EP 4 - ดื่มไวน์ด้วยกันไหม
แกร้ก~
“กลับมาแล้วเหรอคะ” ฉันเอ่ยต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้ม มองคนตัวสูงที่เดินเข้ามาพร้อมกับเสื้อสูทที่พาดอยู่บนท่อนแขนแกร่ง ส่วนอีกมือก็ถือถุงยาว ๆ เข้ามาด้วย
“ครับ” เขาตอบสั้น ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ฉันจึงรีบไปรินน้ำเย็น ๆ มาให้เขาดื่มทันที
“น้ำค่ะ” ฉันยื่นแก้วน้ำให้กับเขาที่นั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทีอ่อนล้า เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่รับน้ำไปดื่มเงียบ ๆ ว่าแต่บรรยากาศแบบนี้ มันชวนให้รู้สึกเหมือนภรรยาที่ต้อนรับสามีกลับบ้านยังไงยังงั้นเลยไม่ใช่เหรอ
“อันนี้อะไรเหรอคะ?” ฉันถามด้วยความสงสัย เพราะรูปทรงของถุงที่เขาถือมามันยาวผิดปกติ ไม่เหมือนถุงทั่วไป
“ไวน์แดงครับ ของขวัญจากลูกค้า” ดวงตาของฉันโตขึ้นทันทีที่ได้ยินคำตอบ เพราะในบรรดาเครื่องดื่มทั้งหลาย ฉันชอบดื่มไวน์แดงที่สุด ทั้งหวานปนเปรี้ยว ยิ่งถ้ากินคู่กับผลไม้อย่างองุ่นด้วยนะ คือที่สุดของความเริ่ด
“อยากดื่มไหมครับ” เขาถามขึ้นมา คงเพราะเห็นสีหน้าฉันตอนนั้นมันบอกความรู้สึกหมดเปลือกสินะ
“ไม่เป็นไรค่ะ ” ฉันรีบปฏิเสธ เพราะดูจากยี่ห้อแล้ว โคตรแพงเลย ฉันจะกล้าดื่มได้ยังไงกัน
“ดื่มได้ครับ ผมไม่ชอบดื่ม รับมาเพราะเกรงใจเท่านั้น” เขาตอบเสียงเรียบ ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องไปโดยทิ้งไวน์แดงสุดล้ำค่านั้นไว้ตรงหน้า
ฉันยืนชั่งใจอยู่สักพัก เขาก็อนุญาตแล้วนี่นา ถ้าฉันจะดื่มก็คงไม่ผิดอะไร แต่ฉันในตอนนี้มันสมควรได้ดื่มที่ไหนกันว่าแล้วก็เอาไปเก็บไว้ในที่ที่มันควรจะอยู่ดีกว่า
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณเหนือไม่ทานข้าวเย็นเหรอคะ?” ฉันเคาะประตูห้องเบา ๆ พลางถามออกไป เพราะอุตส่าห์อุ่นข้าวที่เหลือจากตอนเช้าไว้แล้ว กะว่าคงจะได้ทานด้วยกัน
ไม่นานประตูก็เปิดออก พร้อมกับร่างสูงที่เปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้ว
“ผมทานมาแล้ว แล้วคุณล่ะ ยังไม่ได้ทานเหรอ”
“อะ เอ่อ ค่ะ ก็นึกว่าจะกลับมากินด้วยกัน” ฉันตอบพลางเกาแก้มเบา ๆ ใจจริงก็หิวจนแทบทนไม่ไหวแล้ว แต่ก็รอเขากลับมาก่อน เพราะกลัวจะเสียมารยาท
“ถ้างั้นคุณเหนือนอนเลยค่ะ เดี๋ยวฉันไปนั่งกินคน ” ยังไม่ทันพูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องไปทันที พร้อมกับตรงไปนั่งที่โต๊ะอาหารที่ฉันจัดไว้ให้
โชคดีที่ยังไม่ได้ตักข้าวรอไว้ ไม่งั้นเสียดายแย่เลย!
