หลังคริสต์มาส ปี 2023
“ประกาศครั้งสุดท้ายของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TGXXX ที่จะออกเดินทางไป XXX โปรดขึ้นเครื่องได้ที่ประตูทางออกหมายเลข X6 ขอบคุณค่ะ”
“Attention please, This is a Final Call of Thai Airways International Flight TGXXX To XXX, It's now boarding at gate number X6, Immediately, Thank You.”
เสียงประกาศภายในสนามบินสุวรรณภูมิดังอย่างต่อเนื่อง
เสียงจอแจดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาอย่างไม่ขาดสาย
สามแม่ลูกที่กำลังนั่งรอคนมารับบริเวณโซนผู้โดยสารขาเข้าประเทศ ซึ่งมีกระเป๋าใบใหญ่ทั้งหมด 3 ใบ และกระเป๋าใบเล็กสะพายหลังอีก 3 ใบวางเรียงอยู่ใกล้กัน
ใครที่เดินผ่านบริเวณที่สามแม่ลูกนั่งอยู่ต่างหันมามองอย่างละสายตาไม่ได้ เด็กคนหนึ่งแต่งตัวแบบคลูบอยเท่ๆ แต่หน้าตาน้องกลับดูน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิง หากไม่ตัดผมสั้น ทุกคนที่มองมาก็คงคิดว่าเด็กคนนี้ คือ เด็กผู้หญิงอย่างแน่นอน
ส่วนเด็กอีกคน ที่หน้าตาคมคาย หล่อตั้งแต่เด็ก ทั้งสองแต่งตัวเหมือนกันต่างกันที่สีเสื้อด้านใน คนแรกใส่เสื้อด้านในเป็นเสื้อยืดสีดำ ส่วนอีกคนใส่เสื้อยืดสีขาว สวมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสียีน ผิวขาวของเด็กทั้งคู่ทำให้ยิ่งมองยิ่งดูน่ารัก
ส่วนแม่ของเด็กทั้งสองยิ่งดึงดูดความสนใจของสายตาทั้งหญิงและชาย ทั้งไทยและเทศ เพราะด้วยใบหน้าที่ได้รูป รับกับจมูกที่เหมือนหยดน้ำราวปั้นแต่งมาเพื่อให้ใบหน้าของเธอ ดวงตาที่เป็นประกายกลมโตชวนให้น่ามอง คิ้วที่ได้รูป รับกับใบหน้าขาวออกชมพู ผมดำเงาเป็นหลอนตรงปลาย ยิ่งชวนให้น่าสนใจ การแต่งตัวของเธอก็ไม่แตกต่างจากเด็กทั้งสองที่อยู่ข้างๆ เธอ
เธอแต่งตัวสไตล์แบบคลูเกิร์ล ข้างในเป็นเสื้อสายเดี่ยวสีขาวสวมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตยีนสีเดียวกับกระโปรง กระโปรงเป็นแบบคาร์โก้ยาว และรองเท้าผ้าใบสีขาว
เด็กตัวเล็กที่หน้าตาหล่อเหล่า คมคายยืนขึ้น มองไปยังทางเดินบริเวณที่พวกเขานั่งรอ จากนั้นก็หันมาพูดกับผู้เป็นแม่
“แม่ครับ เมื่อไหร่แม่ดาจะมาครับ ผมหิวแล้ว”
“เดี๋ยวแม่ดาก็มาแล้วลูก รออีกนิดนะครับ” ผู้เป็นแม่เอามือลูบหัวเด็กน้อยเพื่อให้เขาอดทนอีกนิด
“นายก็ทนหน่อย เราก็หิว แม่ก็หิว นายหิวคนเดียวเสียที่ไหน อย่าบ่นให้มากนักเลย เป็นลูกผู้ชายต้องอดทนสิ” พี่ชายของเด็กชายตัวเล็กที่หน้าตาน่ารักราวเด็กผู้หญิง ดูเรียบร้อย แลดูเป็นผู้ใหญ่เอามากๆ ที่มีความสูงไม่ต่างกันมากนัก บอกน้องชายของเขา
