นับจากวันที่รณพีร์กลับจากต่างประเทศโดยไม่บอกคนในครอบครัวให้รับรู้ล่วงหน้าแม้แต่คนเดียว บ่อยครั้งที่ชายหนุ่มมักจะได้ยินคำถามจากบิดาและมารดาอยู่เสมอว่าเมื่อไรเขาจะแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาเหมือนพี่ชายคนโตเสียที เพราะตอนนี้รณวีร์มีครอบครัวที่อบอุ่นพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ แม่ ลูกไปแล้ว นั่นคงเป็นเพราะว่าเขาถูกอดีตคนรักทำร้ายจึงไม่ยอมเปิดใจรับใครเข้ามาในชีวิตอีก
ตลอดเวลาที่ผ่านมามารดามักจะต่อว่าเขาที่ชอบควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ถ้าหากนางเห็นหรือได้ยินคนอื่นพูดเรื่องที่เขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าอีกละก็ นางจะหาผู้หญิงที่เหมาะสมมาแต่งงานกับเขาให้รู้แล้วรู้รอด
แต่สมัยนี้มันหมดยุคจับคลุมถุงชนไปแล้ว ปีนี้ก็ศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดเข้าไปแล้วมารดายังคิดจะทำอะไรไม่เข้าท่าแบบนี้อยู่ได้
“เฮ้อ!”
เสียงถอนหายใจหนักหน่วงของรณพีร์ดังขึ้น เมื่อเห็นว่ามารดากำลังเดินเข้ามาภายในบ้านด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม นางดูเบิกบานราวกับว่ามีเรื่องดี ๆ ทำให้เป็นสุขใจ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องดี ๆ ของมารดาก็โปรดจงรู้เอาไว้ว่ามันต้องเป็นเรื่องหายนะสำหรับเขาแน่นอน
“อะไรกันตาสอง เห็นหน้าแม่แล้วทำไมต้องถอนหายใจแรง ๆ แบบนั้นด้วย” นางว่าด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ที่บุตรชายถอนหายใจแรง ๆ ใส่หน้ากัน
“เปล่าครับเปล่า…ไม่มีอะไร” ชายหนุ่มเลือกที่จะปฏิเสธเพราะไม่อยากต่อปากต่อคำกับมารดาจนกลายเป็นทะเลาะกันเปล่า ๆ
“แล้วไป...ว่าแต่วันอาทิตย์นี้ว่างไหมลูก”
คุณนายสรวงสุดาถามเสียงอ่อนเสียงหวานพร้อมกับฉีกยิ้มให้บุตรชายคนเล็ก รณพีร์เห็นแล้วเสียวสันหลังอย่างไรก็ไม่รู้
“คุณแม่ถามทำไมครับ” นัยน์ตาคมกริบหรี่ลงมองมารดาที่ฉีกยิ้มผิดปกติมาให้อย่างไม่ไว้ใจ
“ไม่มีอะไรมากหรอก แค่วันอาทิตย์นี้แม่อยากให้แกไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นเอง”
นี่แม่จะจับคู่ให้เขาจริง ๆ ใช่ไหม?
“เอ่อ...ไม่ว่างแล้วครับ” คนเป็นลูกทำท่าคิดนิดหนึ่งก่อนตอบมารดากลับไป
“พอพูดเรื่องนี้ไม่ว่างขึ้นมาทันทีเลยนะ ไม่คิดจะไปเจอหน้าน้องหน่อยเหรอ”
“คุณแม่ครับ ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่อยากแต่งงาน แล้วก็ไม่อยากไปเจอหน้าใครทั้งนั้น” ว่าจบก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นทันที แต่เสียงของมารดายังคงดังตามหลังมาไม่ขาดปาก
“ได้เลยตาสอง! ถ้าแกไม่ไปวันอาทิตย์ ฉันจะเลื่อนนัดมาเป็นวันพรุ่งนี้เลยคอยดูสิ”
ร่างสูงกลอกตามองบนแล้วลุกออกไปทันทีเพราะรู้อยู่แล้วว่าคนอย่างมารดาพูดจริงทำจริง ค้านไปก็ไร้ประโยชน์ สู้ไปคิดหาทางหนีในวันพรุ่งนี้จะดีเสียกว่า
“เป็นอะไรคุณดา ผมได้ยินเสียงเอะอะโวยวายลั่นบ้าน” คุณอนันต์เดินออกมาจากห้องหนังสือที่อยู่ชั้นล่างถามขึ้น ท่านเห็นภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากยื่นโมโหจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด
“ก็ตาสองน่ะสิคุณไม่ยอมไปดูตัว ฉันอุตส่าห์นัดเอาไว้ให้แล้ว”
