"คุณจำคำพูดของตัวเองไม่ได้เหรอคะ ตอนที่พูดกับเพื่อนคุณบอกว่ายังไง ถ้าฉันท้องขึ้นมาคุณจะหย่ากับฉัน และสัญญาของฉันกับคุณมันก็สิ้นสุดลงแล้วด้วย” “ม่าน…” เพียงเขาอ้าปากเรียกชื่อเธอ ม่านทิวาก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่ยอมให้โอกาสคนใจร้ายอย่างเขาได้พูดอธิบายสักคำ “ที่คุณทำไปทั้งหมดก็เพราะต้องการแก้แค้นให้ยัยวิเจ็บใจแล้วก็เอาชนะเดิมพันเพื่อนของคุณเท่านั้น" เธอยอกย้อนเสียงราบเรียบ แต่มันกลับบาดลึกเข้าไปในหัวใจของชายหนุ่มจนเจ็บปวด
View More“คุณจำคำพูดของตัวเองไม่ได้เหรอคะ ตอนที่พูดกับเพื่อนคุณบอกว่ายังไง ถ้าม่านท้องขึ้นมาคุณจะหย่ากับม่าน และสัญญาของม่านกับคุณมันก็สิ้นสุดลงแล้วด้วย”
“ม่าน…” เพียงเขาอ้าปากเรียกชื่อเธอ ม่านทิวาก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่ยอมให้โอกาสคนใจร้ายอย่างเขาได้พูดอธิบายสักคำ
“ที่คุณทำไปทั้งหมดก็เพราะต้องการแก้แค้นให้ยัยวิเจ็บใจแล้วก็เอาชนะเดิมพันเพื่อนของคุณ” เธอยอกย้อนเสียงราบเรียบ แต่มันกลับบาดลึกเข้าไปในหัวใจของชายหนุ่มจนเจ็บปวด
“ฉัน...” รณพีร์กำลังจะเอ่ยค้าน แต่ก็ถูกม่านทิวาพูดดักคอเอาไว้เสียก่อน
“อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกนะคะ เพราะการหลอกลวงให้ ผู้หญิงคนหนึ่งรักคุณจนหมดใจ แต่คุณกลับตอบแทนเขาด้วยความเจ็บช้ำ มันจะทำให้ ผู้หญิงคนนั้นหมดความหวัง ความศรัทธา ความเชื่อใจในความรักจนหมดสิ้น” เสียงสั่นเครือของหญิงสาวทำเอาชายหนุ่มอยากจะกอดปลอบ แต่เธอคงไม่ต้องการ
“ม่าน...ฉันขอโทษ”
---------------------------------------------------------------------------------------------------
เสน่หาสามีลวงใจ
ประพันธ์ ญาดาพัชร์
ออกแบบปก คนวาดสีเทา
หมวดนิยาย นิยายโรมานซ์
วันที่ตีพิมพ์ 9 กรกฏาคม 2564
จำนวนหน้า 489 หน้า
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558 ห้ามให้ผู้ใดละเมิด มิให้คัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์
---------------------------------------------------------------------------------------------------
จากใจนักเขียน
สวัสดีนักอ่านที่น่ารักในปี 2564 ค่ะ ครึ่งปีแล้วที่ไม่ได้เจอกันเลย วันนี้พาผลงานเรื่องล่าสุดมาฝากค่ะ กับเสน่หาสามีลวงใจ นิยายเรื่องนี้มีฉากหนึ่งที่แวบเข้ามาในหัว ตอนที่เขียนเรื่อง เมียนอกสถานะ อยู่นั้น เกี่ยวกับความหลอกลวงของ รณพีร์ ที่ดึงเอา ม่านทิวา คนที่ไม่เคยแม้แต่จะรู้จักเข้ามาในชีวิต เพื่อแผนการบางอย่างของพระเอก ทำทุกอย่างที่ต้องการจะเอาชนะ แต่กว่าจะรู้ว่ารักก็เกือบสายเกินไป
