“อืม...ออกรถสิ ฉันยอมคุณศิลาจริงๆ ขนาดเลทตั้งหลายชั่วโมงก็ยังจะรอ แสดงว่าโปรเจคนี้คงมีความสำคัญกับเขามาก" อีธานรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง ที่เสี่ยศิลาไม่ยอมเลื่อนนัด เพราะไม่อย่างนั้นแล้วละก็ เขาคงจะแอบเฝ้ามองฮันน่ากับลูกทั้งวัน แต่ตอนนี้เขาคงต้องไปพบหุ้นส่วนรายสำคัญก่อน
“อุ้ย! เกือบลืมค่ะแม่นี่เงินค่าช่อดอกไม้พร้อมกับค่ามัดจำช่อใหม่ และนี่นามบัตร" ฮันน่ารับเงินค่าช่อดอกไม้มาจากลูกสาว พร้อมกับนามบัตรแบบงงๆ
“คืออะไรกันยา ค่าดอกไม้หกพันส่วนอีกสี่พันค่ามัดจำช่อใหม่หมายความว่ายังไง"
ฮันน่าถามลูกสาวออกมาด้วยความแปลกใจ และเมื่อเห็นนามสกุลของนายธาวินที่อยู่บนนามบัตร เธอถึงกับทำตาโตพร้อมกับเอามือขึ้นมาป้องปากเอาไว้ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่นามสกุลก็ทำให้ใจของเธอนั้นเต้นแรง เพราะสิบกว่าปีมาแล้วที่เธอนั้นไม่ได้ข่าวของอีธาน แต่หญิงสาวก็ปรารถนาอยากให้เขามีชีวิตอยู่ ถึงแม้ว่าเธอนั้นไม่อยากพบเจอกับเขาก็ตามที
“คุณธาวินเขาสั่งดอกไม้ที่ร้านของเราช่อละเป็นหมื่นเลยนะคะแม่ และที่สำคัญแม่ต้องเอาไปส่งเขาเวลาทุ่มตรงห้ามเลทนะคะคนสวย ถ้าคุณแม่ไม่สะดวกก็ให้พี่แป้งหรือพี่เทียนไปส่งแทนก็ได้ ที่อยู่ก็ตามนามบัตรนั่นแหละค่ะ เพราะเขาอยากจะเอาไปเซอร์ไพรส์ภรรยา"
ในเวลานี้ดูเหมือนว่าฮันน่าจะตั้งใจฟังในสิ่งที่ลูกสาวเล่าออกมาเป็นฉาก จนกระทั่งประโยคท้ายสุดทำให้หญิงสาวรู้สึกโล่งอก เพราะอย่างน้อยผู้ชายคนนั้นเขาก็มีภรรยาและตั้งใจที่จะนำดอกไม้ช่อใหญ่ไปเซอร์ไพรส์กันอีกด้วย เธอคงไม่เจอเฒ่าหัวงูเหมือนกับเสี่ยศิลาในตอนเช้าหรอกนะ
“โอเคเดี๋ยวแม่ไปเอง เพราะมันเลยเวลางานแล้วพี่เทียนกับพี่แป้งจะได้กลับบ้านไปพักผ่อน แล้วแม่ก็จะเลยไปหาป้าเรยาด้วย ตุลาดูน้องด้วยนะ แม่อาจจะกลับดึกทานข้าวเสร็จก็เข้านอนเลยไม่ต้องรอ เดี๋ยวแม่จะเอากุญแจบ้านไปด้วย" ฮันน่าพูดพร้อมกับเก็บธนบัตรเข้าไปไว้ในลิ้นชัก แล้วสแกนคิวอาร์โค้ดรหัสสินค้า เพื่อจะได้สรุปยอดขายในแต่ละวันจากนั้นหญิงสาวจึงเดินอ้อมมาจัดดอกไม้ช่อใหญ่ตามที่ลูกค้าสั่งเอาไว้ เพราะแป้งร่ำกับเทียนหอมก็กำลังจะจัดดอกไม้ให้ลูกค้าที่นั่งรออยู่ในร้านเช่นกัน
“ครับแม่" ตุลาตอบมารดากลับประโยคสั้นๆ เมื่อเขากำลังตั้งอกตั้งใจอ่านหนังสือ เนื่องจากชายหนุ่มเรียนไม่ค่อยเก่งเหมือนกันยา เขาจึงต้องใช้ความพยายามมากกว่าน้องสาว
