Share

บทที่ 0014

Author: อันอี่หราน
เมื่อลู่จิ่นเหยาลงจากรถม้ามาถึงตรงหน้าทั้งสอง เสิ่นเป่าซวงที่กำลังเหยียดหยามหานซีเยว่ไม่หยุดถึงได้เห็นเขา

"องค์รัชทายาท" เสิ่นเป่าซวงรีบก้าวมาข้างหน้า เดินมาหาลู่จิ่นเหยา ย่อกายเล็กน้อยแล้วแสร้งทำท่าทางอ่อนโยน

"ถวายบังคมองค์รัชทายาทเพคะ ช่างบังเอิญเสียจริงที่ได้พบท่านที่นี่"

ลู่จิ่นเหยาพยักหน้า ไม่ได้ตอบกลับ

หานซีเยว่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ ก้าวขึ้นมาทำความเคารพให้องค์รัชทายาทด้วย

แต่องค์รัชทายาทกลับตอบนาง "คุณหนูหาน พระสนมเฉินเห็นว่าเจ้าอยู่ที่นี่จึงเรียกเจ้าไปหาน่ะ"

หานซีเยว่อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองลู่จิ่นเหยา องค์รัชทายาทมาเพื่อช่วยนางอย่างนั้นหรือ?

เสิ่นเป่าซวงทนไม่ได้ที่เห็นพวกเขาส่งสายตากันไปมา จึงก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าวแทรกระหว่างสองคนแล้วมององค์รัชทายาท "งานเลี้ยงครั้งก่อนไม่ได้เจอพระสนมกุ้ยเฟยเลย โปรดรบกวนองค์รัชทายาทช่วยพาหม่อมฉันไปแนะนำด้วยนะเพคะ"

แต่ลู่จิ่นเหยาไม่อยากยุ่งกับนางจึงเอ่ยปากตอบ "บัดนี้พระสนมเฉินอยากพบแค่คุณหนูหาน หรือคุณหนูเสิ่นคิดจะขัดคำสั่งหรือ?"

คำพูดนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเย็นชา

เสิ่นเป่าซวงเห็นองค์ราชทายาทเป็นเช่นนี้ก็รีบย่อกายขออภัย และมองทั้งสองคนเดินไปเป็นคู่กับตาตนเอง ความโกรธแค้นที่มีต่อหานซีเยว่ในใจก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

"นี่มันช่าง..." พระสนมเฉินกุ้ยเฟยยังพูดไม่จบอยู่ ๆ ก็นึกถึงลูกสาวของนางได้ขึ้นมา "มา เอาหว่านหว่านมาให้ข้า"

แล้วให้จิ่นอวี้เปิดม่านไว้แล้วเอ่ย "หว่านหว่านดูสิ พี่ชายองค์ราชทายาทกับคุณหนูหานเหมาะสมกันมากเลยใช่ไหม!"

ลู่ซิงหว่านตาเป็นประกาย

[ท่านแม่เป็นคนที่ข้ารักมากที่สุดเลย ท่านแม่ช่างรู้ใจข้าเสียจริง พี่ชายองค์ราชทายาทกับคุณหนูหานเหมาะสมกันที่สุดเลย!]

องค์ชายสองที่อยู่ข้างรถม้าหัวเราะ "พระสนมเฉิน ตอนนี้น้องหญิงเก้ายังไม่ถึงสามเดือนเลย จะรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงพ่ะย่ะค่ะ?"

คนเหล่านั้นหัวเราะออกมา

เมื่อหานซีเยว่มาทำความเคารพที่เกี้ยว พระสนมเฉินกุ้ยเฟยก็ตอบด้วยรอยยิ้ม "ข้าไม่ได้อยากพูดคุยกับคุณหนูหานหรอก องค์ชายใหญ่ของพวกเราต่างหากที่อยากช่วยคุณหนูหานเอง!"

คำพูดนี้ทำให้ลู่จิ่นเหยาและหานซีเยว่หน้าแดงกันทั้งคู่

ปกติแล้วการที่พระสนมเฟยและผินเยี่ยมญาติจะไม่สามารถค้างคืนได้ พวกพระสนมเฉินกุ้ยเฟยทานอาหารมื้อเที่ยงที่จวนแล้วพักผ่อนสักครู่ก็ต้องเตรียมเดินทางกลับวังแล้ว

อาศัยจังหวะที่ทุกคนกำลังพักผ่อน พระสนมเฉินกุ้ยเฟยก็แอบมาห้องทำงานของท่านพ่อ

"ท่านพ่อ หลายวันก่อนข้าบังเอิญทราบข่าวมาว่าหรงอ๋องจะก่อกบฏ แต่เพียงแค่ข่าวนี้ก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน ขอท่านพ่อช่วยแอบตามสืบลับ ๆ ด้วยเจ้าค่ะ หากมีเรื่องเช่นนี้จริงควรแจ้งให้ฝ่าบาททราบจะดีกว่านะเจ้าคะ"

ติ้งกั๋วโหวตกตะลึง "เจ้าได้ข่าวนี้มาจากไหน?"

