“ไฮ เมย์ ยินดีต้อนรับกับบ้านนะเพื่อนรัก” เสียงหญิงสาวที่เดินเข้ามาหา ร้องทักออกมาด้วยความดีใจ
หญิงสาวที่ส่งเสียงทักทาย เมย์ ก็เดินเข้ามากอดเธอที่เป็นเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนานตั้งแต่เธอเรียนจบปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกา และกลับมาอยู่เมืองไทย นี้ก็เกือบจะห้าปีได้แล้ว
ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน เรียนปริญญาโท และเอกในสาขา และมหาวิทยาลัยเดียวกัน เมื่อเธอเรียนจบก็ทำงานที่นั่น เพราะลูกๆ ของเธอยังต้องเรียนไฮคูลอยู่ ส่วนเพื่อนของเธอคนนี้ต้องกลับเมืองไทยหลังเรียนจบ เพราะที่บ้านมีธุรกิจที่ต้องให้เธอช่วยดูแล
“ฉันดีใจที่เธอกลับเมืองไทย ฉันล่ะคิดถึงพวกเธอจริงๆ โดยเฉพาะเจ้าเด็กแสบสองตัวนี้” พูดเสร็จเธอก็หันไปหาเด็กทั้งสอง
“แม่ดายินดีต้อนรับเด็กๆ กลับสู่เมืองไทยนะจ๊ะ” เธอหันไปทักทายเด็กๆ ที่ยืนประจันหน้าเธอในตอนนี้ หลังจากที่เธอกอดแม่ของเด็กๆ แล้ว
“เด็กๆ รอแม่ดานานหรือเปล่า แม่ดาขอโทษที่มาช้า พวกเราต้องรู้นะว่าเมืองไทยนั้นรถติดแค่ไหน ปะ ... หิวแล้วละสิเจ้าตัวเล็กทั้งสอง เดี๋ยวแม่ดาพาไปทานของอร่อยๆ ที่นี่มีของอร่อยเยอะแยะเลยนะขอบอก” ลดา เพื่อนสุดที่เลิฟของแม่ คุกเข่าลงตรงหน้าเด็กชายที่มีใบหน้า น่ารักเหมือนเด็กผู้หญิงพร้อมกับเอามือบี้ไปที่แก้มกลมๆ ของเขาอย่างมันเขี้ยว
“หยุดเลย แม่ดา ผมโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ ที่แม่ดาจะมาทำอย่างนี้ และที่สำคัญผมเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง ... ตอนนี้ผมก็เรียนมหาวิทยาลัยแล้วด้วย” เด็กชายที่หน้าตาน่ารักทำหน้าบู้บี้ออกมา เมื่อเห็นการกระทำของเพื่อนแม่
เด็กๆ ทั้งสองถึงแม้จะโตและเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่เกิด แต่การใช้ภาษาบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขากลับไม่ได้ด้อยลงเลย เพราะผู้เป็นแม่มักจะคอยสอนพวกเขาเรียนรู้ภาษานี้อยู่เสมอ บวกกับที่ทั้งคู่เป็นเด็กอัจฉริยะ จึงไม่ได้เป็นปัญหาในการใช้ภาษาของพวกเขา
“เรานั้นละหยุดเลย! ไปพูดอย่างนั้นกับแม่ดาได้ไง แม่ดาเป็นแม่ทูนหัวของเรานะ” ผู้เป็นแม่ดุลูกชายทันที หลังเห็นว่าลูกชายตัวแสบทำตัวไม่น่ารัก
“ฮาฮาฮา ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ยัยเมย์ เจ้าปี เจ้าวันต้องเป็นอย่างนี้ ถึงจะสมกับเป็นเด็กแฝดสุดแสบของจริง” ลดาแม่ทูนหัวไม่ได้ถือสาเด็กน้อย แต่เธอกลับรู้สึกมีความสุขที่เห็นเด็กๆ กลับมา
