หลายวันต่อมา
ปายเดินไปหยุดตรงหน้าประตูห้อง ณ คอนโดแห่งหนึ่งพร้อมกับเคาะประตูสองสามครั้งด้วยความเป็นห่วงคนข้างใน เธอรอให้เขาออกมาเปิดให้แต่กลับไม่มีวี่แวว เธอจึงลองผลักเปิดประตูออกพอเห็นว่าเปิดได้ เธอจึงค่อยๆ เดินเข้าไปในห้องช้าๆ พร้อมกับกวาดสายตามองหาห้องนอน
ร่างบางเดินตรงเข้าไปในห้องนอนกว้างมองหาคนที่ขอร้องให้เธอมาหาแต่กลับว่างเปล่าไร้เงาคนคนนั้น ร่างบางกำลังจะหมุนตัวเดินออกจากห้องแต่กลับถูกรวบร่างเข้าไปกอดแนบชิดกับกายแกร่งของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงด้านหลังเธอเสียก่อน
"นายจะทำอะไรอะ" ปายสะดุ้งตกใจ
"ขอบใจนะ ที่เธอเป็นห่วงฉันแล้วมาหากัน"
"ถ้านายไม่ป่วยฉันไม่มีมาหาให้เสียเวลาหรอก ว่าแต่นายหายแล้วเหรอ ถึงได้มากอดฉันแบบนี้ ปล่อยได้แล้ว" ปายพยายามดิ้นจะออกจากอ้อมแขน
"ใครบอกว่าฉันป่วยล่ะ"
"หมายความว่ายังไง" ปายหยุดชะงักนิ่งไป
"ฉันไม่ได้ป่วยอะไรหรอก ฉันแค่อยากจะเรียกร้องความสนใจจากเธอ " พูดพลางปล่อยร่างบางเป็นอิสระ
"ที่นายพยายามโทรหาฉันแต่เช้า ขอร้องให้ฉันมาหาถึงที่นี่ เพราะตัวเองกำลังป่วยหนักไม่มีแรงเดินไม่มีใครดูแล หมายความว่าที่นายพูดมาทั้งหมดมันเป็นเรื่องโกหกเหรอ"
"ใช่ ถ้าไม่ทำแบบนี้ เธอจะเห็นใจยอมมาหาฉันเหรอ"
"นายเล่นบ้าอะไรของนาย ฉันไม่ตลกด้วยหรอกนะ"
"ฉันมีเหตุผล ฟังฉันหน่อยนะ"
"ไม่! ฉันจะกลับ"
"ได้ ในเมื่อเธอไม่ยอมฟังอะไรจากปากฉัน งั้นฉันจะบอกเธอผ่านทางภาษากายก็แล้วกัน" นัทคว้าร่างบางที่ทำท่าจะเดินออกไปเข้ามาประกบจูบริมฝีปากบางทันควัน
"อื้อ" ปายพยายามดิ้นขัดขืนแต่กลับถูกมือหนายกขึ้นมาจับตรึงเรียวหน้าของเธอเอาไว้แน่นไม่ให้ขยับหนี
ปายจึงหยุดนิ่งไม่ขัดขืนหลับตาลงรับสัมผัสรสจูบจากริมฝีปากหนาอย่างเผลอไผล ลิ้นหนาค่อยๆ ซอกซอนเข้าไปในโพลงปากหวานเกี่ยวตวัดลิ้นบางไปมาอย่างดุดัน เมื่อได้ลิ้มลองรสชาติจนสมใจแล้วชายหนุ่มก็ถอนริมฝีปากออกมามองใบหน้าเนียน
"ยกเลิกงานหมัั้นเถอะนะ" นัทเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังหนักแน่น
"อะ...อะไรนะ!" ปายเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก
"เธอได้ยินไม่ผิดหรอก ฉันพูดจริงๆ "
"นายทำแบบนี้ทำไม ฉันไม่เข้าใจ"
"จูบเมื่อกี้ เธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ"
"คือฉัน" ปายพูดไม่ออกเพราะกำลังสับสนอยู่
"รับปากฉันได้ไหม ว่าเธอจะยกเลิกงานหมั้นทั้งหมด"
"ไม่ ฉันทำไม่ได้"
"อย่าฝืนใจตัวเอง หมั้นกับคนที่เธอไม่ได้รักเลยนะ"
"แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง"
"เปิดใจให้ฉันเถอะนะ ถ้าเธอยังชอบฉันอยู่"
"นาย!" ปายตกใจเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากของชายหนุ่มที่มองข้ามเธอมาตลอดหลายปี
"ฉันว่าเราอย่าเสียเวลาคุยกันอยู่เลยนะ" นัทพูดพลางช้อนอุ้มร่างบางขึ้น
"นายจะทำอะไร ปล่อยฉันลงนะ!" ปายพยายามดิ้นขัดขืนด้วยความตกใจ
"เดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละ" ตรงไปที่เตียงพร้อมกับวางร่างบางลงพร้อมกับขึ้นคร่อมทาบทับกักร่างสาวเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนี
"นายจะทำอะไร" ปายเริ่มหวาดหวั่น
"เธอว่าฉันจะทำอะไรดีล่ะ" นัทยิ้มเจ้าเล่ห์
"นายไม่ควรทำแบบนี้นะ"
"ทำไมฉันจะทำไม่ได้ ก็ในเมื่อหัวใจของเราสองคนตรงกัน จริงไหม" ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าเนียน
"ใครบอก ว่าฉันใจตรงกันกับนาย"
"แน่ใจนะ ว่าไม่ตรง แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ" ก้มลงหอมแก้มเนียนฟอดหนึ่ง
"นายหยุดทำบ้าๆ กับฉัน เดี๋ยวนี้เลยนะ!"
