วันนี้รณพีร์ไม่ได้มาเฝ้าม่านทิวาที่โรงพยาบาลเหมือนวันก่อน ๆ แต่เขาจ้างพยาบาลพิเศษไว้คอยดูแลหญิงสาวอย่างดี และหลังจากชายหนุ่มออกไปทำงานไม่นาน คุณนายสรวงสุดากับสามีก็เข้ามาเยี่ยมลูกสะใภ้ ท่านทั้งสองมาเยี่ยมดูอาการทุกวัน แต่มาคราวใดม่านทิวาก็หลับทุกทีจึงไม่ได้พูดคุยกัน
“คุณพ่อคุณแม่สวัสดีค่ะ” คนป่วยหันมองไปยังต้นเสียงก่อนทักทายท่านทั้งสองอย่างนอบน้อมเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป
“เป็นยังไงบ้างลูก ยังเจ็บตรงไหนรึเปล่า” คุณนายสรวงสุดาตรงเข้าไปลูบศีรษะลูกสะใภ้อย่างปลอบโยน ให้หายขวัญเสียกับเรื่องร้ายที่เกิดขึ้น
เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์วันนั้นรณพีร์เล่าเรื่องทุกอย่างให้นางฟังจนหมดสิ้น และนางก็ยื่นคำขาดให้หย่ากับม่านทิวาถ้าไม่รัก แต่บุตรชายกลับไม่ยอม
“ม่านไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ อีกสองสามวันคุณหมอก็อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว”
ใช่! คุณหมอเจ้าของไข้เข้ามาคุยกับเธอ อนุญาตให้เธอกลับบ้านได้ เธออยากกลับบ้านใจแทบขาด แต่พอลองนึกดูอีกทีที่นี่ไม่มีบ้านให้เธออยู่อีกแล้ว
ม่านทิวาอยากไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่มีเพียงเธอและลูกสองคนเท่านั้น ถึงแม้ใครจะว่าเธอเห็นแก่ตัวก็ตาม แต่เธอไม่
วันนี้รณพีร์ไม่ได้มาเฝ้าม่านทิวาที่โรงพยาบาลเหมือนวันก่อน ๆ แต่เขาจ้างพยาบาลพิเศษไว้คอยดูแลหญิงสาวอย่างดี และหลังจากชายหนุ่มออกไปทำงานไม่นาน คุณนายสรวงสุดากับสามีก็เข้ามาเยี่ยมลูกสะใภ้ ท่านทั้งสองมาเยี่ยมดูอาการทุกวัน แต่มาคราวใดม่านทิวาก็หลับทุกทีจึงไม่ได้พูดคุยกัน“คุณพ่อคุณแม่สวัสดีค่ะ” คนป่วยหันมองไปยังต้นเสียงก่อนทักทายท่านทั้งสองอย่างนอบน้อมเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป“เป็นยังไงบ้างลูก ยังเจ็บตรงไหนรึเปล่า” คุณนายสรวงสุดาตรงเข้าไปลูบศีรษะลูกสะใภ้อย่างปลอบโยน ให้หายขวัญเสียกับเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นเพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์วันนั้นรณพีร์เล่าเรื่องทุกอย่างให้นางฟังจนหมดสิ้น และนางก็ยื่นคำขาดให้หย่ากับม่านทิวาถ้าไม่รัก แต่บุตรชายกลับไม่ยอม“ม่านไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ อีกสองสามวันคุณหมอก็อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว”ใช่! คุณหมอเจ้าของไข้เข้ามาคุยกับเธอ อนุญาตให้เธอกลับบ้านได้ เธออยากกลับบ้านใจแทบขาด แต่พอลองนึกดูอีกทีที่นี่ไม่มีบ้านให้เธออยู่อีกแล้วม่านทิวาอยากไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่มีเพียงเธอและลูกสองคนเท่านั้น ถึงแม้ใครจะว่าเธอเห็นแก่ตัวก็ตาม แต่เธอไม่
