สนามบินสุวรรณภูมิ
ผู้คนมากมายมารอการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ หนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส โดยที่เธอสวมแว่นตากันแดดสีเงินเดินออกมาจากสนามบิน และตรงไปยังรถแท็กซี่ที่เรียกไว้เพื่อให้พาไปยังจุดหมายปลายทาง เมื่อถึงจุดหมายที่ต้องการก็ใกล้ค่ำเสียแล้ว
“จอดตรงนี้แหละค่ะ…นี่เงินค่ะ…ขอบคุณมากนะคะ”
สาวสวยเดินมาหยุดหน้าบ้านพร้อมกระเป๋าเดินทางสีเทาอ่อนสองใบ ก่อนบรรจงถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นดวงตาคู่สวย ก่อนเดินเข้าบ้านหลังงามที่ตั้งตระง่านอยู่ตรงหน้า
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบมาหาใครคะ” เด็กรับใช้ในบ้านถามหญิงสาว
“มาหาคุณอดิศวรกับคุณสาวิตรีค่ะ ไม่ทราบท่านทั้งสองอยู่มั้ยคะ” หญิงสาวที่เดินเข้ามาในบ้านตอบ
“ไม่อยู่ค่ะ พอดีท่านออกไปทานข้าวกับคุณอิน”
“อีกนานมั้ยจ๊ะกว่าจะกลับ”
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เอ่อ…รอสักครู่นะคะเดี๋ยวหนูไปเอาน้ำมาให้”
“ขอบใจจ้ะ เอ่อ แล้วป้านวลอยู่ไหนจ๊ะ” ก่อนที่สาวใช้คนเดิมจะออกไป จึงเรียกไว้
“ป้านวลอยู่หลังบ้านค่ะ” เด็กรับใช้ในบ้านบอกแล้วรีบไปหาน้ำเสิร์ฟ แต่ยังมิวายบอกให้อีกคนไปบอกป้าศรีนวล
“ป้านวลมีแขกมาหา เขาถามหาคุณท่านแล้วยังถามหาป้าด้วยนะ”
“ถามหาข้าเนี่ยนะ รีบเอาน้ำออกไปรับรองรอคุณท่านก่อนเร็ว ๆ”
ในระหว่างรอหญิงสาวจึงเดินสำรวจบ้านไปเรื่อย ๆ ถึงพบว่าบ้านเปลี่ยนแปลงไปมาก
“คุณคะ...หนูเอาน้ำมาให้ค่ะ”
หญิงสาวยิ้มรับก่อนขอบคุณ หยิบน้ำขึ้นมาจิบและเดินดูบ้านไปพลาง ๆ กำลังเพลิดเพลินต้องตกใจกับเสียงเข้มที่ดังมาจากด้านหลัง
“นี่! เธอเป็นใคร! เข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง” อิชย์ถามเสียงเข้ม เขากลับบ้านมาก็เห็นผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาสำรวจบ้าน เมื่อมองพินิจดูได้คิดในใจ
หน้าสวย หุ่นดีใช้ได้
มาถึงก็ดุ ไม่เคยเปลี่ยน เมื่อก่อนเป็นยังไงตอนนี้เหมือนเดิมเป๊ะ หญิงสาวได้แค่คิด
ศรีนวลและเด็กรับใช้ต่างออกจากครัว เมื่อได้ยินเสียงของเจ้านาย
“คุณอิชย์มีอะไรคะ”
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครครับป้า ปล่อยให้มาเดินเล่นในบ้านได้ยังไง”
รสิกาหันหน้ามาเผชิญกับเขา ก่อนทักทายเขาที่คงจะจำเธอไม่ได้จริง ๆ
“สวัสดีค่ะ ฉันมารอพบคุณอดิศรกับคุณสาวิตรีค่ะ”
เอ่ยความประสงค์ออกไป ไม่นานเจ้าของบ้านก็เดินเข้ามา
“นวลมีอะไรเสียงดังไปถึงหน้าบ้านเลย” คุณอดิศวรถาม