"ทำไมล่ะ เธอไม่ชอบเหรอหื้ม"
"ใช่ฉันไม่ชอบ!" ปายพูดพลางหันหน้าหนีไปอีกทาง
"งั้นฉันจะทำให้เธอชอบเอง" พูดจบก็ประกบจูบริมฝีปากบางทันที
"อื้อ"ร่างบางเปล่งเสียงอยู่ในลำคอพยายามจะหนีการจู่โจมครั้งที่สองแต่กลับไม่เป็นผล ริมฝีปากหนาทั้งบดทั้งขยี้ซอกซอนลิ้นเข้าไปในโพลงปากหวานจนสำเร็จ เมื่อเห็นว่าสาวใต้ร่างเริ่มจะหายใจไม่ทันชายหนุ่มจึงค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก
"จะหยุดเถียงแล้วฟังฉันดีๆ ได้หรือยังหื้ม" ชายหนุ่มจ้องใบหน้าเนียนตาเป็นมัน
"อืม ก็ได้ฉันจะฟัง"
"ยกเลิกงานหมั้น แล้วมาเป็นแฟนกับฉันได้ไหม"
"นายกำลังขอฉันเป็นแฟนงั้นเหรอ"
"อืม ฉันกำลังขอเธอเป็นแฟน"
"แล้วบัวล่ะ นายชอบบัวมากไม่ใช่เหรอ"
"ก็ไม่เท่าที่เธอชอบฉันหรอกใช่ไหม"
"ใช่ฉันยอมรับว่าฉันชอบนายมาก แล้วนายล่ะอะไรโดนใจให้มาขอฉันเป็นแฟนเอาป่านนี้"
"เพราะฉันกลัวจะเสียเธอไปให้ผู้ชายคนอื่นนะสิ"
"นายนี่มันบ้าจริงๆ เลย" ปายเขินอายหน้าแดงก่ำ
"ว่าไงตกลงจะเป็นแฟนกับฉันไหม"
"อืม" ปายพยักหน้ารับด้วยความเขินอาย
"พยักหน้าแบบนี้แสดงว่าตกลงแล้วใช่ไหม" นัทเชยคางมนขึ้นเงยขึ้นมองหน้าเขาตรงๆ
ปายไม่ตอบโต้ใดๆ แต่กลับจ้องมองเข้าไปในดวงตาคมกริบของชายหนุ่มด้วยความรู้สึกอยากที่จะครอบครองเป็นเจ้าของชายหนุ่มแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งความรู้สึกนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากชายหนุ่มที่มองเธอตาเป็นมันเหมือนกัน ริมฝีปากของคนทั้งคู่ค่อยๆ ขยับเข้ามาประกบกันช้าๆ ตามหัวใจที่ร่ำร้องเรียกหา
ระหว่างที่ริมฝีปากยังคงทำหน้าที่จูบสร้างรสรักให้แก่กันและกัน มือหนาก็ค่อยๆ ลูบไล้ไปตามสัดส่วนเรือนร่างเนียน เพื่อปลุกอารมณ์สาวให้ลุกโชนขึ้น ไม่กี่อึดใจทั้งสองร่างก็เปลือยเปล่าล่อนจ้อน ร่างแกร่งยกแหกขาเรียวยาวทั้งสองข้างออกจากกัน จากนั้นก็ใช่นิ้วมือสอดใส่เข้าไปในร่องสวาทอย่างช้าๆ สร้างความเสียวซ่านให้แก่กายสาวเป็นอย่างมาก
"ซี๊ด...นายฉันไม่ไหวแล้ว" ปายเปล่งเสียงแหบพร่า
"ฉันจะช่วยเธอเอง" ก้มลงประกบจูบริมฝีปากบางพร้อมกับสอดใส่ท่อนเอ็นร้อนเข้าไปในร่องสวาทที่มีน้ำหวานใสไหลชโลมออกมาด้านนอกช้าๆ จนสุดมิดลำ
"นายเบาๆ นะ ฉันเจ็บ" ร่างบางเอ่ยเสียงแหบพร่านิ่วหน้ารับการรุกล้ำครั้งแรก
"ได้สิ ฉันจะทำให้เธอมีความสุขที่สุดเลย" กระเด้าเอวสอบเข้าร่องสวาทช้าๆ
"อื้อ...อ๊าส์...ซี๊ด" ปายเปล่งเสียงครางออกมาเบาๆ
"โอย...มันแน่นมากเลย" นัทซูดปากด้วยความเสียวซ่านกระเด้าเอวสอบเข้าหาร่องสวาทในจังหวะช้าและเร็วสลับกันไปมา เพื่อสร้างความเคยชินให้กับเนินอวบอูมที่ไม่เคยผ่านการล่วงล้ำใดๆ มาก่อนได้ปรับตัว
ร่างแกร่งพาท่อนเอ็นร้อนเข้าออกร่องสวาทสาวเร็วถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนพาร่างสาวที่นอนราบอยู่ใต้กายเสร็จสมไปก่อนล่วงหน้า จากนั้นเขาก็ตามเธอไปติดๆ เปล่งเสียงคำรามพร้อมกับปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งแตกกระจายภายในร่องสวาทด้วยความสุขสม
