“ตาสองนี่ยังไงนะ ไม่ยอมมากลับมาดูแลเมียตัวเองเลย ไม่รู้หรือไงว่าเมียไม่สบายอยู่เนี่ย”
คุณนายสรวงสุดากางพัดขึ้นมาพัดกระพือพับ ๆ บรรเทาความเดือดดาลในใจที่มีต่อบุตรชาย มองม่านทิวาที่กำลังจูงมือน้องพายเข้ามาในบ้าน ในขณะที่แขนข้างหนึ่งเข้าเฝือกอยู่ยังขยับและทำอะไรไม่ได้มาก
และนี่ก็ปาเข้าไปสองวันแล้วด้วย!
“คุณแม่บ่นอะไรคะ”
“บ่นลูกชายตัวดี มีเมียไม่ยอมดูแล โทรศัพท์ก็ไม่ยอมรับสาย แล้วหนูม่านโทร.หาพี่เขาติดไหมลูก”
"พี่สองไม่รับสายม่านเหมือนกันค่ะ"
ใบหน้าหวานเศร้าหมองลงถนัดตาเพราะรณพีร์ไม่รับสายจากเธอเลย เอาแต่หลบหน้า ไม่รู้หรือยังไงว่าเธออยากอธิบายให้เขาฟังอีกสักครั้ง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเองว่าเธอไม่ได้หักหลังหรือทำอะไรลับหลังเขาแบบนั้นเลย
เพียงแค่เวลาผ่านไปสองวันมันก็ทำให้เธอร้อนรนไม่น้อย ความคิด ความรู้สึกต่าง ๆ ตีรวนไปหมดไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
แต่แล้วความรู้สึกพะอืดพะอมชวนอาเจียนทำให้คนตัวเล็กต้องรีบลุกจากโซฟาตรงเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความตกใจของคุณนายเจ้าของบ้านที่ขยับลุกขึ้นตามมาดูอาการไม่ห่าง
"หนูม่านไห
"ไปเอามา!" ตะคอกกลับเสียงดัง ทำเอาทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าสะดุ้งโหยง"ครับ" ลูกน้องหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วงและออกไปเอาเอกสารมาให้เจ้านายตามคำบัญชา ก่อนพยักหน้าให้เลอเน่ตามออกมาเพราะดูท่าทางแล้วว่า...หากไม่ได้ดั่งใจมีหวังระเบิดลงหัวเป็นแน่"ธัน เลอเน่ เอกสารได้หรือยัง"รณพีร์ตะโกนถามอย่างหัวเสียที่ลูกน้องทำอะไรชักช้าไม่ได้ดั่งใจเขาสักอย่าง ประตูห้องทำงานก็เปิดออก ทว่าคนที่เข้ามากลับไม่ใช่ธันวา แต่เป็นนที จอมพล และพชรที่เข้ามาหารองประธานบริหารที่ดูท่าทางแล้วจะโกรธฉุนเฉียวไม่น้อย"เอา! เอกสารมึง จะทำงานหนักไปถึงไหนวะ" จอมพลวางเอกสารที่เอามาจากธันวาลงตรงหน้ารณพีร์"พวกมึงมาทำไมวะ" ถามราวกับว่าไม่พอใจ ที่เห็นเพื่อนทั้งสามมาพร้อมหน้าพร้อมตากันโดยไม่ได้นัดเอาไว้ก่อน"พวกกูมาหามึงไงไอ้สอง ว่าแต่มึงเป็นอะไร...หายหัวไปตั้งแต่งานเปิดตัวเครื่องเพชรชุดใหม่ของไอ้เพชร" นทีล้วงกระเป๋าเอ่ยถามคนตรงหน้าที่กำลังทำงานอย่างไม่สนใจพวกเขาเลย"ไม่ได้เป็นอะไร กูแค่อยากทำงาน""มึงจะทำงานก็ทำได้ แต่ไม่ใช่โหมงานหนักขนาดนี้ แล้วนี่มึงกลับบ้านไ