ชายหนุ่มวิ่งเข้าไปหาร่างเล็กที่หมดสติ ศีรษะของหญิงสาวมีเลือดแดงฉานไหลออกมาไม่หยุด"ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลให้ที ใครก็ได้ไปเอารถมาที" รณพีร์ตะโกนออกมาเหมือนใจจะขาด พร่ำบอกคนตัวเล็กในอ้อมอกว่าอย่าเป็นไรไป เรียกเท่าไรก็ไม่มีท่าทีว่าจะตอบรับกลับมาเขาผิดเอง เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเธอเป็นเพราะเขาคนเดียว หากเขาไม่คิดทำเรื่องชั่ว ๆ ขึ้นมามันคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้กับม่านทิวา"ม่านอย่าเป็นอะไรนะ พี่ขอโทษ" ริมฝีปากหนาและปลายจมูกโด่งคมของรณพีร์ไม่ห่างจากหน้าผากมน ไม่ห่างแม้แต่วินาทีเดียว หากห่างม่านทิวาไปเหมือนใจของเขาจะขาดรอน ๆ"ยัยม่านได้ยินฉันไหม" อัญญ์ร้องเรียกชื่อเพื่อนที่หมดสติ"ไอ้สองรีบพาคุณม่านขึ้นรถเร็ว" จอมพลผู้ที่ตั้งสติได้ก่อนใครรีบไปเอารถของตัวเองมารับม่านทิวาอย่างเร็วที่สุดรณพีร์รีบช้อนร่างคนหมดสติขึ้นรถอย่างเบามือและพากันตรงไปโรงพยาบาลทันที หากเขารอนานกว่านี้ม่านทิวาคงเป็นอันตรายมากกว่าเดิมเป็นแน่“ม่าน เธอได้ยินฉันไหม” เสียงทุ้มของรณพีร์ครางระโหย เรียกชื่อภรรยาที่นอนสลบอยู่บนเตียงคนไข้ใจจะขาด“ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ ฉั
คำพูดเหล่านี้ที่ออกมาจากชายหนุ่มทั้งสี่คน ทำเอาคนที่ตั้งใจมาหาสามีเพื่อปรับความเข้าใจกันต้องน้ำตาคลอด้วยความเจ็บร้าวไปทั้งหัวใจ สิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดเพราะต้องการให้รวิดาเจ็บปวดเท่านั้นหรือ ความรักของเธอที่มีให้เขามันมีค่าน้อยกว่าของเดิมพันพวกนั้นใช่ไหม"นี่ใช่ไหมคะคือเหตุผลที่พี่สองทำดีกับม่าน”เสียงหวานสะอื้นดังขึ้น ทำให้ทั้งสี่หนุ่มหันมองไปทางเดียวกันทันทีแต่ม่านทิวาไม่ได้มาคนเดียว ทางด้านหลังคนตัวเล็กมีเพื่อนของหญิงสาวอีกสามคน ปอแก้วยืนประคองร่างบางของม่านทิวาที่หน้าซีดเอาไว้ อัญญ์ประกบข้างเลอเน่ปิดปากไม่ให้ส่งเสียง ธาริกาเอาเอกสารสำคัญมาให้นทีเซ็นพอดียืนถือแฟ้มเอกสารอยู่ข้างธันวาที่ทำตัวไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ดี ในขณะที่ม่านทิวายังใส่อารมณ์กับรณพีร์ด้วยความเจ็บปวดเจียนตาย“พี่สองอยากให้วิเจ็บปวดที่ทำให้พี่เสียใจแล้วมาลงที่ม่าน คนที่เจ็บที่สุดตอนนี้คือม่านค่ะ...ไม่ใช่วิ ถึงวิจะเกลียดม่าน แต่เขาไม่ได้เจ็บในสิ่งที่พี่ทำเลยสักนิดเดียว""ม่าน! ฟังพี่ก่อน พี่อธิบายได้นะ" รณพีร์อ้อนวอนเสียงแผ่วเมื่อคนคนตัวเล็กยืนน้ำตาคลออยู่ตรงหน้า