“เย็นนี้ตัวทำสปาเกตตีให้เค้ากินหน่อยน๊า" กันยาทำหน้าออดอ้อนใส่พี่ชาย พร้อมกับเอาแก้มแนบลงไปที่ต้นแขนของตุลา ตั้งแต่ฮันน่าตั้งครรภ์เธอก็ชอบทานสปาเกตตีเหมือนกับขวัญข้าว และที่สำคัญกันยากับสิงโตนั้น ก็มีอะไรหลายๆ อย่างคล้ายกัน โดยเฉพาะรสนิยมการชอบรับประทานสปาเกตตี
“อืม...เดี๋ยวทำให้ ช่วยไปนั่งที่อื่นได้ไหมอ่านหนังสืออยู่" ตุลาไม่ได้ละสายตาจากหนังสือที่เขาอ่าน เขาพูดกับกันยาเหมือนกับปัดความรำคาญ แถมยังพยายามเขยิบออกห่างจากน้องสาวอีกด้วย
ฮันน่าแอบมองไปที่ลูกทั้งสองด้วยความรักและเอ็นดู แต่เธอจะรู้หรือเปล่าว่าการไปส่งดอกไม้ครั้งนี้ อาจจะทำให้หญิงสาวได้เปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งยิ่งใหญ่ บางอย่างที่เธอพยายามผลักไสไปไกลตัว ทั้งที่ใจยังปรารถนานั้น สวรรค์อาจเข้าข้างนำพาให้เธอได้เจอกับเขา ถึงแม้ว่าต้องใช้เวลาสิบกว่าปี แต่มันก็คุ้มค่าไม่ใช่เหรอ ถ้าเขายังรักซื่อสัตย์และรอเธอ โดยที่ตัวของหญิงสาวเอง ก็ไม่เคยเปลี่ยนใจไปรักใครได้อีกเลยเช่นกัน
ฮันน่าลงมือจัดดอกไม้ช่อนั้นเอง พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ที่ผุดขึ้นบนใบหน้า เมื่อเธอกำลังคิดว่าผู้หญิงคนนั้นช่างโชคดี ที่มีสามีคอยเอาใจใส่ถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ สำหรับผู้หญิงไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงต้องการความหวาน ที่ผู้ชายบางคนอาจจะละเลยหรือลืมไปว่าความรัก ถ้าไม่เติมเต็มรายละเอียดลงไปมันก็อาจจะหมดลงได้เช่นกัน
“แม่ไปแล้วนะ ปิดร้านเลยตุลาแล้วพาน้องกลับบ้าน เทียน แป้ง ได้เวลาเลิกงานแล้วกลับบ้านเลยจ้า" ฮันน่าหยิบช่อดอกไม้มาถือเอาไว้ ก่อนจะเดินออกไปจากร้าน แต่ตุลาที่วิ่งเข้ามาคว้าช่อดอกไม้เอาไว้เอง
“เดี๋ยวผมจะถือไปส่งที่รถครับแม่" ฮันน่าถึงกลับฉีกยิ้มกว้าง ที่ลูกชายดูเป็นห่วงเป็นใยเธอ จากนั้นฮันน่าจึงเดินตามตุลาตรงไปยังรถที่จอดอยู่ข้างร้าน
“ขอบใจมากลูก แม่ไปแล้วนะจ๊ะ อย่าลืมล็อคบ้านดีๆ ละ"
“ครับแม่" ตุลายกมือขึ้นมาบ๊ายบายผู้เป็นมารดา จากนั้นฮันน่าจึงขับรถออกไปที่ถนนใหญ่ อย่างน้อยในความโชคร้ายเธอก็ยังมีความโชคดี ที่สวรรค์ได้คัดสรรลูกแฝดชายหญิงมาให้เธอ เพราะตุลาเริ่มโตเป็นหนุ่มจนทำให้เธอมั่นใจว่าเขาจะดูแลและปกป้องกันยาได้ ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียนหรือที่ไหนก็ตาม พี่ชายอย่างตุลาคงไม่ทอดทิ้งให้น้องสาวตกอยู่ในอันตราย
