วันต่อมา
"โอบ.." อินทิราหญิงสาววัย30ปียืนมองคนในห้องกระจกด้วยแววตาไหววูบแม้นอิทธิกรจะไล่ให้เธอเลิกกับเขาแต่ทุกวันนี้เธอก็ยังทำใจลืมเขาไปไม่ได้เสียทีจากที่รู้เรื่องเขาไม่นานเธอก็ตัดสินใจรีบบินกลับมาที่เมืองไทยกะทันหันเพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอหน้าของเขาอีก
"พี่อิน.." เจ้าเอยเดินเอ้อระเหยมาที่โรงพยาบาลในช่วงเย็นหลังเลิกเรียนเมื่อมายืนหน้าห้องไปซียูได้เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นอินทิรายืนอยู่ที่นี่ก่อนจะรีบเข้าไปทัก
"เอย" อินทิรายกมือเรียวปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะยิ้มอ่อนให้น้องสาวที่แสนน่ารักที่ไม่ได้เจอกันนาน
"พี่อินกลับจากอังกฤษตั้งแต่เมื่อไรคะ" เจ้าเอยกับอินทิรามานั่งคุยกันที่ลานสวนหย่อมของโรงพยาบาล
"พี่รู้ข่าวโอบพี่ก็กลับมาเลยเอยต้องการให้พี่ช่วยเหลืออะไรหรือเปล่าพี่ยินดีช่วยนะเอย" อินทิราไม่ติดใจเรื่องเก่าก่อนที่อิทธิกรร้ายกับเธอเพราะยังมีใจเป็นห่วงอิทธิกรอยู่ไม่น้อยและเธอก็ยินดีช่วยครอบครัวของอิทธิกรเสมอ
"เอ่อ.. ไม่มีอะไรหรอกค่ะเอยจัดการทุกอย่างได้ขอบคุณพี่อินมากๆเลยนะคะที่ยังเป็นห่วงพวกเรา" เจ้าเอยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะฝืนยิ้มออกมาปฏิเสธอินทิราเพราะคิดว่าหากพี่ชายเธอรู้ว่าเธอให้อินทิรายื่นมือเข้ามาช่วยแล้วพี่ชายเธอจะไม่สบายใจทั้งยังขอบคุณอินทิรามากๆที่เป็นพี่สาวที่แสนดีสำหรับเธอเสมอมา
RrrrrRrrrr
"ค่ะ.. เดี๋ยวอินรีบกลับไปนะคะ" อินทิรารีบรับสายเมื่อเห็นว่าใครโทรมา
"เอ่อ.. พี่ต้องขอตัวก่อนนะเอยพอดีพี่มีธุระ" หลังจากวางสายเรียบร้อยแล้วเธอจึงต้องขอตัวจากเจ้าเอยกลับเพราะเธอออกจากบ้านมานานพอสมควรแล้วต้องรีบกลับไปเพราะมีคนที่ต้องดูแล
"ค่ะ.." เจ้าเอยลุกยืนยิ้มส่งคนเป็นพี่สาวมองเธอจนลับตาไปก่อนจะเดินกลับไปที่หน้าห้องไอซียูอีกครั้ง
“พี่โอบรู้หรือเปล่าคะว่าพี่อินห่วงพี่โอบแค่ไหน..” สาวเจ้ายืนจ้องมองพี่ชายจองเธอที่นอนอยู่บนเตียงในห้องไปซียูด้วยสายตาที่หดหู่หากพี่ชายเธอและอินทิรายังคบกันได้ก็คงจะดี
บริษัทxxx
"ผมฝากงานสักสองสามวันนะครับคุณเพชร" หลังจากจบสิ้นวันทำงานวันนี้ก่อนกลับเหนือเมฆก็รีบฝากงานกับพชรหนุ่มใหญ่วัย42เลขาและที่ปรึกษาที่เขาไว้ใจให้ดูแลงานให้สักสองสามวัน
"คุณเมฆจะไปไหนหรอกครับ" พชรไม่ค่อยเห็นเหนือเมฆทิ้งงานไปกะทันหันแบบนี้จึงค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย
"ผมมีธุระส่วนตัวที่ต้องจัดการนิดหน่อยครับ"
"ครับ" พชรรู้กาลเทศะดีว่าไม่ควรจะถามอะไรต่อเมื่อคนตรงหน้าบอกว่าเป็นธุระส่วนตัว
ครู่ต่อมา
บรู๊นนน เหนือเมฆขับรถสปอร์ตสีดำราคาหลายสิบล้านพุ่งออกจากลานจอดรถบริษัทตรงดิ่งมาที่บ้านเก็บกระเป๋าใบใหญ่สองใบเปลี่ยนจากการขับรถสปอร์ตเป็นSUVคันหรูแล้วรีบตรงไปที่บ้านแถบชานเมืองของอิทธิกรเพื่อทำอะไรบางอย่างตามที่ได้คิดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
18.00 น.
