มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
ในช่วงเย็นของมหาลัยดังในตอนนี้เหล่านักศึกษาต่างก็เดินกันประปรายไม่ได้ครึกครื้นเหมือนช่วงเช้าเพราะบางคนก็มีเรียนกันแค่ช่วงบ่าย
"วันนี้ฉันปวดสมองมากเลยเอย" ทรายแก้วหญิงสาวปีหนึ่งของคณะบริหารร่างบางอ้อนแอ้นนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนยกแก้วน้ำปั่นขึ้นดื่มอึกใหญ่อย่างชื่นใจคุยกับเพื่อนสาวหน้าหวานตรงหน้าหลังจากที่เรียนกันมาทั้งวัน
ทรายแก้ว หญิงสาววัย 18
เป็นลูกสาวเจ้าของร้านขนมหวานเล็กๆอยู่ชานเมืองสมุทรปราการตอนนี้พักอยู่หอพักหญิงในมหาลัยกลับบ้านเฉพาะเสาร์อาทิตย์เธอทำแบบนี้มาตั้งแต่เข้าเรียนม.ปลายที่กรุงเทพแล้ว
ทรายแก้วหญิงสาวตัวเล็กผอมแห้งผิวขาวเหลืองใบหน้าเรียวรูปไข่ตาโตคิ้วเข้มปากนิดจมูกหน่อยผมสีน้ำตาลยาวสลวยถึงกลางหลังหญิงสาวเป็นคนค่อนข้างซนอยู่พอสมควรรู้จักกับเจ้าเอยและเกวรินทร์ตั้งแต่เข้าเรียนม.ปลายที่โรงเรียนเดียวกันและเป็นเพื่อนรักกันมาจนถึงทุกวันนี้
"นี่ก็ได้พักแล้วไง" เจ้าเอยอมยิ้มอ่อนก่อนจะยกหนังสือขึ้นมาอ่านต่อนิดหน่อยระหว่างที่รอเพื่อนอีกคนของเธอไปซื้ออะไรมากินกันก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ
"มาแล้วๆ.." เกวรินทร์กองห่อขนมที่เธอไปหอบซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อในมหาลัยเต็มโต๊ะจนแทบไม่มีที่วาง
เกวรินทร์ หญิงสาววัย 18
หญิงสาวเป็นคนผอมแห้งสูง160 ผิวสีน้ำผึ้งใบหน้ากลมแก้มป่องผมสีน้ำตาลเข้มหยักศกยาวถึงกลางหลังคิ้วบางได้รูปตากลมหางตาเฉี่ยวเหมือนลูกแมวจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากบางเป็นกระจับ
หญิงสาวเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพคั้งแต่ ม.ปลายค่อนข้างเป็นผู้หญิงที่แก่นแก้วไม่ค่อยยอมคนเท่าไรแต่ก็ซื่อเกินกว่าจะทันเล่ห์เหลี่ยมของคนเมืองบางคนอยู่ดี
"นี่ใครจะกินหมดกัน" เจ้าเอยมองเกวรินทร์ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
"นั่งกินนั่งคุยกันไปยาวๆไง” เกวรินทร์พูดพร้อมยกห่อขนมซองโตแกะเข้าปากด้วยใบหน้าระรื่น
RrrrrRrrrr
“สวัสดีค่ะ..อะไรนะคะ.."
