“สวัสดีค่ะ เชิญเลยค่ะเดี๋ยวดิฉันจะขึ้นไปส่งคุณธาวินได้แจ้งเอาไว้แล้ว" พนักงานสาวสวยยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับกล่าวทักทายฮันน่าจากนั้นหล่อนก็ได้เดินนำหน้าหญิงสาวตรงไปยังลิฟต์ เพราะอีธานอยู่ชั้นบนสุด คือชั้นเก้าและที่สำคัญชั้นนั้นมีเพียงแค่เขาอาศัยอยู่ เพราะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเหมือนบ้านมากกว่าโรงแรม
พอฮันน่าเดินออกเดินออกมาจากลิฟต์พนักงานสาวก็ได้กลับลงไปทันที ในเวลานี้ หญิงสาวกำลังตกอยู่ในภวังค์การออกแบบที่ดูน่าอยู่น่าอาศัย ฮันน่ากวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนที่ลีโอจะเดินเข้ามาหาเธอ “เชิญครับ นายให้คุณเข้าไปรออยู่ในห้อง เอาช่อดอกไม้มาเดี๋ยวผมถือเอง เชิญคุณผู้หญิงเข้าไปด้านในเลยครับ" ในเวลานี้ฮันน่าทำตัวไม่ถูกบวกกับความแปลกใจ
เธอเป็นแค่คนส่งดอกไม้แล้วทำไมต้องเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านในของห้องด้วย แล้วถ้าเขาคิดไม่ซื่อกับเธอจะทำยังไงดี หรือว่าเธอกำลังมองโลกในแง่ร้ายเกินไป ในเมื่อเขาก็มีภรรยาอยู่แล้ว ผู้ชายคนนั้นอาจจะให้เธอเข้าไปนั่งรอ เพื่อจ่ายเงินที่เหลือก็ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นฮันน่า จึงยอมเดินเข้าไปในห้อง และเธอก็ถึงกับตกตะลึงในความหรูหราโอ่อ่าของห้องนี้
“สวยจัง" ฮันน่าถึงกับเผลอเอ่ยปากชม โดยเฉพาะดอกไม้สด ที่ถูกจัดตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม กลิ่นของมันโชยมาเตะจมูกของเธอจนรัญจวนใจไปหมด หญิงสาวยืนอยู่กลางห้องพร้อมกับค่อยๆ ปรือตาหลับลงอย่างช้าๆ เธอกำลังจินตนาการว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง ที่ยืนอยู่ท่ามกลางปราสาทราชวัง เมื่อการตกแต่งดอกไม้นานาพันธุ์ตามมุมต่างๆ ของห้องช่างเลิศหรูอลังการ ฝีมือคนจัดระดับขั้นเทพ ซึ่งเธอนั้นถึงกับอยากจะฝากตัวเป็นศิษย์เลยทีเดียว
“คุณชอบหรือเปล่า" ชายตัวโตยืนอยู่ด้านหลังหญิงสาวร่างเล็ก พร้อมกับกระซิบลงไปที่ข้างใบหูของเธอ เสียงทุ้มที่ดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว วินาทีนั้นทำให้หัวใจของฮันน่าแทบจะหยุดเต้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี เธอก็จดจำน้ำเสียงทุ้มนี้ได้ดีไม่เคยลืมเลือน
ในเวลานี้ฮันน่ายังคงหลับตา พร้อมกับยืนนิ่งๆ เธอยังไม่กล้าเผชิญความจริง เมื่อหญิงสาวตั้งรับไม่ทัน เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้เจออีธานอีกครั้งในรูปแบบนี้ เธอน่าจะเอะใจตั้งแต่นามสกุลของเขาในนามบัตรนั้นแล้ว
“ดอกไม้สวยๆ สำหรับภรรยาของผม" ดอกไม้ช่อใหญ่ที่ฮันน่าบรรจงจัดอย่างสวยงาม กำลังชูช่ออยู่ตรงหน้าของเธอ เพราะในเวลานี้ฮันน่าไม่ต่างอะไรกับการตกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของอีธาน เมื่อเขายืนอยู่ทางด้านหลังแล้วโอบเธอเอาไว้ ในมือของเขามีช่อดอกไม้ ที่สั่งให้เธอจัดเป็นพิเศษ เพื่อง้อภรรยา แต่ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้น ที่เขาหมายถึงจะเป็นเธอ