“นายจะทำตัวแก่ไปถึงไหน เกิดก่อนเราไม่ถึงนาที ทำเป็นเกิดก่อนสัก ไฟฟ์พอยนท์ทโวมิลเยินมินิท (five point two million minutes หรือ 5.2 ล้านนาที คือ 10 ปี)
“ถึงไงเราก็เป็นพี่นาย ใครใช้ให้นายเกิดที่หลังเราละ ถึงจะไม่ถึงนาทีก็ตาม” เด็กชายทั้งสองที่มีความสูงเท่ากันเริ่มสนทนาภาษาวัยเด็กของพวกเขา ที่ทำเอาแม่ปวดหัวทุกครั้งที่เห็นสองคนนี้คุยกัน
ทั้งคู่คือ เด็กแฝด แต่หน้าตาไม่ได้เหมือนกันในฉบับแฝดแท้ เพราะพวกเขาเป็นแฝดเทียม คนหนึ่งหน้าตาได้แม่มา นั้นจึงทำให้เขามีรูปหน้าที่ดูน่ารักราวเด็กผู้หญิง ส่วนอีกคนหน้าตาได้พ่อแท้ๆ มาแบบถอดมาเลย หน้าตาจึงดูคมคายหล่อเหล่า
นอกจากนี้ บุคลิกของเด็กทั้งคู่ก็ตรงกันข้าม เด็กชายที่หน้าตาได้แม่มา มีนิสัยเรียบร้อย ช่างวางแผนกลยุทธ์ ชอบภาษาและศิลปะ พูดง่ายๆ คือนิสัยและความสามารถได้แม่มาล้วนๆ
ส่วนน้องชายตัวแสบ ที่มีหน้าตาเหมือนพ่อผู้ให้กำเนิด กลับมีนิสัย ดื้อ ซน เอาแต่ใจนิดๆ เป็นตัวก่อกวนประจำบ้านก็ว่าได้ หากมีโอกาสชอบพูดจากวนบาทา
แต่ความฉลาดไม่ต้องพูดถึง ลูกชายของเธอทั้งสองถือเป็นเด็กอัจฉริยะทั้งคู่ ไอคิวของพวกเขาอยู่ที่ 180
เด็กทั้งคู่เรียนรู้ได้เร็ว ผู้เป็นแม่เมื่อรู้ว่าลูกๆ ของเธอเป็นเด็กอัจฉริยะ เธอก็ไม่ได้ปิดกันแถมยังส่งเสริมให้เกิดการเรียนอย่างอิสระ เพื่อสร้างจินตนาการให้กับพวกเขาตามสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ
โดยแฝดน้อง จะชอบตัวเลข และคอมพิวเตอร์ เธอก็ส่งเสริมและให้เขาเรียนรู้มันจนชำนาญเกินวัย จนตอนนี้เขาสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยของคนอายุน้อยได้สำเร็จในสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ของสหรัฐอเมริกา
ส่วนคนพี่ก็เช่นเดียวกัน เขาก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยของคนอายุน้อยได้สำเร็จในสาขาวิศวโยธา ความสนใจของเจ้าปีคือ การออกแบบภายในเช่นเดียวกันกับแม่ แต่เขาเลือกสาขานี้เพราะมันไปได้ไกลกว่าสาขาอินทีเรียดีไซเนอร์
พวกเขาทั้งคู่เกิดที่สหรัฐอเมริกา จึงได้สัญชาติอเมริกันมาโดยอัตโนมัติ และได้เรียนในโรงเรียนที่นั่น
เธอก็ให้ลูกๆ ของเธอเรียนตามสิ่งที่พวกเขาชอบ และเหมาะกับไอคิวของพวกเขา พวกเขาจึงถือเป็นเด็กอายุน้อยที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เช่นเดียวกับเด็กอัจฉริยะคนอื่นๆ
ตอนนี้ทั้งคู่นั้นอายุ 9 ขวบแล้ว!!!