"เป็นยังไงบ้าง เจ็บไหม" นัทกกกอดร่างบางเอาไว้แนบอกกว้าง
"อืม เจ็บสิ ก็ครั้งแรกของฉันนี่"
"แล้วมีความสุขไหม"
"อืม มีสิ"
"ขอบคุณนะ ที่ยอมเป็นของฉัน" ก้มลงจูบหน้าผากมนเบาๆ
"ฉันไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีวันนี้"
"ยังไงเหรอ"
"ก็เมื่อก่อนนายไม่ชอบขี้หน้าฉันไม่ใช่เหรอ แล้วอยู่ๆ วันนี้ก็มาขอเป็นแฟน พอตกลงนายก็รวบรัดฉันเลย ฉันตั้งตัวไม่ทันแล้วรู้ไหม"
"ใครบอกว่าไม่ชอบล่ะ แค่ปากกับใจไม่ตรงกันก็เท่านั้นเอง เธอจำวันที่ฉันช่วยเธอที่ผับวันนั้นได้ไหม จริงๆ แล้วฉันแอบตามเธอไปเองเพราะเป็นห่วง"
"เป็นห่วงแล้วทำไมไม่บอกกันตรงๆ ล่ะ"
"ก็เพราะตอนนั้นฉันยังไม่รู้ใจตัวเองยังไงล่ะ"
"เป็นห่วงฉัน แต่ใจของนายก็มีแต่บัวตลอดมาใช่ไหมล่ะ"
"ใช่ แต่ตอนนี้มันอยู่ที่เธอแล้วนะ"
"อะไรทำให้นายตัดใจจากบัวได้ล่ะ"
"เพราะความชัดเจนและใจแข็งของบัวมั้ง และที่สำคัญพอฉันรู้ว่าเธอกำลังจะหมั้นกับคนอื่น มันยิ่งทำให้ฉันรู้ใจตัวเอง"
"นายแน่ใจนะ ว่าจะตัดใจจากบัวได้จริงๆ"
"แน่ใจสิ เธอเป็นเมียฉันแล้วนะ ฉันไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากเธอเด็ดขาด"
"มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะ นายลองเปลี่ยนใจดูสิน่าดู"
"ไม่ทันไร ก็หึงฉันแล้วเหรอ"
"บ้า ฉันเปล่าสักหน่อย"
"เธอเป็นของฉันแล้ว อย่าลืมไปจัดการยกเลิกงานหมั้นด้วยนะ"
"ฉันไม่แน่ใจนะ ว่ามันจะสำเร็จไหม" ปายพูดด้วยใบหน้าเคร่งเครียดลุกขึ้นนั่ง
"ทำไมล่ะ เธอก็แค่บอกว่าไม่อยากหมั้นแล้ว เพราะไม่ได้รักกัน"
"แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเขาหวังในตัวฉันกับพี่ทินมากเลยนะ ท่านต้องผิดหวังในตัวฉันแน่ๆ อีกอย่างเหตุผลไม่ได้รักกันมันยังมีน้ำหนักไม่มากพอหรอก"
"ถ้าอย่างนั้น ฉันจะไปคุยกับพ่อเธอเอง"
"ไม่ได้นะ!" ปายตกใจ
"ทำไมล่ะ เธอเป็นเมียฉันแล้วนะ ฉันจะได้คุยเรื่องของเราด้วย อีกอย่างถ้าฉันไปด้วยตัวเองคำพูดมันจะดูมีน้ำหนักมากกว่า ที่เธอจะคุยกับท่านด้วยตัวเองเสียอีก"
"แต่ฉันกลัว"
"ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง" สวมกอดปลอบร่างบางเอาไว้แน่น
"ฉันดีใจมากเลย ที่นายจริงจังกับฉัน เราจะไปพบคุณพ่อพร้อมกันนะ" ปายยิ้มกว้างมีความสุข
"อืม อย่าเพิ่งกลับนะ อยู่กับฉันก่อน" ก้มหน้าลงประกบจูบริมฝีปากบางทันที จากนั้นบทรักบทใหม่ก็ถูกปลุกลุกโชนอีกครั้งด้วยความเต็มใจและสุขสมกันทั้งสองฝ่าย
ณ บ้านไกรณรงค์บัวตองเดินเข้ามาในบ้านด้วยความน้อยใจ และคนที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นวินแน่นอน ตอนแรกเธอคิดว่าวินจะกลับบ้านพร้อมเธอหลังจากที่ทำงานเสร็จ แต่ที่ไหนได้ชายหนุ่มกลับให้เธอนั่งแท็กซี่กลับบ้านเอง เพราะเขามีนัดกับษา ร่างบางทิ้งตัวนอนลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้บรรยากาศในบ้านเงียบเชียบกว่าปกติ เพราะเนตรนภาไม่อยู่ไปปฏิบัติธรรมที่วัดต่างจังหวัดหลายวัน บัวตองพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านในใจทิ้ง แล้วตรงหายเข้าไปในห้องน้ำทันที
ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งษากำลังนั่งมองหน้าวินด้วยความรู้สึกผิดและกังวลในใจ เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เธอกำลังจะพูดออกไปมันจะทำให้เขาเจ็บปวดเสียใจ แต่เธอไม่อยากจะทำร้ายชายหนุ่มตรงหน้าลับหลังอีกไปแล้ว และวันนี้มันถึงเวลาแล้วที่เธอกับเขาจะต้องตัดขาดกันและกันสักที ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ควรจะทำตั้งนานแล้ว เพื่อความรักของเธอกับนพพล
"ษามีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า" เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น
"ที่ษานัดวินมาเจอที่นี่ จริงๆ แล้วษามีเรื่องสำคัญจะบอกคุณค่ะ"
"เรื่องอะไรเหรอ"
"ษาว่าเราเลิกกันเถอะค่ะ"
"อะไรนะ" วินถามย้ำอีกครั้ง
"เราเลิกกันเถอะค่ะ ษาไม่อยากจะทำร้ายคุณไปมากกว่านี้อีกแล้ว"
"ษาอย่ามาล้อผมเล่นน่า มันไม่ตลกเลยนะ" วินหัวเราะขบขัน
"ษาพูดจริงๆ ค่ะ ษาไม่ได้รักคุณแล้ว" ษาเอ่ยเสียงหนักแน่นจริงจังพร้อมกับจ้องหน้าวิน
"ผมไม่อยากเชื่อเลย ว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากษา" วินเริ่มหน้าถอดสี
"ตัดใจจากษาซะเถอะนะคะ เราสองคนไปกันไม่ได้จริงๆ ค่ะ"
"ทำไม ษาบอกผมมาสิ ว่าผมไม่ดีตรงไหนควรจะปรับปรุงตัวเองยังไง อย่าทำแบบนี้เลยนะ ษาก็รู้ว่าผมรักษาแค่ไหน" ยื่นมือหนาไปจับกุมมือบางเอาไว้
"มันไม่เกี่ยวกับคุณหรอกค่ะ ทุกอย่างมันเป็นเพราะษาเอง" ชักมืออกจากการจับกุม
"หมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ"
"จริงๆ แล้วษาไม่ได้รักคุณเลยค่ะ แต่ที่ต้องทำเป็นรักก็เพราะเราหมั้นกันแล้วไม่อยากให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเสียใจ และที่สำคัญษาทำเพื่อให้คุณพ่อสบายใจและไม่มาสนใจจับผิดษาว่าจะไปคบหาผู้ชายคนไหนนอกจากคุณ แต่สุดท้ายษาก็เผลอใจไปรักคนอื่นจนได้ค่ะ"
"มันเป็นใคร!" วินขบกรามแน่นด้วยความเจ็บปวดเสียใจผิดหวังเหมือนทุกอย่างตรงหน้ากำลังจะพังทลาย
"ษาบอกไม่ได้ค่ะ เรื่องของเราขอให้จบแค่นี้เถอะนะคะ" พูดพลางลุกขึ้นยืน
"รักมันมากเลยเหรอ ถึงบอกไม่ได้ว่ามันเป็นใคร" วินเอ่ยเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้า
"อย่ารู้ให้ตัวเองต้องเสียใจไปมากกว่านี้เลยค่ะ ษาขอร้อง"
"มันคงจะสำคัญมากสินะ ถึงบอกไม่ได้ว่ามันเป็นใคร ที่ยืดเยื้อไม่ยอมแต่งงานกับผมมานานตั้งหลายปีก็เพราะแบบนี้สินะ"
"ษาขอโทษ" พูดพลางกลั้นน้ำตาเอาไว้
"ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เราอยู่ด้วยกัน บอกรักกัน นอนด้วยกัน มันไม่มีอะไรจริงเลยใช่ไหม แต่ที่ทำไปก็เพราะความต้องการของผู้ใหญ่" วินมองหน้าษาตาแดงก่ำ
"มันไม่ใช่ทั้งหมดหรอกค่ะ ษาเคยรักคุณแต่มันยังไม่มากพอเท่านั้นเอง"