“จับคู่ให้ลูกอีกแล้วหรือ คราวนี้เป็นลูกสาวคุณนายบ้านไหนอีกล่ะ” แต่ถ้าให้เดาก็คงจะเป็นบุตรสาวของใครสักคนในกลุ่มคุณนายไฮโซเพื่อนของภรรยานั่นแหละ
“ไม่ใช่ลูกสาวคุณหญิงคุณนายที่ไหนหรอกค่ะ แต่เป็นคนที่เรารู้จักกันดีเลยล่ะคุณ”
ผู้เป็นภรรยาหันมาตอบสามี ทว่าสามีนิ่วหน้างวยงงนางจึงเฉลยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
“หนูม่านทิวาไงคะ ฉันอยากให้ตาสองแต่งงานกับหนูม่าน”
“หนูม่านคนขยันคนดีคนนั้นน่ะหรือ” คนเป็นสามีนึกออกทันที เพราะคนที่ชื่อ ‘ม่านทิวา’ ที่วนเวียนอยู่ในชีวิตของภรรยามีเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ใช่ค่ะ ฉันอยากให้ลูกแต่งงานกับคนดี หนูม่านขยันทำมาหากินแถมยังน่ารักเป็นแม่บ้านแม่เรือนด้วยนะคะ เรื่องฐานะฉันไม่สนใจหรอกค่ะ”
คุณนายสรวงสุดาสัมผัสมาแล้วว่าหญิงสาวเป็นคนดีแค่ไหน ซึ่งตลอดเวลาเกือบสามปีที่ผ่านมามีเพียงนางกับสามีเท่านั้นที่รู้จักกับเด็กสาวน่ารักคนนี้
“ถ้าเป็นหนูม่านผมเชียร์คุณเต็มที่ แต่ถ้าเป็นลูกสาวคุณนายไฮโซเพื่อนคุณน่ะผมขอผ่าน” ผู้เป็นสามีสนับสนุนเต็มกำลัง แต่ประโยคสุดท้ายนี่สิหมายความว่าอย่างไรกัน
“ลูกสาวเพื่อนฉันมันเป็นยังไงคะคุณอนันต์” นางมองค้อนใส่สามีพร้อมกับถามประชดประชันกลาย ๆ
“คุณก็น่าจะรู้ดีนะว่าเป็นยังไง ยังต้องให้ผมพูดอีกเหรอ”
อย่าหาว่าท่านว่าเลย บุตรสาวเพื่อน ๆ ของภรรยาน่ะไม่ชอบทำงาน งานบ้านงานเรือนก็ไม่ทำ เอาแต่แต่งตัวสวยไปวัน ๆ ตกเย็นก็ออกเที่ยวกลางคืน แม้แต่จะช่วยธุรกิจของครอบครัวสักนิดก็ไม่ได้ ผิดกับม่านทิวาที่ท่านเห็นมาตลอดว่าเป็นคนขยันสู้งาน หนักเอาเบาสู้ แม้ว่าเหนื่อยจากงานประจำแล้วก็ยังมาทำงานพิเศษเสริมเพื่อหาเงินไปจุนเจือครอบครัว กอปรกับเรื่องหนี้สินที่หญิงสาวไม่ได้ก่อที่ได้ฟังจากปากภรรยาแล้ว ม่านทิวาเป็นคนที่น่าสงสารคนหนึ่งเลยก็ว่าได้
“แต่เราจะทำยังไงให้ลูกแต่งงานกับหนูม่านได้ล่ะคุณ” ผู้เป็นสามีจนหนทางเพราะรู้ว่าบุตรชายคนเล็กดื้อรั้นเหลือเกิน…ต้องไม่ยอมถูกบังคับแน่นอน
“ฉันยังไม่รู้เลยค่ะคุณ ลูกชายเรามันดื้อจะตายไป” คุณนายสรวงสุดาตอบกลับสามีพลางครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรให้รณพีร์ยินยอมแต่งงานแต่โดยดี ทว่ายังไม่ทันที่นางจะคิดออกก็มีเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน
“ฮัลโหลหนูม่าน...ว่ายังไงลูก ไม่เป็นไร...ไม่ต้องคิดมาก หนูทำงานของหนูเถอะ เอาไว้วันหลังค่อยเจอกันก็ได้ลูก”
นางพูดโต้ตอบกับม่านทิวาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแล้วกดวางสาย จากนั้นหันไปมองสามีที่ถามด้วยความสงสัยใคร่รู้เต็มที
“มีอะไรหรือเปล่าคุณ”
“วันอาทิตย์นี้คงต้องยกเลิกนัดแล้วล่ะค่ะ หนูม่านติดธุระกะทันหันมาไม่ได้” นางตอบก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยประโยคต่อมากับสามี “แต่พรุ่งนี้ฉันจะเอารูปหนูม่านให้ตาสองดู ฉันรู้ว่าลูกเราน่ะแพ้คนสวยเหมือนพ่อมันแหละ”
นางว่าแล้วก็ตวัดสายตามองสามีอย่างขุ่นเคืองเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา
“โธ่คุณ! มันเป็นอดีตไปแล้ว” ตอบพร้อมกับสวมกอดภรรยาอย่างออดอ้อน
“เหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูกเลย”
พูดแล้วมันน่าโมโหนักเชียว ไม่ได้ดั่งใจเลยสักคนทั้งลูกทั้งผัว!