ฮันน่าขับรถตรงไปยังโรงแรมที่ผู้ชายคนนั้นให้นามบัตรกับกันยาเอาไว้ เธอก็ต้องแปลกใจอีกครั้ง เพราะโรงแรมแห่งนี้คือที่เดียวกัน ซึ่งเธอพึ่งมารับเช็คจากนายศิลาเมื่อตอนเช้า หญิงสาวขับรถเข้าไปในลานจอด แล้วก้าวเท้าลงมาพร้อมกับรอยยิ้ม เมื่อมองไปยังช่อดอกไม้ที่เบาะหลัง เธอหยิบมันขึ้นมาด้วยความทะนุถนอม หวังว่าผู้ชายคนนั้นคงจะชอบและภรรยาของเขาคงจะถูกใจ จากนั้นฮันน่าจึงรีบเดินเข้าไปในโรงแรมทันที ตอนนี้ก็ใกล้เวลาทุ่มตรงแล้ว ถ้าเธอส่งดอกไม้ไม่ตรงเวลาลูกค้าอาจจะไม่ไปใช้บริการที่ร้านอีกเลยก็ได้
“สวัสดีค่ะดิฉันมาขอพบคุณธาวินค่ะ" ฮันน่าเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์พร้อมกับยื่นนามบัตรให้กับพนักงานต้อนรับของโรงแรม
“สวัสดีค่ะ เชิญเลยค่ะเดี๋ยวดิฉันจะขึ้นไปส่งคุณธาวินได้แจ้งเอาไว้แล้ว" พนักงานสาวสวยยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับกล่าวทักทายฮันน่าจากนั้นหล่อนก็ได้เดินนำหน้าหญิงสาวตรงไปยังลิฟต์ เพราะอีธานอยู่ชั้นบนสุด คือชั้นเก้าและที่สำคัญชั้นนั้นมีเพียงแค่เขาอาศัยอยู่ เพราะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเหมือนบ้านมากกว่าโรงแรมพอฮันน่าเดินออกเดินออกมาจากลิฟต์พนักงานสาวก็ได้กลับลงไปทันที ในเวลานี้ หญิงสาวกำลังตกอยู่ในภวังค์การออกแบบที่ดูน่าอยู่น่าอาศัย ฮันน่ากวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนที่ลีโอจะเดินเข้ามาหาเธอ “เชิญครับ นายให้คุณเข้าไปรออยู่ในห้อง เอาช่อดอกไม้มาเดี๋ยวผมถือเอง เชิญคุณผู้หญิงเข้าไปด้านในเลยครับ" ในเวลานี้ฮันน่าทำตัวไม่ถูกบวกกับความแปลกใจเธอเป็นแค่คนส่งดอกไม้แล้วทำไมต้องเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านในของห้องด้วย แล้วถ้าเขาคิดไม่ซื่อกับเธอจะทำยังไงดี หรือว่าเธอกำลังมองโลกในแง่ร้ายเกินไป ในเมื่อเขาก็มีภรรยาอยู่แล้ว ผู้ชายคนนั้นอาจจะให้เธอเข้าไปนั่งรอ เพื่อจ่ายเงินที่เหลือก็ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นฮันน่า จึงยอมเดินเข้าไปในห้อง และเธอก็ถึงกับตกตะลึงในความหรูหราโอ่อ่าของห้องนี้
“อืม...ออกรถสิ ฉันยอมคุณศิลาจริงๆ ขนาดเลทตั้งหลายชั่วโมงก็ยังจะรอ แสดงว่าโปรเจคนี้คงมีความสำคัญกับเขามาก" อีธานรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง ที่เสี่ยศิลาไม่ยอมเลื่อนนัด เพราะไม่อย่างนั้นแล้วละก็ เขาคงจะแอบเฝ้ามองฮันน่ากับลูกทั้งวัน แต่ตอนนี้เขาคงต้องไปพบหุ้นส่วนรายสำคัญก่อน “อุ้ย! เกือบลืมค่ะแม่นี่เงินค่าช่อดอกไม้พร้อมกับค่ามัดจำช่อใหม่ และนี่นามบัตร" ฮันน่ารับเงินค่าช่อดอกไม้มาจากลูกสาว พร้อมกับนามบัตรแบบงงๆ “คืออะไรกันยา ค่าดอกไม้หกพันส่วนอีกสี่พันค่ามัดจำช่อใหม่หมายความว่ายังไง"ฮันน่าถามลูกสาวออกมาด้วยความแปลกใจ และเมื่อเห็นนามสกุลของนายธาวินที่อยู่บนนามบัตร