ลดา อยู่กับเด็กทั้งคู่มาตั้งแต่เกิด เธอกลายเป็นแม่ทูนหัวของพวกเขา และเธอยังเป็นเพื่อนรักของแม่ของพวกเขาด้วย ลดาคอยดูแลเมย์ตั้งแต่รู้ว่าเธอท้อง และคอยช่วยเลี้ยงเด็กๆ จนเธอต้องกลับเมืองไทย แต่เธอก็ไม่ได้ขาดการติดต่อ เธอ เมย์ และเด็กๆ ทั้งคู่มีกรุ๊ปสนทนาครอบครัวเฉพาะพวกเขาที่ตั้งขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อที่จะได้พูดคุยกันในเวลาที่คิดถึง
“แม่ดาไม่ต้องไปสนใจเจ้าปีเลยครับ ผมอยู่ตรงนี้ แม่ดาไม่ต้องห่วงนะครับ” เด็กชายอีกคนเดินเข้าไปหาแม่ทูนหัวของเขา พร้อมกับใช้มือเล็กๆ ของตัวเองประคองไปที่ใบหน้าของแม่ทูนหัวของเขา
ลดาที่เห็นเด็กน้อยที่ช่างเอาใจ และแคร์ความรู้สึกของคนรอบข้างก็ใจชื้นขึ้นมา รอยยิ้มของเธอมองเด็กชายตัวน้อยๆ พร้อมกอดเขาตอบ
ในสายตาผู้เป็นแม่ ถึงเด็กจะเริ่มโต หรือโตแล้วพวกเขาก็ยังคงเป็นเด็กสำหรับพวกเธอ
“นิสัยขี่อ้อนจริงๆ นะเรานะ” ลดา กล่าวชมเด็กชายที่เข้ามากอดปลอบเธอ
“ปะ แม่ดาจะพาไปหาของอร่อยๆ กินกัน” ลดาพูดกับเด็กๆ เสร็จก็ยืนขึ้น
“ปะเมย์ เราจัดการเรื่องที่คอนโดให้เธอกับเจ้าแฝดทั้งสองเรียบร้อยแล้วนะ” ลดาพูดเสร็จก็ช่วยเมย์เพื่อนรักลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ และทั้ง 4 คน ก็ออกเดินทางไปยังลาดจอดรถของสนามบิน
ขณะที่เดินไป เมย์กับลดาเพื่อนรักก็พูดคุยกันไปด้วย โดยมีเด็กๆ เดินตามเคียงข้าง คนโตอยู่ข้างลดา คนเล็กอยู่ข้าง เมย์ ผู้เป็นแม่
“เรื่องเรียนของเจ้าปีกับเจ้าวันเป็นไงบ้าง” ลดาถามขึ้น
“ก็เรียบร้อยดี ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง ทั้งคู่สอบได้มหาวิทยาลัยของที่นั่น และมอบตัวเรียบร้อย พวกเขาจะเรียนในรูปแบบออนไลน์นะ”
“อือ ลูกเธอยังกะพระเจ้าส่งมาเลยนะ เป็นเด็กอัจฉริยะทั้งคู่เลย” ลดาพูดไปก็หันไปมองเด็กๆ ทั้งสอง เพื่อนสาวของเธอคนนี้เหมือนทุกขลาภ จากการที่ได้ลูกชายทั้งสองคนนี้มา
“ฉันก็ได้พวกเขาทั้งคู่นี้ละ ที่ช่วยฮีลใจ ไม่งั้นฉันคงไม่รู้จะทำอะไร หรือมีกำลังใจอยู่ได้อย่างไร พวกเขาคือของขวัญที่พระเจ้าส่งมาให้ฉันจริงๆ” เมย์มองไปยังลูกๆ ทั้งสองของเธอ เธอก็คิดว่าของขวัญชิ้นนี้ที่ส่งมาให้เธอ คือของขวัญที่ดีที่สุด
เด็กชายทั้งสองได้ยินที่แม่ของเขาคุยกับแม่ทูนหัวต่างก็มองหน้ากัน นั้นเพราะพวกเขารู้ว่าแม่ของพวกเขาผ่านอะไรมาบ้าง
แต่ผู้เป็นแม่ไม่รู้ว่าเด็กๆ ทั้งสองนั้นฉลาดเกินไป พวกเขารู้พอที่จะทราบเรื่องราวของแม่เขาบ้าง ถึงจะไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมดก็ตาม