"ษารู้ไหมว่าผมกำลังจะขอแต่งงานเร็วๆ นี้ แต่ไม่คิดเลยว่าษาจะเหยียบหัวใจของผมได้ลงคอ"
"ษาขอโทษ ที่ทำให้คุณเสียใจ" พูดพลางน้ำตาไหลอาบแก้ม
"ผมไม่รับคำขอโทษ แต่ผมขอแค่คุณกลับมารักและอยู่กับผมเหมือนเดิม ทำได้ไหม" วินส่งสายตาอ้อนวอนอย่างคนหมดสิ้นหนทาง
"ษาทำไม่ได้ค่ะ อย่ารั้งษาไว้เลยนะคะ ษาก็เสียใจไม่ต่างอะไรกับคุณหรอกค่ะ ที่ทำร้ายคุณลับหลังตลอดเวลา" พูดพลางปาดน้ำตาทิ้งหมุนตัวหันหลังให้ชายหนุ่ม
"ษา อย่าไปนะ ผมขอร้อง" วินเข้าสวมกอดษาทางด้านหลังทั้งน้ำตาลูกผู้ชาย
"วิน ปล่อยษาไปเถอะนะ" แกะมือหนาออกจากเอวด้วยความละอายใจ
"ผมรักคุณ อย่าใจร้ายทิ้งผมไปเลยนะษา ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ"
"ตัดใจจากษาเถอะนะคะ อย่าบังคับให้ษารักคุณเลย ษาหวังว่าสักวันคุณจะเจอคนที่รักคุณจริงๆ"
"ไม่! ไม่ว่าใครก็มาแทนที่ษาไม่ได้หรอก ษายังรักผมอยู่แต่ที่ษาบอกเลิกผมก็เพราะกำลังหลงคารมผู้ชายคนนั้นอยู่ใช่ไหมษา"
"อย่าหลอกตัวเองเลยค่ะ ษารักเขาค่ะ รักมานานแล้วด้วย แต่ทำได้แค่แอบซ่อนเอาไว้"
"ผมไม่สนว่ามันจะเป็นใครหรอก ษาไปบอกเลิกกับมันเถอะนะผมขอร้อง" วินคุกเข่าลงกับพื้นเกาะขาหญิงสาวเอาไว้
"ไม่ค่ะ ปล่อยษาไปเถอะ แล้วอย่ามายุ่งกับษาอีกเด็ดขาด" สลัดขาออกจากมือหนาแล้วรีบเดินตรงออกไปจากร้านทั้งน้ำตา
"ษา! อย่าไป! ผมขอร้อง!" วินวิ่งตามร่างบางไปจนถึงรถ
ษาเห็นวินวิ่งตามหลังเธอมาติดๆ จึงรีบเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งพร้อมกับสตาร์ทเครื่อง จังหวะที่กำลังจะขับออกไปวินก็วิ่งมาถึงที่รถพอดี ชายหนุ่มใช้มือเคาะกระจกรถร้องเรียกเธอให้เปิดประตูรถทั้งน้ำตา แต่หญิงสาวกลับไม่แม้จะสนใจหันมามองเขาสักนิด แต่กลับเร่งเครื่องยนต์ผ่านหน้าชายหนุ่มออกไปด้วยความรวดเร็ว วินที่เกาะประตูรถไว้จึงทรุดตัวล้มลงกับพื้นด้วยหัวใจที่ปวดร้าวเจียนขาดใจ
ษาเดินเข้าไปในบ้านก็เจอประพันธ์นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอจึงเดินเข้าไปนั่งลงตรงข้ามบิดาด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง เธอตั้งใจจะบอกสิ่งที่เธอเพิ่งทำมาหมาดๆ ให้บิดาได้รับรู้ในตอนนี้เลย เพื่อจะได้ปลดปล่อยตัวเองออกจากความทุกข์ใจนี้สักที
"คุณพ่อค่ะ ษามีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ" หญิงสาวเปิดประเด็นขึ้นทันที
"เรื่องอะไร" ถามพลางตามองหน้าจอโทรทัศน์
"ษาบอกเลิกวินแล้วนะคะ"
"อะไรนะ ไหนแกลองพูดใหม่สิ" ประพันธ์เริ่มที่จะนั่งไม่ติด
"ษาเพิ่งจะบอกเลิกวินไปเมื่อกี้ค่ะ"
"แกเป็นบ้าไปแล้วเหรอ! แกกล้ามากที่ท้าทายฉัน!" ประพันธ์ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ
"คุณพ่ออย่าบังคับษาอีกต่อไปเลยนะคะ ษาไม่ได้รักวิน แต่ษารักนพค่ะ"
"กลับไปคืนดีกับวินซะ "
"ไม่ค่ะ ษารักนพ เราสองคนจะแต่งงานกัน คุณพ่ออย่ากีดกันเราสองคนเลยนะคะ ษาขอร้อง" ษานั่งลงเกาะขาบิดาเอาไว้
"ไม่! ยังไงแกก็จะต้องแต่งงานกับวินคนเดียวเท่านั้น!"