"...." เจ้าเอยนั่งกอดเข่าปากดน้ำตาที่โซฟาห้องนั่งเล่นในชุดนักศึกษาหากเธอไม่รีบหาเงินผ่าตัดพี่ชายของเธอภายในวันสองวันตามที่หมอบอกอาการพี่ชายของเธอก็จะทรุดลงเรื่อยๆจนกระทั่งจากไป
ก๊อกๆๆ เจ้าเอยรีบปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะก้าวเท้าไปเปิดประตูเพราะคิดว่าเพื่อนทั้งสองของเธอน่าจะมาหา
"ค.. คุณเหนือ" ร่างบางยืนนิ่งชะงักงันมองคนร่างสูงด้วยสายตาที่ค่อนข้างตกใจแววตาดุดันของเขาที่มองมายังเธอทำเอาหญิงสาวรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจหากเขามาที่นี่คงไม่พ้นเรื่องพี่ชายเธอแน่นอน
"ฉันจะมาคุยกับเธอเรื่องพี่ชายเธอ" เสียงทุ้มเอ่ยออกมาไม่ผิดจากที่หญิงสาวคิดเมื่อเขาว่ามาดังนั้นเธอเองก็ต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเชิญเขามาคุยด้านในเพราะเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าเหนือเมฆจะว่าอย่างไรเรื่องที่พี่ชายเธอทำให้น้องชายของเขาเจ็บหนัก
"ค่ะเชิญนั่งด้านในก่อนค่ะ"
ร่างสูงมองแวบแรกก็รู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าพึ่งจะหายจากอาการร้องให้และหลังจากนี้เขาเชื่อว่าเธอจะต้องเสียน้ำตาหนักกว่าเดิมแน่นอน
"ฉันยังไม่ได้แจ้งความเรื่องที่พี่ชายเธอขับรถชนน้องชายฉัน...แล้วเรื่องที่จะแจ้งหรือไม่แจ้งก็อยู่ที่เธอ" เมื่อร่างสูงในชุดสูทราคาแพงหย่อนก้นลงนั่งที่โซฟาได้ดวงตาคมก็จับจ้องมองไปที่หญิงสาวในชุดนักศึกษาตัวโคร่งอย่างมีเลศนัยก่อนจะเอ่ยสิ่งที่เขาต้องการจะมาคุยกับเธอในทันที
"ยังไงหรอกคะเอยไม่เข้าใจค่ะ" ดวงตากลมโตเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างไม่เข้าใจคำพูดของเขา
"ถ้าเธอยอมรับข้อเสนอของฉันตัวฉันก็จะไม่เอาเรื่องพี่ชายเธอแถมยังจะช่วยออกค่ารักษาให้ด้วย" ว่าจบก็อมยิ้มอ่อน
"อะไรหรอกคะ.." เจ้าเอยมองหน้าเหนือเมฆด้วยสายตาที่คาดเดาอะไรไม่ได้
ครู่ต่อมา
หลังจากที่เหนือเมฆเอ่ยข้อเสนอมาจบเจ้าเอยก็นั่งมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจที่เขาพูดอออกมาได้หน้าตาเฉยว่าให้เธอเอาตัวเข้าแลกกับเงินที่จะใช้รักษาพี่ชายและแลกกับการที่พี่ชายของเธอจะไม่ถูกดำเนินคดีไม่รู้ว่าคนมีเงินมีอำนาจทั้งหลายจะชอบใช้เงินฟาดหัวคนอื่นเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการเหมือนกันแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า