ม่านทิวานั่งอยู่กับโต๊ะที่จองเอาไว้ร่วมกับเพื่อนอีกมุมหนึ่งของร้าน ร้านนี้ร้านใหม่ที่พวกเธอไม่เคยเข้ามา อันที่จริงพวกเธอนั้นไม่ค่อยได้เที่ยวบ่อยนักหรอก นาน ๆ จะหาเวลาว่างมาสักครั้ง แก้วเครื่องดื่มที่วางอยู่บนโต๊ะยังคงมีไอน้ำเกาะพราวเพราะมันถูกยกขึ้นจิบเพียงไม่กี่ครั้ง ความสนุกและการเมาท์มอยมันทำให้ม่านทิวาลืมความทุกข์ไปชั่วขณะและนั้นมันทำให้เธอไม่ทันสังเกตว่ากำลังมีสายตาคมเข้มคู่หนึ่งกำลังจับจ้องเฝ้ามองเธออยู่ในเงามืด ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งนั่งอยู่ในอีกมุมหนึ่งในชุดสูทลำลองท่ามกลางบรรยากาศของทุกคนที่แต่งตัวสบาย ๆ ในโทนสีดำ แต่ทุกอย่างมันทำให่ดูโดดเด่นและมีแฝงความอันตรายขึ้นมาไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตาหรือแม้กระทั้งออร่าที่เปล่งประกาย เขาจดจ้องใบหน้าหวาน ริมฝีปากระเรื่อสวยได้รูปเวลาพูดคุยหัวเราะอยู่กับเพื่อมันช่างน่าหลงใหลเสียจริง ๆการกระทำของเขามันช่างเหมือนคนโรคจิต แต่ทำไงได้คนมันหลงความสวยของหญิงสาว อยากได้เธอมาครอบครอง เขามองเธอจนกระทั่งเธอลุกออกจากโต๊ะไป ทำให้เขาต้องบอกคนที่นั่งร่วมโต๊ะและลุกตามออกไป ม่านทิวาลุกออกมาทำธุระส่วนตัวที่ห้องน้ำอีกทั้งแวะตอบกลับข้อความงานด้วยครู่หนึ่งแล้
เสน่หาสามัลวงใจ ตอนพิเศษเมื่อเราได้พบกัน 2วันนี้มีตอนพิเศษของพี่สองกับน้องม่านมาฝากก่อนที่จะไปอ่านพี่หนึ่ง...พี่ชายสุดหล่อของพี่สองค่ะ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ ช่วงนี้ไรท์มีเวลาน้อยแต่จะรีบปั่นมาลงให้อ่านค่ะ มาอ่านกันเถอะ มันพิเศษไหมนะ✨❤ คุณเคยเชื่อเรื่องความบังเอิญ โชคชะตา หรือ พรหมลิขิตหรือไม่ ❤✨"ยัยม่าน แกน่ะจะประหยัดอะไรนักหนา ทำงานหาเงินมาก็เหนื่อยให้รางวัลตัวเองบ้างเถอะ" ธาริกาเอ่ยเมื่อเห็นเพื่อนยืนเหม่อมองอยู่หน้าร้านนานสองนาน ไม่ยอมเข้าไปเลือกซื้อสักที่ แต่ก็ตามสไตล์เพื่อนของตนนั่นแหละสองสาวที่เดินตามหลังมาสมทบมองดูสถานการณ์ก่อนถามเจ้าตัวเช่นกัน "นั่นสิ ฉันก็เห็นด้วยนะ แกน่ะไม่ได้ใช้เงินตัวเองเลย หามาก็ถูกสองแม่ลูกจอมสูบนั้นเอาไปหมด เก็บไว้บ้าง ตอนนี้อยู่หอก็เอาไว้นั้น สองคนนั้นคงไม่มาวุ่นวายหรอก" อัญญ์หนึ่งในเพื่อนสนิทของม่านทิวาบอกอย่างเข้าใจเพราะรู้อยู่แล้วว่าบ้านของเพื่อนเป็นอย่างไร อย่างน้อย ๆ ก็ให้ซื้อของใช้บ้าง“ปล่อยพวกเขาไปเถอะ แล้วพวกแกน่ะ ซื้อของกันเสร็จแล้วเหรอ” “ยังเหรอเดินมาดูคนประหยัดอย่างแกก่อนเนี่ยว่าได้อะไรติดไม้ติดมือหรือยัง”“กำลังจะเข้าไปดูร้านนี้น่ะ พอดี
