เข้าใจผิด 4
"ม่านไม่อยากคุยกับคุณสอง ลุกออกจากตัวม่านค่ะ ม่านจะไปนอนที่บ้านเพื่อน" ว่าแล้วผลักร่างสูงให้ออกห่าง แต่ผลักเท่าไรก็ไม่ได้ผลจึงเปลี่ยนเป็นขยับกายออกห่างแทน
"ฉันไม่ให้ไป...จะไปหาเพื่อนหรือแรดไปหาผัวน้อง" เพราะมีความผิดหวังที่ฝังใจเกี่ยวกับอดีตแฟนสาวอย่างรวิดาที่ถูกปรานต์แย่งไป รณพีร์จึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไม่ยอมอ่อนข้อให้ม่านทิวาเลย
"จะดูถูกกันเกินไปแล้วนะคะพี่สอง"
ว่าแล้วก็ขยับกายออกห่างชายหนุ่มอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาคว้าข้อมือของหญิงสาวมาตรึงเหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียว
ท่ามกลางการดิ้นรนเอาตัวรอดของม่านทิวา สายตาคมมองหาสิ่งของบางอย่างที่เขาเคยเอาไว้ข้างหัวเตียง ก่อนยกยิ้มอย่างร้ายกาจเมื่อพบสิ่งที่ต้องการ เขาเอื้อมมือไปคว้ามันขึ้นมาด้วยมืออีกข้างที่ว่าง จับสิ่งนั้นล็อกเข้ากับข้อมือเล็กทั้งสองข้างของม่านทิวา
"พี่สองปล่อยม่านนะ เอาโซ่มาล็อกข้อมือม่านทำไม" หญิงสาวถามอย่างตื่นกลัว จ้องมองการกระทำของคนเหนือร่างที่กำลังปลดเสื้อผ้าออกจากกายแล้วเหวี่ยงมันไปมุมใดมุมหนึ่งของห้อง ตามด้วยกางเกงผ้าเนื้อดี
"ฉันก็จะทำให้เธอหายร่าน...จะได้ไม่ต้อ
รณพีร์กำลังขะมักเขม้นกับการทำอาหารด้วยเตาถ่านที่หลังบ้านของม่านทิวาอย่างใจสู้ เพราะว่าเขาไม่เคยใช้มันมาก่อน ตอนที่อยู่ต่างประเทศเขาทำอาหารรับประทานเองก็จริงแต่เครื่องครัวมันทันสมัยกว่านี้ พอมาลองทำอะไรแบบนี้บอกตรง ๆ ว่าเริ่มต้นไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดี จนเขาต้องเปิดคลิปวิดีโอจากยูทูปทำตามขั้นตอนทุกอย่างที่สอนในคลิปวิดีโอชายหนุ่มอยากทำอาหารให้ลูกกับเมียได้ลองชิมฝีมือเขาครั้งแรกระหว่างที่ม่านทิวานอนกลางวัน เธอเพิ่งกลับจากการไปทำงานที่บ้านของย่าเขา ครั้นจะห้ามทำก็กลัวเมียจะโกรธจึงต้องปล่อยเลยตามเลย ให้ทำงานเบา ๆ ไม่หนักจนเกินไปไม่อยากขัดใจเมีย ถ้าเธอโกรธมันจะพลอยกระทบกระเทือนถึงลูกในท้อง“ไฟแรงเกินไป มันต้องทำยังไงวะ” บ่นกับตัวเองอย่างหัวเสียเพราะหลังจากเทไข่เจียวหมูสับลงในกระทะที่มีน้ำร้อนจัด ไฟในเตาก็ยิ่งโหมลุกรุนแรงมากยิ่งขึ้นทำเอาไข่เจียวของเขามีกลิ่นไหม้ขึ้นมาทันที“ฉิบหายแล้ว…ไหม้หมดแล้ว!”“พี่สองทำอะไรคะ กลิ่นไหม้ฟุ้งกระจายเต็มบ้านเลย”เป็นจังหวะเดียวกันกับม่านทิวาที่ตื่นจากการนอนกลางวันพอดี เธอออกจากห้องมาดูเพราะได้กลิ่นเหม็นไหม้มาจากทางหลังบ้าน
“เอาน้ำหอมปรับอากาศในรถออกหรือยังคะ” เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนหน้านี้เธอนั่งรถคันไหน ๆ ก็ต้องเวียนหัวทุกครั้งไปเพราะกลิ่นน้ำยาปรับอากาศในรถ ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก็เลยไปตรวจดูพบว่าอาการคลื่นเหียนอาเจียนบ่อย ๆ ของเธอนั้นมาจากอาการตั้งครรภ์“เอาออกแล้วน่า รถคันนี้พี่พึ่งจะซื้อมาใหม่ เราไม่มีทางเวียนหัวแน่นอน