ขอบคุณนักอ่านที่รอนิยายเรื่องนี้มานาน ไม่รู้ว่านักอ่านทุกท่านที่ได้อ่านเรื่องของพี่สองกับน้องม่านไปแล้วจะชอบกันบ้านหรือเปล่า
สุดท้ายขอบคุณพี่ ๆ น้อง ๆ นักเขียนทุกคนที่คอยให้กำลังใจ ในช่วงที่เขียนเรื่องนี้นะคะ ท้อมากแต่ก็ไม่หยุดเขียน ดึงกำลังใจของทุกคนมาเขียนต่อจนจบ และขอขอบคุณทุกคนที่คอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ ขอบคุณพี่ Noomeaw.siri ที่คอยดูความสมเหตุสมผลของนิยายเรื่องนี้ให้จนจบด้วยค่ะ
แต่ยังไงก็ขอให้อ่านกันให้สนุกนะคะ. แล้วเจอกันใหม่ในเรื่องต่อไปค่ะ
ด้วยรัก...ญาดาพัชร์
เช้าที่แสนสดใส...ม่านทิวาตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้สามีที่ยังคงนอนไม่ตื่น หญิงสาวจึงลุกขึ้นมาก่อนเดินตรงไปยังห้องครัวทันที ลงมือเปิดตู้เย็นหาวัตถุดิบปรุงอาหารให้รณพีร์รับประทานก่อนจะไปทำงานในวันนี้ คนตัวเล็กลงมือทำอาหารอย่างตั้งใจใส่ใจทุกรายละเอียดในแต่ละเมนูที่ตนลงมือทำไม่นานกลิ่นหอม ๆ ของแกงจืดเต้าหู้หมูสับที่เธอต้มกระดูกหมูไว้ตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นก็หอมกรุ่นไปทั่วห้อง ก่อนจะลงมือทำเมนูต่อไปที่ชายหนุ่มบ่นอยากกินมาหลายวัน แต่ยังไม่ได้ทานเสียทีเพราะเขานั้นงานยุ่งมาก เธอจึงทำให้กินเช้านี้เลย“อุ๊ย” คนตัวเล็กที่อยู่ในชุดคลุมสีชมพูอ่อนต้องสะดุ้งตกใจเมื่อถูกสวมกอดจากทางด้านหลัง“ทำไมไม่นอนต่อ รีบตื่นทำไมหือ?” รณพีร์ถามเสียงนุ่ม สวมกอดคนตัวเล็กพลางเอาคางเกยไหล่มน สูดดมกลิ่นหอมจากกายของภรรยาสาว“ม่านก็ตื่นมาเตรียมอาหารเช้าให้พี่สองไงคะ เห็นบ่นว่าอยากกินแกงจืดกับผัดผักนี่คะ” ม่านทิวาตอบกลับสามีเสียงหวาน ทั้งที่มือบางยังคงเตรียมอาหารอยู่“เมียใครเนี่ย…น่ารักที่สุด” ชายหนุ่มเอ่ยชมหญิงสาว“ผัดผักหอมไหมคะ” คนตัวเล็กเอียงหน้ามาเอ่ยถามสามีท