"คุณเหนือกลับไปเถอะค่ะเอยไม่รับข้อเสนอนี้" หญิงสาวกลั้นใจตอบกลับไปเสียงแข็ง
"เธอคิดให้ดีซะก่อนที่จะปฏิเสธฉัน" เหนือเมฆรู้แต่แรกแล้วว่ายังไงหญิงสาวก็น่าจะมีคำปฏิเสธเขาลุกยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะวางนามบัตรลงตรงหน้าของหญิงสาวและก้าวเดินออกไปช้าๆด้วยรอยยิ้มอ่อนเพราะรู้ว่าอีกไม่กี่นาทีเธอก็ต้องวิ่งแจ้นตามเขามาแน่นอน
“ทำไมเป็นคนแบบนี้กันนะ” หลังจากที่เหนือเมฆเดินพ้นประตูหน้าบ้านได้เจ้าเอยก็นั่งทรุดลงกับโซฟาไม่ใช่เธอพึ่งจะมารู้จักเขาแต่รู้จักมานานแล้วเนื่องจากเขาเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของอินทิราและมีชื่อเสียงทางด้านอิทธิพลไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนที่ชอบใช้เงินฟาดหัวคนเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการแบบนี้ด้วย
RrrrrrRrrrrr
"ค่ะคุณหมอ..อ.อะไรนะคะ" ระหว่างที่นั่งคิดเรื่องที่เจอเมื่อครู่จู่ๆสายจากโรงพยาบาลก็โทรเข้ามาหญิงสาวจึงรีบกดรับทันทีหวังว่ามันจะเป็นข่าวดีแต่กลับเป็นข่าวร้ายที่เกินกว่าเธอจะรับได้เพราะหมอแจ้งว่าพี่ชายของเธอเกิดอาการช็อคและหากไม่รีบผ่าตัดส่วนที่เสียหายในสมองจะทำให้สมองค่อยๆตายไปทีละส่วน
เนินนานจนไม่รู้กี่นาทีที่เหนือเมฆจูบภรรยารักอยู่แบบนั้นจนตอนนี้ร่างบางเริ่มโอนอ่อนกับเขาบ้างแล้วและมันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าเธอไม่ได้หมดรักเขาอย่างที่พูดรู้ดังนั้นจึงเดินหน้าบดจูบอย่างดูดดื่มต่อเพราะเขาโหยหาร่างบางมานานจนวันนี้ยังไงก็ต้องได้ครอบครองอีกครั้ง"พอเถอะคุณเหนือ""ไม่.." ร่างบางที่พึ่งถูกอุ้มมานอนบนเตียงนุ่มเธอก็เอ่ยปากขอให้อีกฝ่ายพอแค่นี้เพราะเธอเริ่มจะคุมสติไม่อยู่แต่มีหรือเหนือเมฆจะยอมเพราะเขารู้ว่าเจ้าเอยยังไม่หมดรักเขาและเขาก็จะรีบกระชับสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุดและแล้วบทรักบทสวาทก็ได้เริ่มขึ้นเหนือเมฆเรียกเสียงครางระงมของร่างบางไปจวบครึ่งค่อนคืนจึงพาเธออุ้มกลับไปนอนในห้องนอนของเธอกับลูกส่วนเขาก็นอนเฝ้าเธออยู่ไม่ห่างวันต่อมา ช่วงเช้าที่เจ้าเอยยังไม่ตื่นเหนือเมฆก็เป็นคนจัดแจงดูแลลูกทุกอย่างทั้งทำอาหารป้อนข้าวลูกรวมไปถึงอาบน้ำอาบท่าให้ลูกน้อยยอมรับว่าไม่ถนัดเท่าไรแต่เขาก็สุขใจที่ได้ทำ"ชุดของนนท์อยู่ไหนครับลูก" เหนือเมฆอาบน้ำเช็ดตัวให้ลูกชายของเขาเสร็จตอนนี้ก็ต้องมาแต่งตัว"ในนี้ครับ" เด็กชายตัวกลมในผ้าขนหนูสีขาวเดินตัวป้อมนำคนเป็นพ่อไปที่ตู้หลังเล็ก