“เป็นอะไรเอย” ทรายแก้วและเกวรินทร์ต่างละมือจากขนมมองหน้าเจ้าเอยด้วยความสงสัยเพราะหลังจากที่เจ้าเอยวางหูจากสายเมื่อครู่ได้ก็หน้าซีดหน้าเซียวนิ่งอึ้งไม่ยอมพูดอะไร
“พี่โอบเกิดอุบัติเหตุในสนามแข่งกำลังโคม่า” ริมฝีปากบางเอ่ยเสียงสั่นก่อนน้ำตาหยดน้อยจะเริ่มไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสายสองสาวที่นั่งฟังอยู่ก็มีสีหน้าตกใจไปตามๆกันเมื่อรู้ข่าว
เจ้าเอยคิดเอาไว้แล้วว่าอิทธิกรพี่ชายของเธอจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นสักวันเธอขอให้เขาเลิกอาชีพนี้แต่พี่ชายเธอก็ไม่ยอมเลิกเสียทีอ้างแต่ว่าสามารถหาเงินจากทางนี้ได้มากกว่างานประจำ
วันต่อมา
เหนือเมฆชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทราคาแพงเดินดุ่มๆเข้ามาในคลับของนักแข่งที่น่านน้ำน้องชายของเขาสร้างเอาไว้
เหนือเมฆออกจากโรงพยาบาลหลังจากเยี่ยมน่านน้ำได้ก็ตรงเข้ามาที่นี่เพื่อมาหาเหล่าเพื่อนๆของน่านน้ำสอบถามว่าเรื่องที่น้องของเขาเกิดอุบัติเหตุในสนามแล้วโคม่าเป็นเพราะอะไร
"เกิดอะไรขึ้น" สายตาดุดันจ้องมองมายังชายหนุ่มกับอีกหนึ่งสาวตรงหน้าที่เอาแต่นั่งก้มหน้างุดไม่ยอมตอบอะไร
"น่านกับพี่โอบแข่งรถกันค่ะไม่รู้ว่ารถของพี่โอบผิดพลาดอะไรรถของพี่โอบถึงเสียหลักชนน่านจนเละกันทั้งคู่แบบนี้" เป็นมีนาที่เป็นเพื่อนสนิทและคู่ขาบางครั้งของน่านน้ำเอ่ยโพร่งออกมาขณะที่ทุกคนเอาแต่นิ่งเงียบ
"อืม..ฉันจะได้จัดการให้ถูกตัว" เหนือเมฆกำมือแน่นที่รู้ว่าความผิดพลาดเกิดจากอิทธิกรจากเดิมที่เขาไม่ชอบหน้าชายหนุ่มเพราะอิทธิกรได้ใจผู้หญิงที่เขาเฝ้าตามจีบไปครานี้เขายิ่งรู้สึกเกลียดที่อิทธิกรทำให้น้องชายของเขาต้องเจ็บปางตาย
“เข้าใจพูดดีนี่” หลังจากที่เหนือเมฆเดินออกไปแล้วมาร์คชายหนุ่มร่างสูงนักแข่งรถคู่หูของน่านน้ำตั้งแต่สมัยเรียนเปรยสายตามองมีนาด้วยสายตามีเลศนัยก่อนจะเดินออกจากห้องไป
22.00
หลังเลิกเรียนวันนี้เกวรินทร์และทรายแก้วก็ขลุกรวมกันอยู่ที่บ้านหลังสีขาวริมแม่น้ำของเจ้าเอยเพราะกลัวเพื่อนตัวเองอยู่คนเดียวแล้วจะฟุ้งซ่าน
"ฮือๆๆ.. ฉันจะเอาเงินที่ไหนมาผ่าตัดพี่ชายฉัน" เจ้าเอยมืดแปดด้านนั่งร้องให้ตัวโยนมาพักใหญ่ในห้องนอนหลังจากที่เธอเห็นสภาพพี่ชายนอนมีแต่สายระโยงระยางเต็มตัวก็หดหู่ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ก็ยังไม่หาย