"เหนื่อยแล้วเหรอเด็กดี" เขาพูดพลางลูบศีรษะชื้นเหงื่ออย่างแผ่วเบา และหญิงสาวก็พยักหน้ารับนอนหอบหายใจหนัก ๆ บนตัวเขา“แต่ฉันยังไม่เสร็จเลยนะ" รณพีร์บอกเสียงทุ้มแตกพร่าแฝงไปด้วยมนต์สะกดล่อลวงคนใต้ร่างให้ฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง“ไม่ไหวแล้วค่ะ”"ไม่เป็นไร…ฉันทำเอง"เขาเล่นตอบเองเออเองโดยไม่ฟังคำคัดค้านของคนเหนื่อยอ่อนที่ถูกพลิกกายให้กลับมานอนอยู่ใต้ร่างสูงโปร่งอีกครั้ง และเริ่มจังหวะรักเร่าร้อนเพื่อสนองทั้งตัวเองและหญิงสาว ท่ามกลางเสียงเนินเนื้อกระทบกันดังลั่นห้อง"อ๊า...แน่นดีเป็นบ้าเลย!" ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาคำรามลั่นสุดความปรารถนา ทำเอาม่านทิวาปลดปล่อยเสียงครางรัญจวนออกมาอย่างห้ามไม่อยู่หลังจากที่กักเก็บเอาไว้อย่างสุดตัวไม่นานเสียงคำรามลั่นอย่างสุขสมของชายหนุ่มและหญิงสาวที่ไปถึงดินแดนปรารถนาพร้อม ๆ กันก็ดังกระเส่าลั่นห้องร่างสูงเปลือยเปล่าอุ้มร่างเล็กมานอนบนเตียงแล้วทิ้งตัวนอนข้าง ๆ อย่างเหนื่อยอ่อน ใบหน้าหล่อเหลาหันมองคนที่อยู่ข้าง ๆ อดอมยิ้มน้อย ๆ ไม่ได้ ไม่คิดว่าคนเมาจะใจกล้าทำให้เขาสุขสมได้มากเช่นนี้ แขนแกร่งกำยำสอดเข้า
"กินได้สิ จับมันแล้วเลียเหมือนเธอกินไอติมแท่งน่ะ" ร่างสูงบอกเสียงพร่ารอดูการกระทำกล้า ๆ กลัว ๆ ของหญิงสาว ไม่รู้ว่าเขาจะล่อลวงเธอได้มากเพียงใดแก่นกายแข็งขึงอยู่ในมือน้อยของหญิงสาว ลูบไล้มันอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวจะทำเจ้าของนั้นเจ็บ คนตัวเล็กมองมันอย่างไม่แน่ใจก่อนจะค่อย ๆ ทำตามคำบอกของชายหนุ่มริมฝีปากบางกระจับครอบครองตัวตนของเขาเอาไว้ มือบอบบางลูบขึ้นลงเบา ๆ ก่อนใช้ลิ้นเล็กค่อย ๆ ไล้เลียส่วนปลาย พยายามทำตามสิ่งที่ชายหนุ่มบอก กอปรกับสิ่งที่ตนเคยดูหนังเอวีกับเพื่อนมาบ้างแต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ถูกใจเขาหรือไม่ ไม่นานม่านทิวาก็ทำใจกล้าอ้าปากรับแก่นกายแข็งขึงของชายหนุ่มเข้ามาในโพรงปากนุ่ม ขยับเข้าออกช้า ๆ ทำท่าทางเลียนแบบนางเอกเอวีที่เคยดูมา หญิงสาวค่อย ๆ ไล้เลียขึ้นลงอีกครั้งพร้อมกับดูดดุนเบา ๆ"อ๊า…" รณพีร์ครางกระเส่าอย่างพึงพอใจและรู้สึกดีไม่น้อยกับการปรนเปรอของหญิงสาว"ชอบไหมคะ"คนนั่งคุกเข่าเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยถามด้วยแววตาหยาดเยิ้ม หลังจากที่ดูดกลืนตัวตันของเขาด้วยโพรงปากอ่อนนุ่ม"ชอบสิ เธอทำให้ทำไมฉันจะไม่ชอบล่ะ" ชายหนุ่มบอกน้ำเส