“มีคนมาขอพบคุณท่านกับคุณสาค่ะ เธอรออยู่ด้านใน แต่นวลว่าหน้าผู้หญิงคนนั้นคุ้นมากเลยนะคะ” แม่บ้านผู้มากวัยตอบ
ประมุขของบ้านพยักหน้า ก่อนเดินตามศรีนวลไปห้องนั่งเล่นก็พบว่าอิชย์ยืนจ้องหน้าหญิงสาวอย่างไม่ลดละ เมื่อยังไม่ได้คำตอบอย่างที่ต้องการ
“ริตา!!!” สาวิตรีเห็นลูกสาวก็ตกใจ ไม่คิดว่าลูกจะกลับมาเร็วขนาดนี้
“แม่...ริตาคิดถึงแม่จังเลยค่ะ” รสิกาเดินตรงไปหามารดาและอดิศวร ทิ้งให้อิชย์ขบคิดเรื่องผู้หญิงคนนั้น
ยัยตุ่มต่อขา ริตา รสิกา อย่างงั้นหรือ
“แม่ก็คิดถึงลูก เอ…ไหนบอกแม่ว่าจะกลับพรุ่งนี้ล่ะ"
สาวิตรีถาม เพราะเคยโทรคุยเรื่องเวลากลับไทยเมื่อสองวันก่อน
“อยากกลับมาเซอร์ไพรส์แม่นิคะ ว่าถ้าเจอริตาที่บ้านจะมีใครจำริตาได้ไหม” รสิกาบอกมารดา
“ก็ไม่รู้ว่าใครจะเซอร์ไพรส์ใครกันแน่” อิษยาเอ่ยเบา ๆ พลางหันไปมองหน้าพี่ชาย
“ลูกสาวแม่ทั้งคนทำไมจะจำไม่ได้” นางรีบบอกพร้อมทั้งหอมแก้มนุ่ม ๆ ทั้งสองข้าง
“สองแม่ลูก หยุดกอดหยุดหอมกันก่อน หนูริตามาเหนื่อย ๆ นั่งพักเถอะ เดี๋ยวลุงให้แม่บ้านขึ้นไปจัดห้องรับรองให้”
“ขอบคุณค่ะคุณลุง ริตานอนห้องเดิมดีกว่านะคะ”
“เอาอย่างนั้นเหรอลูก”
“ค่ะ ริตานอนห้องเก่าได้ เพราะห้องนั้นริตาอยู่มานานแล้ว”
“ได้ลูก เดี๋ยวลุงสั่งเด็กให้ขึ้นไปทำความสะอาดให้”
“พี่ริตา...อินคิดถึงพี่ริตาที่สุด” อิษยาทรุดนั่งข้าง ๆ รสิกาพร้อมทั้งกอดด้วยความคิดถึง
“พี่ก็คิดถึงน้องอินจ้ะ”
“แม่คะ ริตาอยากทานอาหารฝีมือของแม่จัง อยู่ที่นั่นกินแต่ของเดิม ๆ น่าเบื่อมาก”
“ได้สิลูก เย็นนี้เลยมั้ย”
“มื้อเย็นนี้ริตาขอผ่านนะคะ”
“ได้ยังไง นาน ๆ ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาก็น่าจะร่วมทานข้าวด้วยกันนะ” รสิกาว่าอย่างไม่ยอมให้น้องปฏิเสธการทานข้าวเย็นค่ำนี้
“โธ่ อินไม่ทานข้าวเย็นค่ะ แต่ยังไงเย็นนี้อินขอเกเรแล้วกันเนอะ” เห็นพี่สาวทำหน้าเศร้าอิษยาต้องกลับลำ
นั่งพูดคุยกันอยู่นาน เด็กรับใช้ก็มาตามคุณ ๆ ให้ไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ร่วมไปถึงอิชย์ที่ไม่สามารถเอ่ยปฏิเสธได้
หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายเข้าห้อง คุณอดิศวรก็เข้ามาคุยงานกับอิชย์ที่ห้องหนังสือพ่วงท้ายด้วยเรื่องแต่งงาน
“ตกลงแกว่ายังไง เรื่องที่ฉันขอ” ท่านเริ่มเปิดประเด็น
“ได้ครับ ในเมื่อพ่อพูดแบบนั้นแล้ว ผมจะทำอะไรได้ อีกอย่างผมไม่ยอมให้ของของแม่ตกไปอยู่ในมือของสองแม่ลูกนั่นหรอก”
“พูดให้มันดี ๆ หน่อย อย่าคิดว่าใครเขาอยากได้ของของแกกันเสียหมดนะ”