"ไม่ค่ะ ษาไม่แต่ง ษารักนพ ษาจะแต่งกับนพคนเดียวเท่านั้น" ษาส่ายหน้าน้ำตาไหลอาบแก้ม
"ไอ้หมอนั้นมันมีดีอะไรนักหนา มันก็แค่พนักงานกระจอกๆ คนหนึ่ง ที่ให้ตายสักสิบชาติก็สู้วินที่เป็นเจ้าของบริษัทแปรรูปชาไทยอันดับต้นๆ ของประเทศที่มีเงินหลายหมื่นล้านไม่ได้หรอก"
"ษาไม่ต้องการเงินค่ะ ษาต้องการความสุข อย่าบังคับษาอีกเลยนะคะ คุณพ่อษาขอร้อง"
เพี๊ยะ! ฝ่ามือประพันธ์ฟาดเข้าไปที่แก้มด้านซ้ายของษาจนหน้าหันไปอีกทาง
"คุณพ่อ" ษาตกใจหันมามองหน้าบิดาด้วยสายตาตัดพ้อ
"สติแกกลับมาหรือยัง ถ้าแก อยากจะให้ฉันตายคาตีนพวกแก๊งทวงหนี้ ก็ไปอยู่กับมันซะ!"
"คุณพ่อ ว่าอะไรนะคะ"
"ตอนนี้ฉันเป็นหนี้ที่บ่อนแถวชายแดนห้าล้าน กลับไปคืนดีกับวินซะ ถ้าไม่อย่างนั้นเตรียมจัดงานศพฉันได้เลย"
"คุณพ่อก็รู้ว่าบ้านเราไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย แล้วทำไมถึงก่อหนี้เพิ่มอีกคะ ษาไม่เข้าใจ"
"แกไม่ต้องมาย้อนถามฉัน หน้าที่ของแกก็คือไปคืนดีกับวินซะ"
"ถ้าไม่มีจ่ายจริงๆ งั้นก็ปล่อยให้เขายึดที่ยึดบ้านบริษัทไปเถอะค่ะ ษาจะไม่ทำตามที่คุณพ่อสั่งอีกแล้ว" หมุนตัวหันหลังให้บิดาทันที
"แกแน่ใจนะ ว่าจะไม่แต่งงานกับวิน"
"ค่ะ ษาจะไปอยู่กับนพ"
"ถ้าแกไม่แต่งงานกับวิน งั้นก็เตรียมตัวไปเป็นเมียเสี่ยเจ้าของบ่อนที่ชายแดนได้เลย"
"คุณพ่อพูดแบบนี้ หมายความว่ายังไงคะ" ษาหันไปมองหน้าบิดาตรงๆ
"ฉันคุยกับเสี่ยแล้ว ถ้าไม่มีเงินจ่ายฉันจะเอาตัวแกไปใช้หนี้แทน"
"คุณพ่อ ยังเห็นษาเป็นลูกอยู่ไหมคะ ทำไมถึงทำแบบนี้ คุณพ่อไม่เคยรักษาเลย ษาไม่น่าเกิดมาเป็นลูกของคุณพ่อเลย" ษาร้องไห้สะอึกสะอื้น
"เลือกเอาแกจะเป็นเมียเสี่ยหรือเมียวิน และอย่าคิดจะหนีไปอยู่กับไอ้กระจอกนั้นนะ ฉันจะให้เสี่ยไปลากคอแกกลับมา" ประพันธ์ข่มขู่ลูกสาว
"ในที่สุด คุณพ่อก็เลือกความสุขของตัวเองมาก่อนเสมอ ไม่เคยแคร์ความรู้สึกของษาเลย" พูดจบษาก็เดินขึ้นห้องทั้งน้ำตา
ณ บ้านไกรณรงค์ช่วงกลางดึกวินพาร่างของตนเองที่มีอาการมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มมาอย่างหนักเพื่อย้อมใจให้ลืมความเจ็บปวดในใจ เดินขึ้นบันไดเพื่อไปยังห้องนอนของตนเอง ขาแกร่งเดินโซซัดโซเซไปมาจนไปถึงหน้าประตูห้องตนเองจนสำเร็จ แต่จังหวะที่กำลังจะยื่นมือไปเปิดประตูร่างทั้งร่างก็ล้มลงไปกองกับพื้น
เสียงกุกกักข้างนอกทำให้บัวตองที่นอนไม่หลับลุกลงจากเตียง เดินออกมาดูตรงหน้าห้องของตนเอง ระหว่างที่กำลังกวาดสายตามองหาต้นเหตุของเสียง ตาก็เหลือบไปเห็นวินนอนกองกับพื้นอยู่ตรงหน้าห้องของตนเอง บัวตองเห็นอย่างนั้นก็รีบเข้าไปพยุงชายหนุ่มให้ลุกขึ้นด้วยความเป็นห่วง
"พี่มานอนอะไรตรงนี้คะ" พูดพลางทำหน้าบิดเบ้เพราะเหม็นกลิ่นสาบเหล้าจากตัวของชายหนุ่ม
"ษา....มาหาผมแล้วเหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นหันมามองหน้าบัวตอง