ด้วยที่เพื่อนรักทั้งสองมีรูปร่างที่ใกล้เคียงกัน พฤษา หรือเมย์ เป็นหญิงไทยปนเชื้อจีน รูปร่างที่สูงโปร่ง ที่ความสูง 169 เซนติเมตร ผิวขาวออกแดง หน้าตาน่ารัก ตาโต ใครเห็นต่างก็ชอบ ผมดำเป็นลอนตรงปลาย ยิ่งทำให้เธอสวยเป็นพิเศษ และที่สำคัญเธอเป็นดาวคณะ และเรียนดีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วย ส่วนลดาเป็นลูกเสี้ยว ญี่ปุ่น ไทย รัสเซีย สูงที่ 172 เซนติเมตร เพื่อนรักทั้งสองที่มีความสวยที่กินกันไม่ลง แต่ลดามีความออกโซนยุโรปหน่อยๆ จึงทำให้เธอคล้ายลูกครึ่ง และด้วยนิสัยของเธอก็เป็นคนที่โผงผาง พูดจากตรงไปตรงมา บุคลิกของคนที่มีหัวสมัยใหม่ เธอจึงเป็นเหมือนเด็กผู้หญิงแก่นๆ และเธอก็เป็นคู่ดาวคณะของเมย์ด้วย เธอเรียนดีไม่แพ้เพื่อนรักของเธอเช่นกัน เพื่อนรักทั้งสองต่างมีหนุ่มๆ หมายปองและตามแจกขนมจีบไม่เว้นแต่ละวัน แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ต้องการที่จะมีแฟน โดยเฉพาะ เมย์ ที่เธอจะตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ เพราะปัญหาที่บ้านก็มากพออยู่แล้ว เธอจึงไม่ต้องการที่จะเพิ่มปัญหาใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตของเธออีก นั้นจึงทำให้ เมย์ ไม่ยอมคบใคร ลดารู้เรื่องของเพื่อนคนนี้ดี เพราะพวกเขาเป็นเพื่อนรักกัน มีเรื่องอะไร เมย์มักจ
“ไม่ต้องทำมาเป็นไล่ฉัน ... เราก็อย่าดื่มหนักล่ะ เดี๋ยวดูแลตัวเองไม่ได้” น้าเล็กก็ยังอดที่จะเป็นห่วงหลานสาวไม่ได้ ใครจะรู้ล่ะเวลาคนเมานี้ไม่ว่าหญิงหรือชายก็ดูแลตัวเองไม่ค่อยที่จะได้ซะด้วยสิ! “ค่าๆๆๆๆ รู้แล้วค่าคุณพ่อ” ลดา ยิ้มแป้นให้น้าเล็กของเธอ ลดารู้ว่าน้าเล็กของเธอเป็นคนที่เป็นห่วงเธอเสมอ และยังเข้าใจวัยรุ่นอย่างเธอดีด้วย เพราะน้าเล็กของเธอมีอายุห่างจากเธอแค่ 5 ปีเอง เขาเป็นลูกชายคนเล็กของคุณยายเธอ หรือก็คือ น้องชายแม่ของเธอนั้นเอง น้าเล็กเป็นเหมือนลูกหลงมา จึงทำให้อายุของน้าเล็กและแม่ของเธอห่างกันเกือบจะ 20 ปีได้ หลังเรียนจบแม่ก็แต่งงานเลย ตอนที่แม่ของลดาแต่งงานก็อายุประมาณ 21 ปีได้ และปีถัดมาก็มีลดาเลย เธอเลยกลายเป็นหลานคนแรกของครอบครัว ตอนนั้นน้าเล็กอายุได้ 5 ขวบเอง ลดากับน้าเล็กเปรียบเสมือนเป็นพี่ชายน้องสาวกันมากกว่า แต่ก็ยังคงมีสักเป็นน้าหลานกัน และลดาก็ไม่ชอบเรียกชื่อของน้าเล็กโดยตรง แต่จะชอบเรียกว่าน้าเล็กมากกว่า ลดามองว่า เรียกแบบนี้ดูให้เกียรติน้าเล็กดี และอีกอย่างคือ เธอมองว่าน้าเล็กแก่นั้นเอง ฮ้า ฮ้า ฮ้า .... จะได้รู้ว่าใครเด็กกว่า