“ผมพูดตามความจริง คนที่ยอมแต่งงานใหม่ทั้งที่ที่ตัวเองมีลูกอยู่แล้ว หวังไม่กี่อย่างหรอกครับ นอกจากเรื่องเงิน”
“ไอ้อิชย์” อดิศวรเอ็ดบุตรชาย “ตกลงว่าไงจะยอมแต่งงานใช่ไหม”
“ไปถามยัยตุ่มคนที่จะมาเป็นว่าที่เจ้าสาวผมก่อนมั้ยว่าจะตกลงไหม ผมบอกไว้ก่อนนะ เมื่อแต่งแล้วผมจะทำอะไรก็ได้” อิชย์เอ่ยอย่างมีเลศนัยพร้อมรอยยิ้มมุมปากเล็ก ก่อนเดินออกจากห้องหนังสือไป
คู่หวานรสิกา อิชย์ตอนพิเศษรสิกายืนกอดอกอยู่ที่ระเบียงบ้านพักตากอากาศของสามีด้วยใบหน้าบึ้งตึงมองออกไปยังท้องทะเลที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เมื่อได้ยินเสียงออดอ้อนของสามีจอมเจ้าเล่ห์ดังมาจากทางห้องนอน หญิงสาวหันไปมองเล็กน้อยแล้วจึงสะบัดหน้าหนี“เมียจ๋า มายืนทำอะไรตรงนี้”น้ำเสียงออดอ้อนราวกับเสือสิ้นลาย รวบรางของภรรยามากอดเอาไว้พร้อมซบหน้าลงบนไหล่บาง“ไม่ต้องมากอดเลย” เสียงหวานพูดไร้หางเสียงใส่สามี ก่อนจะพยายามแกะมือกาวราวปลาหมึกออกจากเอวคอดกิ่ว“เมียจ๋าเป็นอะไร โกรธพี่เรื่องอะไร” นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของโรงแรมชื่อดังพยายามทำใจเย็นเมื่อพยายามคุยกับเมียตัวน้อยที่ทำกับโกรธเขามาเป็นชาติยืนงอนอยู่เช่นนี้“พี่อิชย์ทำอะไรไว้ล่ะคะ” เอ่ยจบพร้อมสะบัดหน้าไปมองยังดวงตะวันที่กำลังหายลงจมท้องทะเลกว้างที่ฉาบฉายเป็นที่ทองใบหน้าหล่อเหลาทำหน้าฉงนราวกับไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด ก็จริงเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำอะไรผิดจึงถามเมียรักออกไป“พี่ว่าพี่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ”“พี่อิชย์นั่นแหละผิด เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”
เล่ห์ลวงวิวาห์รักอีกคู่หนึ่งดอกรักกำลังผลิบานสวยงาม ระหว่างเอื้องคำกับกฤตย์ ด้วยเกือบเดือนที่ผ่านมาชายหนุ่มคอยเทียวไร้เทียวขื่อก่อกวนหัวใจดวงน้อย ๆ ของเด็กสาวตลอดเวลาที่เขาเดินทางขึ้นมาพร้อมกับเจ้านาย ที่มาง้อนายหญิงสาวที่ไร่แห่งนี้ เด็กสาวคนนี้ตามติดรสิกาตลอด จนบางเวลาอิชย์แทบไม่ได้เข้าใกล้เลย เลยขอร้องให้เอาเด็กสาวคนนี้ออกไปจะได้มีเวลาง้อเมีย“เอื้องจะเดินหนีฉันไปถึงไหน” ชายหนุ่มเดินตามหลังเด็กสาวมาติด ๆ ถาม“ไม่ต้องตามมา กลับไปเลย ไม่ต้องตามหนู”“ไม่ตามได้ไงก็เธอเดินหนีฉัน” ชายหนุ่มสาวเท้ายาว ๆ เพื่อให้ทันคนตัวเล็ก ก่อนจะรวบเข้ามากอด“ปล่อยเดี๋ยวนี้ บอกแล้วไงว่าห้ามโดนตัว” เอื้องคำพูดเสียงเขียว“ใช่เหรอมากกว่านี้ฉันก็ทำมาแล้วนะ ลืมเหรอตัวเล็ก” ชายหนุ่มกระซิบข้างหูแผ่วเบา“กลับไปเลย ไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้าอีกนะ”“ไล่จังเดี๋ยวก็ไม่มาหาจริง ๆ หรอก” ชายหนุ่มขู่เล็กน้อย กำลังจะพูดต่อก็มีเสียงเรียกอันคุ้นหูของเจ้านายหนุ่มดังขึ้นมาเสียก่อนเลยต้องผละออกจากร่างเล็ก“ไอ้กฤตย์อยู่ไหน กลับกันได้แล้ว เดี๋ยวเมียฉันเปลี่ยนใจ