“ตาสองนี่ยังไงนะ ไม่ยอมมากลับมาดูแลเมียตัวเองเลย ไม่รู้หรือไงว่าเมียไม่สบายอยู่เนี่ย”คุณนายสรวงสุดากางพัดขึ้นมาพัดกระพือพับ ๆ บรรเทาความเดือดดาลในใจที่มีต่อบุตรชาย มองม่านทิวาที่กำลังจูงมือน้องพายเข้ามาในบ้าน ในขณะที่แขนข้างหนึ่งเข้าเฝือกอยู่ยังขยับและทำอะไรไม่ได้มากและนี่ก็ปาเข้าไปสองวันแล้วด้วย!“คุณแม่บ่นอะไรคะ”“บ่นลูกชายตัวดี มีเมียไม่ยอมดูแล โทรศัพท์ก็ไม่ยอมรับสาย แล้วหนูม่านโทร.หาพี่เขาติดไหมลูก”"พี่สองไม่รับสายม่านเหมือนกันค่ะ"ใบหน้าหวานเศร้าหมองลงถนัดตาเพราะรณพีร์ไม่รับสายจากเธอเลย เอาแต่หลบหน้า ไม่รู้หรือยังไงว่าเธออยากอธิบายให้เขาฟังอีกสักครั้ง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเองว่าเธอไม่ได้หักหลังหรือทำอะไรลับหลังเขาแบบนั้นเลยเพียงแค่เวลาผ่านไปสองวันมันก็ทำให้เธอร้อนรนไม่น้อย ความคิด ความรู้สึกต่าง ๆ ตีรวนไปหมดไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีแต่แล้วความรู้สึกพะอืดพะอมชวนอาเจียนทำให้คนตัวเล็กต้องรีบลุกจากโซฟาตรงเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความตกใจของคุณนายเจ้าของบ้านที่ขยับลุกขึ้นตามมาดูอาการไม่ห่าง"หนูม่านไห
เข้าใจผิด 4"ม่านไม่อยากคุยกับคุณสอง ลุกออกจากตัวม่านค่ะ ม่านจะไปนอนที่บ้านเพื่อน" ว่าแล้วผลักร่างสูงให้ออกห่าง แต่ผลักเท่าไรก็ไม่ได้ผลจึงเปลี่ยนเป็นขยับกายออกห่างแทน"ฉันไม่ให้ไป...จะไปหาเพื่อนหรือแรดไปหาผัวน้อง" เพราะมีความผิดหวังที่ฝังใจเกี่ยวกับอดีตแฟนสาวอย่างรวิดาที่ถูกปรานต์แย่งไป รณพีร์จึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไม่ยอมอ่อนข้อให้ม่านทิวาเลย"จะดูถูกกันเกินไปแล้วนะคะพี่สอง"ว่าแล้วก็ขยับกายออกห่างชายหนุ่มอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาคว้าข้อมือของหญิงสาวมาตรึงเหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียวท่ามกลางการดิ้นรนเอาตัวรอดของม่านทิวา สายตาคมมองหาสิ่งของบางอย่างที่เขาเคยเอาไว้ข้างหัวเตียง ก่อนยกยิ้มอย่างร้ายกาจเมื่อพบสิ่งที่ต้องการ เขาเอื้อมมือไปคว้ามันขึ้นมาด้วยมืออีกข้างที่ว่าง จับสิ่งนั้นล็อกเข้ากับข้อมือเล็กทั้งสองข้างของม่านทิวา"พี่สองปล่อยม่านนะ เอาโซ่มาล็อกข้อมือม่านทำไม" หญิงสาวถามอย่างตื่นกลัว จ้องมองการกระทำของคนเหนือร่างที่กำลังปลดเสื้อผ้าออกจากกายแล้วเหวี่ยงมันไปมุมใดมุมหนึ่งของห้อง ตามด้วยกางเกงผ้าเนื้อดี"ฉันก็จะทำให้เธอหายร่าน...จะได้ไม่ต้อ