สำหรับเมย์แล้ว เธอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร พ่อของเธอรักกันยนา และพวกเขายังมีลูกที่ยังเล็กด้วยกันถึง 2 คน ดังนั้นเธอจึงต้องทำตัวเป็นลูก และพี่สาวที่ดี เธอพยายามอดกลั้นมาโดยตลอดเพื่อไม่ให้พ่อของเธอหนักใจ ตอนนี้เธอเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ต่อไปชีวิตของเธอคงมีอะไรดีๆ มากขึ้น และเธอก็มีความคิดที่จะย้ายออกจากบ้านหลังนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่รุนแรงมากขึ้นระหว่างเธอกับแม่เลี้ยง เพราะเมื่อต้นปี ก่อนที่เธอจะเรียนจบ กันยนาก็มีท่าทีไม่ต้องการให้เธออยู่ในบ้านหลังนี้แล้ว แม่เลี้ยงของเธอมักบนเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น และบทสนทนาในเรื่องนี้มักจะมีชื่อเธอเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ เช่น เมื่อค่าไฟบ้านสูงขึ้น “คุณเห็นค่าไฟที่แพงขึ้นหรือเปล่าคะ เนี่ยเป็นเพราะยัยเมย์คนเดียวที่ไม่ชอบปิดไฟ และไม่รู้ทำอะไรทั้งคืน” หรือ ค่าครองชีพ และค่าอุปกรณ์การเรียน ที่เมื่อ เมย์ต้องขอเพื่อใช้จ่าย “ไม่รู้จะใช้อะไรนักหนา รู้ๆ อยู่ ว่าที่บ้านไม่มีรายได้มากพอ ยังจะเรียนสาขานี้อีก เงินทองมันหายาก เธอไม่รู้หรือไง” หรือเมื่อมีงานสำคัญๆ ของมหาวิทยาลัยเธอก็มักจะไม่ได้รับอนุญาตให้ไปร่วม
ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เมย์ หรือ พฤษา วรพงษ์ไพรวรรณ นักศึกษาชั้นปีสุดท้าย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบภายใน มหาวิทยาลัย KK แถวย่านสะพานควาย หลังสอบโปรเจคเสร็จ เพื่อนๆ ในกลุ่มต่างนัดเลี้ยงฉลองการเรียนจบ พร้อมกับที่เพื่อนๆ ของเธอนัดเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 21 ปี ของเธอ ซึ่งตรงกับวันที่ 1 พฤษภาคม “พ่อค่ะ วันนี้หนูขอไปงานเลี้ยงเรียนจบกับเพื่อนๆ นะคะ” เมย์ เดินเข้ามาภายในห้องนั่งเล่นของบ้าน โดยในห้องนี้ไม่ได้มีเพียงพ่อของเธอที่นั่งอยู่เท่านั้น “ได้สิ แต่อย่ากลับดึกนักล่ะ” พ่อของเธออนุญาตแต่ก็อดที่จะเป็นห่วงเธอไม่ได้ “คุณจะตามใจยัยเมย์ทำไมกันค่ะ เรียนจบแล้วก็ควรออกไปหางานทำ จะมาอยู่เป็นภาระครอบครัวทำไม” กันยนา แม่เลี้ยงของเธอที่นั่งอยู่ข้างสามี พูดประชดลูกเลี้ยงทันนี้ พร้อมกับมือที่บีบไปที่ต้นแขนของสามีตัวเอง จากนั้น กันยนา ก็ชายตามองมายัง เมย์ ลูกเลี้ยงของเธอ “ออกไปงานเลี้ยงก็ต้องใช้เงิน เธอจะมาขอเงินพ่อเธอเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะ พ่อเธอต้องมีภาระดูแลน้องๆ อีกตั้ง 2 คน” เมย์ มองไปที่ กันยนา แม่เลี้ยง ที่เธอก็ดูออกว่า กันยนาไ