“ขอโทษนะคะ คุณกำลังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณ" น้ำเสียงที่เย็นชาแฝงไปด้วยความกระด้าง ทำให้อีธานเข้าใจ เป็นใครก็คงจะโกรธ สิบกว่าปีที่จากกัน มันนานมากเลยทีเดียว แต่เขาไม่สามารถกลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตได้ ปัจจุบันต่างหากที่สำคัญและเขาก็อยากมีอนาคตร่วมกันกับฮันน่า
“แต่ผมเป็นสามีของคุณ หรือว่าคุณลืมไปแล้ว เดี๋ยวผมจะช่วยทบทวนความทรงจำให้เอาไหม...หืม"
ชายหนุ่มไม่พูดเปล่า เขาจับไปที่ไหล่มนของเธอ เพื่อให้ฮันน่าหันมาสบตากัน ทันใดนั้นน้ำใสๆ ก็ไหลเอ่อออกจากดวงตาคู่สวยของเธอ หัวใจของฮันน่าเริ่มเต้นแรงขึ้น จนแทบจะกระเด็นออกจากอกข้างซ้ายให้ได้ในตอนนี้ พอๆ กับหัวใจของอีธานที่มันเต้นดังราวกับกลองเพล เขาวางช่อดอกไม้ลงที่พื้น แล้วเอื้อมมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้มนวลของเธออย่างเบามือ แต่ทว่าฮันน่ากลับเบือนหน้านี้
“ผมขอโทษ ที่เป็นต้นเหตุทำให้คุณต้องร้องไห้อีกแล้ว ให้โอกาสผมสักครั้งนะฮันน่า ให้ผมได้ทำหน้าที่พ่อและสามีที่ดีบ้าง" ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้น พร้อมกับกอดขาเรียวฮันน่าเอาไว้แน่น แล้วแนบใบหน้าลงไปราวกับว่าเขากำลังกลัวที่จะต้องเสียเธอไปอีกครั้ง คราบมาเฟียหนุ่มเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วได้หายไปจนสิ้น เวลานี้เขาเหมือนลูกแมวที่กำลังอ้อนเจ้าของให้รักและเมตตา
“ปล่อยค่ะ โลกของเรามันคนละใบ สิบกว่าปียังอยู่มาได้ แล้วทำไมต่อไปถึงจะอยู่ไม่ได้ ฉันไม่ต้องการสามี ลูกของฉันก็ไม่ต้องการพ่อ ฉะนั้นคุณก็อยู่ในที่ของคุณอย่าเกี่ยวข้องกันอีกเลย" แม้ว่าฮันน่าจะรู้สึกหวั่นไหวกับชายตรงหน้ามากแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็กลัวว่าลูกๆ จะเผชิญกับอันตราย ถ้าหากว่ากันยาและตุลาอยู่ในสถานะบุตรของอีธาน
“กันยาเป็นลูกของผม ส่วนคุณเป็นภรรยาของผม ฉะนั้นโลกของผมกับโลกของคุณและลูกของเรามันคือโลกใบเดียวกันจำเอาไว้"
เมื่อฮันน่ากลายเป็นคนไม่มีเหตุผลจึงทำให้อีธานตัดสินใจที่จะใช้ไม้แข็งกับเธอ เขาจะปราบพยศภรรยาด้วยวิธีที่ร้อยทั้งร้อยมักจะใช้ได้กับคู่รักทุกคู่ คอยดูเขาจะทำให้เธอนั้นสยบอยู่ภายใต้ร่างกำยำนี้ให้ได้ เธอจะไม่มีทางปฏิเสธเขาอีกต่อไป ภายใต้แววตาคู่สวยเขาสัมผัสได้ถึงความรักความโหยหาที่เธอส่งมาให้ ไม่ต่างจากความรู้สึกที่เขามีให้กับเธอเลยสักนิด เพียงแค่ฮันน่านั้นกำลังพยายามโกหกหัวใจตัวเอง เพราะทิฐิหรือเหตุผลอะไรบางอย่างเขาเองก็ไม่แน่ใจ กำแพงใจที่เธอสร้างขึ้นมานั้น เขาจะเป็นคนพังทลายมันเอง
“สวัสดีค่ะ เชิญเลยค่ะเดี๋ยวดิฉันจะขึ้นไปส่งคุณธาวินได้แจ้งเอาไว้แล้ว" พนักงานสาวสวยยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับกล่าวทักทายฮันน่าจากนั้นหล่อนก็ได้เดินนำหน้าหญิงสาวตรงไปยังลิฟต์ เพราะอีธานอยู่ชั้นบนสุด คือชั้นเก้าและที่สำคัญชั้นนั้นมีเพียงแค่เขาอาศัยอยู่ เพราะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเหมือนบ้านมากกว่าโรงแรมพอฮันน่าเดินออกเดินออกมาจากลิฟต์พนักงานสาวก็ได้กลับลงไปทันที ในเวลานี้ หญิงสาวกำลังตกอยู่ในภวังค์การออกแบบที่ดูน่าอยู่น่าอาศัย ฮันน่ากวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนที่ลีโอจะเดินเข้ามาหาเธอ “เชิญครับ นายให้คุณเข้าไปรออยู่ในห้อง