“ขอโทษที เครื่องเพชรชุดนี้ผมอยากได้เอาไปให้เมีย” แล้วเหล่ตามองรวิดา เขายิ้มหยันใส่หน้าหล่อนอย่างผู้ชนะแล้วเดินไปด้านหลังเวทีทันทีทันใดรวิดากำหมัดด้วยความเจ็บใจที่ถูกหยามน้ำหน้า และเสียเครื่องเพชรชุดนั้นให้กับพี่สาวนอกไส้ไปอีกหนึ่งอย่าง ตอนนี้หล่อนทั้งเกลียดและอิจฉาม่านทิวาจับใจ"กลับบ้าน!"ไม่พูดพร่ำทำเพลง รณพีร์คว้าข้อมือเล็กของภรรยาแล้วพาเดินออกไปทันที ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยซ้ำ ถอดเพียงเครื่องเพชรออกก่อนเท่านั้น"ไอ้สองจะทำอะไรวะ กูอธิบายเรื่องนี้ได้นะเว้ย"พชรรีบเข้ามาไกล่เกลี่ยทันที เพราะดูจากท่าทางของเพื่อนแล้วนางแบบสาวจำเป็นคงงานเข้าอย่างจังเป็นแน่"มึงไม่ต้องยุ่ง ส่วนเรื่องเงินเดี๋ยวกูจัดการให้ อ้อ...ฝากจัดการกับนักข่าวให้กูด้วย อย่าให้ข่าวกูแพร่งพร่ายออกไปเป็นอันขาด" รณพีร์บอกเพียงเท่านั้นก็รีบพาเมียตัวน้อยไปทางลิฟต์สำหรับขนของ และพาหญิงสาวกลับเพนต์เฮาส์ทันที"พี่สองปล่อย ม่านเจ็บนะคะ"คนตัวเล็กดิ้นรนตลอดทางที่รณพีร์ฉุดกระชากให้เดินมาตามแรง จนชายหนุ่มต้องหันมาจับม่านทิวาขึ้นพาดบ่าเดินตรงเข้าห้องนอน
"แต่ม่านทำไม่ได้ คุณสองอยู่ในงานนี้ด้วยม่านช่วยไม่ได้จริง ๆ ค่ะ""เรื่องไอ้สองคุณม่านไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจัดการให้เอง""แต่ว่า...""คุณม่านขา ช่วยหน่อยนะคะ" ผู้จัดการของดาราสาวคุกเข่าอ้อนวอนขอร้อง เมื่อถึงคิวที่ดาราสาวจะต้องขึ้นเวทีแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอจะโดนค่าปรับจากเพชรเป็นเงินไม่ใช่น้อย"กลัวผัวด่าเหรอม่าน" ปอแก้วเดินมากระซิบถามเพื่อน เพราะเข้ามาตามนางแบบทันที"อือ" ม่านทิวาครางรับในลำคอ"คุณม่านครับช่วยผมหน่อยนะครับ ส่วนเรื่องของไอ้สอง...เดี๋ยวผมช่วยยืนยันให้เอง" พชรให้คำมั่นสัญญา"เดี๋ยวฉันเป็นพยานให้อีกคน...นะ" ปอแก้วช่วยพชรอีกแรง ไม่อยากให้งานต้องพังตอนจบ"ก็ได้ค่ะ...ม่านช่วยก็ได้"สิ้นคำตอบรับของม่านทิวา เธอก็ถูกดึงตัวเข้าไปแปลงโฉมใหม่ทันที ไม่นานก็ออกมาในขุดเดรสสีแดงเลือดนกโชว์แผ่นหลัง อีกทั้งสวมเครื่องเพชรชุดใหม่ล่าสุดที่เป็นไฮไลต์ของงานม่านทิวาอยู่ในชุดสวยหรูด้วยอาการกังวล ประหม่า และขวยเขินในเวลาเดียวกัน"ยัยม่าน...แกสวยมากเลยรู้ไหม""ฉันเครียดอะยัยปอ...ฉันทำไม่ได้" คนตัวเล็กคว้ามือของเพื