"ทำไมดื่มหนักขนาดนี้คะ ไปค่ะ บัวจะพาไปนอน" พูดพลางผลักเปิดประตูประคองชายหนุ่มเข้าไปในห้องนอน
บัวตองค่อยๆ ปล่อยทิ้งร่างแกร่งที่เมาขาดสติที่เอาแต่เพ้อหาษาลงนอนบนเตียง จากนั้นก็จัดการถอดถุงเท้ารองเท้าออกให้ชายหนุ่ม พร้อมกับดึงถอดเข็มขัดราคาแพงออกจากเอวให้ชายหนุ่มได้นอนสบาย มากขึ้น พอเสร็จเธอก็ตรงเข้าไปในห้องน้ำผ้าชุบน้ำพอหมาดๆ มานั่งเช็ดหน้าให้ชายหนุ่ม
"ษา" ทันทีที่มือบางแตะลงบนหน้าชายหนุ่มก็ตะครุบจับไว้ทันควัน
"บัวเองค่ะ ไม่ใช่คุณษา"
"ษาอย่าทิ้งผมไปนะ ผมรักคุณ ได้ยินไหม" พูดพลางน้ำตาค่อยๆ ไหลออกจากหางตาช้าๆ
"พี่ทะเลาะกับคุณษาเหรอคะ ถึงได้เสียใจร้องไห้อย่างนี้" บัวตองใช้นิ้วเรียวสวยปาดเช็ดน้ำตาออกให้ชายหนุ่มด้วยความอ่อนโยนสงสาร
"พี่นอนพักผ่อนเถอะนะคะ เดี๋ยวคุณษาเขาก็มาหาพี่เองค่ะ" พูดพลางใช้ผ้าเช็ดไปตามใบหน้าสากอย่างเบามือพร้อมกับมองพินิจใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความเผลอไผล
"ษา อยู่กับผมนะ" มือหนาจับมือบางเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
"พี่เมามากแล้ว นอนเถอะนะคะ" บัวตองพยายามดึงชักมือออกจากการจับกุมแต่กลับไม่เป็นผล
"พี่ปล่อยมือบัวได้แล้วค่ะ " บัวตองยังคงพยายามชักมือออก
"ษา ผมจะไม่ปล่อยคุณไปไหนอีกเด็ดขาด" พูดพลางรวบรวมแรงลุกขึ้นนั่งรวบร่างบางเข้ามาโอบกอดแล้วผลักลงบนเตียงขึ้นคร่อมทาบทับเอาไว้
"ว้าย! พี่ นี่บัวเอง ไม่ใช่คุณษา" บัวตองตกใจเบิกตาโตจ้องมองหน้าคนบนร่าง
"ผมรักคุณนะ อยู่กับผมอย่าไปไหนอีกได้ไหม" วินจ้องมองใบหน้าเนียนด้วยความเลือนรางพร้อมกับก้มหน้าลงประกบจูบริมฝีบางทันที
"อื้อ..อย่า" บัวตองดิ้นขัดขืนด้วยหัวใจที่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
"อย่าดิ้นสิ เรากำลังจะมีความสุขด้วยกันนะ ที่รัก" มือหนาลูบไล้ไปตามเรียวหน้าเนียนเบาๆ
"พี่วิน" บัวตองเอ่ยเสียงแผ่วเบานอนนิ่งไม่ไหวติ่ง
"เรามาสร้างความสุขไปด้วยกันนะ" ก้มลงประกบจูบริมฝีปากบางอย่างโหยหารักใคร่
ทันทีที่ริมฝีปากหนาประกบจูบริมฝีบางระเรื่อ อมชมพูดวงตากลมโตอันใสชื่อก็ปิดลงรับสัมผัสที่ชายหนุ่มมอบให้ด้วยความเต็มใจ เธอรู้อยู่แก่ใจว่าชายหนุ่มเห็นเธอเป็นคนอื่นไปแล้ว เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่หากเธอขัดขืนไปก็ไม่เป็นผลอยู่ดี เธอจึงปล่อยให้ชายหนุ่มได้มอบสัมผัสแปลกใหม่ให้เธอไปตามใจปรารถนาของชายหนุ่ม
ร่างสาววาบหวามไปทั่วกายทุกครั้งที่ชายหนุ่มลูบไล้ไปตามกายสาว ริมฝีปากหนาซุกไซ้ไปตามลำคอขาวเนียนแล้วเลื่อนลงไปยังหน้าอกเต่งตึงทั้งสองมือหนาบีบเคล้นไปมาอย่างหื่นกระหาย มือหนาจัดการถลกชุดนอนกระโปรงออกไปจากกายสาวอย่างรวดเร็วและตามด้วยเสื้อผ้าของตนเอง
ร่างแกร่งทาบทับร่างบางจมมิดอยู่ใต้ร่าง พร้อมกับส่งนิ้วมือเรียวยาวสอดใส่เข้าไปในร่องสวาทช้าๆ เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ในกายสาวให้ลุกโชนขึ้น ร่างบางที่ไม่เคยถูกรุกล้ำจุดสงวนสะดุ้งสุดตัวทำให้คนบนร่างอดที่จะแปลกใจไม่ได้ แต่ด้วยความความปรารถนาที่อยากจะร่วมสุขกับกายสาว เขาจึงไม่สนอาการใดๆ จากคนใต้ร่างทั้งนั้น