เธอถึงกับทำตาโตพร้อมกับเอามือขึ้นมาป้องปากเอาไว้ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่นามสกุลก็ทำให้ใจของเธอนั้นเต้นแรง เพราะสิบกว่าปีมาแล้วที่เธอนั้นไม่ได้ข่าวของอีธาน แต่หญิงสาวก็ปรารถนาอยากให้เขามีชีวิตอยู่ ถึงแม้ว่าเธอนั้นไม่อยากพบเจอกับเขาก็ตามที“คุณธาวินเขาสั่งดอกไม้ที่ร้านของเราช่อละเป็นหมื่นเลยนะคะแม่ และ
ในเวลานี้ต่างคนต่างก็จ้องมองกันด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งสองรู้แค่เพียงว่าภายในใจมันรู้สึกดี กันยาเองก็รู้สึกผูกพันกับแววตาของชายหนุ่ม เธอรู้สึกอบอุ่นเวลาที่ได้จ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้า อีธานดูเป็นผู้ใหญ่หล่อสมาร์ตเท่และมีเสน่ห์มาก แต่ความรู้สึกของกันยาเขาเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ที่กำลังจ้องมองเธออย่างเอ็นดู ไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง อีธานยังคงมองไปที่ใบหน้าของกันยาด้วยความรู้สึกถูกชะตา ทันใดนั้นเองเขาได้คิดแผนการบางอย่างขึ้นมา ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้ มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องชดเชยเวลาทั้งหมด เพื่อกลับมาเป็นครอบครัว ดั่งที่ใจเขาเคยปรารถนาเอาไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งเธอเองเป็นคนปฏิเสธและทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดี “ดอกไม้สวยมาก ค่าเดินมาส่งสี่พันรวมเป็น หนึ่งหมื่นหนูนับก่อนก็ได้นะ" อีธานหยิบธนบัตรส่งให้กันยา พร้อมกับเอื้อมมือไปรับช่อดอกไม้จากหญิงสาวมาวางไว้ที่เบาะหลัง “ขอบคุณมากนะคะที่ใช้บริการร้านของเรา แต่กันยาคง
“อืม...ผมเอาช่อนี้ครับ" ลีโอชี้ลงไปที่ภาพของดอกไม้ช่อใหญ่ ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง “ว้าว! แฟนคุณคงดีใจมากเลย นั่งรอสักครู่นะคะ" กันยายิ้มแฉ่งออกมาด้วยใบหน้าที่สดใส ใครเห็นก็บอกว่าโลกทั้งใบเป็นของเธอ เพราะรอยยิ้มที่พิมพ์ใจไม่ต่างจากอีธาน เพียงแค่เค้าโครงใบหน้าเธอได้มารดามาเต็มๆ “พี่แป้งรับออเดอร์ด้วยค่ะ" กันยาตะโกนออกไปเสียงดัง เพราะตอนนี้ไม่มีใครอยู่หน้าร้าน เธอลืมไปว่าทุกคนไปพักรับประทานมื้อกลางวันกันหมด “กันยา...แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าตะโกนเสียงดัง อุ๊ย! ตายแล้ว... ขอโทษด้วยนะคะคุณลูกค้า ที่ลูกสาวดิฉันเผลอเสียมารยาท ตะโกนออกมาเสียงดังแบบนี้" ฮันน่าลุกออกมาจากโต๊ะทำงาน ซึ่งเธอกำลังเช็กออเดอร์ ดูรายชื่อลูกค้าในการจัดงานนอกสถานที่ของเดือนนี้ เมื่อได้ยินเสียงลูกสาวเรียกแป้งร่ำดังลั่นออกมาแบบนั้น ทำให้หญิงสาวร่างอรชรเดินออกมาดูหน้าร้าน