วันต่อมา เจ้าเอยเตรียมเก็บผ้าผ่อนของเธอและลูกที่แห้งสนิทดีแล้วมาพับเก็บในห้องเพราะเธอต้องเตรียมทำอะไรให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปรับลูกที่โรงเรียนในช่วงบ่ายโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีใครบางคนกำลังเดินเข้ามาในบ้าน"เอย.." เหนือเมฆยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของหญิงสาวเขาเรียกเธอเสียงอ่อนภรรยาของเขายังคงน่ารักไม่เปลี่ยนจากเดิมเลยสักนิดผิดแค่ดูผมแห้งไปกว่าเดิมเท่านั้น"ค...คุณเหนือ" เจ้าเอยลึกขึ้นจากกองผ้าที่นั่งพับเธอตกใจจนหน้าเสียก่อนจะจ้องคนตรงหน้าที่ดูโทรมกว่าเดิมมากด้วยความสับสนไม่รู้ลึกๆแล้วเธอดีใจหรือเสียใจที่เห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้"..ฉันคิดถึงเธอแทบจะขาดใจรู้หรือเปล่า...เธอใจร้ายกับฉันมากเลยเอย... ที่ทำให้ฉันทรมานใจอยู่ได้ตั้งนาน" เหนือเมฆเข้าไปสวมกอดร่างบางด้วยความคิดถึงก่อนจะเอ่ยคำพูดเชิงน้อยใจออกมา"ปล่อยเอย.. แล้วก็ออกไป" เจ้าเอยชะงักไปครู่หนึ่งเธอพยายามบอกตัวเองว่าอย่าใจอ่อนกับเขาและรีบไล่ให้เหนือเมฆออกไป"ฉันขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนั้นขอโทษจริงๆ" เหนือเมฆรู้ว่าเจ้าเอยคงโกรธในเหตุการณ์ครั้งนั้นแต่เขาอยากให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ"คุณเหนือก็น่าจะรู้แล้วนะคะว่าเอยไม่ต้อง
"แกใจร้ายกับพวกฉันมากเลยนะที่ไม่ยอมติดต่อหากันบ้างเลย" ทรายแก้วหยิบขนมเข้าปากไปด้วยบ่นเจ้าเอยไปด้วยเพราะเจ้าเอยทำให้พวกเธอทุกข์ใจที่คิดว่าเสียเพื่อนรักไปตั้งหลายปี"ฉันกลัวว่าคุณเหนือจะรู้ว่าฉันยังอยู่ฉันไม่อยากเจอเค้า" ที่เจ้าเอยให้คนรู้น้อยที่สุดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะกลัวว่าเหนือเมฆจะตามเธอเจอ"แกโกรธคุณเหนือมากเลยหรอก" เกวรินทร์รู้ดีว่าเรื่องครั้งนั้นเป็นฝีมือพีรยาแต่ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนเธอฝังใจเรื่องอะไรถึงยอมให้อภัยเหนือเมฆไม่