เมื่อพวกเขากลับมาที่เมืองไทย การเรียนในระดับอุดมศึกษาของทั้งคู่จึงเรียนในรูปแบบออนไลน์กับมหาวิทยาลัยของทางฝั่งสหรัฐอเมริกา
เด็กทั้งสองคนเป็นเด็กที่มีระดับการเรียนเกินวัยของเขา ผู้เป็นแม่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าลูกๆ ของเธอจะต้องเรียนจบในวัยเพียงแค่นี้ เธอหวังให้เด็กทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามวัย แต่เมื่อลูกๆ ของเธอเลือกที่จะเรียน และต้องการมัน เธอจึงไม่ได้ห้ามหรือบังคับอะไร
เธอคิดว่าความเก่งที่ลูกๆ ของเธอได้มาคงมาจากผู้ชายคนนั้น คนที่เธอจำหน้าเขาได้แม่น คนที่เป็นพ่อแท้ๆ ของเด็ก ๆ เหล่านี้ แต่เธอไม่เคยพูดถึงเรื่องผู้ชายที่เป็นพ่อให้เด็กๆ ให้พวกเขาฟังเลย และพวกเขาทั้งคู่ก็ไม่เคยร้องขอให้เธอพูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน ลูกๆ ของเธอช่างเป็นสิ่งที่สวรรค์ส่งลงมาให้เธออย่างแท้จริง
ในช่วงที่เด็กทั้งคู่กำลังต่อล้อต่อเถียงกัน ผู้เป็นแม่มองไปยิ้มไป
จากนั้นเธอก็ยืนขึ้น ทั้งคู่จึงหันไปมองยังทางเดิน
“เด็กๆ แม่ดามาแล้วลูก อย่ามัวแต่เถียงกันเลย ปะ เก็บกระเป๋าได้แล้ว” ผู้เป็นแม่บอกเด็กชายทั้งสอง เมื่อเห็นเพื่อนรักเดินเข้ามา
“ไฮ เมย์ ยินดีต้อนรับกับบ้านนะเพื่อนรัก” เสียงหญิงสาวที่เดินเข้ามาหา ร้องทักออกมาด้วยความดีใจ
ด้วยที่เพื่อนรักทั้งสองมีรูปร่างที่ใกล้เคียงกัน พฤษา หรือเมย์ เป็นหญิงไทยปนเชื้อจีน รูปร่างที่สูงโปร่ง ที่ความสูง 169 เซนติเมตร ผิวขาวออกแดง หน้าตาน่ารัก ตาโต ใครเห็นต่างก็ชอบ ผมดำเป็นลอนตรงปลาย ยิ่งทำให้เธอสวยเป็นพิเศษ และที่สำคัญเธอเป็นดาวคณะ และเรียนดีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วย ส่วนลดาเป็นลูกเสี้ยว ญี่ปุ่น ไทย รัสเซีย สูงที่ 172 เซนติเมตร เพื่อนรักทั้งสองที่มีความสวยที่กินกันไม่ลง แต่ลดามีความออกโซนยุโรปหน่อยๆ จึงทำให้เธอคล้ายลูกครึ่ง และด้วยนิสัยของเธอก็เป็นคนที่โผงผาง พูดจากตรงไปตรงมา บุคลิกของคนที่มีหัวสมัยใหม่ เธอจึงเป็นเหมือนเด็กผู้หญิงแก่นๆ และเธอก็เป็นคู่ดาวคณะของเมย์ด้วย เธอเรียนดีไม่แพ้เพื่อนรักของเธอเช่นกัน เพื่อนรักทั้งสองต่างมีหนุ่มๆ หมายปองและตามแจกขนมจีบไม่เว้นแต่ละวัน แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ต้องการที่จะมีแฟน โดยเฉพาะ เมย์ ที่เธอจะตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ เพราะปัญหาที่บ้านก็มากพออยู่แล้ว เธอจึงไม่ต้องการที่จะเพิ่มปัญหาใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตของเธออีก นั้นจึงทำให้ เมย์ ไม่ยอมคบใคร ลดารู้เรื่องของเพื่อนคนนี้ดี เพราะพวกเขาเป็นเพื่อนรักกัน มีเรื่องอะไร เมย์มักจ