เอาช่อดอกไม้มาเดี๋ยวผมถือเอง เชิญคุณผู้หญิงเข้าไปด้านในเลยครับ" ในเวลานี้ฮันน่าทำตัวไม่ถูกบวกกับความแปลกใจเธอเป็นแค่คนส่งดอกไม้แล้วทำไมต้องเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านในของห้องด้วย แล้วถ้าเขาคิดไม่ซื่อกับเธอจะทำยังไงดี หรือว่าเธอกำลังมองโลกในแง่ร้ายเกินไป ในเมื่อเขาก็มีภรรยาอยู่แล้ว ผู้ชายคนนั้นอาจจะให้เธอเข้าไปนั่งรอ เพื่อจ่ายเงินที่เหลือก็ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นฮันน่า จึงยอมเดินเข้าไปในห้อง และเธอก็ถึงกับตกตะลึงในความหรูหราโอ่อ่าของห้องนี้
“อืม...ออกรถสิ ฉันยอมคุณศิลาจริงๆ ขนาดเลทตั้งหลายชั่วโมงก็ยังจะรอ แสดงว่าโปรเจคนี้คงมีความสำคัญกับเขามาก" อีธานรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง ที่เสี่ยศิลาไม่ยอมเลื่อนนัด เพราะไม่อย่างนั้นแล้วละก็ เขาคงจะแอบเฝ้ามองฮันน่ากับลูกทั้งวัน แต่ตอนนี้เขาคงต้องไปพบหุ้นส่วนรายสำคัญก่อน “อุ้ย! เกือบลืมค่ะแม่นี่เงินค่าช่อดอกไม้พร้อมกับค่ามัดจำช่อใหม่ และนี่นามบัตร" ฮันน่ารับเงินค่าช่อดอกไม้มาจากลูกสาว พร้อมกับนามบัตรแบบงงๆ “คืออะไรกันยา ค่าดอกไม้หกพันส่วนอีกสี่พันค่ามัดจำช่อใหม่หมายความว่ายังไง"ฮันน่าถามลูกสาวออกมาด้วยความแปลกใจ และเมื่อเห็นนามสกุลของนายธาวินที่อยู่บนนามบัตร เธอถึงกับทำตาโตพร้อมกับเอามือขึ้นมาป้องปากเอาไว้ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่นามสกุลก็ทำให้ใจของเธอนั้นเต้นแรง เพราะสิบกว่าปีมาแล้วที่เธอนั้นไม่ได้ข่าวของอีธาน แต่หญิงสาวก็ปรารถนาอยากให้เขามีชีวิตอยู่ ถึงแม้ว่าเธอนั้นไม่อยากพบเจอกับเขาก็ตามที“คุณธาวินเขาสั่งดอกไม้ที่ร้านของเราช่อละเป็นหมื่นเลยนะคะแม่ และ
ในเวลานี้ต่างคนต่างก็จ้องมองกันด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งสองรู้แค่เพียงว่าภายในใจมันรู้สึกดี กันยาเองก็รู้สึกผูกพันกับแววตาของชายหนุ่ม เธอรู้สึกอบอุ่นเวลาที่ได้จ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้า อีธานดูเป็นผู้ใหญ่หล่อสมาร์ตเท่และมีเสน่ห์มาก แต่ความรู้สึกของกันยาเขาเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ที่กำลังจ้องมองเธออย่างเอ็นดู ไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง อีธานยังคงมองไปที่ใบหน้าของกันยาด้วยความรู้สึกถูกชะตา ทันใดนั้นเองเขาได้คิดแผนการบางอย่างขึ้นมา ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้ มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องชดเชยเวลาทั้งหมด เพื่อกลับมาเป็นครอบครัว ดั่งที่ใจเขาเคยปรารถนาเอาไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งเธอเองเป็นคนปฏิเสธและทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดี “ดอกไม้สวยมาก ค่าเดินมาส่งสี่พันรวมเป็น หนึ่งหมื่นหนูนับก่อนก็ได้นะ" อีธานหยิบธนบัตรส่งให้กันยา พร้อมกับเอื้อมมือไปรับช่อดอกไม้จากหญิงสาวมาวางไว้ที่เบาะหลัง “ขอบคุณมากนะคะที่ใช้บริการร้านของเรา แต่กันยาคง