ได้"ตอนนี้เฉยๆแล้วล่ะฉันไม่อยากกลับไปเจ็บเพราะเค้าอีกเด็ดขาด" แม้นเจ้าเอยจะรู้ว่าครั้งนั้นที่เหนือเมฆทำผิดด้วยฤทธิ์ยาแต่ภาพมันก็ยังติดตาเธอไม่หายไม่รู้อีกด้วยว่าเขาจะกลับไปเป็นคนเจ้าชู้เหมือนเดิมอีกหรือเปล่าเธอยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวจึงไม่อยากเสี่ยงกลับไปอยู่กลับไปรักกับคนอย่างเหนือเมฆอีกตอนนี้เธอมีแค่ลูกก็พอแล้ว"แต่เรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือยัยพลอยทั้งนั้นนะแถมตอนที่ผ่านมาคุณเหนือดูพยายามตามหาแกตลอดไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนเลยด้วย" ทรายแก้วไม่ได้จะพูดเข้าข้างเหนือเมฆแต่เวลาที่ผ่านมาเขาทำให้พวกเธอได้เห็นว่าเขาไม่มีวันลืมเจ้าเอย"ฉันรู้...แต่ฉันลืมเรื่องราวตอนน
หลายวันต่อมาวันนี้อิทธิกรพาครอบครัวมาเยี่ยมอำนาจเพราะอำนาจเริ่มยอมรับในตัวอิทธิกรแล้วด้วยเห็นว่าอิทธิกรมีงานการทำที่มั่นคงแถมยังเก่งมากๆเขารู้จากคำชมของนภดลที่ชมอิทธิกรไม่ขาดปาก"ผมขอบคุณคุณพ่อนะครับที่ยอมรับผม" อิทธิกรมานั่งคุยกันกับอำนาจที่ห้องรับแขกระหว่างที่อินทิราพาลูกสาวของเขาเดินเล่นอยู่ที่สวนหน้าบ้าน"ฉันก็ต้องขอโทษด้วยที่ก่อนหน้าทำไม่ดีเอาไว้""ผมเข้าใจครับว่าคุณพ่อรักอินมาก" อิทธิกรไม่เคยโกรธอำนาจแม้นแต่น้อยหากเป็นเขาก็อยากให้ลูกตัวเองได้คู่ครองที่ดีเช่นกัน"ตั้งใจทำงานหาประสบการณ์ให้ดีล่ะอีกไม่กี่ปีฉันก็จะเกษียณตัวเองแล้วแกจะได้เข้ามาบริหารแทนฉัน" อำนาจคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องฝากบริษัทให้กับอิทธิกรเพราะเชื่อใจว่าลูกเขยของเขาจะจัดการทุกอย่างแทนเขาได้"คือผมไม่มั่นใจว่าผมจะบริหารองค์กรใหญ่ขนาดนี้ได้" อิทธิกรถึงกับไปไม่เป็นเมื่ออีกฝ่ายมอบหมายสิ่งสำคัญให้"เชื่อมั่นในตัวเองเหมือนที่เชื่อมั่นว่าจะดูแลลูกสาวกับหลานฉันได้" แม้นอิทธิกรจะไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้แต่อำนาจเห็นว่าความสามารถที่อิทธิกรมีจากผลงานที่ผ่านมาระหว่างที่อิทธิกรทำงานในบริษัทของนภดลเขาก็เห็นแล้วว่าไม่ยา