รู้ว่าท้องอยู่…หลานไม่ชอบ”หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนก้าวขึ้นรถไป ผิดกับนทีที่พอจะได้ยินว่าธาริกาอาเจียนเวียนหัวเพราะเหตุใด เขาจะไม่มีทางปล่อยเธอกับลูกออกจากอกแน่นอนชายหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์มองรถที่ขับออกไปอย่างนิ่งนอนใจและตัดสินใจขับตามไปห่าง ๆ แน่นอนว่าต้องไปสนามบินสุวรรณภูมิ นทีหยิบพาสปอร์ตที่เขาแอบเก็บเอาไว้ในลิ้นชักหน้ารถของตนขึ้นมาดูอยากจะรู้นักถ้าไม่มีพาสปอร์ตนี่…เธอจะหนีเขาไปไหนได้!ธาริกามาถึงสนามบินสุวรรณภูมิประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปโหลดกระเป๋าให้เรียบร้อยเพราะยังไม่ถึงเวลาขึ้นเครื่อง เธอจึงนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือรอไปพลาง ๆ ตลอดการจับโทรศัพท์มือถือของเธอนั้นนทีพยายามโทร.หาและส่งข้อความมาตลอด แต่หญิงสาวกลับไม่
ตอนพิเศษ 1นที VS ธาริกาทุกคนต่างพากันร่วมแสดงความยินดีกับคู่สามีภรรยาที่ปรับความเข้าใจกันได้เสียที หลังจากที่ไม่เข้าใจกันมานานนับหลายเดือน ธาริกามองภาพของม่านทิวาที่ยิ้มอย่างมีความสุขกับรณพีร์อยู่คู่หนึ่งก็หาจังหวะปลีกตัวออกจากงานที่มากมายไปด้วยผู้คนทุกคนต่างหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน รวมทั้งเพื่อนสาวทั้งสองของเธอที่กำลังคบหาดูใจกับสองหนุ่มหล่ออย่างพชรและจอมพล หญิงสาวรอจังหวะที่ไม่มีสายตาคู่คมคอยจับจ้องรีบถอยห่างออกมาจากตรงนั้นทันทีธาริกาเดินลัดเลาะตามแนวทางเดินของสวนคุณย่ามาลัยไปยังบ้านเช่าที่ตนกับม่านทิวาเช่าอยู่ด้วยกัน นับตั้งแต่ที่พาว่าที่คุณแม่หนีออกมาจากโรงพยาบาล หญิงสาวคอยลอบมองซ้ายมองขวาว่าจะมีใครแอบตามเธอมาหรือไม่ หลังจากที่ดูจนแน่ใจว่าไม่มีใครตามมาจึงรีบเดินไปยังประตูหน้าบ้านทันที เพื่อที่จะเอากระเป๋าเดินทางใบเล็กของเธอที่ลืมหยิบออกมาตั้งแต่แรก เมียงมองหากระเป๋าใบใหญ่ของตนแต่ก็ไม่พบ แต่พอลองนึกย้อนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้นทีเป็นคนที่คว้าเอาของของเธอไปถือไว้หน้าตาเฉยตอนนี้กร
อีกด้านหนึ่งเมื่อรณพีร์พาม่านทิวาออกมาเดินสูดอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติและความร่มรื่นภายในสวนของย่ามาลัย หญิงสาวสังเกตบรรยากาศโดยรอบดูแปลกตากว่าปกติ คนงานที่เคยมีกลับไร้ผู้คน มีแต่เพียงการจัดเตรียมสถานที่ไว้เพื่องานบางอย่างซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่างานอะไร“พามาที่นี่ทำไมคะ” สายตาหวานกวาดมองไปรอบ ๆ รู้สึกถึงความผิดปกติของสวนแห่งนี้ที่แปลกตากว่าทุกวัน"ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่เห็นว่าตรงนี้มันเงียบดี พี่อยากคุยกับม่านอีกสักครั้ง เกี่ยวกับเรื่องของเรา"น้ำเสียงของเขาจริงจังกว่าปกติ ว่าที่คนเป็นแม่ยังคงมองเขานิ่งจนรู้สึกใจแป้วก่อนเอ่ยประโยคต่อมา"พี่อยากขอโอกาสอีกสักครั้ง ให้พี่ได้ทำหน้าที่พ่อและหน้าที่สามีอีกสักครั้งนะม่าน พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้ม่านเสียใจอีก ถ้าพี่ผิดคำสัญญาพี่ขอ..." ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยค นิ้วเรียวของหญิงสาวแตะห้ามที่ริมฝีปากของเขาที่กำลังจะเอ่ยคำมั่นสัญญาต่อหน้าเธอทันที"อย่าพูดนะ" ว่าที่คุณแม่ห้ามเอาไว้เพราะกลัวว่าเขาจะสัญญาอะไรไม่ดีจนถึงแก่ชีวิต ช่วงนี้เธอยิ่งฝันไม่ค่อยดีอยู่ด้วย"ทำไมล่ะ ม่านจะไม่ให้โอกาสพี่สักครั้งเลยเหรอ" รณพีร์
“ง้อแบบนี้เมื่อไรจะได้เมียคืนกันเล่า ลองปรับเปลี่ยนวิธีเอาใจเยอะ ๆ อ้อนเมียบ่อย ๆ คำไหนที่เมียอยากได้ยินและยังไม่ได้พูด…ก็บอกให้เมียรู้ซะ” ย่ามาลัยแนะนำหลานชาย อยากให้หลานกลับมามีครอบครัวที่อบอุ่นอีกครั้ง"ครับคุณย่า ผมจะง้อเอาเมียคืนมาให้ได้""สู้ ๆ นะหลานย่า"นางชูสองนิ้วขึ้นมาเป็นกำลังใจให้หลานชาย ส่วนคนเป็นหลานยิ้มรับเมื่อได้กำลังใจเต็มเปี่ยม…แล้ววิ่งตามม่านทิวาไปยังบ้านหลังน้อยให้เร็วที่สุดแต่เมื่อไปถึงกับต้องตกใจกับรถยนต์ป้ายทะเบียนคุ้นตาที่จอดอยู่หน้าบ้านของเมียทั้งหมดสามคัน หนึ่งในนั้นเป็นรถของธาริกาคันหนึ่ง พอเดินเข้าใกล้ตัวบ้านก็ได้ยินเสียงหัวเราะขบขันประสานเสียงกันยกใหญ่"ไอ้จิณณ์ ไอ้เพชร มาที่นี่ได้ไงวะ" รณพีร์ประหลาดใจไม่น้อยที่เห็นเพื่อนสนิทมานั่งอยู่ในบ้านเมีย และยิ่งประหลาดใจขึ้นไปอีกเมื่อคนที่นั่งข้าง ๆ เพื่อนเขา คือเพื่อนของม่านทิวาอย่างอัญญ์และปอแก้ว"ทำไมจะมาไม่ได้ ก็แฟนกูมาหาเพื่อนมันผิดตรงไหน" จอมพลบอกพลางโอบไหล่บางของปอแก้วเอาไว้บอกให้รู้ว่าเป็นแฟนกันอยู่ ก่อนถามกลับคนที่ตามง้อเมียเป็นเดือน ๆ แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะคืน
เวรกรรมได้สนองสองแม่ลูกอย่างสาสมแล้วที่ไปทำร้ายคนดี ๆ อย่างม่านทิวา รวมถึงตัวเขาด้วยที่ไปทำร้ายคนดีอย่างเธอ ทำให้เขาต้องมานั่งทุกข์ทรมานใจเพราะรักเธอในวันที่สายไป...“ฉันขอถามคุณเป็นคำถามสุดท้ายได้ไหมคะ…” ธารริกานิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยออกมา “…คุณรักเพื่อนฉันไหม”“ผมระ…” คนโดนถามกำลังจะตอบกลับด้วยแววตาเป็นประกายมีความรัก แต่ถูกหญิงสาวห้ามเอาไว้เสียก่อน“คำนั้นเอาไว้พูดกับเพื่อนฉันเองจะดีกว่าค่ะ”“ขอบคุณครับ”“ถ้างั้นฉันขอกลับก่อน…ไว้จะมาใหม่ ง้อให้ได้นะคะถ้าคุณรักเพื่อนฉันอย่างจริงใจ” หญิงสาวเอี้ยวตัวน้อย ๆ เพื่อบอกกับชายหนุ่มที่ตั้งใจมาง้อเมียให้กลับไปอยู่ด้วยกันอีกครั้ง“คุณไม่อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนเหรอ”“ถ้ายัยม่านถามบอกว่าฉันมีธุระด่วน ฝากดูแลเพื่อนกับหลานฉันด้วยนะคะ”จากนั้นธาริกาก็เดินตรงไปยังรถยนต์ส่วนตัวและขับออกไปในที่สุด ชายหนุ่มจึงเดินกลับเข้าบ้านไปหาแม่ของลูก…ที่ไม่รู้ว่าป่านนี้จะทำอาหารเสร็จหรือยังจังหวะนั้นเองที่ชายหนุ่มกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในตัวบ้าน อยู่ ๆ ม่านทิวาก็ปิดประตูใส่หน้าเขาอย่