แต่พระสนมเฉินกุ้ยเฟยกลับเลี่ยงไม่ตอบ "เรื่องนี้ข้าก็ไม่แน่ใจ ยังต้องขอให้ท่านพ่อช่วยตามสืบก่อนเจ้าค่ะ"

เมื่อติ้งกั๋วโหวเห็นลูกสาวไม่ยอมตอบเรื่องนี้ก็ไม่ได้เค้นถามต่อ "หรงอ๋องขี้ขลาดอ่อนแอ ไม่เหมือนคนที่จะก่อกบฏได้ แต่เขาเป็นคนโลภมาก หากมีคนแอบสนับสนุนลับ ๆ ล่ะก็เกรงว่า..."

พูดจบติ้งกั๋วโหวก็กลับไปนั่ง "หลายวันก่อนเพิ่งมีเรื่องเสนาบดีชุยจนบัดนี้ยังไม่รู้จุดจบ ตอนนี้แม้แต่หรงอ๋องก็มีความคิดเช่นนี้ด้วยอีกคน"

พูดประโยคนี้จบเขาก็เงยหน้ามองพระสนมเฉินกุ้ยเฟย "ชิงเหยียน ตอนนี้องค์ราชทายาทโตแล้ว หากมีคนจะชิงตำแหน่ง เจ้าจะได้รับผลกระทบด้วยอย่างแน่นอน เจ้าอยู่ในวังต้องดูแลตัวเองให้ดี"

"ท่านพ่อ ข้าจะระวังตัวอย่างดีเจ้าค่ะ" พระสนมเฉินกุ้ยเฟยพยักหน้า "เรื่องนี้ท่านพ่อไม่ต้องบอกท่านแม่นะเจ้าคะ มิเช่นนั้นนางจะเป็นกังวลจนนอนไม่หลับอีก"

ติ้งกั๋วโหวพยักหน้า ผ่านไปสักพักก็มองไปยังพระสนมเฉินกุ้ยเฟย "ชิงเหยียน ตอนที่เจ้าเข้าวังสิ่งที่ข้าและท่านแม่ของเจ้าสอนเจ้าคือ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องอดทน ห้ามปะทะเด็ดขาด แต่ตอนนี้ข้าผู้ซึ่งเป็นพ่อจะสอนเจ้าว่า หากมีคนหาเรื่องเจ้าจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องอดทนเสมอไป ด้วยตำแหน่งของเจ้าในตอนนี้ จะเสื่อมเสียเกียรติยศของตระกูลเราไม่ได้"

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยมองท่านพ่ออย่างไม่เข้าใจแต่ก็พยักหน้า

การเดินทางครั้งนี้คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือ ลู่ซิงหว่าน

ตอนครบหนึ่งเดือนท่านตาและท่านยายไม่มีโอกาสเข้าวัง พิธีแต่งตั้งตำแหน่งของพระสนมเฉินกุ้ยเฟยครั้งที่แล้วทั้งสองก็ไม่ได้ไปร่วมงาน แน่นอนว่าครั้งนี้ต้องชดใช้ของขวัญชิ้นใหญ่ให้ลู่ซิงหว่าน

สิ่งที่ลู่ซิงหว่านพึงพอใจมากที่สุดก็คือ ชุดเครื่องประดับทองคำที่ท่านยายมอบให้

"ท่านแม่ ตอนนี้นางยังไม่ครบสามเดือนเลย จะเอาชุดเครื่องประดับทองคำไปทำอะไรกันล่ะเจ้าคะ!" พระสนมเฉินกุ้ยเฟยได้เห็นก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

องค์ชายสองแอบบ่นในใจ 'พระสนมเฉิน เมื่อครู่ท่านยังอุ้มน้องหญิงเก้า ให้นางดูว่าพี่ชายใหญ่และคุณหนูหานเหมาะสมกันหรือไม่อยู่เลยนะพ่ะย่ะค่ะ!'

โหวฮูหยินยิ้มตอบ "ข้าได้ยินคนพูดมาว่า องค์หญิงหย่งอันของพระสนมเฉินกุ้ยเฟยเนี่ย ไม่ชอบเครื่องหยกและไม่ชอบอัญมณี ชอบแต่ทองเท่านั้น!"

พูดไปก็ใช้นิ้วเคาะหัวเล็ก ๆ ของลู่ซิงหว่าน "เห็นแก่เงินตั้งแต่เด็กเลยนะ!"