“ผมอยากดื่มไวน์น่ะ” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ฉันยืนงงอยู่พักหนึ่ง ก็ไหนบอกว่าไม่ดื่มไง? แล้วนี่จะมาดื่มเอาตอนนี้ซะงั้น
“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันเตรียมให้ค่ะ” ว่าแล้วฉันก็รีบเดินไปเตรียมไวน์ พร้อมกับจัดผลไม้อย่างองุ่นวางคู่ไว้เสริมรสชาติ
“ของคุณล่ะ?” เขาถามขึ้นมา ขณะที่ฉันรินไวน์ใส่แก้วแค่ใบเดียว
“ไม่เป็นไรค่ะ ” ฉันตอบเบา ๆ
“จะให้ผมดื่มคนเดียว?” เขาเลิกคิ้วถามฉันอย่างสงสัย
ฉันเลยต้องจำใจรินไวน์อีกแก้วให้ตัวเอง แล้วนั่งลงกินข้าวต่อเล็กน้อย ส่วนเขาก็กลับไปที่ห้อง และเดินกลับออกมาพร้อมไอแพดหนึ่งเครื่อง ก่อนจะนั่งจิบไวน์เงียบ ๆ อยู่ตรงนั้น
"หืม?" ฉันมองอย่างงุนงงก่อนจะเปิดกล่องนั้นออกสร้อยคอเส้นบาง ๆ ที่ห้อยจี้รูปหัวใจสองดวงไขว้กัน พร้อมสลักชื่อว่า 'Priya & Nuea'"คุณเหนือ " น้ำตาของฉันรื้นขึ้นมาทันที "แบบนี้มันแกล้งกันชัด ๆ ฮึก ""ผมไม่ได้จะแกล้ง ผมแค่อยากให้คุณรู้ว่าผมจะรักคุณไปตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเจออะไรอีก ผมจะปกป้องคุณกับของขวัญให้ดีที่สุด""จะให้ฉันร้องไห้ในวันครบรอบจริง ๆ เหรอคะ""งั้นก็ไม่ต้องร้อง แต่จูบได้ไหม?"ฉันหน้าแดงทันที ก่อนจะยกมือปิดหน้าเมื่อเขาโน้มตัวเข้ามา"ลูกตื่นอยู่นะคะ!""ก็จูบบอกรักเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรมากนี่นา~"ฉันได้แต่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะปล่อยให้เขากอดไว้แน่น ๆ พร้อมกับเสียงกระซิบว่า "สุขสันต์วันครบรอบนะครับภรรยา"…หลังจากทานอาหารเช้ากันเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็พากันไปเที่ยวสวนดอกไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก วันนี้คุณเหนือขอลางานเพื่อใช้เวลากับครอบครัวเต็มที่ ฉันเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยเพราะตั้งแต่มีของขวัญ เราก็ไม่ค่อยได้มีเวลาออกไปข้างนอกกันพร้อมหน้าสามคนเท่าไหร่"ดูสิคะคุณเหนือ ดอกคอสมอสกำลังบานเต็มเลย~""สวย แต่คุณสวยกว่า""นี่แน่ะ!" ฉันหยิกแขนเขาเบา ๆ ด้วยความเขิน "ชมฉันแบบนี้ทุกวัน เดี๋ยวฉันก็ลอยข
3 ปีต่อมา“ของขวัญ ทักทายคุณย่าสิคะ”เสียงของฉันเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน เมื่อลูกสาวตัวน้อยยกมือไหว้ผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องเยี่ยมของเรือนจำ“สวัสดีค่ะคุณย่า” น้ำเสียงใสแจ๋วที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากเล็กๆ นั้น ทำเอาฉันกับคุณเหนืออดยิ้มไม่ได้เขาอุ้มลูกขึ้นนั่งตักอย่างเคย ก่อนที่แม่ของเขาจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาด้วยใบหน้าอิดโรย แต่แฝงด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ“น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ เลยนะ”ท่านมองหลานสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก ความรักที่มาช้าเกินไปตลอดสามปีที่ผ่านมา ฉันกับคุณเหนือมาเยี่ยมท่านเป็นครั้งคราว