีกนิดนะคะข้าวต้ม
ปึก! ปึก! ปึก!“อะ! อ๊ะ!”เสียงครางหวานยังคงดังออกมาเป็นระยะ โชคดีที่เป็นห้องเก็บเสียงและวันนี้ก็ไม่มีใครอยู่บ้าน ส่วนแม่บ้านประจำก็ลากลับบ้าน พราวฟ้าอยู่คนเดียวแล้วก็เหงาก็เลยชวนอนาวินมาอยู่เป็นเพื่อนม๊วฟ!“ซี๊ดดด!”ริมฝีปากบางซูดปากครางเสียวร่างสวยเกร็งไปแทบทุกส่วน เมื่อริมฝีปากหนาทั้งดูดทั้งเลียหน้าอกอวบอิ่ม แถมช่วงล่างก็กระแทกสะโพกเข้าออกไม่หยุด เรียกได้ว่าปรนเปรอทั้งช่วงบนช่วงล่างพร้อมกันแบบนี้จะไม่ให้พราวฟ้าเสียวได้ยังไง“อ่าส์!” เสียงคำรามจากร่างหนาก็ดังออกมาเป็นระยะไม่ต่างกัน ยิ่งเขากระแทกและบดขยี้แก่นกายใหญ่ ร่องรักก็ยิ่งรัดแน่นจนอนาวินแทบจะทนไม่ไหวความเสียวที่ถูกปะปนไปด้วยความทรมานแต่ก็ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกดีไม่น้อย ซึ่งมันเป็นความรู้สึกเสียวซ่านจนยากเกินที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้“อึก! อะ! พราวไม่ไหวแล้วค่ะ ซี๊ด!” พราวฟ้าพูดออกมาพร้อมกับความรู้สึกที่แปลกใหม่วิ่งวนอยู่ภายในร่างกาย ซึ่งเธอไม่เคยรู้สึกดีกับความรู้สึกแบบนี้มาก่อน“อ๊าส์! พี่ก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกันครับ” น้ำเสียงที่อบอุ่นปนด้วยความทรมานเอ่ยบอกหญิงสาวที่นอนอยู่ใต้ร่างถึงแม้ว่าปากจะบอกว่าไม่ไหวแต่สะโพกหนาก็ยังคงก
แขนเรียวทั้งสองข้างโอบกอดชายหนุ่มเอาไว้ด้วยความอบอุ่น โดยที่ริมฝีปากของทั้งสองยังคงแนบชิดและบดขยี้กันอย่างดูดดื่ม“อืม…” น้ำเสียงทุ้มต่ำครางเสียงกระเส่าอยู่ข้างใบหูเล็กด้วยความพอใจพราวฟ้าในตอนนี้ราวกับพราวฟ้าคนใหม่ที่ไม่เคยมีใครเห็นเธอในมุมนี้มาก่อน ทั้งท่าทางและน้ำเสียงเธอดูออดอ้อนเพื่อเอาใจอีกฝ่ายอย่างสุดกำลัง ถ้าหากอะไรที่ทำให้ชายหนุ่มมีความสุข เธอก็พร้อมที่จะทำและปรนเปรอเขาทุกอย่างมือบางจัดการถอดเสื้อผ้าชายหนุ่มออกจนหมดถึงแม้พราวฟ้าจะรู้สึกเกร็งๆ อยู่บ้างแต่เธอก็พยายามทำใจให้สบายและผ่อนคลายมากขึ้นพรึบ!ร่างหนาถูกผลักให้นั่งลงอยู่บนเตียงนอนกว้าง ถึงไม่ใช่ครั้งแรกแต่ก็ทำให้อนาวินตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าตื่นเต้นกว่าครั้งแรกเสียอีก“เดี๋ยวพราวทำให้ค่ะ” น้ำเสียงและสายตายั่วยวนมองไปที่ชายหนุ่ม หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ทำอะไรที่แปลกใหม่ ซึ่งเธอเองก็ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มด้วยความพอใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังถอดเสื้อผ้าออกอย่างช้าๆ ต่อหน้าเขา เรือนร่างสวยไร้สิ่งปกปิดทำเอาอนาวินเผลอจ้องมองไม่ยอมละสายตา“มองแบบนี้พราวก็เขินแย่สิคะ” ใบหน้าส
ระหว่างทางที่อยู่บนรถมีเพียงแค่ความเงียบ ซึ่งไม่เคยเป็นแบบนี้เลยสักครั้ง ปกติแล้วอนาวินจะอารมณ์ดีและชวนคุยอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้พราวฟ้ารับรู้ได้ถึงความผิดปกติลางอย่างขึ้นมาได้อย่างชัดเจนร่างบางนั่งเงียบมองซ้ายมองขวาไม่รู้เลยว่าจะต้องทำตัวยังไง จะต้องถามอะไรถึงจะไม่ทำให้บรรยากาศบนรถนั้นเงียบจนเกินไป“พี่วิน…” พราวฟ้าตัดสินใจเรียกชื่อชายหนุ่มขึ้นมา แต่เธอก็ยังไม่กล้าที่จะพูดหรือถามอะไรในตอนนี้“ครับ” มีเพียงเสียงตอบรับสั้นๆ และสายตานิ่งเรียบที่มองถนนอย่างไม่ยอมละสายตา“พี่วินเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามออกมาตามตรงในขณะที่รถยนต์คันหรูวิ่งเข้ามาจอดภายในบ้านหลังใหญ่“เปล่าครับ” ชายหนุ่มยังคงตอบด้วยน้ำเสียงและท่าทางนิ่งเรียบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“งอนพราวอยู่ใช่ไหมคะ” พราวฟ้าถามต่อเมื่อรถยนต์จอดสนิทที่หน้าบ้าน“เปล่าครับ”“ใช่แน่เลย พี่วินงอนพราวเรื่องอะไรคะ” ในขณะที่ถามพราวฟ้าก็พยายามคิดว่าชายหนุ่มกำลังงอนเธอเรื่องอะไร เขาถึงได้ทำตัวเฉยชากับเธอแบบนี้“นี่ก็ดึกแล้ว พี่ว่าพราวเข้าบ้านไปพักเถอะ”ยิ่งเห็นท่าทางและคำพูดที่เปลี่ยนไปของชายหนุ่มพราวฟ้าก็ยิ่งรู้สึกผิดและอยากจะทำให้ทุกอย่างกลั