"ไปเอามา!" ตะคอกกลับเสียงดัง ทำเอาทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าสะดุ้งโหยง"ครับ" ลูกน้องหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วงและออกไปเอาเอกสารมาให้เจ้านายตามคำบัญชา ก่อนพยักหน้าให้เลอเน่ตามออกมาเพราะดูท่าทางแล้วว่า...หากไม่ได้ดั่งใจมีหวังระเบิดลงหัวเป็นแน่"ธัน เลอเน่ เอกสารได้หรือยัง"รณพีร์ตะโกนถามอย่างหัวเสียที่ลูกน้องทำอะไรชักช้าไม่ได้ดั่งใจเขาสักอย่าง ประตูห้องทำงานก็เปิดออก ทว่าคนที่เข้ามากลับไม่ใช่ธันวา แต่เป็นนที จอมพล และพชรที่เข้ามาหารองประธานบริหารที่ดูท่าทางแล้วจะโกรธฉุนเฉียวไม่น้อย"เอา! เอกสารมึง จะทำงานหนักไปถึงไหนวะ" จอมพลวางเอกสารที่เอามาจากธันวาลงตรงหน้ารณพีร์"พวกมึงมาทำไมวะ" ถามราวกับว่าไม่พอใจ ที่เห็นเพื่อนทั้งสามมาพร้อมหน้าพร้อมตากันโดยไม่ได้นัดเอาไว้ก่อน"พวกกูมาหามึงไงไอ้สอง ว่าแต่มึงเป็นอะไร...หายหัวไปตั้งแต่งานเปิดตัวเครื่องเพชรชุดใหม่ของไอ้เพชร" นทีล้วงกระเป๋าเอ่ยถามคนตรงหน้าที่กำลังทำงานอย่างไม่สนใจพวกเขาเลย"ไม่ได้เป็นอะไร กูแค่อยากทำงาน""มึงจะทำงานก็ทำได้ แต่ไม่ใช่โหมงานหนักขนาดนี้ แล้วนี่มึงกลับบ้านไ
“ตาสองนี่ยังไงนะ ไม่ยอมมากลับมาดูแลเมียตัวเองเลย ไม่รู้หรือไงว่าเมียไม่สบายอยู่เนี่ย”คุณนายสรวงสุดากางพัดขึ้นมาพัดกระพือพับ ๆ บรรเทาความเดือดดาลในใจที่มีต่อบุตรชาย มองม่านทิวาที่กำลังจูงมือน้องพายเข้ามาในบ้าน ในขณะที่แขนข้างหนึ่งเข้าเฝือกอยู่ยังขยับและทำอะไรไม่ได้มากและนี่ก็ปาเข้าไปสองวันแล้วด้วย!“คุณแม่บ่นอะไรคะ”“บ่นลูกชายตัวดี มีเมียไม่ยอมดูแล โทรศัพท์ก็ไม่ยอมรับสาย แล้วหนูม่านโทร.หาพี่เขาติดไหมลูก”"พี่สองไม่รับสายม่านเหมือนกันค่ะ"ใบหน้าหวานเศร้าหมองลงถนัดตาเพราะรณพีร์ไม่รับสายจากเธอเลย เอาแต่หลบหน้า ไม่รู้หรือยังไงว่าเธออยากอธิบายให้เขาฟังอีกสักครั้ง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเองว่าเธอไม่ได้หักหลังหรือทำอะไรลับหลังเขาแบบนั้นเลยเพียงแค่เวลาผ่านไปสองวันมันก็ทำให้เธอร้อนรนไม่น้อย ความคิด ความรู้สึกต่าง ๆ ตีรวนไปหมดไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีแต่แล้วความรู้สึกพะอืดพะอมชวนอาเจียนทำให้คนตัวเล็กต้องรีบลุกจากโซฟาตรงเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความตกใจของคุณนายเจ้าของบ้านที่ขยับลุกขึ้นตามมาดูอาการไม่ห่าง"หนูม่านไห
เข้าใจผิด 4"ม่านไม่อยากคุยกับคุณสอง ลุกออกจากตัวม่านค่ะ ม่านจะไปนอนที่บ้านเพื่อน" ว่าแล้วผลักร่างสูงให้ออกห่าง แต่ผลักเท่าไรก็ไม่ได้ผลจึงเปลี่ยนเป็นขยับกายออกห่างแทน"ฉันไม่ให้ไป...จะไปหาเพื่อนหรือแรดไปหาผัวน้อง" เพราะมีความผิดหวังที่ฝังใจเกี่ยวกับอดีตแฟนสาวอย่างรวิดาที่ถูกปรานต์แย่งไป รณพีร์จึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไม่ยอมอ่อนข้อให้ม่านทิวาเลย"จะดูถูกกันเกินไปแล้วนะคะพี่สอง"ว่าแล้วก็ขยับกายออกห่างชายหนุ่มอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาคว้าข้อมือของหญิงสาวมาตรึงเหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียวท่ามกลางการดิ้นรนเอาตัวรอดของม่านทิวา สายตาคมมองหาสิ่งของบางอย่างที่เขาเคยเอาไว้ข้างหัวเตียง ก่อนยกยิ้มอย่างร้ายกาจเมื่อพบสิ่งที่ต้องการ เขาเอื้อมมือไปคว้ามันขึ้นมาด้วยมืออีกข้างที่ว่าง จับสิ่งนั้นล็อกเข้ากับข้อมือเล็กทั้งสองข้างของม่านทิวา"พี่สองปล่อยม่านนะ เอาโซ่มาล็อกข้อมือม่านทำไม" หญิงสาวถามอย่างตื่นกลัว จ้องมองการกระทำของคนเหนือร่างที่กำลังปลดเสื้อผ้าออกจากกายแล้วเหวี่ยงมันไปมุมใดมุมหนึ่งของห้อง ตามด้วยกางเกงผ้าเนื้อดี"ฉันก็จะทำให้เธอหายร่าน...จะได้ไม่ต้อ
“ขอโทษที เครื่องเพชรชุดนี้ผมอยากได้เอาไปให้เมีย” แล้วเหล่ตามองรวิดา เขายิ้มหยันใส่หน้าหล่อนอย่างผู้ชนะแล้วเดินไปด้านหลังเวทีทันทีทันใดรวิดากำหมัดด้วยความเจ็บใจที่ถูกหยามน้ำหน้า และเสียเครื่องเพชรชุดนั้นให้กับพี่สาวนอกไส้ไปอีกหนึ่งอย่าง ตอนนี้หล่อนทั้งเกลียดและอิจฉาม่านทิวาจับใจ"กลับบ้าน!"ไม่พูดพร่ำทำเพลง รณพีร์คว้าข้อมือเล็กของภรรยาแล้วพาเดินออกไปทันที ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยซ้ำ ถอดเพียงเครื่องเพชรออกก่อนเท่านั้น"ไอ้สองจะทำอะไรวะ กูอธิบายเรื่องนี้ได้นะเว้ย"พชรรีบเข้ามาไกล่เกลี่ยทันที เพราะดูจากท่าทางของเพื่อนแล้วนางแบบสาวจำเป็นคงงานเข้าอย่างจังเป็นแน่"มึงไม่ต้องยุ่ง ส่วนเรื่องเงินเดี๋ยวกูจัดการให้ อ้อ...ฝากจัดการกับนักข่าวให้กูด้วย อย่าให้ข่าวกูแพร่งพร่ายออกไปเป็นอันขาด" รณพีร์บอกเพียงเท่านั้นก็รีบพาเมียตัวน้อยไปทางลิฟต์สำหรับขนของ และพาหญิงสาวกลับเพนต์เฮาส์ทันที"พี่สองปล่อย ม่านเจ็บนะคะ"คนตัวเล็กดิ้นรนตลอดทางที่รณพีร์ฉุดกระชากให้เดินมาตามแรง จนชายหนุ่มต้องหันมาจับม่านทิวาขึ้นพาดบ่าเดินตรงเข้าห้องนอน