เสียงเข้มของผู้มาใหม่อย่างรณพีร์ทำเอาสองสาวตกใจลุกลี้ลุกลนไม่น้อย ม่านทิวารีบซ่อนโทรศัพท์มือถือไว้ด้านหลังทันที"ปะ...เปล่าค่ะ" เสียงตะกุกตะกักของม่านทิวาตอบกลับทันทีพร้อมทั้งยัดสิ่งที่อยู่ในมือคืนให้กับธาริกา ส่วนอีกมือหนึ่งยังถือแก้วเหล้าเอาไว้"จะมาเปล่าได้ยังไง ก็เห็น ๆ อยู่" รณพีร์ค้านเสียงเข้ม เดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาหวานหยาดเยิ้มเพราะพิษเหล้าที่ดื่มเข้าไป"ฉันสั่งว่ายังไง ไม่ให้กินเหล้าไม่ใช่หรือไง" ชายหนุ่มถามคาดคั้นต้องการคำตอบจากคนที่แทบจะไม่ได้สติตรงหน้า"ก็คุณสองสั่งไม่ให้ไปกินที่ร้านนี่คะ ม่านก็มาดื่มกับเพื่อนที่ห้อง…ไม่เห็นผิดตรงไหนเลย" ม่านทิวามุ่ยหน้าน้อย ๆ เถียงกลับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม"ไอ้ที…เลขาฯ มึงใช่ไหมวะ มาพากลับบ้านทีสิ" เจ้าของบ้านเรียกเพื่อนสนิทที่ตามมาด้วยความบังเอิญให้เข้ามาเอาตัวหญิงสาวไปเขาจำได้ว่าเพื่อนสนิทของม่านทิวาคนนี้เป็นเลขานุการของนที…"เออ" นทีตอบกลับเพียงแค่นั้นแล้วเดินตรงเข้ามาหาธาริกาที่นั่งหลับคอพับไม่ได้สติบนโซฟาสีเข้มทันทีไม่คิดเลยว่าเธอจะมานั่งเมาอยู่ที่น
ม่านทิวาถามด้วยความสงสัย หากเป็นเจ้าของเดียวกันน่าจะจัดพร้อมกันและเอาคอนเซปต์ทั้งหมดมามิกซ์รวมกันเป็นงานเดียวคงเพอร์เฟกต์ไม่น้อย"เจ้าของคนละคนแหละ งานเดินแบบเครื่องเพชรเป็นของคุณพชร ส่วนคอนโดมิเนียมเป็นของคุณปรานต์""อือ ๆ งานที่จะให้ช่วยมีแค่นี้ใช่ไหม ฉันจะได้กลับเลย""อื้อ...แค่นี้แหละ ขอบใจมาก...ถ้างานผ่านฉันจะนัดเลี้ยงข้าวแก แต่แกต้องไปช่วยงานฉันนะ ฉันจะชวนยัยอัญญ์มาช่วยอีกแรงหนึ่งด้วย""ได้เสมอแหละ เมื่อก่อนเป็นยังไงตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้น ฉันไปซื้อของเข้าบ้านก่อนนะ" คนตัวเล็กยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วส่งยิ้มให้เพื่อน ๆ"เดี๋ยว...นี่แกขับรถมาเองเลยเหรอ" วีรพลถามด้วยแปลกประหลาดใจ ไม่เคยเห็นเพื่อนขับรถเองมาก่อนเลย“อื้อ”"รถใครอะ" วีรพลถามหยั่งเชิงคนที่เพิ่งได้รถยนต์คันใหม่มาใช้เอง"รถคุณสองเขาน่ะ ไปแล้วนะ " ว่าแล้วก็เดินออกจากร้านตรงไปที่รถ ขับรถไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าในโซนซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นล่าง เธอเลือกซื้อของตามรายการที่จดเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือ ม่านทิวาเดินซื้อของได้เพียงไม่กี่รายการเท่านั้น มีของใช้ส่วนตัว ของใช้ภ