ไม่ได้ออกนิยายเรื่องยาว มาทักทายนักอ่านหลายปีเลย ตั้งแต่ออกเรื่อง เสน่หาสามีลวงใจ มาก็หายเลย เนื่องจากปัญหาหลาย ๆ อย่าง แต่มีเรื่องสั้นออกมาบ้างประปราย แต่หลังจากนี้จะออกงานเรื่อย ๆ ค่ะ ทั้งเรื่องสั้น และเรื่องยาว อย่างเรื่องที่รอกัน ยังจำได้ไหมน้า “เสน่หาสามีลวงรัก” พี่หนึ่ง ยังไงก็มาให้อ่านแน่นอน ระหว่างรอ ฝากเรื่อง “ทิวาเปื้อนราคี” , “ จะมีเรื่องยาวมาบ่อย ๆ กำลังใจจากนักอ่านทุกท่านด้วยนะคะ วันนีีไรท์ มีตอนพิเศษของพี่สองกับน้องม่านมาฝากก่อนที่จะไปอ่านพี่หนึ่ง...พี่ชายสุดหล่อของพี่สองค่ะ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ ช่วงนี้ไรท์มีเวลาน้อยแต่จะรีบปั่นมาลงให้อ่านค่ะ มาอ่านกันเถอะ มันพิเศษไหมนะ ด้วยรัก...ญาดาพัชร์ 🌸เมื่อเราเพิ่งเคยพบกัน🌸 ✨❤ คุณเคยเชื่อเรื่องความบังเอิญ โชคชะตา หรือ พรหมลิขิตหรือไม่ ❤✨ แต่สำหรับม่านทิวาแล้ว ทั้งสามสิ่งนี้มันแทบจะไม่ได้อยู่ในความคิดของเธอเลยแม้แต่เสี้ยวหนึ่ง... เพราะทุกสิ่งมันเกิดขึ้นด้วยการกระทำ แต่แล้วทุกอย่างก็ทำให้เธอคิดว่า บางทีการที่เธอได้พบกับครอบครัวของสามีอย่างรณพีร์ มันอาจจะเป็นทั้งสามสิ่งที่ว่ามาจัดสรรค์ก็เป็นได้ คนตัวเล็กนั่งเลี้ยงลูกน้อยอยู่ภายใ
รณพีร์กำลังขะมักเขม้นกับการทำอาหารด้วยเตาถ่านที่หลังบ้านของม่านทิวาอย่างใจสู้ เพราะว่าเขาไม่เคยใช้มันมาก่อน ตอนที่อยู่ต่างประเทศเขาทำอาหารรับประทานเองก็จริงแต่เครื่องครัวมันทันสมัยกว่านี้ พอมาลองทำอะไรแบบนี้บอกตรง ๆ ว่าเริ่มต้นไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดี จนเขาต้องเปิดคลิปวิดีโอจากยูทูปทำตามขั้นตอนทุกอย่างที่สอนในคลิปวิดีโอชายหนุ่มอยากทำอาหารให้ลูกกับเมียได้ลองชิมฝีมือเขาครั้งแรกระหว่างที่ม่านทิวานอนกลางวัน เธอเพิ่งกลับจากการไปทำงานที่บ้านของย่าเขา ครั้นจะห้ามทำก็กลัวเมียจะโกรธจึงต้องปล่อยเลยตามเลย ให้ทำงานเบา ๆ ไม่หนักจนเกินไปไม่อยากขัดใจเมีย ถ้าเธอโกรธมันจะพลอยกระทบกระเทือนถึงลูกในท้อง“ไฟแรงเกินไป มันต้องทำยังไงวะ” บ่นกับตัวเองอย่างหัวเสียเพราะหลังจากเทไข่เจียวหมูสับลงในกระทะที่มีน้ำร้อนจัด ไฟในเตาก็ยิ่งโหมลุกรุนแรงมากยิ่งขึ้นทำเอาไข่เจียวของเขามีกลิ่นไหม้ขึ้นมาทันที“ฉิบหายแล้ว…ไหม้หมดแล้ว!”“พี่สองทำอะไรคะ กลิ่นไหม้ฟุ้งกระจายเต็มบ้านเลย”เป็นจังหวะเดียวกันกับม่านทิวาที่ตื่นจากการนอนกลางวันพอดี เธอออกจากห้องมาดูเพราะได้กลิ่นเหม็นไหม้มาจากทางหลังบ้าน
“เอาน้ำหอมปรับอากาศในรถออกหรือยังคะ” เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนหน้านี้เธอนั่งรถคันไหน ๆ ก็ต้องเวียนหัวทุกครั้งไปเพราะกลิ่นน้ำยาปรับอากาศในรถ ทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก็เลยไปตรวจดูพบว่าอาการคลื่นเหียนอาเจียนบ่อย ๆ ของเธอนั้นมาจากอาการตั้งครรภ์“เอาออกแล้วน่า รถคันนี้พี่พึ่งจะซื้อมาใหม่ เราไม่มีทางเวียนหัวแน่นอน รู้ว่าท้องอยู่…หลานไม่ชอบ”หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนก้าวขึ้นรถไป ผิดกับนทีที่พอจะได้ยินว่าธาริกาอาเจียนเวียนหัวเพราะเหตุใด เขาจะไม่มีทางปล่อยเธอกับลูกออกจากอกแน่นอนชายหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์มองรถที่ขับออกไปอย่างนิ่งนอนใจและตัดสินใจขับตามไปห่าง ๆ แน่นอนว่าต้องไปสนามบินสุวรรณภูมิ นทีหยิบพาสปอร์ตที่เขาแอบเก็บเอาไว้ในลิ้นชักหน้ารถของตนขึ้นมาดูอยากจะรู้นักถ้าไม่มีพาสปอร์ตนี่…เธอจะหนีเขาไปไหนได้!ธาริกามาถึงสนามบินสุวรรณภูมิประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปโหลดกระเป๋าให้เรียบร้อยเพราะยังไม่ถึงเวลาขึ้นเครื่อง เธอจึงนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือรอไปพลาง ๆ ตลอดการจับโทรศัพท์มือถือของเธอนั้นนทีพยายามโทร.หาและส่งข้อความมาตลอด แต่หญิงสาวกลับไม่
ตอนพิเศษ 1นที VS ธาริกาทุกคนต่างพากันร่วมแสดงความยินดีกับคู่สามีภรรยาที่ปรับความเข้าใจกันได้เสียที หลังจากที่ไม่เข้าใจกันมานานนับหลายเดือน ธาริกามองภาพของม่านทิวาที่ยิ้มอย่างมีความสุขกับรณพีร์อยู่คู่หนึ่งก็หาจังหวะปลีกตัวออกจากงานที่มากมายไปด้วยผู้คนทุกคนต่างหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน รวมทั้งเพื่อนสาวทั้งสองของเธอที่กำลังคบหาดูใจกับสองหนุ่มหล่ออย่างพชรและจอมพล หญิงสาวรอจังหวะที่ไม่มีสายตาคู่คมคอยจับจ้องรีบถอยห่างออกมาจากตรงนั้นทันทีธาริกาเดินลัดเลาะตามแนวทางเดินของสวนคุณย่ามาลัยไปยังบ้านเช่าที่ตนกับม่านทิวาเช่าอยู่ด้วยกัน นับตั้งแต่ที่พาว่าที่คุณแม่หนีออกมาจากโรงพยาบาล หญิงสาวคอยลอบมองซ้ายมองขวาว่าจะมีใครแอบตามเธอมาหรือไม่ หลังจากที่ดูจนแน่ใจว่าไม่มีใครตามมาจึงรีบเดินไปยังประตูหน้าบ้านทันที เพื่อที่จะเอากระเป๋าเดินทางใบเล็กของเธอที่ลืมหยิบออกมาตั้งแต่แรก เมียงมองหากระเป๋าใบใหญ่ของตนแต่ก็ไม่พบ แต่พอลองนึกย้อนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้นทีเป็นคนที่คว้าเอาของของเธอไปถือไว้หน้าตาเฉยตอนนี้กร