"แต่ม่านทำไม่ได้ คุณสองอยู่ในงานนี้ด้วยม่านช่วยไม่ได้จริง ๆ ค่ะ""เรื่องไอ้สองคุณม่านไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจัดการให้เอง""แต่ว่า...""คุณม่านขา ช่วยหน่อยนะคะ" ผู้จัดการของดาราสาวคุกเข่าอ้อนวอนขอร้อง เมื่อถึงคิวที่ดาราสาวจะต้องขึ้นเวทีแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอจะโดนค่าปรับจากเพชรเป็นเงินไม่ใช่น้อย"กลัวผัวด่าเหรอม่าน" ปอแก้วเดินมากระซิบถามเพื่อน เพราะเข้ามาตามนางแบบทันที"อือ" ม่านทิวาครางรับในลำคอ"คุณม่านครับช่วยผมหน่อยนะครับ ส่วนเรื่องของไอ้สอง...เดี๋ยวผมช่วยยืนยันให้เอง" พชรให้คำมั่นสัญญา"เดี๋ยวฉันเป็นพยานให้อีกคน...นะ" ปอแก้วช่วยพชรอีกแรง ไม่อยากให้งานต้องพังตอนจบ"ก็ได้ค่ะ...ม่านช่วยก็ได้"สิ้นคำตอบรับของม่านทิวา เธอก็ถูกดึงตัวเข้าไปแปลงโฉมใหม่ทันที ไม่นานก็ออกมาในขุดเดรสสีแดงเลือดนกโชว์แผ่นหลัง อีกทั้งสวมเครื่องเพชรชุดใหม่ล่าสุดที่เป็นไฮไลต์ของงานม่านทิวาอยู่ในชุดสวยหรูด้วยอาการกังวล ประหม่า และขวยเขินในเวลาเดียวกัน"ยัยม่าน...แกสวยมากเลยรู้ไหม""ฉันเครียดอะยัยปอ...ฉันทำไม่ได้" คนตัวเล็กคว้ามือของเพื
ร่างเล็กบอบบางกลับถึงเพนต์เฮาส์หรูหราในเวลาเกือบเที่ยงคืน...ทันทีที่เธอออกจากโรงแรมซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน ก็รีบตรงมายังรถยนต์สีขาวคันหรูที่สามีซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมชาร์จแบตฯ โทรศัพท์มือถือและรีบเปิดเครื่องทันที ก็พบว่าคนเป็นสามีได้โทร.หาเธอเกือบยี่สิบสายพร้อมทั้งส่งข้อความมาทางแอปพลิเคชันไลน์อีกหลายข้อความ ไม่รู้เธอจะโดนเขาต่อว่าอะไรบ้าง ทั้งเรื่องไม่ยอมรับสายและไหนจะกลับบ้านดึก แถมยังไม่ได้บอกชายหนุ่มอีกด้วยมือเรียวคลำหาสวิตช์เพื่อที่จะเปิดไฟให้แสงสว่าง เธอจะเดินเอาของไปเก็บที่ห้องครัว"ทำไมเพิ่งกลับบ้านเอาป่านนี้"คนพี่เพิ่งกลับถึงบ้านต้องชะงัก มองไปยังต้นเสียงที่ขุ่นมัวไม่ใช่น้อย"พี่สองยังไม่นอนอีกเหรอคะ""ฉันถามว่าทำไม่เพิ่งกลับเอาป่านนี้" เสียงเข้มขุ่นถามกลับ ทำเอาคนที่ย้อนถามซื่อ ๆ ไปไม่ถูก"ม่านไปช่วยงานเพื่อนมาค่ะ" ตอบกลับยิ้ม ๆ พร้อมทั้งทำท่าทางใจดีสู้เสือ"ฉันไม่ได้ห้ามที่เธอจะไปช่วยงานเพื่อน แต่ฉันโทร.ไปหลายสายทำไมไม่รับ" น้ำเสียงของคนตรงหน้าทั้งโมโห โกรธ และเป็นห่วงหญิงสาว"ม่านขอโ