“ไม่ต้องทำมาเป็นไล่ฉัน ... เราก็อย่าดื่มหนักล่ะ เดี๋ยวดูแลตัวเองไม่ได้” น้าเล็กก็ยังอดที่จะเป็นห่วงหลานสาวไม่ได้ ใครจะรู้ล่ะเวลาคนเมานี้ไม่ว่าหญิงหรือชายก็ดูแลตัวเองไม่ค่อยที่จะได้ซะด้วยสิ! “ค่าๆๆๆๆ รู้แล้วค่าคุณพ่อ” ลดา ยิ้มแป้นให้น้าเล็กของเธอ ลดารู้ว่าน้าเล็กของเธอเป็นคนที่เป็นห่วงเธอเสมอ และยังเข้าใจวัยรุ่นอย่างเธอดีด้วย เพราะน้าเล็กของเธอมีอายุห่างจากเธอแค่ 5 ปีเอง เขาเป็นลูกชายคนเล็กของคุณยายเธอ หรือก็คือ น้องชายแม่ของเธอนั้นเอง น้าเล็กเป็นเหมือนลูกหลงมา จึงทำให้อายุของน้าเล็กและแม่ของเธอห่างกันเกือบจะ 20 ปีได้ หลังเรียนจบแม่ก็แต่งงานเลย ตอนที่แม่ของลดาแต่งงานก็อายุประมาณ 21 ปีได้ และปีถัดมาก็มีลดาเลย เธอเลยกลายเป็นหลานคนแรกของครอบครัว ตอนนั้นน้าเล็กอายุได้ 5 ขวบเอง ลดากับน้าเล็กเปรียบเสมือนเป็นพี่ชายน้องสาวกันมากกว่า แต่ก็ยังคงมีสักเป็นน้าหลานกัน และลดาก็ไม่ชอบเรียกชื่อของน้าเล็กโดยตรง แต่จะชอบเรียกว่าน้าเล็กมากกว่า ลดามองว่า เรียกแบบนี้ดูให้เกียรติน้าเล็กดี และอีกอย่างคือ เธอมองว่าน้าเล็กแก่นั้นเอง ฮ้า ฮ้า ฮ้า .... จะได้รู้ว่าใครเด็กกว่า
สำหรับเมย์แล้ว เธอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร พ่อของเธอรักกันยนา และพวกเขายังมีลูกที่ยังเล็กด้วยกันถึง 2 คน ดังนั้นเธอจึงต้องทำตัวเป็นลูก และพี่สาวที่ดี เธอพยายามอดกลั้นมาโดยตลอดเพื่อไม่ให้พ่อของเธอหนักใจ ตอนนี้เธอเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ต่อไปชีวิตของเธอคงมีอะไรดีๆ มากขึ้น และเธอก็มีความคิดที่จะย้ายออกจากบ้านหลังนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่รุนแรงมากขึ้นระหว่างเธอกับแม่เลี้ยง เพราะเมื่อต้นปี ก่อนที่เธอจะเรียนจบ กันยนาก็มีท่าทีไม่ต้องการให้เธออยู่ในบ้านหลังนี้แล้ว แม่เลี้ยงของเธอมักบนเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น และบทสนทนาในเรื่องนี้มักจะมีชื่อเธอเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ เช่น เมื่อค่าไฟบ้านสูงขึ้น “คุณเห็นค่าไฟที่แพงขึ้นหรือเปล่าคะ เนี่ยเป็นเพราะยัยเมย์คนเดียวที่ไม่ชอบปิดไฟ และไม่รู้ทำอะไรทั้งคืน” หรือ ค่าครองชีพ และค่าอุปกรณ์การเรียน ที่เมื่อ เมย์ต้องขอเพื่อใช้จ่าย “ไม่รู้จะใช้อะไรนักหนา รู้ๆ อยู่ ว่าที่บ้านไม่มีรายได้มากพอ ยังจะเรียนสาขานี้อีก เงินทองมันหายาก เธอไม่รู้หรือไง” หรือเมื่อมีงานสำคัญๆ ของมหาวิทยาลัยเธอก็มักจะไม่ได้รับอนุญาตให้ไปร่วม
ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เมย์ หรือ พฤษา วรพงษ์ไพรวรรณ นักศึกษาชั้นปีสุดท้าย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบภายใน มหาวิทยาลัย KK แถวย่านสะพานควาย หลังสอบโปรเจคเสร็จ เพื่อนๆ ในกลุ่มต่างนัดเลี้ยงฉลองการเรียนจบ พร้อมกับที่เพื่อนๆ ของเธอนัดเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 21 ปี ของเธอ ซึ่งตรงกับวันที่ 1 พฤษภาคม “พ่อค่ะ วันนี้หนูขอไปงานเลี้ยงเรียนจบกับเพื่อนๆ นะคะ” เมย์ เดินเข้ามาภายในห้องนั่งเล่นของบ้าน โดยในห้องนี้ไม่ได้มีเพียงพ่อของเธอที่นั่งอยู่เท่านั้น “ได้สิ แต่อย่ากลับดึกนักล่ะ” พ่อของเธออนุญาตแต่ก็อดที่จะเป็นห่วงเธอไม่ได้ “คุณจะตามใจยัยเมย์ทำไมกันค่ะ เรียนจบแล้วก็ควรออกไปหางานทำ จะมาอยู่เป็นภาระครอบครัวทำไม” กันยนา แม่เลี้ยงของเธอที่นั่งอยู่ข้างสามี พูดประชดลูกเลี้ยงทันนี้ พร้อมกับมือที่บีบไปที่ต้นแขนของสามีตัวเอง จากนั้น กันยนา ก็ชายตามองมายัง เมย์ ลูกเลี้ยงของเธอ “ออกไปงานเลี้ยงก็ต้องใช้เงิน เธอจะมาขอเงินพ่อเธอเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะ พ่อเธอต้องมีภาระดูแลน้องๆ อีกตั้ง 2 คน” เมย์ มองไปที่ กันยนา แม่เลี้ยง ที่เธอก็ดูออกว่า กันยนาไ
“ไฮ เมย์ ยินดีต้อนรับกับบ้านนะเพื่อนรัก” เสียงหญิงสาวที่เดินเข้ามาหา ร้องทักออกมาด้วยความดีใจ หญิงสาวที่ส่งเสียงทักทาย เมย์ ก็เดินเข้ามากอดเธอที่เป็นเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนานตั้งแต่เธอเรียนจบปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกา และกลับมาอยู่เมืองไทย นี้ก็เกือบจะห้าปีได้แล้ว ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน เรียนปริญญาโท และเอกในสาขา และมหาวิทยาลัยเดียวกัน เมื่อเธอเรียนจบก็ทำงานที่นั่น เพราะลูกๆ ของเธอยังต้องเรียนไฮคูลอยู่ ส่วนเพื่อนของเธอคนนี้ต้องกลับเมืองไทยหลังเรียนจบ เพราะที่บ้านมีธุรกิจที่ต้องให้เธอช่วยดูแล “ฉันดีใจที่เธอกลับเมืองไทย ฉันล่ะคิดถึงพวกเธอจริงๆ โดยเฉพาะเจ้าเด็กแสบสองตัวนี้” พูดเสร็จเธอก็หันไปหาเด็กทั้งสอง “แม่ดายินดีต้อนรับเด็กๆ กลับสู่เมืองไทยนะจ๊ะ” เธอหันไปทักทายเด็กๆ ที่ยืนประจันหน้าเธอในตอนนี้ หลังจากที่เธอกอดแม่ของเด็กๆ แล้ว “เด็กๆ รอแม่ดานานหรือเปล่า แม่ดาขอโทษที่มาช้า พวกเราต้องรู้นะว่าเมืองไทยนั้นรถติดแค่ไหน ปะ ... หิวแล้วละสิเจ้าตัวเล็กทั้งสอง เดี๋ยวแม่ดาพาไปทานของอร่อยๆ ที่นี่มีของอร่อยเยอะแยะเลยนะขอบอก” ลดา เพื่อนสุดที่เลิฟขอ
หลังคริสต์มาส ปี 2023 “ประกาศครั้งสุดท้ายของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TGXXX ที่จะออกเดินทางไป XXX โปรดขึ้นเครื่องได้ที่ประตูทางออกหมายเลข X6 ขอบคุณค่ะ” “Attention please, This is a Final Call of Thai Airways International Flight TGXXX To XXX, It's now boarding at gate number X6, Immediately, Thank You.” เสียงประกาศภายในสนามบินสุวรรณภูมิดังอย่างต่อเนื่อง เสียงจอแจดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาอย่างไม่ขาดสาย สามแม่ลูกที่กำลังนั่งรอคนมารับบริเวณโซนผู้โดยสารขาเข้าประเทศ ซึ่งมีกระเป๋าใบใหญ่ทั้งหมด 3 ใบ และกระเป๋าใบเล็กสะพายหลังอีก 3 ใบวางเรียงอยู่ใกล้กัน ใครที่เดินผ่านบริเวณที่สามแม่ลูกนั่งอยู่ต่างหันมามองอย่างละสายตาไม่ได้ เด็กคนหนึ่งแต่งตัวแบบคลูบอยเท่ๆ แต่หน้าตาน้องกลับดูน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิง หากไม่ตัดผมสั้น ทุกคนที่มองมาก็คงคิดว่าเด็กคนนี้ คือ เด็กผู้หญิงอย่างแน่นอน ส่วนเด็กอีกคน ที่หน้าตาคมคาย หล่อตั้งแต่เด็ก ทั้งสองแต่งตัวเหมือนกันต่างกันที่สีเสื้อด้านใน คนแรกใส่เสื้อด้านในเป็นเสื้อยืดสีดำ ส่วนอีกคนใส่เสื้อยืดสีขาว สวมทั