มือหนาจับท่อนเอ็นร้อนอันแข็งขึงเต็มที่ค่อยๆ จ่อเข้าทางร่องสวาททันทีที่ชักนิ้วมือที่นำร่องไปก่อนออก ร่างบางแทบจะหยุดหายใจในทันทีเมื่อถูกท่อนเอ็นใหญ่ดุนดันเข้ามาในร่องสวาทอันแสนคับแคบนี้อย่างดุดัน ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเพื่อกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ ร่างแกร่งพาท่อนเอ็นร้อนที่เพิ่งเข้าไปได้แค่ครึ่งทางกระเด้าเอวสอบอีกครั้งท่อนเอ็นร้อนก็เข้าไปกระแทกภายในร่องจนสุดมิดลำ
"โอย...ซี๊ด" เสียงทุ้มคำรามด้วยความเสียวซ่านพึงพอใจ
"พี่บัวเจ็บ...ซี๊ด" ร่างบางผวาเข้ากอดร่างหนาเอาไว้
ร่างหนาไม่สนคำประท้วงใดๆ ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และความกำหนัดจิตใต้สำนึกยังคงบอกเขาว่าคนที่กำลังร่วมรักครอบครองกายสาวอยู่เป็นคนรักของตนเองอยู่ตลอดเวลา ชายหนุ่มไม่สนความคับแน่นและขนาดสัดส่วนของเรือนร่างที่เปลี่ยนไป ยังคงเดินหน้าพาท่อนเอ็นร้อนไร้สิ่งห่มหุ้มป้องกันใดๆ เข้าออกร่องสวาทที่ฉีกขาดจากการถูกรุกล้ำจนมีเลือดซิบออกมาเล็กน้อย
ร่างบางหัวสั่นหัวคลอนไปมาจากแรงกระแทกเข้าออกร่องสวาทครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่นานความเจ็บปวดก็แปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน เธอจึงเปล่งเสียงครางออกมาเบาๆ พร้อมกับจับขย้ำผ้าปูที่นอนไว้ทั้งสองมือเพื่อระบายความเสียวซ่านที่แผ่ซ่านไปทั่วเรือนกายสาว แรงกระแทกส่งผลให้เกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วห้อง ไม่กี่อึดใจชายหนุ่มบนร่างก็เปล่งเสียงคำรามออกมาพร้อมกับปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งแตกกระจายภายในร่องสวาทด้วยความสุขสมใจ ร่างบางหลับตาพริ้มเกร็งกระตุกเสร็จสมรับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบพานมาก่อนด้วยหัวใจที่เต้นรัวหายใจหอบถี่
ร่างหนากดแช่ท่อนเอ็นร้อนคาอยู่ในร่องสวาทอยู่อย่างนั้นเพื่อรีดน้ำรักปล่อยในช่องรักให้หมดทุกหยด จากนั้นก็ถอดถอนท่อนเอ็นที่ยังคงแข็งขึึงออกจากร่องสวาทช้าๆ ทิ้งตัวนอนลงข้างๆ ร่างบางพร้อมกับหลับตาลงหายใจหอบถี่ บัวตองเห็นอย่างนั้นก็รีบพลิกตัวนอนหันหลังให้ชายหนุ่มทันทีด้วยความอับอาย แต่อยู่ๆ ก็ถูกมือหนารวบร่างเข้าไปกกกอดเอาไว้แน่นแนบอกกว้าง
"ผมรักคุณนะ" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแล้วหลับตาลง
บัวตองได้ยินอย่างนั้นก็พยายามจะขยับตัวออกห่าง แต่ชายหนุ่มกลับกอดรัดร่างเธอเอาไว้แน่นกว่าเดิม เธอจึงทำได้แต่นอนนิ่งซบหน้าลงกับอกกว้างแล้วหลับตาลงไม่นานเธอก็เข้าสู่ห้วงนิทราภายอ้อมกอดอันแสบอบอุ่นของชายหนุ่มไปด้วยความเต็มใจ
โปรดติดตามตอนต่อไป....