เล่ห์ลวงวิวาห์รักบทส่งท้าย“หลับแล้วเหรอเนี่ย” รสิกาลงถือผ้าห่มมาจากข้างบนเพื่อจะเอามาให้สามี แต่ไม่คิดว่าเขาจะหลับเร็วแบบนี้ “นอนแบบนี้หนาวแย่”แต่หารู้ไม่คนที่นอนอยู่บนโซฟาลืมตาอมยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะแกล้งหลับตาลงพร้อมกับเอาแขนกอดเอวบางจนล้มลงบนตัวเขาเบา ๆ“นี่มันอะไรเนี่ย หลอกกันเหรอ” รสิกาบ่นเบา ๆ แล้วมองหน้าคนที่นอนหลับอยู่“เมียจ๋านอนด้วยนะ นอนคนเดียวมันหนาว” ชายหนุ่มแกล้งละเมอพลางสูดดมความหอมจากเรือนร่างที่กอด“หลับจริงหรือแกล้ง” มือบางพยายามแกะมือหนาออกจากเอว“ลงมาทำไม มันหนาวนะ” คนที่นอนบนโซฟาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“กลัวหนาวตายในบ้าน เลยเอาผ้าห่มมาให้ค่ะ”“น้ำเสียงแบบนี้งอนเรื่องเมื่อเย็นอยู่ใช่ไหม”“เปล่าไม่ได้งอน” หญิงสาวกอดอกเชิดหน้าใส่“แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่างอน” ว่าแล้วชายหนุ่มก็ปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ “พี่ไม่ได้ว่าริตาอ้วนเลยนะ”“ก็พี่ว่าริตาตัวหนัก” รสิกาเงียบไปครู่หนึ่งกำลังจะพูดต่อ แต่ถูกชายหนุ่มขัดก่อน“ที่ว่าหนักหนักเจ้าตัวเล็กด้วยต่างหาก” ว่าแล้วใช้เอา
เล่ห์ลวงวิวาห์รักยอมเมียทุกอย่างตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมารสิกาไม่ได้เห็นหน้าของอิชย์เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาไปไหนหรือทำอะไร หากในใจลึก ๆ ก็อยากรู้ว่าเขานั้นอยู่ที่ไหน เป็นอย่างไรบ้าง ทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ติดต่อกลับมาเลย ปกติก่อนที่เขาจะเงียบ เขาชอบมากดไลก์อินสตาแกรมของเธออยู่บ่อยครั้ง เวลาเธอทำอะไรก็ตาม แต่พักนี้กลับไม่เห็นเขาเข้ามาดูหรือกดไลก์แต่อย่างใด“ไม่คิดจะติดต่อกลับมาเลยอิตาบ้า! โอ้ย! จะไปคิดถึงผู้ชายใจร้ายทำไมล่ะ ลืมสิลืม” มือบางตบศีรษะตัวเองเบา ๆ แต่ถูกมือหนาของใครบางคนจับไว้ราวกับให้หยุดการกระทำที่ทำร้ายตัวเอง เลยเงยหน้าไปมองก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาของคนที่เพิ่งจะบ่นคิดถึงเมื่อครู่“คิดถึงพี่อยู่เหรอจ๊ะเมียจ๋า” ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ ใบหน้านวลที่ขึ้นแดงชมพูระเรื่อ“บ้า! ใครจะไปคิดถึงคนอย่างคุณกัน” หญิงสาวตอบกลับทันควัน เขาพยักหน้าเบะปากเล็กน้อยไม่เชื่อสิ่งที่รสิกาพูด“เอ๋…แล้วเมื่อกี้ใครนะที่บ่นว่าไม่คิดถึงกันหรือไงตาบ้า แถมยังส่องอินสตาแกรมกันอีก คิดถึงพี่ก็บอกมาเถอะ” อิชย์บอกในสิ่งที่ได้ยินทั้งที่ยังไม่ยอมปล