“อืม...ผมเอาช่อนี้ครับ" ลีโอชี้ลงไปที่ภาพของดอกไม้ช่อใหญ่ ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง “ว้าว! แฟนคุณคงดีใจมากเลย นั่งรอสักครู่นะคะ" กันยายิ้มแฉ่งออกมาด้วยใบหน้าที่สดใส ใครเห็นก็บอกว่าโลกทั้งใบเป็นของเธอ เพราะรอยยิ้มที่พิมพ์ใจไม่ต่างจากอีธาน เพียงแค่เค้าโครงใบหน้าเธอได้มารดามาเต็มๆ “พี่แป้งรับออเดอร์ด้วยค่ะ" กันยาตะโกนออกไปเสียงดัง เพราะตอนนี้ไม่มีใครอยู่หน้าร้าน เธอลืมไปว่าทุกคนไปพักรับประทานมื้อกลางวันกันหมด “กันยา...แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าตะโกนเสียงดัง อุ๊ย! ตายแล้ว... ขอโทษด้วยนะคะคุณลูกค้า ที่ลูกสาวดิฉันเผลอเสียมารยาท ตะโกนออกมาเสียงดังแบบนี้" ฮันน่าลุกออกมาจากโต๊ะทำงาน ซึ่งเธอกำลังเช็กออเดอร์ ดูรายชื่อลูกค้าในการจัดงานนอกสถานที่ของเดือนนี้ เมื่อได้ยินเสียงลูกสาวเรียกแป้งร่ำดังลั่นออกมาแบบนั้น ทำให้หญิงสาวร่างอรชรเดินออกมาดูหน้าร้าน
“ลีโอ...ลีโอ ใช่เธอหรือเปล่า... ใช่ฮันน่าไหม ใช่! ต้องใช่เธอแน่!" น้ำเสียงของอีธานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง คำขอโทษของเธอเมื่อสักครู่ ยังคงก้องอยู่ในหัวใจของเขา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นศตวรรษ ชายหนุ่มก็ยังคงจดจำสรีระท่าทางของเธอได้เป็นอย่างดี นั่นฮันน่าภรรยาของเขา ต่อให้เธอแต่งหน้าทาปาก หรือว่าไม่เติมแต่งอะไรลงไปบนใบหน้าเขาก็จำได้จนติดตา ภาพของเธอยังคงตราตรึงในหัวใจของเขาอยู่ทุกวินาที แต่ที่เขาสงสัยในตอนนี้ก็คือเธอมาทำอะไรที่นี่ เพราะนี่คือโรงแรมของเขา “คุณฮันน่าล้านเปอร์เซ็นต์ครับนาย" ดูเหมือนว่าในเวลานี้ ลีโอก็มีความตื่นเต้นไม่แพ้เจ้านายหนุ่มของเขาเช่นกัน “จะรออะไรล่ะ รีบตามเธอไป วันนี้ฉันจะรู้ให้ได้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหนกับใคร เธอหายไปไหนมา" น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความดีใจ แววตาที่เป็นประกายบ่งบอกให้รู้ว่าหัวใจที่ตายด้านกำลังจะฟื้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง “แต่คุณศิลารอนายอยู่
“ความจริงแล้วผมใช้บริการที่ร้านดอกไม้ ของคุณมานานแล้วนะครับ แต่ผมพึ่งรู้ว่าเจ้าของร้านตัวจริงคือคุณฮันน่า ผมคิดว่าเป็นคุณเรยาซะอีก" ฮันน่ารู้สึกเกลียดแววตาของเสี่ยศิลาเหลือเกิน มันดูน่าขนลุกยังไงก็ไม่รู้ ซึ่งเธอไม่เคยได้สัมผัสกับแววตาน่าขยะแขยงแบบนี้มานานแล้ว แต่ฮันน่าก็ต้องทำใจดีสู้เสือ เพราะเขาได้กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ดูเหมือนว่าเสี่ยศิลาจะมีออเดอร์เข้าร้านของเธอบ่อยๆ“ขอบคุณนะคะที่ไว้ใจร้านเรา พอดีว่าลูกโตขึ้น ก็เลยพาเด็กๆ ย้ายมาเข้าเรียนที่นี่ แต่ก่อนดิฉันให้พี่สาวดูแลกิจการให้ แต่ตอนนี้คงต้องเข้ามาดูแลเองทั้งหมดแล้วละค่ะ" คำบอกเล่าของฮันน่าทำให้เสี่ยศิลาถึงกับหน้าเสีย เพราะเขาไม่คิดว่าเธอนั้นจะมีครอบครัวแล้ว แต่ผู้ชายอย่างเขาก็ยังข้องใจ ทำไมไปที่ร้านตั้งหลายครั้ง กลับไม่เคยพบกับสามีของเธอ “คุณเป็นคุณแม่ที่สวยที่สุดในโลกเลยนะครับ สามีของคุณช่างเป็นผู้ชายที่โชคดี ผมชักอยากจะเห็นหน้าอยากทำความรู้จักเขาซะแล้ว" เวลานี้กลายเป็นฮันน่าที่มีสายตาล่อกแล่ก เธอไม่ได้กลัวที่จะบอกเขาว่าเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่หญิงสาวอยากให้ศิลาเข้าใจว่าเธอนั้นมีลูกมีสามีแล้ว เขาไม่ควรทำ