"ฉันกับเกวจะลองยืมเงินคนที่บ้านให้พวกท่านน่าจะพอมีบ้าง" ทรายแก้วคุยกับเกวรินทร์คุยกันตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าจะใช้วิธีนี้ช่วยพี่ชายของเจ้าเอย
"ฉันขอบใจพวกแกมากเลยแต่ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกฉันรู้ว่าทางบ้านแกสองคนก็ลำบากมากอยู่เหมือนกัน" เจ้าเอยรู้เจตนาดีของเพื่อนๆแต่เธอก็อยากให้เพื่อนๆของพวกเธอเก็บเงินเอาไว้เพราะรู้ว่าทางบ้านของเพื่อนเธอทั้งสองก็มีปัญหาเรื่องการเงินอยู่เหมือนกัน
"ลองให้พี่อินช่วยดีหรือเปล่า" ทรายแก้วเสนอขึ้นมาเพราะรู้ว่าเงินหกเจ็ดแสนค่าผ่าตัดอิทธิกรคุณหนูไฮโซอย่างอินทิราคงจะช่วยได้เพราะคนเป็นแฟนกันคงต้องช่วยกันอยู่แล้ว
"พี่โอบบอกเลิกพี่อินไปนานแล้ว" เมื่อพูดถึงอินทิราเจ้าเอยก็ก้มหน้างุดเพราะการเลิกลาของพี่ชายเธอและอินทิราเป็นเรื่องที่ไม่ดีนักและตอนนี้ทั้งคู่ก็เลิกกันมาเป็นปีแล้วด้วย
"อ้าว.. ทำไมล่ะ" ทั้งเกวรินทร์และทรายแก้วก็ตกใจไปตามๆกันเพราะยังคิดว่าทั้งสองคนยังคบกันอยู่
"พ่อแม่ของพี่อินมาขอร้องให้พี่โอบเลิกกับลูกสาวเค้าเพื่อที่จะให้พี่อินมีอนาคตที่ดี" เรื่องนี้เป็นครั้งแรกเลยที่เจ้าเอยยอมปริปากบอกเพื่อนทั้งสองของเธอ
"แล้วพี่โอบก็ยอมอย่างนั้นหรอก" เกวรินทร์ขมวดคิ้วเป็นปมไม่คิดว่าเรื่องกีดกันความรักแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว
"พี่โอบรักพี่อินเกินกว่าจะฉุดพี่อินลงมาอยู่ด้วย" เจ้าเอยเอ่ยเสียงอ่อนจะว่าไปชีวิตรักของพี่ชายเธอก็น่าสงสารตั้งแต่เลิกกับอินทิราไปพี่ชายเธอก็ไม่สนใจใครอีกเลย
"นี่พี่อินก็ไม่รู้สาเหตุนี้ใช่ไหม" ทรายแก้วเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนเพราะเชื่อว่าหากอินทิรารู้ก็คงไม่ยอมไปจากอิทธิกรง่ายๆ
"อืม.." เจ้าเอยพยักหน้าเบาๆ
เนินนานจนไม่รู้กี่นาทีที่เหนือเมฆจูบภรรยารักอยู่แบบนั้นจนตอนนี้ร่างบางเริ่มโอนอ่อนกับเขาบ้างแล้วและมันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าเธอไม่ได้หมดรักเขาอย่างที่พูดรู้ดังนั้นจึงเดินหน้าบดจูบอย่างดูดดื่มต่อเพราะเขาโหยหาร่างบางมานานจนวันนี้ยังไงก็ต้องได้ครอบครองอีกครั้ง"พอเถอะคุณเหนือ""ไม่.." ร่างบางที่พึ่งถูกอุ้มมานอนบนเตียงนุ่มเธอก็เอ่ยปากขอให้อีกฝ่ายพอแค่นี้เพราะเธอเริ่มจะคุมสติไม่อยู่แต่มีหรือเหนือเมฆจะยอมเพราะเขารู้ว่าเจ้าเอยยังไม่หมดรักเขาและเขาก็จะรีบกระชับสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุดและแล้วบทรักบทสวาทก็ได้เริ่มขึ้นเหนือเมฆเรียกเสียงครางระงมของร่างบางไปจวบครึ่งค่อนคืนจึงพาเธออุ้มกลับไปนอนในห้องนอนของเธอกับลูกส่วนเขาก็นอนเฝ้าเธออยู่ไม่ห่างวันต่อมา