เล่ห์ลวงวิวาห์รักง้อเมีย ภาค 2เอื้องคำที่โดนกฤตย์ลากออกมาโวยวายตลอดทาง แต่ดีที่ชายหนุ่มเอามือปิดปากเด็กสาวไว้ ซึ่งเธอก็ทั้งดิ้นทั้งโวยวาย“ตั่วเป๋นป้อจาย มาโดนโตแม่หญิงมันบ่แม่นเด้อ”“หะ เมื่อกี้เธอว่ายังไงนะ”ชายหนุ่มถามด้วยความไม่เข้าใจ เธอจึงต้องเปลี่ยนภาษาพูดใหม่“ฉันบอกว่าเป็นผู้ชายมาโดนตัวผู้หญิงแบบนี้ไม่ดี”“แบบนี้นี่เอง พูดกลางได้ทำไมไม่พูดตั้งแต่แรก”“แล้วจะปล่อยได้หรือยัง”“โอเค โอเค ฉันปล่อยแล้ว เป็นเด็กเป็นเล็กหัดพูดจากับผู้ใหญ่ดี ๆ หน่อย”“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ” ชายหนุ่มมองอีกครั้ง อืม ๆ ก็ไม่ใช่เด็กแล้วจริง ๆ แฮะ“แล้วคุณลากฉันออกมาแบบนี้ทำไมมิทราบ” เอื้องคำกอดอกถาม“แค่ไม่อยากให้เธอไปเป็นก้างขวางคอคุณอิชย์กับคุณริตา”“แล้วถ้าพี่ริตาเป็นลมขึ้นมาจะทำยังไง”“ไม่ต้องห่วงเจ้านายฉันดูแลได้”“เชอะ แค่บอกไม่ให้ไปเป็นก้างเจ้านาย ไม่เห็นต้องลากออกมาแบบนี้เลย บอกฉันดี ๆ ก็ได้” ว่าแล้วก็หันหลังจะเดินกลับไปยังบ้านพัก“เดี๋ยว! แล้วจะไปไหน ฉันยังไม่รู้จักชื่อ
เล่ห์ลวงวิวาห์รัก พาร์ททื่สี่สิบหกค่ะเวลาล่วงเลยมาเกือบเย็น ชายหนุ่มยังคงรอหญิงสาวอยู่หน้าบ้าน ไม่กล้าเข้าไป จนได้เวลาของหญิงสูงอายุนามว่ายายสายใจ เจ้าของส้มสายใจกลับเข้าบ้าน ซึ่งเป็นคุณยายของรสิกา“เอ้า! พ่อหนุ่มมายืนอะไรอยู่ตรงนี้”“สวัสดีครับคุณยาย ผมเป็นสามีของริตาครับ”“อิชย์เหรอลูก มา ๆ เข้าบ้านก่อน” นางเอ่ยชวนหลานเขยที่นางเคยเจอตอนงานแต่งงานของหลานสาว“ขอบคุณครับคุณยาย”“นั่งก่อนสิลูก ว่าแต่มาทำอะไรมืดค่ำแบบนี้”“ผมมาหาริตาครับ”“แล้วทำไมไม่เข้ามานั่งรอในบ้านล่ะ”“ผมไม่กล้าเข้ามานั่งข้างในครับ ผมกลัวริตาโกรธหนักกว่าเดิม”“งั้นยายขอถามหน่อยว่าทำไมริตาถึงมาที่นี้ อิชย์ทำอะไรหลานยาย”“ผมทำไม่ดีกับริตาครับ ผมเข้าใจเธอผิด ริตาเลยหนีมา” จากนั้นชายหนุ่มก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับหญิงชราฟัง“ยายขอถามอิชย์อีกอย่าง อิชย์รักหลานยายมั้ยลูก”“รักครับ ผมรักริตามาก ๆ” เขาตอบโดยไม่ต้องคิด หญิงชราที่ท่าทางแข็งแรงพยักหน้าเบา ๆ“งั้นเอาเป็นว่ายายจะช่วยนะ เพราะเห็นแก่เหลนไม่อยากให้กำพร้าพ่อ”