"เปล่าสักหน่อย โจ๊กใครก็กินกับไข่ลวกทั้งนั้นแหละค่ะ" หญิงสาวรีบตอบกลับเสียงนุ่ม ก่อนเอ่ยเร่งเร้า "รีบกินเร็วเข้า ม่านจะได้ไปหาเพื่อนเสียที""ขับรถไปเองหรือให้ฉันไปส่ง""ไปเองค่ะ ม่านว่าจะนั่งแท็กซี่ไป" ตอบพลางตักอาหารเช้าเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย"ทำไมไม่ขับรถไปเอง นั่งแท็กซี่ไปทำไม" ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาค้านทันควัน “ก็ม่านเกรงใจคุณสองนั่นแหละค่ะ มันรถของคุณนี่คะ" หญิงสาวตอบเสียงแผ่วเบาเพราะเกรงใจสามี"ฉันซื้อให้เธอแล้ว มันเป็นของเธอ เอาไปใช้ซะ...ถ้าไม่เอาไปใช้โดนดีแน่" สั่งเสียงเข้มแก้มบังคับทำให้ม่านทิวายอมจำนน เพราะรู้ดีว่าเขาต้องทำโทษจนเธอไม่ได้นอนเป็นแน่เธอพยักหน้ารับโดยไม่โต้เถียงใด ๆ ทำเอารณพีร์พอใจไม่น้อย ไม่นานทั้งสองก็รับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วพากันแยกย้ายไปคนละทาง คนเป็นสามีออกไปทำงานเช่นทุกวัน ส่วนตัวของเธอนั้นออกไปตามนัดของเพื่อนที่ได้ตกลงกันไว้ภายในร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งคือสถานที่นัดหมายของม่านทิวากับปอแก้ว…ที่รบเร้าให้เธอมาหาให้ได้ สายตาหวานสอดส่องเข้าไปข้างในร้านพบว่าเพื่อนเธอนั้นมารออยู่ก่อนแล้ว เธอจึงรีบจอดรถแล้วลงไปหาเพื่อน
เสียงนาฬิกาปลุกที่นานครั้งจะตั้งดังจากโทรศัพท์มือถือ ทำให้ม่านทิวาที่กำลังหลับสบายต้องรีบลืมตาตื่นจากความฝันอันแสนหวานที่ไม่เคยมีมาก่อน ร่างเล็กรีบคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วจัดการปิดเสียงรบกวนทันทีเพราะกลัวว่ารณพีร์ที่กำลังหลับสบายอยู่นั้นจะตื่นก่อนเวลามือเรียวบางพยายามเอาท่อนแขนแกร่งกำยำที่พาดเข้ากับเอวคอดของตนออกอย่างเบามือที่สุดแล้วหันไปคว้าเสื้อคลุมสีขาวขึ้นมาสวมทับ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายของตน หญิงสาวจำได้ว่าวันนี้มีนัดกับปอแก้วเพื่อที่จะคุยธุระเรื่องงาน แต่ถ้าหากไม่ไปเพื่อนสนิทคงต้องงอนเธอเป็นแน่เกือบสามสิบนาทีกับการอาบน้ำสระผมแล้วออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูสีขาวที่พันรอบกายบอบบาง ระหว่างที่หญิงสาวกำลังเดินเช็ดผมอยู่นั้น เธอแอบมองร่างสูงของสามีหลับสบายบนเตียงนุ่มโดยไม่คิดที่จะปลุกและเผลอยิ้มน้อย ๆ ด้วยความเอ็นดู แต่แล้วเสียงข้อความจากแอปพลิเคชันไลน์ก็ดังเตือนทำให้เท้าเรียวหยุดชะงักแล้วเดินไปยังโต๊ะหัวเตียงเธอหย่อนสะโพกมนนั่งลงกับขอบเตียงเบา ๆ ไม่ให้สะเทือนไปถึงร่างสูงที่กำลังนอนอยู่ ร่างเล็กที่พันกายด้วยผ้าขนหนูสีขาวหยุดมือที่