แม้คุณเหนือจะให้อภัยแล้ว แต่ฉันก็รู้ เขายังโกรธ ยังเจ็บ แต่เขาก็เลือกจะไม่ตัดท่านออกจากชีวิต เพราะเขารู้ว่า "การให้อภัย" ไม่ได้แปลว่า "ลืม"“ทำไมคุณย่าถึงอยู่ในนี้คะ?” ของขวัญเอ่ยถามขึ้นอย่างใสซื่อ“เพราะย่าทำผิดน่ะจ้ะ เลยต้องถูกลงโทษ” ท่านตอบกลับพร้อมรอยยิ้มบางโรคประจำตัวของท่านเริ่มกำเริบบ่อยขึ้น และเราก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่า ท่านจะอยู่ถึงวันพ้นโทษหรือไม่…“ลูกล่ะ เป็นยังไงบ้าง?”“ผมสบายดีครับ พ่อเองก็เช่นกัน” คุณเหนือตอบเสียงเรียบ แม้จะดูนิ่ง แต่ฉันรู้ เขากำลังกลั้นอารมณ์มากแค่ไหนเมื่อหมดเ
EP 31 - ฉันรักคุณ“ปรียา คุณต้องตื่นนะครับ ”เสียงนั้นดังอยู่ปลายหู ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ก่อนจะพบกับแสงไฟสลัวจากเพดานห้องกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในโรงพยาบาลลอยแตะจมูก ฉันขยับตัวได้เพียงเล็กน้อยก่อนที่น้ำตาจะรินไหลออกมาอีกครั้ง “คุณเหนือ ”เสียงที่ฉันพร่ำเรียกคนที่รักที่สุดในชีวิต ไม่รู้เลยว่าเขาจะได้ยินมันหรือเปล่าแต่ฉันภาวนา ขอให้เขาได้ยิน …โรงพยาบาลตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด เสียงชีพจรดังอย่างสม่ำเสมอแต่ไร้การตอบสนอง ฉันได้แต่นั่งฟังเสียงนั้นอย่างเหม่อลอย…นี่เข้าสู่วันที่ห้าแล้วแต่คนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะลืมตาขึ้นมาแม้คุณเหนือจะรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่หมอก็บอกฉันด้วยใบหน้าเคร่งเครียดว่าอาการของเขาหนักมาก และที่เลวร้ายที่สุดคือ เขาอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลยตลอดชีวิต…“กลับบ้านไปพักสักหน่อยเถอะ”เสียงทุ้มของคุณพ่อคุณเหนือเอ่ยขึ้นเบาๆ อย่างอ่อนโยน เมื่อเห็นฉันยังคงนั่งจับมือคนบนเตียงไม่ไปไหน“ไม่เป็นไรค่ะ หนูอยากอยู่ต่ออีกสักหน่อย”ฉันเงยหน้าขึ้นตอบกลับท่านอย่างอ่อนแรง ถึงแม้ร่างกายของฉันเองจะยังไม่ฟื้นดีจากการล้มเมื่อวันก่อนก็ตามหลังจากที่ท่านรู้เรื่องทุกอย่าง
EP 30 - อย่าทิ้งฉันกับลูกไป“ทำไมถึง อ๊ะ!”ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ ร่างของตัวเองก็ถูกกดให้นั่งคุกเข่าลงกับพื้น มือทั้งสองรีบโอบรอบท้องทันทีเพื่อรองน้ำหนักไม่ให้กระแทก แต่ถึงอย่างนั้นแรงสั่นสะเทือนจากพื้นก็ยังทำให้ฉันรู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วร่าง ร่างกายฉันไม่ปกติเลยแม้แต่นิด ทั้งเหงื่อที่ไหลซึมทั่วใบหน้า มือที่สั่นเทา และหัวใจที่เต้นแรงรัวจนหายใจแทบไม่ทัน“เป็นไงล่ะ มีความสุขใช่มั้ย ที่ได้นั่งอยู่บนกองเงินกองทองจากลูกชายฉัน!” เสียงตะคอกของผู้หญิงตรงหน้าทำเอาฉันตัวสั่น เธอกำลังเดือดดาลอย่างสุดขีด พร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ใช่ความยินดีเลยสักนิด แต่มันคือความสะใจ ความสะใจที่ได้เห็นฉันเจ็บฉันพยายามเงยหน้าขึ้นเพื่อจะอธิบาย แต่มีดที่จ่อคอฉันอยู่ก็ยิ่งกดลึกลงมา“คุณแม่คะ คือ ”“อย่ามาเรียกฉันว่าแม่! ฉันมีลูกชายคนเดียว!”เธอตวาดใส่ฉันทันที ก่อนจะคว้าผมฉันแล้วกระชากอย่างแรง น้ำตาของฉันร่วงพร่างไปตามแรงกระชาก ทั้งเจ็บทั้งตกใจ รู้สึกถึงเลือดซึมออกมาจากลำคอที่ถูกปลายมีดเฉือนเบาๆ อย่างจงใจ“ฉันจะให้โอกาสแกครั้งสุดท้าย ” เสียงเย็นเยียบจนขนลุกเอ่ยออกมา“ออกไปจากชีวิตลูกชายของฉันเดี๋ยวนี้!”ฉันกั