เมื่อพราวฟ้าเข้าห้องประชุมเธอก็ทำหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี ตั้งใจทำงานนั่งรับฟังทุกข้อเสนอและทุกแผนงานของบริษัทเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นการประชุมใหญ่ประจำปีการประชุมในครั้งนี้จึงใช้เวลาประชุมยาวนานกว่าทุกครั้งใช้เวลาในการประชุมเกือบสามชั่วโมงกว่าพราวจะประชุมเสร็จก็แทบจะหมดแรงและใกล้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว ร่างบางเดินกลับเข้าห้องทำงานด้วยความเหนื่อยล้าพลังงานที่มีหมดไปกับการประชุมแล้วจริงๆ“พี่วิน…” หญิงสาวเรียกชื่อชายหนุ่มเสียงเบาแต่ก็เต็มไปด้วยความตกใจที่เห็นอนาวินนั่งหลับอยู่ที่โซฟารับรองแขกภายในห้องทำงานของเธอพราวฟ้ามองใบหน้าหล่อด้วยความสงสัยพร้อมกับคำถามมากมายที่วิ่งเข้ามาในหัว เธอเดินเข้าไปดูเขาใกล้ๆ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเขากลับมารับเธอหรือว่าเขานั่งรออยู่ในห้องนี้จนเธอประชุมเสร็จ“ทำไมมานั่งหลับอยู่ตรงนี้คะ”ร่างบางตัดสินใจถามขึ้นมาตามตรง เพราะตอนนี้ก็ถึงเวลาเลิกงานแล้วเธอจะปล่อยให้เขาหลับต่อไปแบบนี้ไม่ได้“อือ… ประชุมเสร็จแล้วเหรอครับ” ร่างหนางัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับคำถาม“เสร็จสักพักแล้วค่ะ”“ทำไมไม่ปลุกพี่ละครับ”“พี่วินได้กลับไปทำงานหรือเปล่าคะ” หญิงสาวเลือกที่จะถามกลับ
หนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่เรื่องราวทุกอย่างผ่านไปพิมพ์ดาวกับคุณแม่ก็ได้เดินทางไปเที่ยวและพักผ่อนที่ต่างประเทศ เพื่อที่จะได้เปลี่ยนบรรยากาศและทำใจให้สบายมากขึ้น ก่อนที่จะกลับมาคลอดและเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าส่วนพราวฟ้าก็ยินดีที่จะออกเงินและดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับคุณแม่และน้องสาว ซึ่งเธอก็มีอนาวินคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ทำให้ดารารายและพิมพ์ดาวได้ไปเที่ยวแบบสบายใจไม่ต้องคอยเป็นห่วงพราวฟ้า“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ”พราวฟ้าเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้ม หลังจากที่คุณแม่กับน้องสาวไปเที่ยว อนาวินก็ทำหน้าที่ดูแลเธอเป็นอย่างดีทุกอย่างไม่มีขาดตกบกพร่องในหน้าที่แฟนเลยสักครั้ง“เดี๋ยวพี่มารับไปทานข้าวเที่ยงนะครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ ตอนบ่ายพราวมีประชุมถ้าออกไปทานข้างนอกคงกลับมาไม่ทันแน่เลยค่ะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธเพราะช่วงนี้งานที่บริษัทค่อนข้างเยอะ ทำให้เธอไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะออกไปไหน“งั้นเดี๋ยวพี่ซื้อมาทานด้วยที่บริษัท” อนาวินแทบจะขาดพราวฟ้าไม่ได้ก็อาสาซื้อมาทานด้วยเพื่อเอาใจเธอ“ค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ”“ตั้งใจทำงานนะครับ”“พี่วินก็ตั้งใจทำงานเหมือนกันนะคะ”“ครับ แล้วเจอกันนะ”“ค่ะ”