หลังจากที่ร่างสูงของเจ้าของห้องออกไป หนูน้อยพาลิกาเปิดกระเป๋าใบน้อยสีชมพูน่ารักที่รณวีร์ซื้อให้ หยิบสมุดภาพระบายสีพร้อมทั้งกล่องสีขึ้นมาระบายเล่น มิหนำซ้ำหนูน้อยยังเรียกม่านทิวามาช่วยกันระบายสีอีกแรง"อาม่านขา...มาระบายสีกันค่ะ" ว่าจบก็ฉีกยิ้มแฉ่งจนเห็นฟันซี่น้อยๆ เรียงเป็นระเบียบคนที่ถูกเรียกยิ้มให้กับความน่าเอ็นดูของหลานสาวของสามี ก่อนลุกจากที่นั่งของตนมาหาหนูน้อยที่นั่งกับพื้นพรหมสีเทาฝั่งตรงข้าม"ไหนคะ มาให้อาม่านดูหน่อยสิว่าระบายสีอะไร" หญิงสาวถามหลานตัวน้อยเสียงอ่อนเสียงหวาน"คุณครูบอกว่าการบ้านคะ" ตัวเล็กเงยหน้ามองคุณอาสะใภ้คนสวย"ถ้าการบ้านน้องพายต้องทำเองนะคะ ไม่ให้คนอื่นช่วยนะคะ ต้องทำเองจะได้เก่งขึ้นไง" บอกเสียงอ่อนเสียงหวานพลางลูบศีรษะทุยเบา ๆ ก่อนถามประโยคต่อมา "น้องพายอยากเป็นคนเก่งไหมคะ""น้องพายอยากเป็นคนเก่งค่า""ถ้าอยากเป็นคนเก่งก็ต้องทำเอง ถ้าทำไม่ได้ให้ถามอาม่านนะคะ"หนูน้อยพยักหน้ารับและลงมือทำแบบฝึกหัดที่อยู่ตรงหน้า อันไหนหนูน้อยทำไม่ได้ก็หันไปถามคุณอาสะใภ้คนสวยจนกระทั่งทำเสร็จด้วยตัวเองในเวลาไม่นาน ร่างน
“แต่ท่านรองเคยสั่งเอาไว้ อย่าให้คู่ควงพวกนี้เข้ามาก่อกวนในที่ทำงานนี่คะ”"ผู้หญิงคนนี้คือเมียฉัน"สิ้นเสียงเข้มทรงอำนาจทำเอาหลายคนตกใจ ไม่คิดว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นภรรยาของรองประธานบริษัท แต่คนที่ตกใจยิ่งกว่าก็คือผู้ช่วยเลขานุการปากแดงที่หน้าซีดกับความผิดครั้งใหญ่“นะ...นี่ภรรยาของท่านรองจริง ๆ เหรอคะ” สุ้มเสียงของผู้ช่วยเลขานุการอึกอักคล้ายมีอะไรติดคอ“อือ”คำตอบรับเพียงสั้น ๆ ทำเอาเสียวสันหลังไม่น้อย จึงต้องรีบขอโทษขอโพยผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของเจ้านายทันที“เลอเน่กราบขอโทษนะคะที่พูดจาไม่ดีกับคุณ”“ไม่เป็นไรค่ะ ก็คุณไม่รู้นี่คะ”ม่านทิวาไม่ได้ถือสาอะไรกับคนที่ไม่รู้ แต่รณพีร์หันไปแนะนำม่านทิวาให้กับทุกคนรู้จักและสั่งการกับพนักงานทุกคน รวมถึงผู้ช่วยเลขานุการที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานที่ประจำการอยู่หน้าห้องด้วย“ทุกคน...ฉันจะแนะนำให้รู้จัก ผู้หญิงคนนี้ชื่อม่านทิวาเป็นภรรยาของฉัน กับน้องพายลูกสาวของคุณรณวีร์พี่ชายของฉัน ต่อไปนี้ถ้าคุณม่านมาให้เข้าไปรอในห้องได้ไม่ต้องรอให้ฉันอนุญาต”พนักงานต่างสว
Comments