EP 29 – เพราะเธอคนเดียว2 เดือนต่อมาดูเหมือนทุกอย่างจะดำเนินไปได้ด้วยดี ช่วงนี้สุขภาพของลูกในท้องฉันแข็งแรงสมบูรณ์อย่างน่าพอใจ คุณหมอก็แจ้งว่าไม่มีภาวะเสี่ยงแท้งอีกแล้ว ส่วนฉันเองแม้จะยังมีอาการแพ้ท้องอยู่บ้าง แต่น้ำหนักก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ และพวกวิตามินหรือยาบำรุงครรภ์ฉันก็ไม่เคยขาดเลยสักครั้งชีวิตประจำวันของฉันตอนนี้เรียบง่าย มีแค่กินกับนอน และบ่นว่าตัวเองน่าเบื่อส่วนคุณเหนือ เขาเองก็ลดเวลาทำงานลง เพื่อจะได้กลับมาอยู่กับฉันและลูกให้เร็วที่สุด พอเขารู้ว่าฉันท้อง เขาก็เปลี่ยนตารางชีวิตไปเลยทันที แม้เขาจะยังมีงานต้องรับผิดชอบอยู่มาก แต่เขาก็ยังหาทางจัดสรรเวลามาอยู่กับฉันให้ได้ทุกวัน“ผมได้ยินว่าวันนี้คุณกินข้าวได้น้อย”เสียงของเขาดังขึ้นจากมือถือขณะที่ฉันกำลังเอนหลังอยู่บนโซฟา“ค่ะ ช่วงนี้กลิ่นอาหารมันแรงมาก แค่ได้กลิ่นก็คลื่นไส้แล้ว”ฉันตอบไปตามตรงพร้อมถอนหายใจเบาๆ ยังดีที่แม้จะกินข้าวได้น้อย แต่ร่างกายก็ยังได้รับสารอาหารครบจากวิตามินและอาหารเสริมที่คุณหมอจัดมาให้“งั้นไปหาหมอไหม เดี๋ยวผมลางานช่วงบ่ายพาคุณไปเอง”เสียงเขาเร่งรีบขึ้นนิดหน่อย“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทนได้ แค่ต้องปรับตัวอ
EP 28 - ต่อให้เป็นคุณแม่ผมก็ไม่ให้อภัย “แม่ผมเกือบฆ่าหลานตัวเองแล้วนะ!”ประโยคนั้นทำฉันสะดุ้งเงียบไปทันที หัวใจรู้สึกหนักขึ้นอย่างประหลาดฉันกลัวเหลือเกินว่า ทางฝั่งนั้นจะไม่ยอมรับลูกของฉัน ถ้าแค่ไม่ยอมรับฉัน ฉันยังพอทนไหว แต่หากลูกต้องถูกปู่และย่าแท้ๆ เกลียดชังขึ้นมา ฉันคงทนไม่ไหวจริงๆ“แต่ว่า ”“คุณพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องคิดมากนะครับ”เขายกมืออีกข้างมาวางแนบที่แก้มของฉันเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากกลางหน้าผากฉันแผ่วเบามือหนาของเขากอบกุมใบหน้าฉันไว้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเคลื่อนสายตาไปยังหน้าท้องของฉันที่มีลูกของเขาอยู่ในนั้นแม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไรออกมา แต่แววตานั้นก็ส่งผ่านความรู้สึกทุกอย่างออกมาจนฉันสัมผัสได้เขารักลูกของเรามากแค่ไหน “งั้น ผมไปก่อนนะ พรุ่งนี้เช้าผมจะมารับ ฝันดีนะครับ”“ฝันดีค่ะ” ฉันตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง พร้อมกับมองเขาที่เดินจากไปอย่างเงียบๆ แม้จะอยากรั้ง อยากห้ามไว้มากแค่ไหน แต่ฉันก็รู้ดีว่า อีกฝ่ายคงไม่ยอมหยุดแน่ๆ เพราะเขามีเรื่องที่ต้องจัดการหลังจากคุณเหนือออกไป ลูกน้องของเขาก็เข้ามาแทนเธอเข้ามานั่งข้างเตียงและขอโทษฉันทันที ที่ไม่สามารถปิดเรื่องนี้เป็นความ