[ท่านยายรักข้าที่สุดเลย! หวานหว่านชอบทองมากที่สุด!]

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยอดที่จะหึงไม่ได้ 'เมื่อครู่เจ้ายังบอกว่าข้ารักเจ้ามากที่สุด เปลี่ยนไวจังเลยนะ'

พักผ่อนกันได้สักพัก ทุกคนก็พากันออกจากจวนติ้งกั๋วโหว มุ่งไปยังวังหลวง

เมื่ออกจากจวนติ้งกั๋วโหว ออกจากชุมชนที่วุ่นวาย บริเวณโดยรอบก็เงียบลงอย่างกะทันหัน จากประสบการณ์ในสนามรบของพระสนมเฉินกุ้ยเฟยเมื่อก่อนก็รู้สึกถึงความผิดปกติทันที จึงเปิดม่านออกอยากดูว่าตอนนี้เดินทางถึงที่ไหนแล้ว

แต่ไม่คิดว่า จังหวะที่นางกำลังเปิดม่านออกก็มีลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งออกมาในอากาศ ปักลงบนเกี้ยวอย่างจัง

ถ้าไม่ใช่เพราะพระสนมเฉินกุ้ยเฟยหลบได้ไว ตอนนี้ธนูดอกนั้นคงปักลงกลางหน้าผากของนางแล้ว

"คุ้มกันพระสนม คุ้มกันองค์ชายองค์หญิง มีผู้ลอบสังหาร!" องครักษ์รอบข้างรีบล้อมพระสนมเฉินกุ้ยเฟยและองค์ชายใหญ่ไว้ตรงกลางทันที แล้วคอยระแวงโดยรอบ

ชาวบ้านประปรายที่ได้ยินว่ามีผู้ลอบสังหารก็รีบหนีเตลิด โดยไม่สนใจที่จะมุงดูแล้ว

"ฟิ้ว" มีธนูอีกดอกยิงมา ยิงโดยองครักษ์ที่ยืนบังพระสนมเฉินกุ้ยเฟยข้างหน้า

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยตกใจ เห็นทีคนพวกนี้คงมาเพื่อฆ่าตน การกลับจวนของตนในครั้งนี้ก็ไม่ได้พาเหมยหลานจู๋จวี๋มาด้วย ทันใดนั้นจึงตะโกนออกมาเสียงดัง "องค์ชายใหญ่ องค์ชายสอง ปกป้ององค์หญิง"

และพลิกตัวลงจากรถม้า รับดาบในมือขององครักษ์ที่อยู่ข้างหน้ามา

ทันใดนั้นเอง เมื่อเห็นว่าล่อพระสนมเฉินกุ้ยเฟยออกมาได้ คนชุดดำที่แอบอยู่ในที่ลับก็กรูกันออกมา พุ่งตรงมายังเกี้ยว

[ให้ตายเถอะ ข้ามันโชคร้ายจริง ๆ หรือว่าคนพวกนี้ไม่สามารถฆ่าท่านแม่ให้ตายตอนที่คลอดข้าจึงต้องไล่ล่ากันถึงเพียงนี้เลยหรือ?]

[ว้าย ท่านแม่เท่มาก ๆ ถ้าข้าโตมาจะตั้งใจฝึกฝนวิชาต่อสู้ให้ดี จะได้เท่เหมือนท่านแม่]

[ฮือ ๆ ๆ ข้าจะได้อยู่ทันโตไหมเนี่ย?]

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยที่กำลังฟันคนไม่สามารถสนใจความคิดของหวานหว่านแล้ว เพียงแค่สั่งให้ปกป้ององค์หญิงหญิงให้ดี ตนเองไม่กล้าออกห่างจากเกี้ยวแม้วินาทีเดียว

คนชุดดำพวกนั้นเปลี่ยนทิศดาบ ล้วนพุ่งมาตรงที่ลู่ซิงหว่าน

เกิดเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้ง

เผยฉู่เยี่ยนเห็นว่าเป้าหมายของทุกคนส่วนใหญ่คือยังลู่ซิงหว่าน และวิชาต่อสู้ของพระสนมเฉินกุ้ยเฟยก็ไม่แย่ จึงไม่ออกห่างจากลู่ซิงหว่านแม้วินาทีเดียว

วินาทีที่ผู้ลอบสังหารคนสุดท้ายล้มลงได้ยิงธนูสั้นออกมาอีกดอก พุ่งตรงเข้ามาทางลู่ซิงหว่าน

เผยฉู่เยี่ยนให้ดาบบังไว้ แต่ธนูสั้นดอกนั้นกลับเบนทิศ ทะลุต้นแขนของเขาอย่างจัง เลือดก็ทะลักออกมาทันที
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status