“ลีโอ...ลีโอ ใช่เธอหรือเปล่า... ใช่ฮันน่าไหม ใช่! ต้องใช่เธอแน่!" น้ำเสียงของอีธานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง คำขอโทษของเธอเมื่อสักครู่ ยังคงก้องอยู่ในหัวใจของเขา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นศตวรรษ ชายหนุ่มก็ยังคงจดจำสรีระท่าทางของเธอได้เป็นอย่างดี นั่นฮันน่าภรรยาของเขา ต่อให้เธอแต่งหน้าทาปาก หรือว่าไม่เติมแต่งอะไรลงไปบนใบหน้าเขาก็จำได้จนติดตา ภาพของเธอยังคงตราตรึงในหัวใจของเขาอยู่ทุกวินาที แต่ที่เขาสงสัยในตอนนี้ก็คือเธอมาทำอะไรที่นี่ เพราะนี่คือโรงแรมของเขา “คุณฮันน่าล้านเปอร์เซ็นต์ครับนาย" ดูเหมือนว่าในเวลานี้ ลีโอก็มีความตื่นเต้นไม่แพ้เจ้านายหนุ่มของเขาเช่นกัน “จะรออะไรล่ะ รีบตามเธอไป วันนี้ฉันจะรู้ให้ได้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหนกับใคร เธอหายไปไหนมา" น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความดีใจ แววตาที่เป็นประกายบ่งบอกให้รู้ว่าหัวใจที่ตายด้านกำลังจะฟื้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง “แต่คุณศิลารอนายอยู่
“ความจริงแล้วผมใช้บริการที่ร้านดอกไม้ ของคุณมานานแล้วนะครับ แต่ผมพึ่งรู้ว่าเจ้าของร้านตัวจริงคือคุณฮันน่า ผมคิดว่าเป็นคุณเรยาซะอีก" ฮันน่ารู้สึกเกลียดแววตาของเสี่ยศิลาเหลือเกิน มันดูน่าขนลุกยังไงก็ไม่รู้ ซึ่งเธอไม่เคยได้สัมผัสกับแววตาน่าขยะแขยงแบบนี้มานานแล้ว แต่ฮันน่าก็ต้องทำใจดีสู้เสือ เพราะเขาได้กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ดูเหมือนว่าเสี่ยศิลาจะมีออเดอร์เข้าร้านของเธอบ่อยๆ“ขอบคุณนะคะที่ไว้ใจร้านเรา พอดีว่าลูกโตขึ้น ก็เลยพาเด็กๆ ย้ายมาเข้าเรียนที่นี่ แต่ก่อนดิฉันให้พี่สาวดูแลกิจการให้ แต่ตอนนี้คงต้องเข้ามาดูแลเองทั้งหมดแล้วละค่ะ" คำบอกเล่าของฮันน่าทำให้เสี่ยศิลาถึงกับหน้าเสีย เพราะเขาไม่คิดว่าเธอนั้นจะมีครอบครัวแล้ว แต่ผู้ชายอย่างเขาก็ยังข้องใจ ทำไมไปที่ร้านตั้งหลายครั้ง กลับไม่เคยพบกับสามีของเธอ “คุณเป็นคุณแม่ที่สวยที่สุดในโลกเลยนะครับ สามีของคุณช่างเป็นผู้ชายที่โชคดี ผมชักอยากจะเห็นหน้าอยากทำความรู้จักเขาซะแล้ว" เวลานี้กลายเป็นฮันน่าที่มีสายตาล่อกแล่ก เธอไม่ได้กลัวที่จะบอกเขาว่าเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่หญิงสาวอยากให้ศิลาเข้าใจว่าเธอนั้นมีลูกมีสามีแล้ว เขาไม่ควรทำ