ร่างเล็กบอบบางกลับถึงเพนต์เฮาส์หรูหราในเวลาเกือบเที่ยงคืน...ทันทีที่เธอออกจากโรงแรมซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน ก็รีบตรงมายังรถยนต์สีขาวคันหรูที่สามีซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมชาร์จแบตฯ โทรศัพท์มือถือและรีบเปิดเครื่องทันที ก็พบว่าคนเป็นสามีได้โทร.หาเธอเกือบยี่สิบสายพร้อมทั้งส่งข้อความมาทางแอปพลิเคชันไลน์อีกหลายข้อความ ไม่รู้เธอจะโดนเขาต่อว่าอะไรบ้าง ทั้งเรื่องไม่ยอมรับสายและไหนจะกลับบ้านดึก แถมยังไม่ได้บอกชายหนุ่มอีกด้วยมือเรียวคลำหาสวิตช์เพื่อที่จะเปิดไฟให้แสงสว่าง เธอจะเดินเอาของไปเก็บที่ห้องครัว"ทำไมเพิ่งกลับบ้านเอาป่านนี้"คนพี่เพิ่งกลับถึงบ้านต้องชะงัก มองไปยังต้นเสียงที่ขุ่นมัวไม่ใช่น้อย"พี่สองยังไม่นอนอีกเหรอคะ""ฉันถามว่าทำไม่เพิ่งกลับเอาป่านนี้" เสียงเข้มขุ่นถามกลับ ทำเอาคนที่ย้อนถามซื่อ ๆ ไปไม่ถูก"ม่านไปช่วยงานเพื่อนมาค่ะ" ตอบกลับยิ้ม ๆ พร้อมทั้งทำท่าทางใจดีสู้เสือ"ฉันไม่ได้ห้ามที่เธอจะไปช่วยงานเพื่อน แต่ฉันโทร.ไปหลายสายทำไมไม่รับ" น้ำเสียงของคนตรงหน้าทั้งโมโห โกรธ และเป็นห่วงหญิงสาว"ม่านขอโ
“งานนี้แกสองคนต้องช่วยฉันอีกแล้วล่ะ วันนี้วีวี่ไปเสนองานให้ลูกค้าอีกราย ถ้าทำคนเดียวฉันตายแน่” ปอแก้วพูดอ้อนเพื่อนทั้งสองคน หลังจากผู้ว่าจ้างหนุ่มเดินออกไปจากห้องบอลรูมขนาดใหญ่“โถแม่คุณ...มาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ช่วยก็ไม่รู้จะถอนตัวยังไงแล้วยัยปอ” อัญญ์หันมาบีบแก้มยุ้ย ๆ ของเพื่อนอย่างน่ามันเขี้ยวกับสายตาและท่าทางอ้อน ๆ นั้น“แล้วแกล่ะยัยม่าน”“ช่วยอยู่แล้ว แต่ก่อนอื่นเลย...จากที่ดูเนี่ย ผ้าที่เอาไว้ตกแต่งเวทีมันไม่พอหรอก”“จริงด้วย งั้นไปตลาดซื้อผ้ากัน” ปอแก้วเสนอ“นอกจากผ้าแล้วก็ไปแวะซื้อของตกแต่งเพิ่ม แล้วก็ไปเก็บเงินกับอีตาคนหน้าเลือดคนนั้นด้วย” อัญญ์อดที่จะเหน็บแนมคนที่เดินจากไปไม่นานไม่ได้เลย“รู้แล้วน่า! เขี้ยวจริง ๆ เลยเพื่อนฉันเนี่ย” อยู่ ๆ ก็มีสายเรียกเข้าทำให้ปอแก้วหยุดสนทนากับเพื่อนมากดรับสาย ครู่หนึ่งก็วางไปด้วยสีหน้าเครียด ๆ“มีอะไรหรือเปล่าแก” ม่านทิวาถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อน“แก...ฉันต้องเอางานแก้ไขไปเสนอคุณปรานต์อีกรอบอะ เลขาฯ คุณปรานต์โทร.มาคอนเฟิร์มเวลา...อีกยี่สิบนาทีถึงเวลานัดแล้ว ฉันลืมสนิทเลยทำไงดี”