ช่วงเช้าที่เจ้าเอยยังไม่ตื่นเหนือเมฆก็เป็นคนจัดแจงดูแลลูกทุกอย่างทั้งทำอาหารป้อนข้าวลูกรวมไปถึงอาบน้ำอาบท่าให้ลูกน้อยยอมรับว่าไม่ถนัดเท่าไรแต่เขาก็สุขใจที่ได้ทำ"ชุดของนนท์อยู่ไหนครับลูก" เหนือเมฆอาบน้ำเช็ดตัวให้ลูกชายของเขาเสร็จตอนนี้ก็ต้องมาแต่งตัว"ในนี้ครับ" เด็กชายตัวกลมในผ้าขนหนูสีขาวเดินตัวป้อมนำคนเป็นพ่อไปที่ตู้หลังเล็ก
วันต่อมา เจ้าเอยเตรียมเก็บผ้าผ่อนของเธอและลูกที่แห้งสนิทดีแล้วมาพับเก็บในห้องเพราะเธอต้องเตรียมทำอะไรให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปรับลูกที่โรงเรียนในช่วงบ่ายโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีใครบางคนกำลังเดินเข้ามาในบ้าน"เอย.." เหนือเมฆยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของหญิงสาวเขาเรียกเธอเสียงอ่อนภรรยาของเขายังคงน่ารักไม่เปลี่ยนจากเดิมเลยสักนิดผิดแค่ดูผมแห้งไปกว่าเดิมเท่านั้น"ค...คุณเหนือ" เจ้าเอยลึกขึ้นจากกองผ้าที่นั่งพับเธอตกใจจนหน้าเสียก่อนจะจ้องคนตรงหน้าที่ดูโทรมกว่าเดิมมากด้วยความสับสนไม่รู้ลึกๆแล้วเธอดีใจหรือเสียใจที่เห็นเขามายืนอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้"..ฉันคิดถึงเธอแทบจะขาดใจรู้หรือเปล่า...เธอใจร้ายกับฉันมากเลยเอย... ที่ทำให้ฉันทรมานใจอยู่ได้ตั้งนาน" เหนือเมฆเข้าไปสวมกอดร่างบางด้วยความคิดถึงก่อนจะเอ่ยคำพูดเชิงน้อยใจออกมา"ปล่อยเอย.. แล้วก็ออกไป" เจ้าเอยชะงักไปครู่หนึ่งเธอพยายามบอกตัวเองว่าอย่าใจอ่อนกับเขาและรีบไล่ให้เหนือเมฆออกไป"ฉันขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนั้นขอโทษจริงๆ" เหนือเมฆรู้ว่าเจ้าเอยคงโกรธในเหตุการณ์ครั้งนั้นแต่เขาอยากให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ"คุณเหนือก็น่าจะรู้แล้วนะคะว่าเอยไม่ต้อง
"แกใจร้ายกับพวกฉันมากเลยนะที่ไม่ยอมติดต่อหากันบ้างเลย" ทรายแก้วหยิบขนมเข้าปากไปด้วยบ่นเจ้าเอยไปด้วยเพราะเจ้าเอยทำให้พวกเธอทุกข์ใจที่คิดว่าเสียเพื่อนรักไปตั้งหลายปี"ฉันกลัวว่าคุณเหนือจะรู้ว่าฉันยังอยู่ฉันไม่อยากเจอเค้า" ที่เจ้าเอยให้คนรู้น้อยที่สุดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะกลัวว่าเหนือเมฆจะตามเธอเจอ"แกโกรธคุณเหนือมากเลยหรอก" เกวรินทร์รู้ดีว่าเรื่องครั้งนั้นเป็นฝีมือพีรยาแต่ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนเธอฝังใจเรื่องอะไรถึงยอมให้อภัยเหนือเมฆไม่ได้"ตอนนี้เฉยๆแล้วล่ะฉันไม่อยากกลับไปเจ็บเพราะเค้าอีกเด็ดขาด" แม้นเจ้าเอยจะรู้ว่าครั้งนั้นที่เหนือเมฆทำผิดด้วยฤทธิ์ยาแต่ภาพมันก็ยังติดตาเธอไม่หายไม่รู้อีกด้วยว่าเขาจะกลับไปเป็นคนเจ้าชู้เหมือนเดิมอีกหรือเปล่าเธอยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวจึงไม่อยากเสี่ยงกลับไปอยู่กลับไปรักกับคนอย่างเหนือเมฆอีกตอนนี้เธอมีแค่ลูกก็พอแล้ว"แต่เรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือยัยพลอยทั้งนั้นนะแถมตอนที่ผ่านมาคุณเหนือดูพยายามตามหาแกตลอดไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนเลยด้วย" ทรายแก้วไม่ได้จะพูดเข้าข้างเหนือเมฆแต่เวลาที่ผ่านมาเขาทำให้พวกเธอได้เห็นว่าเขาไม่มีวันลืมเจ้าเอย"ฉันรู้...แต่ฉันลืมเรื่องราวตอนน
หลายวันต่อมาวันนี้อิทธิกรพาครอบครัวมาเยี่ยมอำนาจเพราะอำนาจเริ่มยอมรับในตัวอิทธิกรแล้วด้วยเห็นว่าอิทธิกรมีงานการทำที่มั่นคงแถมยังเก่งมากๆเขารู้จากคำชมของนภดลที่ชมอิทธิกรไม่ขาดปาก"ผมขอบคุณคุณพ่อนะครับที่ยอมรับผม" อิทธิกรมานั่งคุยกันกับอำนาจที่ห้องรับแขกระหว่างที่อินทิราพาลูกสาวของเขาเดินเล่นอยู่ที่สวนหน้าบ้าน"ฉันก็ต้องขอโทษด้วยที่ก่อนหน้าทำไม่ดีเอาไว้""ผมเข้าใจครับว่าคุณพ่อรักอินมาก" อิทธิกรไม่เคยโกรธอำนาจแม้นแต่น้อยหากเป็นเขาก็อยากให้ลูกตัวเองได้คู่ครองที่ดีเช่นกัน"ตั้งใจทำงานหาประสบการณ์ให้ดีล่ะอีกไม่กี่ปีฉันก็จะเกษียณตัวเองแล้วแกจะได้เข้ามาบริหารแทนฉัน" อำนาจคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องฝากบริษัทให้กับอิทธิกรเพราะเชื่อใจว่าลูกเขยของเขาจะจัดการทุกอย่างแทนเขาได้"คือผมไม่มั่นใจว่าผมจะบริหารองค์กรใหญ่ขนาดนี้ได้" อิทธิกรถึงกับไปไม่เป็นเมื่ออีกฝ่ายมอบหมายสิ่งสำคัญให้"เชื่อมั่นในตัวเองเหมือนที่เชื่อมั่นว่าจะดูแลลูกสาวกับหลานฉันได้" แม้นอิทธิกรจะไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้แต่อำนาจเห็นว่าความสามารถที่อิทธิกรมีจากผลงานที่ผ่านมาระหว่างที่อิทธิกรทำงานในบริษัทของนภดลเขาก็เห็นแล้วว่าไม่ยา