"เจ็บใจหรือเปล่าล่ะ.. เหนือเมฆไม่มีวันเลิกเจ้าชู้ได้หรอกนะรู้เอาไว้ซะด้วย”พีรยาผลักเจ้าเอยจนเธอเซเล็กน้อยทั้งยังจีบปากจีบคอพูดย้ำให้เจ้าเอยได้เจ็บใจ ในส่วนของเจ้าเอยเธอไม่มีแรงโต้ตอบอะไรทำได้แค่ยืนปาดน้ำตากับภาพที่เห็น"มานี่.." พีรยาดึงมือเจ้าเอยให้เดินตามเธอขึ้นมาจนมาถึงผาชัน"พาเอยมาที่นี่ทำไม""รู้หรือเปล่าที่ฉันต้องการฆ่านังวิเวียนเพราะอะไร" พีรยาผลักเจ้าเอยต้อนไปที่ผาชันจนสาวเจ้าเริ่มหน้าซีดเผือดกลัวหญิงสาวตรงหน้าจับใจ"คุณพลอย" "เพราะมันเอากับเหนือเมฆยังไงล่ะ...รู้หรือยังว่าเหนือเมฆเอาผู้หญิงไม่เลือกหน้ารู้ทั้งรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทคู่หมั้นของตัวเองก็ยังไม่เว้น""ฮือๆๆ..." ยิ่งได้ฟังที่วิเวียนพูดความเสียใจและความกลัวก็ประดังประเดกันเข้ามาจนเจ้าเอยปล่อยโฮสะอึกสะอื้นตัวโยนเรื่องนี้เหนือเมฆไม่เคยเล่าให้เธอฟังแม้แต่น้อยผิดที่เธอเองจริงๆที่ให้ใจและไว้ใจเหนือเมฆเร็วเกินไปเพี๊ยะ"โอ้ยย.. ""คนอย่างแกมันมีดีกว่าฉันตรงไหน" พีรยายิ่งเห็นเจ้าเอยทำท่าทางอ่อนแอเธอก็ยิ่งหมั่นไส้เธอวาดแขนเป็นวงกว้างฟาดมือเรียวใบที่ใบหน้าเจ้าเอยจนเธอล้มลงพลั้กกก"อ๊ายยยยย..." ไม่ทันที่เจ้า
หลายวันต่อมาวันนี้วารุณีเข้ามาหาลูกชายและลูกสะใภ้ที่บ้านเพราะรู้ว่าเจ้าเอยย้ายมาอยู่ที่บ้านลูกชายเธอได้เป็นอาทิตย์แล้วตอนนี้ในห้องครัวของบ้านเต็มไปด้วยข้าวของมากมายที่วารุณีซื้อเอามาเพื่อเป็นของบำรุงให้ลูกสะใภ้ของเธอ"ถ้าเรายังกินของคาวไม่ค่อยได้ก็พยายามกินวิตามินที่แม่ซื้อมาให้เยอะๆล่ะแล้วผลไม้นั่นก็กินบ่อยๆนะลูกของดีๆทั้งนั้น""..ค่ะคุณแม่...เอ่อ..พี่โอบทำงานเป็นยังไงบ้างคะ""เห็นพ่อเราให้รับผิดชอบงานใหญ่อยู่นะลูกตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรนับว่าพี่เราก็เก่งใช้ได้""รู้แบบนี้เอยก็สบายใจค่ะ"หลายวันต่อมา.. เหนือเมฆรีบเคลียงานสำคัญให้เสร็จสิ้นก่อนจะให้พชรดูแลบริษัทเพราะเขาต้องการพาภรรยาตัวน้อยของเขามาฮันนีมูนหลังจดทะเบียนเติมความหวานให้กันและกันและแล้ววันนี้เขาก็ได้พาหญิงสาวมาที่ภูเก็ตมาพักที่บ้านพักของพ่อเขาที่ซื้อเอาไว้ตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มๆพื้นที่ของบ้านค่อนข้างกว้างเงียบสงบและติดริมทะเลวิวสวยงามใครเห็นที่นี่เป็นต้องหลงส่วนตัวเขาเองก็ชอบที่นี่ไม่น้อยจึงอยากให้เจ้าเอยมาเห็นที่นี่"เอยอยากอยู่ที่นี่นานๆจังเลยค่ะ" ร่างบางยืนกอดคนเป็นสามีแหงนหน้ายิ้มแป้นอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ที่เป็นจุดชมว