“ไฮ เมย์ ยินดีต้อนรับกับบ้านนะเพื่อนรัก” เสียงหญิงสาวที่เดินเข้ามาหา ร้องทักออกมาด้วยความดีใจ หญิงสาวที่ส่งเสียงทักทาย เมย์ ก็เดินเข้ามากอดเธอที่เป็นเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนานตั้งแต่เธอเรียนจบปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกา และกลับมาอยู่เมืองไทย นี้ก็เกือบจะห้าปีได้แล้ว ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน เรียนปริญญาโท และเอกในสาขา และมหาวิทยาลัยเดียวกัน เมื่อเธอเรียนจบก็ทำงานที่นั่น เพราะลูกๆ ของเธอยังต้องเรียนไฮคูลอยู่ ส่วนเพื่อนของเธอคนนี้ต้องกลับเมืองไทยหลังเรียนจบ เพราะที่บ้านมีธุรกิจที่ต้องให้เธอช่วยดูแล “ฉันดีใจที่เธอกลับเมืองไทย ฉันล่ะคิดถึงพวกเธอจริงๆ โดยเฉพาะเจ้าเด็กแสบสองตัวนี้” พูดเสร็จเธอก็หันไปหาเด็กทั้งสอง “แม่ดายินดีต้อนรับเด็กๆ กลับสู่เมืองไทยนะจ๊ะ” เธอหันไปทักทายเด็กๆ ที่ยืนประจันหน้าเธอในตอนนี้ หลังจากที่เธอกอดแม่ของเด็กๆ แล้ว “เด็กๆ รอแม่ดานานหรือเปล่า แม่ดาขอโทษที่มาช้า พวกเราต้องรู้นะว่าเมืองไทยนั้นรถติดแค่ไหน ปะ ... หิวแล้วละสิเจ้าตัวเล็กทั้งสอง เดี๋ยวแม่ดาพาไปทานของอร่อยๆ ที่นี่มีของอร่อยเยอะแยะเลยนะขอบอก” ลดา เพื่อนสุดที่เลิฟขอ
หลังคริสต์มาส ปี 2023 “ประกาศครั้งสุดท้ายของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TGXXX ที่จะออกเดินทางไป XXX โปรดขึ้นเครื่องได้ที่ประตูทางออกหมายเลข X6 ขอบคุณค่ะ” “Attention please, This is a Final Call of Thai Airways International Flight TGXXX To XXX, It's now boarding at gate number X6, Immediately, Thank You.” เสียงประกาศภายในสนามบินสุวรรณภูมิดังอย่างต่อเนื่อง เสียงจอแจดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาอย่างไม่ขาดสาย สามแม่ลูกที่กำลังนั่งรอคนมารับบริเวณโซนผู้โดยสารขาเข้าประเทศ ซึ่งมีกระเป๋าใบใหญ่ทั้งหมด 3 ใบ และกระเป๋าใบเล็กสะพายหลังอีก 3 ใบวางเรียงอยู่ใกล้กัน ใครที่เดินผ่านบริเวณที่สามแม่ลูกนั่งอยู่ต่างหันมามองอย่างละสายตาไม่ได้ เด็กคนหนึ่งแต่งตัวแบบคลูบอยเท่ๆ แต่หน้าตาน้องกลับดูน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิง หากไม่ตัดผมสั้น ทุกคนที่มองมาก็คงคิดว่าเด็กคนนี้ คือ เด็กผู้หญิงอย่างแน่นอน ส่วนเด็กอีกคน ที่หน้าตาคมคาย หล่อตั้งแต่เด็ก ทั้งสองแต่งตัวเหมือนกันต่างกันที่สีเสื้อด้านใน คนแรกใส่เสื้อด้านในเป็นเสื้อยืดสีดำ ส่วนอีกคนใส่เสื้อยืดสีขาว สวมทั