"เจ็บใจหรือเปล่าล่ะ.. เหนือเมฆไม่มีวันเลิกเจ้าชู้ได้หรอกนะรู้เอาไว้ซะด้วย”พีรยาผลักเจ้าเอยจนเธอเซเล็กน้อยทั้งยังจีบปากจีบคอพูดย้ำให้เจ้าเอยได้เจ็บใจ ในส่วนของเจ้าเอยเธอไม่มีแรงโต้ตอบอะไรทำได้แค่ยืนปาดน้ำตากับภาพที่เห็น"มานี่.." พีรยาดึงมือเจ้าเอยให้เดินตามเธอขึ้นมาจนมาถึงผาชัน"พาเอยมาที่นี่ทำไม""รู้หรือเปล่าที่ฉันต้องการฆ่านังวิเวียนเพราะอะไร" พีรยาผลักเจ้าเอยต้อนไปที่ผาชันจนสาวเจ้าเริ่มหน้าซีดเผือดกลัวหญิงสาวตรงหน้าจับใจ"คุณพลอย" "เพราะมันเอากับเหนือเมฆยังไงล่ะ...รู้หรือยังว่าเหนือเมฆเอาผู้หญิงไม่เลือกหน้ารู้ทั้งรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทคู่หมั้นของตัวเองก็ยังไม่เว้น""ฮือๆๆ..." ยิ่งได้ฟังที่วิเวียนพูดความเสียใจและความกลัวก็ประดังประเดกันเข้ามาจนเจ้าเอยปล่อยโฮสะอึกสะอื้นตัวโยนเรื่องนี้เหนือเมฆไม่เคยเล่าให้เธอฟังแม้แต่น้อยผิดที่เธอเองจริงๆที่ให้ใจและไว้ใจเหนือเมฆเร็วเกินไปเพี๊ยะ"โอ้ยย.. ""คนอย่างแกมันมีดีกว่าฉันตรงไหน" พีรยายิ่งเห็นเจ้าเอยทำท่าทางอ่อนแอเธอก็ยิ่งหมั่นไส้เธอวาดแขนเป็นวงกว้างฟาดมือเรียวใบที่ใบหน้าเจ้าเอยจนเธอล้มลงพลั้กกก"อ๊ายยยยย..." ไม่ทันที่เจ้า
หลายวันต่อมาวันนี้วารุณีเข้ามาหาลูกชายและลูกสะใภ้ที่บ้านเพราะรู้ว่าเจ้าเอยย้ายมาอยู่ที่บ้านลูกชายเธอได้เป็นอาทิตย์แล้วตอนนี้ในห้องครัวของบ้านเต็มไปด้วยข้าวของมากมายที่วารุณีซื้อเอามาเพื่อเป็นของบำรุงให้ลูกสะใภ้ของเธอ"ถ้าเรายังกินของคาวไม่ค่อยได้ก็พยายามกินวิตามินที่แม่ซื้อมาให้เยอะๆล่ะแล้วผลไม้นั่นก็กินบ่อยๆนะลูกของดีๆทั้งนั้น""..ค่ะคุณแม่...เอ่อ..พี่โอบทำงานเป็นยังไงบ้างคะ""เห็นพ่อเราให้รับผิดชอบงานใหญ่อยู่นะลูกตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรนับว่าพี่เราก็เก่งใช้ได้""รู้แบบนี้เอยก็สบายใจค่ะ"หลายวันต่อมา.. เหนือเมฆรีบเคลียงานสำคัญให้เสร็จสิ้นก่อนจะให้พชรดูแลบริษัทเพราะเขาต้องการพาภรรยาตัวน้อยของเขามาฮันนีมูนหลังจดทะเบียนเติมความหวานให้กันและกันและแล้ววันนี้เขาก็ได้พาหญิงสาวมาที่ภูเก็ตมาพักที่บ้านพักของพ่อเขาที่ซื้อเอาไว้ตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มๆพื้นที่ของบ้านค่อนข้างกว้างเงียบสงบและติดริมทะเลวิวสวยงามใครเห็นที่นี่เป็นต้องหลงส่วนตัวเขาเองก็ชอบที่นี่ไม่น้อยจึงอยากให้เจ้าเอยมาเห็นที่นี่"เอยอยากอยู่ที่นี่นานๆจังเลยค่ะ" ร่างบางยืนกอดคนเป็นสามีแหงนหน้ายิ้มแป้นอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ที่เป็นจุดชมว