สาวเจ้าบอกอย่างเร่งร้อน รีบคว้ากระเป๋าของตนแล้วออกจากบ้านไป แต่ก็ต้องชะงักเพราะเสียงเรียกของแม่บ้านใจดี ว่าเธอนั้นลืมกล่องขนมบัวลอยที่จะเอาไปให้รณพีร์ นางรีบเดินเอามาให้และม่านทิวาก็ออกจากบ้านไปยังจุดหมายให้เร็วที่สุด เพราะเพื่อนของม่านทิวาส่งข้อความมาบอกว่าต้องเข้าไปดูสถานที่จัดงานเปิดตัวเครื่องเพชรใหม่ทันทีที่ม่านทิวาไปถึงก็พบกับปัญหาสองสามอย่าง เธอไม่ได้มีประสบการณ์ในการรับจัดอีเวนต์โดยตรงและเธอก็ไม่ใช่แม่งานในโพรเจกต์นี้ด้วย ทีมงานของปอแก้วได้มาวัดสถานที่ไปแล้วเมื่อเดือนก่อน แต่มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดงานกะทันหันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้สิ่งที่เตรียมเอาไว้เกิดการผิดพลาดแต่ก็ยังพอปรับแก้ได้“มีอะไรกันเหรอแก” ม่านทิวาตรงเข้ามาถามเพื่อนที่ยืนรวมทีมกันพร้อมกับผู้ว่าจ้างอย่างพชร“สวัสดีครับคุณม่าน” พชรทักทายภรรยาเพื่อนสนิท ก่อนที่เพื่อนของหญิงสาวจะตอบเสียอีก“สวัสดีค่ะคุณเพชร” คนมาใหม่ทักทายกลับก่อนหันไปถามเพื่อนที่กำลังมองพชรอย่างไม่พอใจ และอีกคนที่กำลังห้ามปรามอย่างปอแก้ว “มีอะไรกันเหรอ”“ก็…” ยังไม่ทันที่อัญญ์จะตอบกลับด้วยท่า
“สวัสดีค่ะคุณม่าน ไม่ได้เจอตั้งหลายวันเลยนะคะ คุณหญิงบ่นหาทุกวันเลยค่ะ” เจียมจิตฟ้องม่านทิวาทันทีเพราะคุณนายสรวงสุดาบ่นคิดถึงทุกวันจริง ๆ“แม่เจียมก็ว่าไป ฉันไม่ได้บ่นอะไรขนาดนั้นเสียหน่อย”“ม่านขอโทษนะคะคุณแม่ พอดีช่วงนี้ติดงานนิดหน่อย แล้วก็เอ่อ...ไปที่บริษัทกับคุณสองด้วยค่ะ” ม่านทิวารีบขอโทษแม่สามีทันที หลังจากล้างมือเตรียมช่วยส้มกับหวานปั้นลูกบัวลอย“เดี๋ยวนี้ยังไงกันนะ ตาสองไม่ค่อยปล่อยหนูม่านมาหาแม่เลย” นางอดที่จะบ่นบุตรชายคนเล็กไม่ได้ที่ไม่ยอมปล่อยให้ลูกสะใภ้คนเล็กมาหานาง“หรือว่าหนูม่านกำลังเตรียมจะมีหลานให้แม่อุ้มหรือเปล่าลูก พอจะมีวี่แววบ้างหรือยัง”นางอดคิดไม่ได้ว่าทั้งสองคนกำลังจะมีหลานตัวน้อยให้นางอุ้มอีกคนถึงไม่ค่อยมาหา ทำเอาคนถูกถามทำตัวไม่ถูก ได้แต่ส่ายศีรษะเป็นคำตอบและก้มหน้าก้มตาปั้นลูกบัวลอยต่อด้วยความเขินอายท่ามกลางเสียงแซวของแม่สามีกับแม่บ้านคู่ใจที่คุยกันอย่างครึกครื้น ม่านทิวานั่งพับเพียบตั้งหน้าตั้งตาปั้นลูกบัวลอยในลักษณะรูปทรงต่าง ๆ ตามสมัยไม่ซ้ำซากจำเจ หญิงสาวเปิดดูวิธีการปั้นนานาชนิดบนอินเทอร์เน็ต อยู่ ๆ หน้าจอโทร